Special Scoop



“เช็ค… ชัวร์ก่อน… แชร์”

ขอขอบคุณแฟนคลับ ที่ทักทายกันในงานต่างๆ ที่ผมได้มีโอกาสเข้าร่วม บางคนก็มีการสอบถามปัญหาต่างๆ เมื่อได้พบกัน โทรศัพท์มาคุยกันบ้าง ก็พยายามตอบให้ตามความรู้ ประสบการณ์ ส่วนบทความจะเขียนเป็นครั้งคราวนะครับ

หลายวันนี้ มีหลายเรื่องที่คนสอบถามกันมาถี่ โดยเฉพาะเรื่องการแชร์ข่าวที่ไม่มีมูลความจริง แล้วก็แชร์ต่อๆ กันไป สร้างความหวาดกลัว เสียหายในวงกว้าง ทั้งผู้มีส่วนได้เสียหรือกับคนทั่วไป การนำข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงมาพูดกันจนเหมือนว่า จะเป็นจริง

ล่าสุด ก็กรณีมีคนแชร์กันว่า มีกฎหมายจราจรใหม่ในแคลิฟอร์เนีย California DMV 2019 New Laws บอกว่า Holding and or using the cell phone while driving (1st time): $1000 and driving license suspended 3 years ถ้าผู้ขับขี่รถถูกจับในขณะใช้โทรศัพท์มือถือ จะถูกปรับ $1,000 (ครั้งแรก) และยึดใบขับขี่ 3 ปี

กรณีนี้ ในฐานะที่เป็นตำรวจ ไม่ต้องคิดมากเลยครับ เป็น Fake News หรือมั่วซั่วแน่นอน ใบปลิวนี้มีข้อผิดสังเกตหลายอย่าง เช่นไม่บ่งบอกว่ามีผลบังคับใช้เมื่อไหร่ ปกติต้องระบุวันที่ชัดเจน เช่น มีผลบังคับตั้งแต่ 1 ม.ค. 2019 หรือ 1 ก.ค. 2019 และยังไม่ระบุกฎหมายจราจรมาตราใดๆ (California Vehicle Code) สาเหตุเพราะกฎหมายที่ห้ามผู้ขับขี่ใช้โทรศัพท์มือถือ หรือเท็กซ์ข้อความนั้น มีการใช้บังคับมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 (Senate Bill) SB1613 และ SB28 ห้ามการเท็กซ์ติ้ง (No Texting Law)) ซึ่งเริ่มใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008

ฉะนั้น ถ้ามีการแก้ไขเพิ่มเติมอะไร ก็ต้องมีการอ้างอิงกฎหมายมาตราเดิม ซึ่งอยู่ในหมวดกฎหมายจราจรมาตรา Vehicle Code (VC) 23123.5 ถ้าใครเคยโดนใบสั่งจากข้อหานี้ ก็ตรวจสอบได้ในใบสั่งที่ได้รับจากตำรวจ (Notice to Appear) นะครับ

สถิติจากตำรวจทางหลวงแคลิฟอร์เนีย (California Highway Patrol) หรือที่เรียกกันย่อๆ ว่า CHP ซึ่งในปีแรก 2009 ที่มีกฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในระหว่างขับขี่ยานยนต์นั้น ได้ออกใบสั่งถึง 148,000 ใบต่อปี ในขณะที่เมื่อปีที่แล้ว 2018 นั้น CHP ออกใบสั่งในข้อหาเดียวกันเพียง 97,000 ใบ แสดงให้เห็นว่า ผู้ขับขี่รู้ถึงผลเสียในการใช้โทรศัพท์มือถือในระหว่างขับขี่ยานพาหนะ ทั้งจะเสียค่าปรับและยังอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้จากการใช้โทรศัพท์ (Distracted Driving Collisions)

ในปี 2017 มีผู้ขับขี่ที่ก่ออุบัติเหตุจากการใช้โทรศัพท์นี้มากถึง 22,000 ราย มีทั้งบาดเจ็บ และเสียชีวิตด้วย อย่างไรก็ดี กฎหมายนี้ (CVC 23123.5) มีข้อยกเว้น คือ

