Special Scoop
สวัสดีปีมะเส็ง 2556
“อโรคยปรมา ลาภา สนฺตุฎฐี ปรมํ ธนํ
วิสุสาสปรมา ญาติ นิพพานํ ปรมํ สุขํ”
“ความไม่มีโรค เป็นยอดแห่งโชค ความสันโดษ เป็นยอดแห่งทรัพย์
ความสนิทสนม เป็นยอดแห่งญาติ นิพพาน เป็นยอดแห่งสุข”

ในศุภวารดิถีขึ้นปีใหม่ ผมขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โปรดดลบันดาลให้แฟนคลับ และท่านผู้อ่านทุก ๆ ท่าน ตลอดจนญาติสนิทมิตรสหาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ประสบแต่ความสุข ความเจริญ ด้วยจตุรพิธพรชัยและสัมฤทธิผล ในสิ่งอันพึงปรารถนาทุกประการ

ผมกลับไปเมืองไทยอยู่แต่กรุงเทพมหานคร 10 วัน ได้มีโอกาสติดตามท่าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เดินหาเสียง 3 วัน (วันละ 12 ช.ม.) เดินกันตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 2 ทุ่มเลย ตั้งแต่เยาวราช ปทุมวันไปถึง บางขุนนนท์ พระราม 2 ท่านเสรีมีความตั้งใจเกินร้อยในความพร้อมที่จะเป็นตัวเลือกใหม่ของคนกรุงเทพฯ โดยอาสาที่จะเป็นผู้ว่าการกรุงเทพมหานคร ในวันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2556 ที่จะถึงนี้ ในนามพรรคอิสระ ไม่มีพรรค ไม่มีฐานเสียง ไม่มีคะแนนจัดสรรใด ๆ มีแต่ผลงานตลอดระยะเวลาเกือบ 40 ปี ในการเป็นตำรวจอาชีพกับกรมตำรวจ หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นที่ประจักษ์ของประชาชน ความศรัทธา และความเชื่อมั่นที่ให้กับท่าน ดังที่ประชาชนขนานนามต่าง ๆ เช่น เป็นวีรบุรุษนาแก, มือปราบตงฉิน ว่าสามารถจะแปรเปลี่ยนเป็นคะแนนเสียงในวันเลือกผู้ว่าคนใหม่ได้หรือไม่ ก็ต้องคอยดูกัน

ผมจะเล่าถึงความคิดเห็นและการเป็นตัวของท่านเองว่า โอกาสที่จะเป็นไปได้ก็มี แต่จากโพลประชาชนที่อยู่ในตำแหน่งการเมืองจากการเลือกตั้งก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า คงจะเหนื่อยแน่ ๆ งานนี้ เพราะทั้งพรรคประชาธิปปัตย์ และเพื่อไทย มีความต้องการที่จะได้คนของเขาทำหน้าที่เป็นตัวแทนของพรรคในการบริหารกรุงเทพมหานคร จึงมีการเอาเกมส์สารพัดต่าง ๆ มาใช้ โดยทั้งสองพรรคยังไม่เปิดเผยชื่อตัวแทนว่าจะส่งใครลงอย่างเป็นทางการ ซึ่งทั้ง ๆ ที่เหลือเวลาไม่ถึง 20 วัน ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัฒน์ ก็จะหมดวาระลงในวันที่ 10 ม.ค. 56 นี้แล้ว หรือมันจะเป็นแผนเพื่อไม่ให้คู่ต่อสู้หาจุดอ่อนมาโจมตีคู่แข่งขันก่อนวันที่ 10 ม.ค. 56 หรือไม่อยากปลุกกระแสให้คนกรุงเทพฯ ตื่นเต้นโดยออกมาลงคะแนนเสียงกันมากเกินไป เพราะเมื่อ 4 ปีที่แล้วมีคนออกมาลงคะแนนใช้สิทธิเพียง 50-51% เท่านั้น ยิ่งถ้ามีคนออกมามาก ๆ คะแนนที่เป็นฐานเสียงก็อาจจะไม่พอที่จะชนะท่านเสรีพิศุทธ์ เกมส์การเมืองอันนี้น่าจับตาดู หลังวันที่ 10 ม.ค. ว่าใครคือตัวแทนของพรรคใหญ่ทั้งสองพรรคนี้ แต่จากการสอบถามกับผู้รู้ก็เป็นที่คาดคะเนว่า พรรคประชาธิปัตย์ คงต้องส่ง ม.ร.ว. สุขุมพันธ์ ลงอีกหนึ่งสมัย เพราะท่านบอกชัดเจนว่า จะลงแน่ ๆ ถึงแม้พรรคจะไม่ส่ง

