Special Scoop
บ้านที่ใช่กับการลงทุนระยะยาว?

เมื่อช่วงเช้าในวันเดียวกันกับที่กำลังนั่งคิดถึงเรื่องเด็ดๆน่ารู้เกี่ยวกับบ้านและธุรกิจการลงทุนเรื่องอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่จะนำมาเขียนให้คุณได้ลองอ่านกันเป็นความรู้สนุกๆก็บังเอิญที่ไปสะดุดตาเห็นบทความหนึ่ง จากหนังสือพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ U.S. News ค่ะโดยใจความคร่าวๆของเรื่องที่ต้องการสื่อให้เราได้ทราบก็คือถ้าหากคุณเป็นเจ้าของบ้านสักหลังหนึ่งแล้วล่ะก็คุณรู้ไว้เลยว่าได้เลือกทางเดินในการลงทุนที่เหมาะสม ถูกต้องมาหนึ่งขั้นแล้วด้วยความที่เป็นหนึ่งในเจ้าของบ้านดิฉันก็เลยตั้งใจอ่านต่อไปจนจบจากนั้นก็ลองมานั่งคิดตามดูค่ะว่าไอ้เรื่องของธุรกิจการลงทุนโดยทั่วไปเนี่ยไม่ว่าจะเป็นในระยะเวลาสั้นหรือยาวปกติก็ต้องมีความเสี่ยงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยกันอยู่แล้วจะมากหรือน้อยก็คงจะแล้วแต่แนวทาง การทำธุรกิจของแต่ละคนจริงๆในบทความเค้าได้เล่าให้ฟังถึงช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกา ดิ่งลงเกือบถึงขีดสุดในช่วงวิกฤติ Subprime ที่บ้านถูกยึดกันเป็นเบือเพราะคนไม่มีปัญญาจ่ายค่าบ้านมาจนถึงในช่วงปัจจุบันที่ดูเหมือนธุรกิจอสังหาฯค่อยๆคืนตัวและอัตราดอกเบี้ยของบ้านก็ลดลงมาเยอะ เพื่อดึงความสนใจให้คนกลับมาลงทุนซื้อบ้านกันอีกครั้งแต่ว่ามันก็ยากขึ้นนะคะที่จะโน้มน้าว ให้คนอเมริกันหันกลับมาให้ความสำคัญกับการลงทุนระยะยาวผ่านการซื้อบ้านที่เคยบูมเอามากๆเมื่อ 10ปีก่อนทาง Census Bureau ได้เปิดเผยตัวเลขในช่วงควอเตอร์สุดท้ายของปี 2013 เอาไว้ค่ะว่าอัตราส่วนของบุคคลที่เป็นเจ้าของบ้านในสหรัฐฯมีเพียงแค่ 65.2%เท่านั้นเองที่เหลือก็คงเลือกที่จะเช่าอยู่หรือยังไม่พร้อมกับการลง(ทุน)เงินในเรื่องบ้านก่อนเป็นแน่เอ....แล้วอย่างนี้คุณผู้อ่านคิดว่า การที่อัตราดอกเบี้ยลดลงต่ำรวมถึงเงินช่วยที่รัฐบาลสหรัฐฯออกมาประกาศอยู่ทุกวี่ทุกวันโดยพร้อมที่จะมอบให้กับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านหลังแรกรวมถึงราคาบ้านที่ถึงจะค่อยๆไต่ระดับขึ้น แต่ก็ยังขึ้นไม่สูงเท่ากับแต่ก่อนมาอะไรกันหนอที่ยังถือเป็นตัวรั้งเอาไว้ไม่ให้บุคคลตัดสินใจซื้อบ้านแล้วเลือกที่อาศัยเช่าอยู่เสียมากกว่า? คุณคิดว่าอาจเป็นเพราะความเสี่ยงรึเปล่าคะ? หรืออาจเพราะยังไม่เจอบ้านที่ใช่ตรงตามความต้องการและจำนวนงบประมาณของคุณ?


