Special Scoop
Traits and Principles of Leadership (คุณลักษณะที่สำคัญของผู้นำ)

เมื่อสัปดาห์ก่อนไม่ได้มีโอกาสเขียนบทความเพราะติดภารกิจเข้าอบรมที่ทางสำนักงานของคุณมิเชล สตีล ให้ข้าราชการในออฟฟิศเข้าอบรมโดยการจ้างผู้เชี่ยวชาญมาอบรมให้กับทุกคน คุณมิเชลฉลาดมาก เพราะถ้าเจ้าหน้าที่มีความรู้ มีความสามารถเป็นตัวแทนให้กับเธอ เธอก็ได้ชื่อได้เครดิตจากผลงานของลูกน้องเป็นการลงทุนที่ได้ผลเกินคุ้มค่า

ผู้บรรยายเป็นอดีตนายทหาร Marine เขาเอาวิธีการอบรมผู้นำทหาร ที่เรียกว่า Military Leadership Methods ปรับพัฒนามาใช้กับธุรกิจและหน่วยราชการอื่น ๆ ซึ่งจากประวัติศาสตร์ของบทเรียนนี้ทหารเขาใช้มา 236 ปีแล้ว มีการทดสอบจากสนามรบในสมรภูมิต่าง ๆ เพื่อพัฒนาบุคลากรของเขาให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในการผลิตผู้นำที่สามารถใช้เทคนิคในการสื่อสาร (Communication) การวางแผน (Planning) การร่วมทำงานเป็นทีม (Team Building) และนำยุทธศาสตร์วิสัยทัศน์ (Strategic Visions) มาวิเคราะห์แบบเชิงลึก (Focus) วันนี้ผมจึงอยากจะเอาบทเรียนนี้มาแบ่งปันกัน เพราะสังคมไทยของเราตอนนี้หาผู้นำที่มีความพร้อม มีวุฒิภาวะ มีบารมี มีคนศรัทธา มีความเสียสละยากจริง ๆ ทำให้สังคมไทยที่เมืองไทยและที่อเมริกา ไปไม่ไกลเท่าที่ควรเหมือนประเทศอื่น ๆ เขา เมื่อเรามีผู้นำที่ขาดคุณสมบัติที่ดีที่กลัวไปหมดไม่กล้าในการตัดสินใจในสิ่งที่ถูกที่ควร ชุมชนจะแข็งแรงได้อย่างไร เราควรหาผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ มีความรู้ มีความกล้าหาญ สุจริต กล้าพูด และทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และมีคุณสมบัติเป็นผู้นำให้รุ่นต่อ ๆ ไปได้เอาเยี่ยงอย่าง ฉะนั้นเราต้องหาโอกาสหาความรู้ พัฒนาตัวเองจากการเรียน เพราะก่อนอื่นเราต้องรู้จักตัวเราเองก่อนว่า เรามีจุดบกพร่อง จุดอ่อนตรงไหน ทุก ๆ คนหาโอกาสเรียนรู้ได้จากประสบการณ์จากผู้รู้ ผู้ใหญ่ หรือผู้ทรงคุณวุฒิ ทุกคนมีคุณสมบัติในการเป็นผู้นำในตัวเองอยู่แล้วจากครอบครัว เช่น เป็นพ่อ แม่ สามี พี่ ในการชี้นำคนอื่นให้ทำตามเรา ตั้งแต่เรายังเป็นเด็กด้วยซ้ำไป ตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ อยู่เสมอ ๆ แต่การที่เราจะเป็นผู้นำที่มีคนนับถือศรัทธานั้นยังต้องมีเทคนิค มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เคารพในความคิดของผู้อื่น ทุกอย่างสามารถที่จะมาเรียนรู้กันได้ สามารถฝึกพัฒนาให้ดีขึ้นได้ (Becoming a leader takes a conscious effort and practice, believing that leadership can be taught)

ผู้บรรยายบอกถึงคุณสมบัติที่สำคัญ 11 อย่างของผู้นำที่ดี (11 Principles of Leadership) คือ


1.Be tactically and technically proficient

ต้องเป็นผู้ที่มีไหวพริบปฏิภาณที่ดี มีความชำนาญในเรื่องต่าง ๆ อันนี้เห็นมาเยอะมาก บางคนเรียนหนังสือเก่ง มีความชำนาญในสาขาที่เรียนมา แต่พอออกมาเจอปัญหาของจริงนอกตำราหน่อยปรากฎแก้ปัญหาไม่ได้ ไม่สามารถปรับโจทย์ให้เข้ากับสถานการณ์ได้ อันนี้บางทีก็สอนกันยากเหมือน ๆ กับ Common Sense สามัญสำนึก (Either you have it or not)