ส่วนพรรคเพื่อไทย ก็คงจะส่ง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. และเลขาธิการ ปปส. (ปราบปรามยาเสพติด) มาลงในนามพรรค ก็เป็นที่น่าสังเกตว่า ถ้าเป็นจริง คนนี้มีอนาคตเป็น ผบ.ตร.ค่อนข้างแน่ จะมาแลกกับตำแหน่งผู้ว่า กทม.ทำไม หรือมีใบสั่งจากต่างประเทศหรือเปล่า

มีการวิจารณ์ถึงแผ่นป้ายโฆษณาของปปส.มี พล.ต.อ.พงศพัศ ยืนคู่กับนายกยิ่งลักษณ์ ว่ามันเป็นการหาเสียงโดยใช้งบรัฐบาลหรือเปล่า ประชาธิปัตย์ก็บอกว่าไม่เหมาะสม และจะไปยื่นกกต.ทันทีที่พรรคเพื่อไทยส่ง พล.ต.อ.พงศพัศ ลงแข่ง

การที่ กกต.กรุงเทพมหานครไม่มีการโฆษณาบอกให้ประชาชนในกรุงเทพฯได้รับทราบถึงการกำหนดการเลือกตั้งแต่เนื่อง ๆ เชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์กันมาก ๆ ก็เป็นที่น่าสังเกตว่า ใครเป็นพรรคอิสระจะหาเวลา และทุนมาสู้กับพรรคใหญ่ทั้งสองพรรคได้อย่างไร แต่สำหรับท่านเสรีพิศุทธ์ คงรู้ทันเกมส์ เปิดตัวเองให้ประชาชนรู้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเก็บคะแนนหาเสียงไปเรื่อย ๆ จนถึงทุกวันนี้ครับ

ก็ขอสรุปการที่ผมสนับสนุน และอยากเห็นท่านเสรีพิศุทธ์ผู้ซึ่งอาสาออกมาช่วยชาวกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีวิสัยทัศน์ชัดเจนในการที่อยากจะให้คนกรุงเทพมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ต้องมีพร้อมทุกอย่าง

ท่านถึงมีพันธกิจที่จะทำงานในหนึ่งปีแรก ให้มีการเปลี่ยนแปลง และ พันธสัญญา 4 ปี เรียบร้อย มีดังนี้


1.คนกรุงเทพฯ จะต้องมีชีวิตที่ดีขึ้นในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ปลอดยาเสพติด
2.ทำให้เมืองกรุงเทพฯ น่าอยู่ น้าในคลองใส รถไม่ติด พร้อมเข้าสู่สังคมอาเซียน
3.ทำให้เป็นเมืองสีเขียว ไร้มลพิษ มีสนามกีฬา สวนสาธารณะในทุกแห่งที่ว่างเปล่าของทางราชการหรือเอกชนที่ทำได้
4.คนกรุงเทพต้องมีอาชีพและรายได้ที่ดี พรั่งพร้อมด้วยปัจจัย ๔ จะแก้ไขปัญหาจราจร โดยจะสนับสนุนคนกรุงเทพฯ ให้ใช้รถเมล์ฟรีปรับอากาศ จัดระเบียบแม่ค้าแผงลอยไม่ให้เขามายึดพื้นที่ทางเท้า

