Special Scoop



รักของคุณเป็นแบบไหน... ทำไมถึงทำกับฉันได้

ผมได้รับการติดต่อจากคนไทยที่ถูกทำร้ายร่างกาย จิตใจ จากอดีตแฟนเก่าที่ยังตามมาราวี จนทำให้เธอเกิดความหวาดกลัว แม้ความรักเป็นสิ่งสวยงามและเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในชีวิตของเราทุก ๆ คน แต่บางครั้งกลับถูกไอ้ความรักนี้ทำให้ปวดหัวใจมามากต่อมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความรักแบบเสน่หา ความรักแบบไม่ผูกมัด ความรักแบบมิตรภาพ ความรักแบบลุ่มหลง ความรักแบบมีเหตุผล หรือความรักแบบเสียสละ

แต่ละประเภทก็มีทั้งดีและไม่ดี และมีขีดจำกัด แต่เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดความโลภ โกรธหลง โดยขาดสติ ก็มักใช้ความรุนแรง การรุกราน หรือคุกคาม เพื่อให้อีกฝ่ายยอมจำนน เพื่อแสดงถึงอำนาจ และการควบคุม (Power and Control) ซึ่งจะรวมถึงการทำร้ายทั้งร่างกาย และจิตใจ หรือด้วยคำพูด และส่วนใหญ่ก็จะเกิดขึ้นหลังฮันนีมูน โรแมนติก หรือหลังจากช่วงโปรโมชั่นหมดลง โดยเฉพาะคนที่เป็นสามีภรรยากัน อดีตแฟน หรือกิ๊ก โดยไม่เกี่ยงว่าจะเป็นเพศอะไร ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมไทยทั้งที่เมืองไทย และในอเมริกา

เมื่อชุมชนที่อพยพมาอยู่อเมริกาใหม่ ๆ ซึ่งมีทั้งชาวเอเซีย ตะวันออกกลาง ยุโรป รัสเซีย โดยเอานิสัยที่เคยชินจากประเทศที่พวกเขาอยู่มาใช้ ในบางประเทศ เรื่องเหล่านี้ตำรวจจะไม่ค่อยอยากเข้าไปยุ่ง เช่น สังคมไทย จีน เกาหลี แขกขาว อินเดีย ที่ผู้ชายยังนึกว่าเขาเป็นใหญ่ จะทำอะไรกับฝ่ายหญิงก็ได้ โดยจะบอกว่า “เป็นเรื่องของผัวเมียกัน คนอื่นไม่เกี่ยว” แต่พอมาเจอกฎหมายที่อเมริกานี่ ก็โดนติดคุกตามระเบียบ หมดอนาคตก็หลายราย บางคนจบลงด้วยการฆ่ากัน ฆ่าคู่กรณีแล้วปลิดชีวิตตัวเองก็มี บางรายที่มีลูก ก็ทำให้ลูก ๆ ต้องกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก

ตำรวจอเมริกา มีการอบรมเป็นพิเศษในเรื่องนี้ คือความรุนแรงภายในบ้าน (Domestic Violence) เมื่อรถวิทยุได้รับแจ้งว่ามีเหตุแบบนี้เกิดขึ้นที่ใด เราจะรีบไป เพราะถือว่าเป็น Priority Call และจะไปกันอย่างน้อย 2 คัน เพราะตำรวจก็ตายมาแล้วหลายรายจากการไประงับเหตุ เราถือว่าคดีเหล่านี้มีโอกาสจะเกิดความสูญเสียได้เร็วมากถ้าไปไม่ถึงที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว

เพราะจากสถิติเหล่านี้:

- คุณสุภาพสตรีถูกทำร้ายตบตี (Beaten) ทุก ๆ 15 วินาที

- การทำร้ายโดยใช้ความรุนแรงภายในบ้านเป็นเหตุปัจจัยที่ทำให้สุภาพสตรีอายุระหว่าง 15 ถึง 44 ปี ถูกกระทำมากที่สุดในอเมริกา