คำว่าบ้านที่ใช่ในที่นี้ดิฉันขอเขียนรวมถึงว่าเป็นที่อยู่อาศัยก็แล้วกันนะคะหากคุณอยู่อพาร์ทเม้นแต่สำหรับคุณ มันคือบ้านนี่ก็ถือว่าเป็นบ้านสำหรับคุณอย่างนี้ก็แล้วกันค่ะสำหรับดิฉันแล้วการซื้อบ้านชนิดที่ว่าเป็นหลังๆไปมันก็ถือเป็นความเสี่ยงค่ะแล้วก็ต้องอาศัยเงินจำนวนหนึ่งเพื่อที่คงไว้ซึ่งสมบัติหรือ"หนี้"ในส่วนของบ้านหลังหนึ่งหลังนี้ที่คุณได้ตัดสินใจซื้อมาไม่ว่าจะด้วยเงินสดหรือเงินกู้เนี่ยล่ะนะคะแล้วถ้าหากคุณไม่ได้เลือกที่จะขายต่อ หรือฟลิปบ้านในระยะเวลาช่วงสั้นๆระยะเวลาที่ดิฉันหรือคุณผู้อ่านเองจะใช้ไปกับการอาศัยอยู่ในเจ้าบ้านหลังที่ใช่นี้มันก็น่าจะเป็นระยะเวลาที่นานพอสมควรใช่มั๊ยล่ะคะ? แล้วทีนี้คำถามต่อมาก็คือไหนๆเราก็ต้องใช้ชีวิต พึ่งพิงไปกับบ้านอยู่แล้วทำไมเราไม่ลองคิดถึงมันในลักษณะของการลงทุนในระยะยาวไปด้วยเลยเล่า? หากคุณผู้อ่านเป็นหนึ่งในเจ้าของบ้าน (Homeowners) คุณลองอ่าน 5 เหตุผลสำคัญที่จะทำให้คุณรู้สึกดี และภูมิใจในการได้เป็นเจ้าของบ้านสักหลังในสหรัฐฯแล้วก็ลองดูสักตั้งกับความเสี่ยงในการซื้อบ้านมากกว่า ที่จะเลือกเช่าอยู่ค่ะ


1. อินเทรนด์ไปกับการประหยัดพลังงานในฐานะเจ้าของบ้านคุณสามารถควบคุมเรื่องของการประหยัดพลังงานและเลือกที่จะใช้เลือกที่จะซ่อมแซมส่วนประกอบในทางโครงสร้างของบ้านได้เพื่อลดจำนวนการใช้พลังงานลงการเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้ไม่ใช่แค่การประหยัดน้ำ-ไฟหรอกนะคะแต่ดิฉันหมายถึงทางเลือกในการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell Panel) การติดตั้ง Insulation เพิ่มในกำแพงหรือหลังคาบ้านเพื่อให้บ้านสามารถคงอยู่ได้ในอุณหภูมิที่พอเหมาะ ไม่ต้องเปลืองแรงงานแอร์หรือเครื่องทำความร้อนตลอดเวลาแน่นอนค่ะว่าการลงทุนจำพวกเรื่องพลังงานนี้มันเป็นการลงทุนที่จะต้องใช้งบมากอยู่สักหน่อยแต่ทางรัฐบาลสหรัฐฯเองก็รีบออกโปรแกรมรีเบท (Rebates) มาเพื่ออัดฉีดคืนเงินให้ความช่วยเหลือทางด้านนี้อย่างเต็มที่เพิ่มขึ้นอีกด้วยขึ้นเหมือนกันหากคุณสนใจลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องการขอรีเบทได้โดยตรงค่ะจากทาง Los Angeles Department of Water เวบไซต์:www.energy.gov/savings/ladwp-residential-energy-efficiency-rebate-program)