ท่านมีความตั้งใจจริง เดินกับท่าน 3 วัน วันละ 12 ชั่วโมง ชาวบ้านแทบจะ 100 % มีความศรัทธา ชื่นชมในผลงาน ความตั้งใจจริง ท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง พร้อมทั้งร่างกาย จิตใจ ตั้งใจจริงที่อาสาเข้ามาทำงานเพื่อประเทศชาติอีกครั้งหนึ่ง

ขอบคุณล่วงหนาที่ช่วยบอกต่อ ๆ กันไป ให้ญาติสนิทมิตรสหายที่อยู่ในกรุงเทพฯ ไปลงคะแนนเสียงให้ท่าน ผมเชื่อแน่ว่ากรุงเทพฯจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นแน่นอน การเป็นผู้ว่กรุงเทพฯ ท่านจะได้แสดงฝีมือในทุก ๆ ด้าน

ท่านสามารถเข้าไปชม Face book หรือ www.sereepisut.com

ขออนุญาตินำบทความของคูณประพัน คูณมี ที่เป็นอีกผู้หนึ่งที่สนับสนุนท่านเสรีถึงกับยอมลาออกจากการเป็นแกนนำพันธมิตร


เหตุผลสำคัญที่ผมเลือกสนับสนุน เสรีพิศุทธิ์ เป็นผู้ว่า กทม.
โดย ประพันธุ์ คูณมี เมื่อ 22 ธันวาคม 2012 เวลา 1:46 น.

การเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ครั้งนี้ จะเป็นการแข่งขันระหว่างผู้สมัครที่สังกัดพรรคการเมือง กับผู้สมัครอิสระที่ไม่สังกัดพรรคการเมือง การใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้จึงมีความหมายและความสำคัญต่อคน กทม. สำหรับผมเห็นว่าการใช้สิทธิเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมมีหลักพิจารณาว่า เราจะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่คนกทม. และประเทศชาติ ทั้งเพื่อเป็นการใช้สิทธิ และทำหน้าที่ของตนเองให้เกิดประโยชน์และเป็นผลดีที่สุด ผมจึงตัดสินใจสนับสนุนคุณ เสรีพิศุทธิ์ ด้วยเหตุผลดังนี้

1. กทม. เป็นมหานครขนาดใหญ่ มีรูปแบบการบริหารแบบพิเศษ โดยเจตนารมณ์ที่ต้องการให้มีคณะผู้บริหารกทม. บริหารโดยยึดเอาประชาชน กทม. เป็นที่ตั้ง มุ่งแก้ไขปัญหาของเมืองและท้องถิ่นเป็นสำคัญ ผลประโยชน์ของประชาชนคือเป้าหมายสูงสุด ต้องอยู่เหนือผลประโยชน์ของกลุ่ม หรือพรรคการเมืองใดๆ

2. การเมืองโดยระบบพรรคการเมืองของไทยที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ถือเป็นการเมืองที่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง หากปล่อยให้กทม. อยู่ใต้อำนาจการครอบงำของพรรคและนักการเมือง โดยเฉพาะพรรคใหญ่สองพรรค ที่ต่างแก่งแย่งแข่งขันชิงอำนาจกัน เพียงหวังใช้ กทม. เป็นฐานอำนาจทางการเมือง โดยเอาคนกทม. เป็นตัวประกัน ก็มีแต่จะทำให้ประชาชนเสียประโยชน์ เพราะผู้ว่าฯ ที่อยู่ใต้สังกัดพรรคการเมือง ย่อมตกอยู่ภายใต้การบังคับบงการของพรรคการเมือง ซึ่งล้วนแต่ไม่อาจเป็นที่พึ่งแก่ประชาชนได้

