Special Scoop
รู้ทันนักขโมยฉกฉวยโอกาส (ตอนสอง)

หลังจากที่ผมได้เขียนบทความ ตอน รู้ทันนักขโมยฉกฉวยโอกาส เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็มีเรื่องอัพเดทมาเล่าเพราะทางเชอรีฟได้จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจ เรียกว่า Residential Burglary Suppression Team เพื่อสืบจับพวกชอบขโมยงัดบ้านชาวบ้านให้ได้ ทางสถานีตำรวจก็ถูกนายกเทศมนตรี สมาชิกเทศมนตรี ซึ่งถูกกดดันจากประชาชนในพื้นที่ให้ช่วยจัดการโดยด่วน พอผ่านมาได้ 2 เดือนกว่า ๆ ทางเชอรีฟเมืองเซอริโต๊สก็สามารถจับขโมยเหล่านี้ได้ถึง 22 คน มีกันหลายแก๊งค์ แก๊งค์ละ 2-4 คน ทำให้สถิติการขโมยงัดบ้านลดลงถึง 74% ดังเช่นในเมืองเซอริโต๊ส และด้วยความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่ ที่เป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่เมื่อเห็นสิ่งผิดปกติ เช่น มีรถแปลก ๆ มาจอดซุ่มรอดูบ้านต่าง ๆ นั่งมา 2-3 คน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถมาตรวจสอบและจับกุมก่อนที่พวกมันจะลงมืองัดบ้านใครได้

จากการสอบสวนเพิ่มเติมจากแก๊งค์ 4 คน ตามภาพนี้ พวกนี้งัดบ้านเป็นอาชีพงัดอย่างน้อย 20 ครั้งต่อเดือน เท่าที่มันจำได้ (มันงัดจนจำไม่ได้เลย อิ..อิ..) ตั้งแต่เมื่อง LA ถึง Yorba Linda แล้วยังที่ผู้เสียหายที่ไม่ได้แจ้งตำรวจอีกก็หลายราย หัวหน้าสถานีตำรวจเชอรีฟ เป็นผู้กำกับสถานี ชื่อกัปตัน Swensson หนุ่มใหญ่ไฟแรงจบ USC-และวิชาสืบสวนจาก FBI มาประจำการได้เพียง 3 เดือน ก็รีบเดินสายให้ความรู้กับประชาชนในเมืองถึงความสำคัญในการมีส่วนร่วมในการลดและป้องกันปัญหาอาชญากรรมประเภทนี้ โดยไปตามที่ชุมชนของชาวเอเชียกลุ่มต่าง ๆ และเมื่อวันอาทิตย์ผ่านมา ผมมีส่วนร่วมไปกับท่านที่โบสถ์ของชาวเกาหลีในเมืองเซอริโต๊ส ซึ่งตามประชากร Census ในปี2010 ที่สำรวจมา เมืองเซอริโต๊สมีประชากรประมาณ 50,000 คน เป็นชาวเอเชียถึง 62 % เป็นชาวเกาหลีอยู่มากที่สุด 16% ชาวจีน 15% ฟิลิปปินส์ 14.6% อินเดีย 7% ญี่ปุ่น 4% ชาวไทยประมาณ 1%- 2%

กัปตันทราบดีว่าพวกเราชาวเอเชียไม่ค่อยชอบยุ่งวุ่นวายเรื่องชาวบ้าน อยู่กันอย่างสงบ ทำมาหากินสะสมสตางค์เก็บในบ้าน เพราะภรรยาของกัปตันก็เป็นคนญี่ปุ่น ย้ายมาอยู่อเมริกาเมื่อตอนอายุได้ 12 ปี เลยรู้จักนิสัยของคนเอเชียดี ท่านเลยต้องออกมาเผยแพร่ความรู้ข่าวสารให้กับประชาชน และจากการไตร่สวนผู้ต้องหา 4 คนในแก๊งค์นี้ตามรูป ท่านเลยมาบอกเคล็ดลับ และทางป้องกันให้บ้านท่านไม่ต้องตกเป็นเหยื่อรายต่อไปของโจรเหล่านี้อีก

1. จากการสอบถามพวกโจรที่ชอบขโมยตามบ้านว่า เขาเลือกบ้านอย่างไรที่จะเข้าไปขโมยของ โจรส่วนใหญ่บอกว่า ง่ายมาก ก่อนอื่นจะสังเกตุว่าต้องเป็นบ้านชาวเอเชีย (เจาะจงเสียด้วย) เพราะเป็นบ้านที่มีของมีค่าแน่ ๆ เช่น เงินสด สร้อยทอง เพชร นาฬิกาดี ๆ เก็บอยู่ เขาดูว่าบ้านชาวเอเชียส่วนใหญ่จะถอดรองเท้าทิ้งไว้หน้าบ้าน ฉะนั้นอย่าถอดรองเท้าไว้ที่หน้าบ้าน เก็บเข้ามาไว้ในบ้านก็จะช่วยได้บ้าง โจรบอกว่า สร้อยทองชอบมากเพราะสามารถนำไปหลอมในแอลแอภายใน ๒ ชั่วโมง แปลงเป็นเงินสดได้ $1500/ OZ ทันที

