Special Scoop
กฎหมายจราจรที่น่ารู้ในปี 2016 ในรัฐแคลิฟอร์เนีย

ปีใหม่นี้ก็เริ่มมีกฎหมายจราจรหลายมาตรา ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2016 ซึ่งผมจะนำมาเผยแพร่สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนโดยสังเขป ก่อนอื่นขออธิบายว่ากฎหมายต่าง ๆ มาจากการเสนอจากสมาชิกของสภาใดสภาหนึ่งของ 2 สภา คือ สภาล่าง (Assembly) และ สภาสูง (Senate) ซึ่งหลังจากการโหวตผ่านจากทั้งสองสภาแล้ว ผู้ว่าการรัฐ ฯ ก็ต้องเซ็นอนุมัติ จึงจะมีผลบังคับใช้ได้ มีบางท่านถามว่าตัวอักษรย่อที่อยู่หน้ากฎหมายมีความหมายอย่างไรด้วย มาเริ่มกันเลยนะครับ

AB-8 (Assembly Bill 8) : Hit and Run Incidents (กรณีชนแล้วหนี)

กฎหมายฉบับนี้อนุญาตให้ตำรวจสามารถขึ้นป้ายตามไฮเวย์ ในกรณีที่มีผู้ต้องหาขับชนแล้วหนี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือเสียชีวิต โดยจะขึ้นป้ายประกาศเพื่อขอให้ผู้ขับขี่แจ้งตำรวจ หากพบเห็นรถของผู้ต้องหาขับตามไฮเวย์ เรียกว่า “Yellow Alert”

ซึ่งในอดีต... ทางการจะมีการขี้นป้ายประกาศบนไฮเวย์ เฉพาะคดีที่เป็นคดีร้ายแรง เช่น การลักพาตัวเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งเรียกการประกาศนี้ว่า “Amber Alert” ที่มาจากคำเต็มว่า “America’s Missing: Broadcast Emergency Response”

ประวัติที่มาของการตั้งชื่อว่า Amber คือ ในปี 1996 ที่เมือง Arlington รัฐ Texas มีเด็กหญิงอายุ 9 ขวบ ชื่อ Amber Hagerman ถูกลักพาตัว และถูกฆาตกรรมในที่สุด ซึ่งในขณะนั้นไม่มีระบบการประกาศหาตัวผู้ต้องหาบนไฮเวย์ที่ผู้ร้ายใช้เป็นเส้นทางลักพาเด็ก จึงมีการรณรงค์ผ่านกฎหมายที่ใช้ชื่อเด็กหญิง Amber สืบเนื่องมาจากกรณีของเธอ ถึงมีการเริ่มใช้มา โดยมีการประกาศใช้ทั่วประเทศในกรณีเด็กถูกลักพา ซึ่งทางตำรวจก็สามารถขอความร่วมมือจากทางสถานีวิทยุ โทรทัศน์ และบริษัทเคเบิ้ลต่าง ๆ ในการใช้ Amber Alert

ซึ่งในตอนนี้ Yellow Alert ก็จะใช้ระบบสื่อสารแบบนี้ด้วยเช่นกัน คำประกาศจะบอกถึงรถยี่ห้ออะไร รถทะเบียนอะไร สีอะไร ถ้าพบเห็นก็รีบแจ้ง 911 เลยครับ คุณอาจจะช่วยชีวิตผู้อื่นได้ และคุณก็จะเป็นพลเมืองดีฮีโร่ด้วย

SB-61 (Senate Bill) : Driving Under Influence (D.U.I.) เมาแล้วขับโดยมีสารเสพติด

กฎหมายฉบับนี้อนุญาตให้ต่อเวลาอีก 1 ปี สำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ที่ถูกจับขณะเมาแล้วขับ และถูกตัดสินว่าผิด ที่ได้ขับรถโดยมีสารเสพติดอยู่ในร่างกาย กฎหมายฉบับนี้ใช้บังคับเฉพาะผู้กระทำผิดกรณีนี้ที่อาศัยอยู่ในเขต (เคาน์ตี้) Alameda, Los Angeles, Sacramento และ Tulare Countiesโดยยังสามารถขับขี่รถได้ แต่ต้องติดตั้งเครื่องเป่าตรวจสอบว่าเมาหรือเปล่าไว้ในรถก่อนรถจะสตาร์ทติดได้ เรียกว่า Ignition Interlock Device (IID)

