ตั้งแต่สภาหอการค้าไทยอเมริกันได้ถูกขัดสีฉวีวัน เปลี่ยนโฉมใหม่ โดยมีร่างธรรมนูญ (By Laws) ขึ้นมาใหม่ จนถึงมีการจัดการเลือกตั้งทั่วไป เราได้มีประธานคนใหม่แทนคุณสมหมาย ปัทมคันธิน เป็นคุณดอน จิว โดยมีผมเป็นเลขาธิการและคุณเทเรซ่า ชุง เป็นเหรัญญิก เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2010 โดยการผลักดัน และ สนับสนุนในทุกขั้นตอน จากท่านกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส นายดำรง ใคร่ครวญ ที่เห็นว่าชุมชนไทยจะเข้มแข็งขึ้นมาได้ สมาคมที่ควรจะเป็นเสาหลักคือ สภาหอการค้าฯ เพราะมีพ่อค้า เจ้าของธุรกิจที่มีศักยภาพ ทั้งทุนทรัพย์ เวลา และบารมี เพียงพอที่จะเข้ามาช่วยเหลือธุรกิจไทยที่ส่วนใหญ่ยังอยู่ในสถานะต่างคนต่างทำ ไม่เคยมีการรวมตัวเป็นรูปธรรมที่พอจะเป็นกระบอกเสียง ให้กับธุรกิจส่วนใหญ่ของชุมชนไทยได้ ท่านดำรงยังอุตส่าห์จัดหางบประมาณเป็นเงินก้นถุง (seeds money) เป็นเงิน 10,000 เหรียญ ท่านยังได้ชักชวนนักธุรกิจชั้นนำเข้ามาเป็นสมาชิกอุปถัมภ์ (patron) ชักชวนบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถจากหลายๆ ภาคส่วน เข้าอาสาเป็นคณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการอำนวยการและคณะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ มาช่วยเหลือแสดงความคิดเห็นว่าจะทำอย่างไรให้หอการค้าเป็นองค์กรหลักที่ธุรกิจไทยทั้งภาครัฐและเอกชน และหอการค้าเอเชียต่างๆ ได้เชื่อถือศรัทธา โดยการจัดอบรมสมาชิกของเรา การเข้าเป็นสมาชิกในหอการค้าชั้นนำ มีเครือข่ายติดต่อกับบริษัทต่างประเทศ จากจำนวนสมาชิกในปี 2010 มี97ราย จนปัจจุบันเราได้รับความศรัทธาและเชื่อว่าหอการค้าฯเป็นองค์กรที่จะเป็นที่พึ่งพาให้พวกเขาได้ ถึง 175 รายเพิ่มจากปี 2010 ถึง 80 % โดยการนำของท่านสุทิน ทิวาศาสตร์ ที่เข้ามาทำหน้าที่แทนคุณดอน จิว เนื่องจากสุขภาพไม่อำนวย ต้องขอขอบพระคุณท่านมา ณ ที่นี้ด้วย
สมัครเป็นสมาชิกของสภาหอการค้าไทย แล้วจะได้อะไร?อันนี้เป็นคำถามที่คณะกรรมการบริหารได้รับเป็นประจำ ซึ่งพวกเราเข้าใจและอยากที่แจ้งผลประโยชน์ที่เราสามารถทำให้สมาชิกเป็นรูปธรรม ตลอดระยะเวลา 1 ปีเศษ ๆ ที่ได้เข้ามาผลักดันให้สภาหอการค้าเข็มแข้ง นอกจากนี้มีโบชัวร์สวย ๆ ซึ่งมีการเขียนบรรยายถึงผลประโยชน์ (Member’s Benefits) ว่าสมาชิกจะได้รับแต่ความเป็นจริงแล้วสภาหอการค้าได้ทำจริง ๆ หรือเปล่า ผมเลยขออนุญาตเสนอผลงานที่ได้ทำมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2010 ถึงปัจจุบัน เพื่อให้ท่านเชื่อมั่นว่า เราได้ทำกิจกรรมอะไรบ้าง และในอนาคตเรามีแผนงาน และโครงการประจำปีอะไรบ้าง