2. โจรจะเลือกเข้าบ้านที่ไม่มีคนอยู่ โดยการไปเคาะประตูก่อนว่ามีคนมาเปิดหรือตอบรับหรือเปล่า โจรเหล่านี้จะไม่ชอบการประจันหน้ากับคนในบ้าน เพราะไม่แน่อาจจะโดนส่องด้วยปืนกลับมาหรือต้องมีการต่อสู้ก็ได้ และก็ไม่อยากให้คนจำหน้าตาได้ (ผมเคยบอกกับเจ้าของร้านอาหารว่าถ้าลูกค้ากินแล้วเบี้ยวให้ถ่ายรูปมันไว้เลย แปะไว้หน้าเคาน์เตอร์ และโทรแจ้งตำรวจด้วย) ฉะนั้นเคล็ดลับ คือ ถ้าใครมาเคาะประตูบ้านถ้าเป็นคนแปลกหน้าก็เปิดวิทยุ โทรทัศน์ให้ดังเพื่อให้โจรได้ยิน หรือทำเสียงดังให้มันรู้ว่าเราอยู่บ้านนะ หมุนโทรศัพท์ไปที่ 911 ก็ได้ พวกโจรก็จะรีบไปแน่นอน กลัวเดี๋ยวตำรวจจะมาจับ

3. โจรบอกว่าจะไม่เข้าบ้านที่มีกล้องติดไว้ที่หน้าบ้าน หรือมีสุนัขเห่าอยู่ หรือมีป้ายที่ติดว่ามีสุนัขอยู่ Keep Out Be Aware of Dogs เป็นต้น อันนี้เราก็รีบไปซื้อกล้องดัมมี่ (Dummy) ราคาแค่ $10-20 ซื้อมาติดกันไว้ดูดี บ้านผู้ดีมีสตางค์เขาติดกันทั้งนั้น หรือถ้าเลี้ยงสุนัขไม่ได้ ก็ไปซื้อป้ายสุนัข ราคาถูก ๆ ซื้อจาก Home Depot 3-4 เหรียญ แค่นี้โจรก็ไม่อยากเสี่ยงเข้าบ้านเราแล้ว ไปหาบ้านอื่นดีกว่า

4. โจรส่วนใหญ่หลังจากเคาะประตูบ้านแล้วไม่มีใครอยู่ ก็จะรีบไปงัดประตูหน้าต่างทางหลังบ้าน แล้วจะจู่โจมเข้าไปในห้อนอนใหญ่ก่อน (Master Bedroom) จะเปิดเทลิ้นชักทุกใบ ยกฟูกนอนเพราะรู้ว่าคนเอเชียชอบซ่อนเงินไว้ใต้เตียง ใต้หมอน แล้วไปรื้อในตู้เก็บเสื้อผ้า จะเทกระจาดลงมาหมด เสื้อผ้ากระจุยกระจายบางรายเก็บของมีค่าไว้ในกระเป๋าเสื้อ กางเกง โจรใช้เวลาประมาณ 5 นาที ก่อนที่จะไปห้องอื่น ๆ ฉะนั้นอย่าเก็บของมีค่าในห้องนอน ถ้าต้องเก็บจริง ๆ เก็บไว้ในโรงรถ ห้องอื่นน่าจะดีกว่า หรือเก็บไว้ในตู้นิรภัยของธนาคารปลอดภัยที่สุด ถ้าไม่เชื่อใจธนาคารอีก ก็ซื้อตู้เซฟเจาะลงพื้นดิน หนักสัก 2,000 lbs. งัดเอาไปไม่ได้แน่ๆ

5. เห็นอะไรผิดสังเกตุ มีรถจอดมีคนรอในรถเป็นเวลานานผิดปกติ โดยที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน คนในรถก็ไม่น่าไว้วางใจ บางครั้งมาเดินด้อม ๆ มอง ๆ หน้าต่างของชาวบ้าน มาเคาะประตูถามหาคนที่เราไม่รู้จัก เป็นเหตุที่ต้องเดาไว้ก่อนว่าโจรจะมาคอยเวลาเข้าบ้านแน่ ๆ รีบโทรบอกตำรวจ 911 ถ้าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ก็บอกว่า I Speak Thai Only. เขาจะหาคนมาพูดภาษาไทยในทันทีเลย บอกรูปพรรณของผู้ต้องสงสัยว่า มีกี่คน เป็นคนเผ่าพันธ์อะไร เป็นต้น ตำรวจจะส่งรถสายตรวจและหน่วยเฉพาะกิจมาทันที เจอมาบ่อยพบว่าพวกโจรเขามีอุปกรณ์งัดบ้านครบในรถที่นั่งอยู่ อย่าลืมว่าพวกนี้เป็นโจรอาชีพ เป็นอุปกรณ์ทำมาหากินเขา ตำรวจสามารถตั้งข้อหา มีอุปกรณ์ขโมยในครอบครองได้ และพวกโจรเหล่านี้ส่วนใหญ่เคยถูกต้องโทษมาแล้ว มีเงื่อนไขที่ตำรวจสามารถตรวจค้นได้ทุกเวลา จดจำทะเบียบเลขรถ เป็นรถยี่ห้ออะไร สีอะไร เพราะตำรวจเราตรวจสอบได้เลยว่า เป็นรถตรงกับป้ายทะเบียนหรือเปล่า เป็นรถขโมยมาจากไหนหรือเปล่า รับรองว่าถ้าทำได้แบบนี้ โจรไม่เข้าบ้านแน่นอน นอกเสียจะเป็นโจรในบ้านของคุณเองต่างหาก

ครั้งหน้าจะเขียนเรื่องการขอประกันตัวเมื่อเราตกเป็นผู้ต้องหา รับรองได้ประโยชน์เป็นเรื่องที่น่ารู้ น่าสนใจ


โชคดีครับ
คิด ฉัตรประภาชัย