SB-491 : Earbuds Use การใช้หูฟัง

ห้ามผู้ขับขี่รถยนต์ และรถจักรยาน ใส่หูฟัง (Ear buds) หรือเครื่องฟัง (Headset) ที่ใส่ครอบคลุมหูทั้งสองข้างขณะขับขี่ จุดประสงค์ของกฎหมายฉบับเพิ่มเติมนี้ ก็เพื่อให้ผู้ขับขี่รถยนต์ รถจักรยานได้ยินเสียงไซเรนของรถตำรวจ รถดับเพลิง รถพยาบาล ขณะแล่นอยู่บนถนน

AB-208 : Highway Lane Use การใช้เลนบนไฮเวย์

ผู้ขับขี่รถยนต์ที่ขับช้า (Slow Moving Passenger) บนไฮเวย์ ที่มีเพียง 2 เลน ต้องขับหลบในเลนช้าชั่วคราวในช่วงสั้น ๆ ที่มีให้ เรียกว่า Turnout เพื่อให้ผู้ขับคันอื่นได้แซงผ่าน อันนี้รวมถึงรถจักรยานด้วย

AB-604 : Electric Skateboard/Electrically Mortorized Boards สเก็ตบอร์ดไฟฟ้า/พาหนะมีล้อขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม กฎหมายฉบับนี้ได้ให้คำจำกัดความไว้อย่างชัดเจนขึ้น เช่น

- มีส่วนกว้างไม่เกิน 18 นิ้ว ยาวไม่เกิน 60 นิ้ว (5 Feet)

- คนขับที่ยืนขับต้องมีอายุอย่างต่ำ 16 ปี ต้องสวมหมวกกันน็อค

- ขับได้ไม่เกิน 15 ไมล์ต่อชั่วโมงบนทางเท้า และห้ามขับเกิน 35 ไมล์ต่อชั่วโมงบนท้องถนน

- ห้ามขับกลางคืน นอกเสียจากจะมีไฟเขียวเห็นได้ชัดทั้งด้านหน้า / หลัง และด้านข้าง

AB-1096 : Electric Bicycles รถจักรยานไฟฟ้า

รถจักรยานไฟฟ้ามีกำลังไฟไม่เกิน 720 วัตต์ มี 3 ระดับ

Class 1 : E-Bike คนขับต้องปั่นให้เครื่องติด เครื่องจะหยุดทำงานเมื่อความเร็วถึง 20 ไมล์ต่อชั่วโมง

Class 2 : E-Bike จักรยานไฟฟ้าที่มีเครื่องช่วยปั่น เกียร์ต่ำ หยุดปั่นเมื่อความเร็วถึง 20 ไมล์ต่อชั่วโมง

Class 3 : E-Bike รวมสองแบบข้างต้น หยุดช่วยปั่นเมื่อจักรยานขับถึง 28 ไมล์ต่อชั่วโมง ผู้ขับขี่จักรยานแบบนี้ต้องมีอายุ 16 ปีขึ้นไป มีการสวมหมวกกันน็อค

กฎหมายฉบับนี้ห้ามไม่ให้ตกแต่งรถจักรยานที่มาจากโรงงานผลิตที่มีฉลากติดกำกับว่าห้ามเปลี่ยนแปลงแก้ไข แม้ว่าการขับขี่จักรยานเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตขับขี่ หรือต้องลงทะเบียนรถจักรยานก็ตาม แต่การขับก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายจราจรเหมือนกัน

ส่วนในวันที่ 1 มกราคม 2017 ปีหน้า กฎหมายฉบับที่จะมีผลบังคับใช้คือ…

AB53 : Child Safety Seats เก้าอี้เด็กติดรถยนต์

เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ต้องให้นั่งคาร์ซีท ทางด้านหลังคนขับ หันหน้าเข้าหาเบาะที่มีระบบผูกติดมั่นคง (Restraint System) ยกเว้นเด็กที่มีน้ำหนักเกิน 40 ปอนด์ หรือสูงเกิน 40 นิ้ว โดยกฎหมายก่อนหน้านี้มีผลบังคับใช้กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 1 ขวบ ที่ต้องถูกให้นั่งคาร์ซีท

SB-491 : Reporting Traffic Crashes การแจ้งเหตุอุบัติเหตุกับดีเอ็มวี (DMV)

กฏหมายใหม่เพิ่มเติมกฎหมายฉบับเดิม ในการเพิ่มมูลค่าความเสียหายจาก 750 เหรียญ เป็น 1,000 เหรียญนั้น ซึ่งคู่กรณีจะต้องแจ้งต่อ DMV โดยการกรอกแบบฟอร์ม SR-1 ทั้งนี้เพื่อการลดจำนวนอุบัติเหตุที่ต้องแจ้งให้น้อยลง


“ใช้รถ ใช้ถนน อย่างมีสติ และไม่ประมาท”
โชคดีครับ
คิด ฉัตรประภาชัย