3. การมีผู้ว่า กทม. ที่เป็นอิสระ โดยได้รับคะแนนสนับสนุนส่วนใหญ่ใน กทม. จะทำให้ประชาชนเป็นผู้มีอำนาจโดยแท้จริง และผู้ว่า กทม.คนดังกล่าวย่อมมีความเชื่อมโยงผูกพันกับประชาชน โดยไม่ตกอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมือง หรืออิทธิพลอื่นใด ย่อมทำให้ผู้ว่าฯ เคารพประชาชน ทำงานโดยยึดถือผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ เพราะประชาชนเป็นนายของผู้ว่าฯ มิใช่พรรคการเมือง ที่จะมากำกับบงการได้

4. ณ สถานการณ์ปัจจุบัน เป็นที่ทราบการดีว่าประชาชนทั้งหลายล้วนเอือมระอา และเบื่อหน่ายต่อพรรคและนักการเมืองในปัจจุบัน ด้วยเห็นพฤติกรรมและธาตุแท้ ของพรรคและนักการเมืองทั้งหลายเหล่านั้น ว่ามิได้ยึดถือผลประโยชน์ประชาชนเป็นสำคัญ ต่างต่อสู้แย่งชิงอำนาจกันเพียงเพื่ออำนาจและผลประโยชน์เท่านั้น หาได้มีความจริงใจต่อประชาชนไม่ ประชาชนกทม. ส่วนใหญ่ต่างเอือมระอาและเบื่อหน่ายพรรคและนักการเมืองเหล่านั้น จึงน่าจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับประชาชน ที่จะเลือกสนับสนุนผู้สมัครอิสระ เพื่อเป็นการสั่งสอน และส่งสัญญาณให้พรรคและนักการเมืองเหล่านั้นได้พึงสังวอน และปรับปรุงตัวเอง

5. เมื่อผมเห็นว่าควรสนับสนุนผู้สมัครอิสระมากกว่าพรรคการเมือง และคุณเสรีพิศุทธิ์เป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดในบรรดาผู้สมัครอิสระด้วยกัน ทั้งโดยส่วนตัวผมรู้จักและเห็นผลการทำงานที่ผ่านมาที่ผมยอมรับได้ ประกอบกับเป็นบุคคลที่มีความจงรักภักดีอย่างสูงยิ่งต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ผมจึงสนับสนุน

6.ผมทราบดีว่าคนเรามีจุดแข็งจุดอ่อน มีข้อดีข้อเสียในตัวเองด้วยกันทุกคน มีคนรักและมีคนเกลียด มีความดีและความไม่ดีมากน้อยต่างกันสุดแท้แต่ทัศนะคติและเหตุผลมุมมองของแต่ละท่าน คงไม่มีใครดีสมบูรณ์ที่สุด แต่สิ่งหนึ่งที่ผมให้ความมั่นใจกับพี่น้องได้คือ เมื่อผมทำงานกับใครเราจะทำงานร่วมกันในสิ่งที่ถูกต้องและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชน ผมจะไม่ยอมให้ความไม่ถูกต้องหรือการทุจริตคดโกง สร้างความเสียายแก่ประชาชนเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด นี่คือเหตุผลสำคัญที่ผมเลือกสนับสนุนเสรีพิศุทธิ์ สมควรได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯกทม. อย่างไรก็ตามผมเคารพความคิดเห็นและดุลยพินิจของพี่น้องประชาชนทุกคน กทม เป็นของพวกเราทุกคน อำนาจและสิทธิการตัดสินใจเป็นของท่านทุกคนครับ

7.เมื่อได้ตัดสินใจเช่นนี้แล้ว ผมจึงจำเป็นต้องขอลาออกจากการเป็นแกนนำของพันธมิตรประชาชนฯ เพื่อให้เกิดความชัดเจน เพราะการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. เป็นงานเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น เป็นคนละบทบาทและหน้าที่ แต่ความเป็นพันธมิตรฯ จะยังอยู่ในเลือดเนื้อและชีวิตของผมตลอดไป


สวัสดีปีใหม่ครับ
คิด ฉัตรประภาชัย