1.สถานภาพการเป็นองค์กรไม่หวังผลประโยชน์ (Non-Profit Organization)สิ่งแรกหลังจากที่ได้เข้ามาทำหน้าที่ในตำแหน่งเลขาธิการแล้ว ผมจำเป็นที่ต้องตรวจสอบสถานภาพของสภาหอการค้าในด้านภาษีและการมีสถานภาพเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลประโยชน์/กำไร (Non-profit tax exempt organization) ตามกฎหมายภาษีของรัฐบาลแคลิฟอร์เนีย (FTB) และของรัฐบาลกลาง (IRS) มาตรา 501 (C)(6) (Internal Revenue Code) ซึ่งหลังจากที่เราได้จดทะเบียนไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2005 ซึ่งในเดือนมิถุนายน 2011 ทาง IRS ก็มีจดหมายอนุมัติอย่างเป็นทางการหลังจากที่เราได้ยื่นใบสมัครและการเสียค่าธรรมเนียม พร้อมด้วยรายการรายรับรายจ่ายย้อนหลังตั้งแต่ปี 2007-2009 จนครบ อันนี้ท่านสมาชิกและสาธารณชนเชื่อมั่นว่าการที่เราได้รับอนุมัติจากทาง FTB/IRS นั้น เราจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านภาษีความโปร่งใสในการรายงาน รายรับ-รายจ่าย ประจำปีต่อทางรัฐบาลทุก ๆ ปี ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของประธานหอการค้า, เลขาธิการ และเหรัญญิก ต้องยึดปฏิบัติ
2.การประชาสัมพันธ์5.1 จัดสัมนาให้ความรู้เรื่องธุรกิจสปาและนวดไทย เมื่อเดือนสิงหาคม 2553โดยมีผู้บรรยายคือ Mr. William Okamoto (retiree) from Employment Development Department (EDD) และ Mr. Jesus Covarrubias, Deputy Labor Commissioner III from Division of Labor Standards Enforcement (DLSE) Department of Industrial Relation.
5.2 ร่วมกับสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิสจัดสัมนาให้ความรุ้เกี่ยวกับเรื่องกฎหมายแรงงาน เมื่อเดือนกันยายน 2553โดยมีผู้บรรยายคือ Ms. Kimchi Bui, USDOL- WH District Director, Ms. Philipda Modrakee, USDOL- WH Investigator, and Ms. Siriporn Poondee, USDOL- WH Investigator from United States Department of Labor Wage and Hour Division และ Ms. Diane Chen, DLSE- Bureau of Field Enforcement Senior Deputy Labor Commissioner from State of California Department of Industrial Relations Division of Labor Standards Enforcement Bureau of Field Enforcement.
5.3 จัดบรรยายเรื่องความรู้ความเข้าใจในการกู้ยืมเงินจากธนาคาร และ การเสียภาษีของธุรกิจขนาดเล็กเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553 โดยมีผู้บรรยายคือ Mr. Henry Lee, President of Metro United Bank of Southern California, Ms. Amy Yuen, Executive Vice President, Ms. Caroline Lee, Sr. Vice President, Ms. Suzy Huang, Assist Vice President และ Mr. K.T. Leung
5.4 ร่วมกับสถานกงสุลใหญ่จัดสัมนาให้ความรุ้เกี่ยวกับเรื่องปฏิรูประบบประกันสุขภาพสหรัฐ เมื่อเดือนมกราคม 2554 โดยผู้บรรยายคือ Dr. Edward Larson, University Professor and Hugh & Hazel Darling Chair in Law, Pepperdine University และMr. Craig B. Garner, Chief Executive Officer and Chairman of the Board, Coast Plaza Hospital.