2. จัดพื้นที่แบ่งห้องได้อย่างเสรีไร้ข้อกำหนดและขอบเขตก็มันเป็นบ้านของคุณเองนี่คะคุณจะตีห้องใหม่แบ่งห้องเป็นสัดส่วนสร้างห้องสำหรับเก็บเสื้อผ้าและรองเท้าโดยเฉพาะทำได้ง่ายสบายๆเลยค่ะไม่ต้องกังวลรอขออนุญาติเจ้าของสถานที่หรือเจ้าบ้าน/Landlord ก่อนนี่ยังไม่รวมถึงเรื่องที่คุณยังสามารถสร้างรายได้กับจากการเป็นเจ้าของพื้นที่ภายในบ้านได้อีกด้วยนะคะเพราะคุณในฐานะเจ้าบ้านสามารถแบ่งพื้นที่ในบ้านเพื่อปล่อยให้เช่าสามารถสร้างห้องทำงานเล็กๆในบ้านก็ได้ด้วยอีกรวมถึงในบางกรณีดิฉันยังทราบว่ามีการแบ่งพื้นที่ในสวนให้คนมาปลูกผักต้นผลไม้เพื่อสร้างรายได้เล็กๆน้อยๆเพิ่มขึ้นจากสวนในพื้นที่ของบ้านอีกน่ะค่ะ

3. บอกลาการซื้อของตกแต่งบ้านอย่างไม่จบสิ้นเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านควรที่จะอยู่กับเราไปได้นานๆนะคะดิฉันเคยเขียนถึงเรื่องของการจัดสรรงบประมาณและการเลือกใช้เงินเพื่อการลงทุนอยู่บ่อยครั้งและในกรณีที่เป็นเจ้าของบ้านก็เลยอดไม่ได้ค่ะที่จะตั้งข้อสังเกตถึงการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ให้ตรงตามความต้องการให้คลาสสิคและอยู่ติดกับบ้านไปได้นานๆในกรณีที่คุณเช่าบ้านอยู่และมีแนวโน้มที่จะต้องย้ายที่ไปอีกเรื่อยๆการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์หรือของแต่งบ้านที่คุณสามารถเคลื่อนย้ายไปกับคุณได้ทุกที่นั้นเป็นเรื่องที่ยากค่ะคุณอาจจะไม่มีปัญหาเรื่องการขนย้ายแต่สิ่งของเหล่านั้นอาจไม่พอเหมาะกับที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ก็เป็นได้การเป็นเจ้าของบ้านจะมีส่วนช่วยให้คุณซื้อของน้อยชิ้นลงและแต่ละชิ้นนั้นจะสามารถสร้างมูลค่าสร้างคาแรคเตอร์และสไตล์ความเป็นตัวคุณให้กับบ้านได้คุณลองคิดดูสิคะว่านักตกแต่งบ้านที่โด่งดังหลายคน เลือกที่ตกแต่งบัานตามความชอบของตนแล้วยังสามารถขายบ้านต่อได้ในราคาที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างลิบลิ่วคุณเองก็สามารถใช้สิทธิ์นั้นได้เช่นกันในการเลือกของตกแต่งที่น้อยชิ้นสร้างมูลค่าและยั่งยืน

4. อ่านกันเรื่อยมาแล้วสามข้อคุณอาจจะยังรู้สึกว่าการเป็นเจ้าของบ้านดูเหมือนว่าจะยังมีส่วนเสียมากกว่า ที่จะได้ใช่มั๊ยล่ะคะ? สำหรับข้อที่ 4 นี้ดิฉันกำลังจะบอกคุณว่าการเป็นเจ้าของบ้านจะทำให้คุณสามารถเก็บเงิน ได้มากและมีลุ้นกับผลกำไรท้ายที่สุดทำไมถึงเป็นอย่างนี้ได้คุณลองคิดตามดูนะคะเงินจำนวนหนึ่งที่คุณใช้ผ่อนบ้านไปอยู่ทุกๆเดือน (บางครั้งราคาค่าผ่อนบ้านแทบจะเท่ากับค่าเช่าบ้านด้วยซ้ำ) เงินแต่ละส่วนที่คุณผ่อนไปนี้ถือเป็นเงินที่บังคับต้องเก็บและเจียดเอาไว้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหลักในฐานะเจ้าของบ้านคุณเสียเงินไปแล้ว 10 ปีทีนี้คิดจะขายก็จุดนี้นั่นแหละค่ะเจ้าเงินที่คุณผ่อนค่าบ้านไปนี้เองที่จะช่วยสร้าง Equity ให้กับสภาวะทางการเงินโดยรวมของคุณสร้างเครดิตให้คุณสามารถนำเงินก้อนจาก Equity นี้ไปลงทุนด้านอื่นได้เรียกว่าไม่เสียเปล่าไปกับการผ่อนบ้านอย่างแน่นอนค่ะ นอกจากเรื่อง Equity แล้วการจ่ายเงินผ่อนบ้าน ในจำนวนเดิมๆไปในทุกเดือนเนี่ยคุณรู้รึเปล่าว่าคุณได้รับประโยชน์ของ Fixed Mortgage ที่ทำให้คุณไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องค่าเช่าที่อาจจะปรับตัวขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ตามการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจรวมไปถึงสภาวะ Inflation ที่จะไม่ส่งผลให้เงินค่าผ่อนบ้านรายเดือนของคุณต้องขึ้นตามไปเมื่อเทียบกับ บุคคลที่ต้องเสียค่าเช่าบ้านค่ะ