2.Know yourself and seek improvement

ต้องรู้จักตัวเอง และหาโอกาสพัฒนาตัวเอง โดยเฉพาะในอเมริกานี้ โอกาสเปิดให้กับทุก ๆ คน โรงเรียนเอย จะเรียนตอนเย็น เรียนออนไลน์ สาขาอะไรก็ได้ จะเป็นตำรวจ ทหาร อะไรก็ได้หมด มันอยู่ที่ตัวเราเองว่า เราจะจัดเวลาได้ลงตัวขนาดไหน ฝรั่งถึงพูดว่า “Education knowledge is the most powerful weapon to change the world” การศึกษาและความรู้เป็นอาวุธที่สำคัญที่สุดในการเปลี่ยนแปลงของโลกเลย

3.Know your team and look out for their welfare

ผู้นำที่ดีต้องดูแลลูกทีม รู้จักลูกทีมว่าพวกเขามีขีดความสามารถของแต่ละคนมากเท่าไร สรุป ผู้นำต้องรู้จักคนที่จะเข้ามาร่วมทีม รู้จักนิสัยใจคอ การปฏิบัติต่อลูกทีม เพื่อให้เขามีความรู้อยู่ดีกินดี

4.Keep your people informed

สำคัญมาก การสื่อสารของผู้นำจะช่วยให้ลูกทีมรู้ว่าพวกเราจะกำลังไปในทิศทางใด มิใช่ใครจะคิดทำอะไรก็ทำ โดยไม่มีการสื่อสารกันก่อน Communication before actions!

5.Set the example

ผู้นำที่ดีต้องทำอะไรเป็นตัวอย่างให้ลูกทีมเรียนรู้ เพราะสักวันหนึ่งลูกทีมก็คงอยากเป็นผู้นำบ้าง ในทางตรงกันข้าม ถ้าผู้นำทำตัวอย่างที่ไม่ดี ลูกทีมก็หมดศรัทธาแยกตัวออกห่าง หรือทำตัวเป็นตัวถ่วงของทีมในที่สุด

6.Ensure the task is understood, supervised and accomplished

งานอะไรที่ผู้นำจะสั่งให้ลูกทีมทำ จำเป็นต้องให้ทุกคนเข้าใจในหน้าที่ของแต่ละคน คอยดูว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ถึงจุดสำเร็จในภาระกิจนั้น ๆ ให้เร็วที่สุดที่ดีที่สุด

7.Train your people as a team

อันนี้ผมเรียนมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนที่โรงเรียนตำรวจของเชอรีฟ เขาฝึกว่าถ้าปลาเน่าตัวเดียวมันส่งกลิ่นเหม็นทั้งฝูง ฉะนั้นเวลาหัวหน้าเขาสั่งให้ทำอะไร เราต้องดูแลเพื่อน ๆ ด้วย เพราะทำผิดเพียงคนเดียวทั้ง 20 คน (ในชั้นเรียนตำรวจมี 20 คน) เขาสั่งไปวิ่งรอบสนามสัก 1 ชั่วโมงทั้ง 20 คน วิ่งไปตะโกนไปถึงความสำคัญของการทำงานที่เป็นทีม มีอยู่ครั้งหนึ่งจบจากตำรวจแล้ว ก็ต้องไปฝึกภาคสนามกับตำรวจครูฝึกที่อาวุโสอีก 400 ช.ม. วันหนึ่งเราก็กำลังเขียนใบสั่งให้กับคนขับรถที่ทำผิดกฎจราจรอยู่ ก็มีวิทยุเข้ามาว่า มีตำรวจต้องการขอกำลังมาช่วยเขาด้วย เราก็จะรีบเขียนใบสั่งให้เสร็จก่อน ปรากฎว่าครูฝึกโกรธแทบเป็นแทบตายว่า นี่ถ้าเขาใกล้จะตายแกยังจะเขียนใบสั่งอยู่อีกหรือไร ฉะนั้นจำจนทุกวันนี้ อย่างอื่นไม่สำคัญเท่ากับการช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมด้วยกัน ตำรวจเป็นตัวอย่างที่ดี ถ้าตำรวจคนไหนเดือดร้อนขอความช่วยเหลือ เขาจะหยุดทำทุกอย่างไปกันเป็นสิบ ๆ คันเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมอาชีพ ผมประทับใจจนทุกวันนี้ เหมือนกับกีฬาบาสเก็ตบอลมันไม่ใช่คุณเก่งคนเดียวอย่าง Lakers มีนายโคบี้ ไบรอัน จะชนะเป็นแชมป์ไม่ได้หรอก มันต้องเล่นเป็นทีม ทีมมีอยู่ 5 คน ต้องให้ความสำคัญและหน้าที่กับทุก ๆ คนถึงจะเป็นแชมป์เปียนได้