5.5 สัมนาให้ความรุ้เกี่ยวกับธุรกิจสปา เมื่อเดือนมีนาคม 2554 โดยมีผู้บรรยายคือ Deputy William H. Calicchia, LASD, Deputy Fred L. Humphrey II, LASD และ Ahmos Netanel, California Massage Therapy Council (CAMTC)
5.6 ร่วมกับศูนย์ส่งเสริมชาวไทย (Thai CDC) จัดสัมนาให้ความรุ้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเครดิต และ วิธีการขอเงินกู้สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เมื่อเดือนเมษายน โดยมีผู้บรรยายคือ Ms. Star Thanyapant, Sr. Relationship Banker จาก Union Bank
5.7 ร่วมกับสำนักงานของรองประธานกรรมาธิการด้านภาษีของรัฐแคลิฟอร์เนีย มิเชล ปาร์ค สตีล (The Honorable Michelle Park Steel) จัดสัมมนาให้ความรู้ด้านสาธารณสุขของร้านอาหาร (LA County Health Department) มาบรรยายถึงกฎหมายที่ทางร้านอาหารต้องปฏิบัติเพื่อให้ได้เกรด A เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่มาทานอาหารตลอดจนแนะนำเคล็ดลับข้อกฎหมายด้านภาษี (Sale Tax) ที่เกี่ยวข้องกับร้านอาหาร โดยใช้ผู้บรรยายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลโดยตรงและ CPA จากสำนักงานเขตของ LA County Health และของ State Board of Equalization ถึง 2 ครั้งในเดือนมิถุนายน 2553 และในเดือนมกราคม 2555 ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากสมาชิกหอการค้าที่เป็นเจ้าของธุรกิจด้านอาหารและผู้รับทำภาษี ซึ่งโครงการนี้เราจะจัดเป็นประจำทุก ๆ ปี เพราะกฎหมายมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมทุกปี
5.8 พบปะกับสมาชิกของร้านอาหารโดยคุณวนิดา ศรีวรมย์ รองประธานหอการค้าฝ่ายกิจกรรมร้านอาหารถึง 3 ครั้งที่วัดไทย โรงแรมลินคอล์น และที่ร้านไทยนคร เพื่อพูดคุยถึงปัญหาด้านแรงงาน การถูกฟ้องร้องจากลูกจ้าง การรักษาสิทธิในกรณีถูกตรวจสอบจากหน่วยงานราชการ ในเดือน กรกฎาคม 2011
5.9 จัดการอบรมพ่อครัว-แม่ครัว ตลอดจนพนังงานเสริฟ (California Food Handler Program) โดยคุณวนิดา ศรีวรมย์ ได้จัดให้สมาชิกเข้ารับฟังอบรมที่ร้านไทยนครและได้รับประกาศนียบัตรรับรองตามกฎหมายใหม่ของแคลิฟอร์เนีย ในเดือนธันวาคม 2011
5.10 จัดการสัมนนา กฎหมายด้านแรงงาน และสถานที่เพื่อให้คนพิการเข้าถึง (Labor Laws & American Disabilities Acts) โดยการประสานงานของคุณมิเชล กับสภาหอการค้าเกาหลี นำทนายความด้านแรงงานและกฎหมายเกี่ยวกับ ADA โดยเฉพาะเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2011
6.กิจกรรมการให้ความช่วยเหลือองค์การใดๆไม่สามารถสำเร็จได้ถ้าสมาชิกไม่มีความศรัทธา ในประธานและคณะกรรมการ ซึ่งแต่ละท่านก็อาสาสมัครโดยไม่รับผลตอบแทน กลับต้องเสียทุนทรัพย์เพื่อสนับสนุนกิจกรรมหอการค้าฯ และสละเวลามาร่วมประชุม เสวนาปัญหาต่างๆที่เกิดกับธุรกิจไทย เสนอความเห็นและวิธีแก้ปัญหาร่วมกัน เพราะผมเชื่อว่าถ้าพวกเราต้องการเห็นคนของเรามีความรู้ขอกฎหมายที่ถูกต้อง มีธุรกิจที่มั่นคงเราต้องหาผู้แทนที่มีความจริงใจ ในการเข้ามารับฟังความเดือดร้อน ช่วยเป็นกระบอกเสียง สนับสนุนกฎหมายที่เอื้อต่อธุรกิจไทย เราไม่มีเวลาจะมานั่งทะเลาะกันในเรื่องส่วนตัว อย่ามาแบ่งพรรคแบ่งสีกันเลย ที่สุดเราก็คนไทยด้วยกัน ไม่มีใครเกิดมาเป็นศัตรูกับใคร ถ้าเราใช้สติปัญญามาสร้างสรรค์ให้ชุมชนเราเข้มแข็ง เราต้องสนับสนุนผู้นำที่จะนำเราให้อยู่รวมกันแบบชุมชนอื่น ต้องมีสปิริตในการรับฟังความคิดเห็นคนอื่นด้วย มีความเห็นต่างได้แต่มีจุดมุ่งหมายเหมือนกัน ผู้นำที่ดีต้องมีความสามารถในการสร้างบรรยากาศสมานฉันท์ ไม่เลือกปฏิบัติหรือ2มาตรฐาน ฉะนั้นองค์ประกอบที่ทำให้องค์กรเข้มแข็งมี 4 ปัจจัย หรือ 4Cs