5. ประโยชน์จากเรื่องภาษี (Tax Deductions) และนี่คือหนึ่งในข้อดีของผู้เป็นเจ้าของบ้านที่เด่นชัดเลยล่ะคะเพราะเมื่อถึงเวลายื่นภาษีรายปีหากคุณเป็นเจ้าของบ้านคุณจะได้รับประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี ในส่วนของบ้านนี้ได้จำนวนหนึ่งเลยนะคะนอกเหนือไปจากนี้การซื้อบ้านในปัจจุบันด้วยอัตราดอกเบี้ย และราคาของบ้านที่ยังไม่ขึ้นสูงมากเท่าแต่ก่อนมาการซื้อบ้านจึงถือเป็นหนึ่งในการลงทุนระยะยาว ที่สามารถสร้างประโยชน์ให้คุณได้ทั้งในปัจจุบันและในระยะยาวหรือจนกว่าคุณจะตัดสินในขายบ้านเพื่อซื้อหลังใหม่ หรือเผื่อไว้ว่าจะขายแล้วกลับไปอยู่เมืองไทยคุณก็จะได้เงินก้อนจากบ้านที่คุณได้ลงทุนซื้อและอยู่อาศัยไปแล้วอันนี้ไม่เหมือนซื้อรถยนต์นะคะเพราะถึงคุณจะใช้รถในระยะยาวคิดจะขายต่อเอาเมื่อไหร่ไม่ว่ารถคุณจะดีสักแค่ไหนหรือเพิ่งถอยมาไม่เกินหนึ่งอาทิตย์ราคาของรถก็ตกลงเสียแล้วล่ะค่ะ


หากคุณยังคงสงสัยอยู่ว่าความคุ้มค่าของการตัดสินใจว่าจะซื้อบ้านแล้วมองว่ามันเป็นหนึ่งของการลงทุนระยะยาว จะดีกว่าการเช่าบ้านหรือไม่? ลองดูตารางเปรียบเทียบการจัดอันดับเมืองใหญ่ในสหรัฐฯ ในเรื่องของความคุ้มค่าระหว่างการเช่ากับการซื้อดูนะคะ (เครดิตข้อมูลจากนิตรยสาร Forbes เดือนมีนาคม 2014)

สุดท้ายแล้วไม่ว่าคุณจะเลือกซื้อบ้านหรือเลือกที่จะเช่าบ้านการรู้จักวางแผนเรื่องการใช้จ่ายให้เหมาะสม ตรงตามสถานการณ์ในชีวิตของคุณย่อมจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดค่ะการลงทุนในปัจจุบันนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะแค่ กับเรื่องของอสังหาริมทรัพย์เท่านั้นเพียงแต่การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินที่คุณเป็นเจ้าของทรัพย์สินใหญ่ๆและราคาสูงอย่างเช่นบ้านหากคุณมีโอกาสและงบประมาณในการลงทุนด้านนี้การรู้จักเลือกใช้บ้านให้เป็นประโยชน์ในการหารายได้ตามสิทธิ์ความเป็นเจ้าบ้านอันถูกต้องของคุณดิฉันไม่อยากให้พลาดโอกาสนี้ไปเสียจริงๆค่ะฉบับหน้าจะมีเรื่องน่าอ่านดีๆเกี่ยวกับบ้าน และการลงทุนมาให้คุณได้ติดตามอ่านกันสนุกๆอีกต่อไปนะคะ