-ในกรณีฉุกเฉิน เราสามารถใช้โทรศัพท์มือถือในขณะขับขี่รถยนต์ เช่น การโทรแจ้งตำรวจ หรือรถพยาบาล

-เป็นคนขับรถฉุกเฉินต่างๆ (Authorized Emergency Vehicles) เช่น รถตำรวจ รถดับเพลิง รถพยาบาล หรือขับในที่ส่วนบุคคล (Private Property)

ส่วนค่าปรับของใบสั่งในข้อหาใช้มือถือขณะขับขี่ยานพาหนะ (ถึงแม้ว่าจะถือโทรศัพท์ไว้เฉยๆ ก็ไม่ได้) คือ

ครั้งแรก กฎหมายระบุว่า มีค่าปรับพื้นฐานที่ $20.00 บวกค่าธรรมเนียมศาล และอื่นๆ ตามเคาน์ตี้ที่ถูกจับ กําหนดโดยศาลจราจรในเขตนั้น รวมแล้วอยู่ในประมาณ $150 ขึ้นไป

ครั้งที่สอง จะมีค่าปรับพื้นฐานที่ $50.00 บวกค่าธรรมเนียมศาลและอื่นๆ ก็จะอยู่ประมาณ $250

หมายเหตุ การได้รับใบสั่งในกรณีนี้ จะไม่ถูกเพิ่มคะแนน (Point) ในประวัติขับขี่ (Driver License) ของท่าน

หลายคนถามว่า ทำไมตำรวจจากซิตี้ หรือเชอริฟ ให้ใบสั่งจราจรบนทางหลวง (Freeway) หรือเมืองต่างๆ ได้ หรือแม้แต่ตำรวจทางหลวง (CHP) ถึงได้ออกใบสั่งบนถนนในซิตี้ได้ อันนี้ขอเรียนให้ทราบว่า ทางแคลิฟอร์เนียมีคล้ายๆ กับกรมตำรวจ ที่ดูแลมาตรฐานและการสอบของตำรวจทุกนาย ที่จะเป็นตำรวจของรัฐนี้ คือต้องสอบผ่านหลักสูตรและข้อสอบเหมือนกันหมด

ฉะนั้น แม้คุณจะเรียนจบหลักสูตรจากโรงเรียนตำรวจของ LAPD หรือของเชอริฟ LASD Academy สุดท้าย คุณก็ต้องเรียนตามหลักสูตรของกรมตำรวจ ที่เรียกว่า (State of California Commission on Peace Officer Standards and Training) มีจำนวนชั่วโมงที่ต้องเรียน ถ้าสอบผ่านก็จะเป็น California Peace Officers มีอำนาจในการจับกุมทั่วรัฐแคลิฟอร์เนีย

ดังนั้น อย่าได้กระทำผิดเป็นดีที่สุด บางรายนึกว่าตำรวจซิตี้ขับบนฟรีเวย์แล้วจับเราไม่ได้ เลยขับรถเร็วแซงผ่านเฉย ก็จะโดนจับ ให้ใบสั่งไปขึ้นศาลจราจร เสียเงินค่าปรับ เสียเวลา และจะเสียค่าพรีเมี่ยมประกันรถยนต์เพิ่ม และยังถูกเพิ่มคะแนนในประวัติขับขี่อีกต่างหาก

การไม่ตรวจเช็คข้อมูลกับผู้รู้จริง และแชร์ต่อๆ กันไป จึงไม่ควรกระทำ เราต้องใช้สติพิจารณา มีวิจารณญาณในการเสพข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ ก่อนที่จะส่งต่อ ซึ่งยังมีอีกหลายๆ กรณีที่มีกระบวนการปล่อยข่าวอย่างจงใจ ทำให้คนเข้าใจผิด เหมือนกับการโยนหินถามทาง จะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม อย่าได้ตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดีทำความเสียหายได้


โชคดีครับ
คิด ฉัตรประภาชัย