ทุน (Capital) สภาหอการค้าฯเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร (non-profit organization) ได้รับการอนุมัติจากIRS and FTB เป็นองค์กรไม่หวังผลกำไร 501 c6 เป็นองค์กรที่ได้รับการยกเว้นการเสียภาษี ฉะนั้นทุกสิ่งในองค์กรเราทำแบบโปร่งใส เงินทุนในการบริหารได้มาจากการบริจาคจากค่าสมัครเป็นสมาชิก ตราบใดที่มีจุดมุ่งหมายที่ทำประโยชน์ให้สมาชิก เงินทุนก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว คณะกรรมการต้องทำตามกฎกติกาของธรรมนูญที่ได้รับรองจากบอร์ดมา
Competencies/Credibility การสร้างภูมิปัญญาให้สมาชิกโดยจัดสัมมนาในธุรกิจต่างๆ การส่งข้อมูลข่าวสารของภาพรวมธุรกิจต่างๆ ข่าวสารของไทย อเมริกา หรือธุรกิจทั่วโลก เราพยายามทำเพื่อให้สมาชิกได้รับความรู้ ทันเหตุการณ์ เพื่อการปรับกลยุทธ์ได้ทันท่วงที องค์กรที่ประสบความสำเร็จ นอกจากจะลงทุนในเทคโนโลยีแล้ว ผู้บริหารและคนในองค์กรต้องมีความรู้ในการใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งสามารถเสริมสร้างศรัทธาให้หอการค้าเป็นกระบอกเสียงให้ธุรกิจไทยต่อไป
Connections and Collaborations การสร้างเครือข่ายความร่วมมือขององค์การต่างๆทั้งท้องถิ่น ระดับรัฐ และระดับประเทศเป็นสิ่งที่องค์การต้องพยายามสร้างเพื่อให้เป็นที่น่าเชื่อถือ เราได้สร้างเครือข่ายกับองค์กรต่างๆ เรียกร้องสิทธิกับนักการเมือง กับหอการค้าต่างๆเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการได้เซ็นสัญญาความเข้าใจที่ดีต่อกัน (Memorandum of Understanding) กับหลายองค์กรเช่น 22 ตุลาคม 2010 MOU with Asian Pacific Islander Small Business Program (APISBP) ซึ่งเป็นองค์กรที่ช่วยเหลือชุมชนเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ พัฒนาให้ธุรกิจของชุมชนเหล่านี้มั่นคง 17 ธันวาคม 2010 MOUกับหอการค้าแห่งประเทศไทย Member of US Chamber of Commerce Member of Asian American Chamber Association (AACA) และทางกงสุลใหญ่ดำรงยังเล็งเห็นถึงความสำคัญให้กรรมการบริหารและสมาชิกได้พบปะกับผู้นำของไทย รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆที่เกี่ยวกับธุรกิจชุมชนไทย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของท่าน พวกเราต้องขอขอบคุณ ซึ่งผมจะกล่าวถึงความสำเร็จของการเยี่ยมเยียนครั้งนี้ต่อไป
Commitment and Communication ปัจจัยนี้ผมถือว่าสำคัญมากเพราะทุกคนที่อาสาเข้ามาเป็นกรรมการบริหารต้องมีความเข้าใจในจุดมุ่งหมายขององค์กร และเคารพในธรรมนูญเช่นกัน และมีความตั้งใจที่จะเข้ามาช่วยให้จุดมุ่งหมายต่างๆบรรลุผลสำเร็จ โดยใช้ความรู้ความสามารถเข้ามาให้ความคิดเห็น เข้ามาช่วยสานต่อ เพราะโครงการต่างๆจะสำเร็จลุล่วงไปมิได้ หากทุกคนไม่สำนึกในความเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ( a pride of ownership) และการสื่อสารต่อกัน ต้องจำเป็นต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน โดยไม่มีวาระซ่อนเร้นใดๆ การวิจารณ์เพื่อสร้างสรรค์เป็นสิ่งดีต่อการเจริญเติบโตของหอการค้าฯ