- สุภาพสตรีที่เป็นเหยื่อของความรุนแรงมีโอกาสสูงที่จะแท้ง หรือลูกที่จะเกิดมา มีน้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐาน และมีปัญหาอื่น ๆ ที่ทำให้ทารกเกิดมาไม่สมประกอบ

- 66% ของผู้ชายอายุระหว่าง 11 ถึง 20 ปี อยู่ในเรือนจำด้วยข้อหาที่ได้ฆ่าแม่ที่ได้ใช้ความรุนแรงกับพวกเขา

Domestic Violence คือ การกระทำด้วยการละเมิดต่าง ๆ เช่น การทำร้ายร่างกาย การละเมิดทางเทศ ทางวาจา การข่มขู่ เป็นต้น ต่อคนที่อยู่ในครอบครัวเดียวกัน แม้แต่กับเด็ก ทรัพย์สิน หรือสัตว์เลี้ยงก็ได้ จะเป็นคู่สมรส แฟน หรือกิ๊ก ก็ดี ที่มีหรือเคยมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง อาจจะมีลูกด้วยกัน หรือยังคบกันแบบแฟน โดยไม่คำนึงว่าจะเป็นคู่ที่เป็นเพศเดียวกันหรือไม่ก็ตาม รวมถึงเยาวชนที่กระทำต่อบิดา มารดา หรือญาติที่อาวุโสกว่าที่อาศัยในบ้านเดียวกัน

พวกผู้กระทำความผิดเหล่านี้ ต้องการสองอย่างคือ การใช้อำนาจ (Power) และการควบคุม (Control) อีกฝ่าย จากปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยมีความเครียด บางรายถึงกับทำร้ายตัวเอง และลูก ๆ แต่ทุกอย่างมีทางออกนะครับ ทางตำรวจ และกรมอัยการ สามารถใช้กฎหมาย หรือหาที่อยู่อาศัยชั่วคราวให้ ในกรณีที่ผู้ถูกกระทำอาศัยบ้านเขาอยู่

ส่วนการดำเนินการตามกฎหมาย ทางตำรวจสามารถตั้งข้อหาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งข้อหาต่าง ๆ เหล่านี้เป็นคดีอาญาร้ายแรง (Felony) ทั้งสิ้น ดังนี้

1. 273.5 Penal Code (P.C.) Spousal abuse or cohabitant abuse การทำร้ายร่างกายจากคู่สมรส หรือคู่ที่อยู่ด้วยกัน โดยไม่ได้แต่งงานกันก็ได้

2. 243 (c)(1) P.C. Battery การจับต้องตัวผู้อื่นโดยใช้กำลัง โดยที่เขาไม่อนุญาต

3. 422 P.C. Terrorist Threats การข่มขู่ผู้อื่นด้วยวาจา ด้วยการเขียนจดหมาย ข้อความ เท็กซ์ หรือผ่านทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพื่อให้คู่กรณีเกิดความกลัว ขวัญผวา หวาดกลัวในความปลอดภัยของตัวเอง หรือสมาชิกในครอบครัว

4. 646.9 P.C. Stalking การสะกดรอยตาม เพื่อข่มขู่ที่จะทำร้ายร่างกายกับอีกฝ่าย หรือสมาชิกในครอบครัว จะด้วยคำพูด การเขียน เท็กซ์ หรือใช้โซเชียลมีเดียในการติดต่อกับคู่กรณี และเหยื่อคิดว่าผู้ละเมิดสามารถที่จะทำตามที่เขาข่มขู่ได้

และข้อหาอื่น ๆ อีก ซึ่งแล้วแต่องค์ประกอบของความผิดที่จะตั้งได้

ฉะนั้น ถ้าเราตกเป็นเหยื่อของคนเหล่านี้ สิ่งที่ควรทำ คือ

1. แจ้งตำรวจ 911หรือตำรวจท้องที่ทันที ตำรวจจะรีบมา โดยไม่คำนึงว่าผู้กระทำจะเป็นสมาชิกในครอบครัว หรือเป็นเจ้าของบ้าน และตำรวจสามารถหาที่พักชั่วคราวให้ท่านได้