8.Make sound and timely decisions

ผู้นำหรือหัวหน้าที่ไม่กล้าตัดสินใจเพราะกลัวเจ็บตัวนั้น เป็นผู้นำที่ดีไม่ได้หรอกครับ โดยเฉพาะข้าราชการประจำ ถ้าไม่กล้าเอาสิ่งดี ๆ มาปรับปรุงแก้ไขให้องค์กรให้ดีขึ้น เอะอะก็บอกว่าผิดระเบียบ ผิดกฎหมาย ถามหน่อยเถอะ ไอ้ระเบียบ กฎหมาย มันเขียนบนหินหรืออย่างไร ระเบียบมันโบราณ กฎหมายมันไม่ทันเหตุการณ์ปัจจุบัน คุณก็ต้องเสนอแก้ไข เปลี่ยนแปลง ไม่ใช่กินเงินเดือนไปเรื่อย ๆ ไม่เจ็บตัว เพราะกลัวจะถูกด่า หรือถูกฟ้อง ถ้าคุณมีความตั้งใจดี และทำอยู่บนรากฐานของความเป็นจริง ก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไร เห็นได้จากการทำงานของรัฐบาล ปชป. กับ พท. ว่าใครกล้าทำกล้าเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนดี

9.Develop a sense of responsibility in your subordinates

ต้องให้ทุกคนในทีมมีความรับผิดชอบร่วมกัน ทุกคนเป็นเจ้าของทีม มีหน้าที่ต้องดูแลองค์กรในตำแหน่งต่าง ๆ คือ ทุกคนมีความสำคัญต่อทีม มีความเสียสละเพื่อให้ทีมไปถึงจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้

10.Employ your unit in accordance with capabilities

ทางทหารเขาจะรู้ว่าหน่วยไหนมีขีดความสามารถเท่าใด ต้องใช้คนให้ถูกกับงาน รู้ว่าเขามีความสามารถความรู้ที่จะรับงานไปทำแค่ไหน

11.Seek responsibility for your actions

บอกว่าต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของคุณ ทุก ๆ คนต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง มิใช่โทษคนอื่นเสมอ หาเหตุผลที่จะไม่ทำโทษคนอื่น บ้างก็บอกว่าไม่ใช่หน้าที่ องค์กรก็ไปได้ไม่ไกลแน่


ที่นี้ Traits of a leader หรือ Characters คุณลักษณะของผู้นำ จากการบรรยายของ Major USMCR Garth Massey


1.Judgment การตัดสินใจที่ถูกต้องตามสถานการณ์ Ability to think critically!
2.Justice ปฏิบัติกับลูกน้องด้วยความยุติธรรม ซึ่งไม่เหมือนกับคำว่า Fair ที่แปลว่า เท่าเทียมกัน ต้องแยกให้ออก
3.Dependability ต้องเป็นผู้ที่คนอื่นเชื่อถือ พึ่งพาได้ พูดแล้วก็ต้องทำ ทำแล้วก็ต้องรับผิดชอบอะไรทำนองนี้
4.Integrity มีความซื่อสัตย์ เชื่อถือได้ ทั้งต่อหน้า และลับหลัง จะอยู่ในเวลา และนอกเวลาทำงานที่คนเห็น หรือไม่เห็นก็ตาม ตลอด 24 ช.ม. ไม่ใช่พาร์ทไทม์
5.Decisiveness กล้าคิด กล้าทำ คิดว่าดีก็ทำได้กล้าตัดสินใจ
6.Tact มีสามัญสำนึก และรู้จักกาลเทศะว่าอะไรควรหรือไม่ควรทำ การทำงานต้องมียุทธวิธี การพูดการสื่อสารต้องมี Tact ทั้งนั้น
7.Initiative ต้องมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
8.Endurance ต้องมีความอดทน แข็งแรงทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ต้องฝึกบ่อย ๆ
9.Bearing มีทิศทางที่แน่นอน มีความเชื่อมั่นในตัวเอง
10.Unselfishness ต้องเป็นคนไม่เห็นแก่ตัว เสียสละช่วยเหลือผู้อื่น
11.Courage มีความกล้าหาญในการตัดสินใจในการทำงาน
12.Knowledge หมั่นศึกษาหาความรู้ หาประสบการณ์เพื่อพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา
13.Loyalty ต้องมีความศรัทธา รู้บุญคุณคน รักเพื่อนพ้องร่วมทีมกัน
14.Enthusiasm มีความกระตือรือร้น สำคัญมาก มิใช่ไปเรื่อย ๆ

ขอสรุปว่า สัจธรรม ไม่มีอะไรดีไปซะหมด หรือแย่ไปเสียทุกอย่าง ทุกอย่างเรามาเรียนรู้กันได้ ฝึก ๆ ไปเราก็จะมีคุณลักษณะของผู้นำที่ดีได้นะครับ ตามที่ท่านมหาวุฒิชัย ที่ว่า ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ ชั่วดือยู่ทื่ตัวเรา


โชคดีครับ
คิด ฉัตรประภาชัย