เรื่องการไปเยี่ยมเยียนของคณะหอการค้าไทยฯ ซึ่งประกอบด้วยประธาน คุณสุทิน ทิวาศาสตร์, ผมซึ่งเป็นเลขาธิการ และคณะกรรมการบริหาร และสมาชิกทั้งหมดประมาณ 18 ท่าน การสนับสนุนค่าใช้จ่าย ส่วนหนึ่งก็มาจากกระทรวงการต่างประเทศ ผ่านสถานกงสุลไทย ณ นครลอสแองเจลิส โดยท่านกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแองเจลิส นายดำรง ใคร่ครวญ ได้ดำริที่จะจัดโครงการ Business Mission To Thailand และสามารถทำเป็นรูปธรรมจนสำเร็จ
1.จะมีโอกาสพบผู้นำทางด้านธุรกิจในหลาย ๆ ด้าน เพื่อให้พวกเราที่นี้ที่ส่วนใหญ่มีธุรกิจที่ต้องนำเข้าสินค้า หรือใช้สินค้าของประเทศไทย และขายสินค้าของประเทศไทยทุกวัน ให้ทราบถึง ศักยภาพ และคุณภาพของสินค้าของไทย ซึ่งพวกเราสามารถนำเข้ามาในอเมริกาได้อีกมากมาย เช่น สินค้าสมุนไพร เครื่องสำอาง อาหารกระป๋องที่เป็นเจ (Vegetarian) และกลับเป็นการสร้างสรรค์สัมพันธไมตรีที่ดีต่อกัน สร้างเครือข่ายระหว่างนักธุรกิจของที่นี่ และที่เมืองไทย ซึ่งจะมีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงปัญหาของตัวสินค้า คุณภาพ การตลาด ตลอดจนมาตรฐานของสินค้าในกรอบของกฎหมายที่บังคับใช้ที่นี่และจากการได้พบกับผู้บริหารของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ซึ่งตอนนี้มีคุณสมเกียรติ อนุราษฎร์ รองประธานกรรมการ บอกกับพวกเราว่า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย (Board of Trade of Thailand) และหอการค้าไทย (The Thai Chamber of Commerce) มีเจ้าหน้าที่ 200 กว่าคน มีผู้บริหารประมาณ 60 ท่าน ด้วยงบประมาณ 120 ล้านบาทต่อปี ผมเลยถามว่าท่านเอาเงินมาจากไหน ก็ได้คำตอบชัดเจนอีกมี 3 แหล่งตามระดับความสำคัญ
1.ได้อานิสงส์จากกระทรวงพาณิชย์ให้เป็นผู้ออกใบรับรองการส่งออกสินค้า (Certificate of Origin) เป็นรายได้หลักที่รัฐบาลช่วยเหลือทางอ้อม เก็บค่าธรรมเนียมฉะนั้น การที่รัฐบาลไทยโดยกระทรวงต่างประเทศ หรือกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจไทย ชุมชนไทยที่อเมริกา จะนำเงินงบประมาณมาช่วยองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรต่าง ๆ จึงเป็นเรื่องปกติที่ควรจะทำอย่างยิ่ง เพราะพวกเราทำหน้าที่เสมือนเป็นทูตให้กับประเทศไทย เผยแพร่อาหารไทย มวยไทย นวดไทย และการท่องเที่ยวอยู่ทุก ๆ วัน ทำเงินให้ประเทศไทยในการซื้อสินค้า และอื่น ๆ มหาศาล ชุมชนเกาหลี ญี่ปุ่น จีน เข้าช่วยชุมชนของเขาอย่างมากมาย เพราะองค์กรจะเข้มแข็งก็ต้องมีปัจจัยทั้ง 4 ที่ผมได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
สุดท้ายนี้ คณะบริหารชุดนี้กำลังจะหมดวาระการทำงานในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านสมาชิกที่สนใจสามารถสละเวลาความรู้ ความสามารถและทุนทรัพย์ ในการดำเนินการของหอการค้าฯ ก็โปรดสมัครเข้ามาเพื่อช่วยกันกำหนดนโยบาย แนวทางปฏิบัติเพื่อให้ธุรกิจคนไทยก้าวหน้าพัฒนาให้มีความมั่นคงสืบไป
โชคดีครับ
คิด ฉัตรประภาชัย