2. ออกจากสถานที่ หรือเรียกคนรู้จักมาอยู่เป็นเพื่อน สามารถโทรศัพท์หาที่พักชั่วคราว

3. ถ้าได้รับบาดเจ็บ รีบไปที่โรงพยาบาลที่ห้องฉุกเฉิน ถ่ายรูปบาดแผลที่ได้รับบาดเจ็บไว้ เขียนบรรยายว่าเกิดเหตุที่ไหน เมื่อไร ใครเป็นคนทำ ในกรณีที่ไม่ได้โทรแจ้งตำรวจ 911

4. ติดต่อศาลครอบครัว (Family Court) เกี่ยวกับการขอคำสั่งศาล เพื่อไม่ให้ผู้กระทำเข้าใกล้เรา หรือติดต่อกับเราได้

5. โทรปรึกษากับเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการ หนึ่งในการสร้างฐานอำนาจ และการควบคุมของผู้กระทำผิดคือ พยายามทำทุกอย่างแบบให้เก็บเป็นความลับ เพื่อทำให้เหยื่อเกิดความอับอายถ้าคนอื่นรู้เรื่อง จึงจำต้องเก็บเป็นความลับ โดยบางรายมีการถ่ายคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์กัน และขู่จะเปิดเผยกับญาติเรา เพื่อนบ้าน หรือเพื่อน ๆ เรา ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา จึงควรโทรปรึกษาเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการ

6. ต้องเตรียมตัวมีแผนปฏิบัติการว่า ถ้าเกิดเขากลับมาทำร้ายเราอีก เราจะทำอย่างไร หรือออกจากบ้าน โดยเก็บข้าวของที่จำเป็น รวมถึงเอกสารต่าง ๆ เช่น ใบสมรส ใบเกิด สมุดเช็ค พาสปอร์ต และอื่น ๆ

7. ให้คิดเสมอว่า เรามีทางออกและความช่วยเหลือมากกว่าที่เราคิด เรามีสิทธิ์ที่จะรักหรือไม่คบใครก็ได้ ประเทศนี้ให้ความอิสระกับทุก ๆ คน ฉะนั้น ควรลุกขึ้นยืนหยัด วางแผนเพื่ออนาคตใหม่ ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน ไม่ติดอยู่ในวังวนเก่า ๆ

ถ้าผู้กระทำล่วงละเมิด (Abusers) มีความผิดปกติทางประสาท ก็ไม่ใช่เหตุผลที่เราจะอนุญาตให้เขามาทำร้ายเรา ตำรวจสามารถนำตัวไปให้หมอโรคจิตตรวจวินิจฉัย และสามารถควบคุมตัวไว้ได้ 72 ชั่วโมง โดยที่เขายังไม่ได้ทำผิดกฎหมายได้ เพราะอาจเป็นอันตรายกับตัวเขาเองและผู้อื่น เรียกว่า “5150” Hold!


โทรศัพท์ที่ควรจำไว้

- สถานกงสุลใหญ่ในนครลอสแอนเจลิส ตลอด 24 ชั่วโมง (323) 580-4222

- Domestic Violence Hotline 1-800-978-3600

- District Attorney’s Family Violence สำนักงานอัยการแอลเอ (213) 257-2185 หรือ 1-800-380-3811 หรือทั่วประเทศ โทรเบอร์ 1-800-799-7233

- ป้องกันการฆ่าตัวตาย (24/7) Suicide Prevention and Survivor Hotline 1-877-727-4747

- เกี่ยวกับติดยาเสพติด 1-800-564-6600

- LA Gay and Lesbian Center (323) 993-7400

สรุป อย่าลืมว่าการกระทำรุนแรงที่เกิดขึ้นกับคุณนั้น ไม่ใช่ความผิดของคุณเลย ถึงแม้ว่าบุคคลอีกฝ่ายนั้น จะเป็นผู้ส่งเสียเลี้ยงดูเราหรือลูกเราก็ตาม คุณมีสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ และองค์กรต่าง ๆ ในสังคมนะครับ


โชคดีครับ
คิด ฉัตรประภาชัย