Special Scoop
เรื่องบ้านๆ จะฟลิปหรือจะฟลอป?

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นเลยดิฉันต้องขอแนะนำให้คุณได้รู้จัก และทราบกันก่อนผ่านคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์ ไทยแอลเอฉบับนี้ ซึ่งถือเป็นฉบับแรกเริ่มต้นของบทความดีๆ ที่ต้องการจะนำเสนอให้คุณได้อ่านเรื่องราว สาระความรู้ อันจะเป็นประโยชน์สำหรับคุณผู้อ่านที่มีความสนใจเรื่องของบ้าน การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ การออกแบบตกแต่ง หรือเทคโนโลยีใหม่ๆที่เกิดขึ้นและจะเอื้ออำนวยให้คุณ ได้รับประโยชน์สู่กระเป๋าของคุณ หรือเพื่อการสั่งสมและเป็นทางเลือกในการลงทุนของคุณค่ะ ดิฉันมั่นใจว่าเพียงคุณได้อ่านเรื่องราวที่เราได้นำเสนอให้คุณได้อ่านกันไปเรื่อยๆ คุณจะต้องเกิดประกายความคิดและต้องได้รับแรงผลักดันบางอย่างที่ทำให้การดำรงชีวิตของคุณในสหรัฐอเมริกามีความสนุก รู้เท่าทันคนหลายเชื้อชาติโดยเฉพาะในการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ธุรกรรมทางอสังหาริมทรัพย์อย่างแน่นอนค่ะ

สำหรับฉบับเปิดประเด็นเป็นครั้งแรกอย่างนี้ ดิฉันก็อยากจะให้มันอลังการสักหน่อย เลยอยากจะคุยถึงเรื่องที่ค่อนข้างจะทันสมัย Trendy แบบที่คุณเอาไปเล่าให้คนอื่นฟังได้ด้วยอะไรอย่างนั้น ดิฉันเลยอยากจะคุยให้คุณได้อ่านกันในเรื่องของการฟลิปบ้านค่ะ แต่...ยังค่ะ... อย่าเพิ่งทำหน้าสับสน เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม เพราะการฟลิปบ้านนั้น แท้จริงแล้ว จะให้เรียกเป็นภาษาไทย ด้วยสำนวนอย่างง่ายๆก็คือ การอัพเกรด ปรับโฉม หรือยกเครื่องบ้านนั่นน่ะแหละค่ะ ที่เลือกจะให้คุณได้ทราบถึงเรื่องนี้เป็นตอนแรก ก็เพราะว่ามันช่างเป็นเทรนด์ของการลงทุน ที่ฮิตและนิยมกันเสียเหลือเกินในขณะนี้ เรียกได้ว่าธุรกิจฟลิปบ้านเนี่ย เป็นหนึ่งในทางเลือก ของการลงทุนระดับต้นๆของสหรัฐฯเลยทีเดียว นี่ยังไม่นับรวมถึงเวลาที่ดิฉันไม่ได้ติดตามละคร ดราม่าต่างๆนะคะ เพราะเวลาเปิดโทรทัศน์ขึ้นมาทีไร ดิฉันก็จะเปิดเจอรายการที่เกี่ยวกับ การฟลิปบ้านตลอดเลยค่ะ ที่น่าสนใจที่สุดก็คือเรื่องของกำไรจากธุรกิจจำพวกนี้ ที่มันเป็นจำนวนค่อนข้างสูง และดูจะได้มาง่ายเสียจริง ก่อนหน้าที่จะมาเขียนเรื่องอย่างนี้ให้คุณได้อ่าน ดิฉันถึงขนาดเคยสมัครไปเข้าร่วมงานสัมมนามาเกี่ยวกับธุรกิจฟลิปนี้มาแล้วด้วยนะคะ ซึ่งถ้าหากคุณมีเคเบิลทีวีที่บ้าน คุณคงอาจจะพอทราบและรู้จักถึงนักธุรกิจฟลิปบ้านดังๆ เช่น Than Merrill หรือ Scott Yancey ซึ่งสองคนนี้รวยไปแล้วเรียบร้อยโรงเรียนคนดังค่ะ ทุกวันนี้พวกเขาทั้งสอง แค่หาคนเข้าร่วมงานสัมมนาและขายความรู้ที่ดิฉันยังคิดอยู่ว่าเป็นเรื่องเบื้องต้นจริงๆของธุรกิจซื้อ-ขายบัาน เขาก็แทบจะไม่ต้องฟลิปบ้านกันอีกแล้ว แต่คุณๆคะ บทความนี้ ดิฉันไม่ได้จะมาขายของแนะนำ ให้คุณเข้าร่วมสัมมนากับใครหรอกนะคะ แต่แค่อยากเล่าประสบการณ์และอธิบายให้คุณได้ทราบถึง Concept ที่แท้จริง ของธุรกิจประเภทนี้เท่านั้นนั่นแหละค่ะ

บ้านที่ใช่ และเงินสด?

หากคุณคือคนที่ใช่สำหรับดิฉัน ที่จะสามารถประกอบธุรกิจฟลิปบ้านที่ว่านี้ได้และประสบความสำเร็จ คุณต้องเก่งและมีความสามารถพอตัวค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการคำนวณ และความว่องไวในการต่อรอง หากคุณมี Real Estate License หรือมีกุนซือที่ดีเรื่องของการหาดีลเรื่องบ้าน คุณมีชัยไปมากกว่าครึ่งค่ะ แต่อะไรกันหนอคือบ้านที่ใช่? ลองคิดตามเอาง่ายๆตาม Concept สำคัญ และเป็นตัววัดดวงว่าคุณจะได้กำไรจากธุรกิจฟลิปบ้าน ที่ประกอบไปด้วยส่วนประกอบสำคัญเหล่านี้ค่ะ;

1. คุณต้องหาซื้อบ้านแบบที่ว่า ไม่ได้อยู่ในสภาพที่บุคคลสามารถจะเข้าไปอยู่ได้ในทันที (Run-Down) หรือมีอะไรที่คุณจะสามารถเพิ่มเติม ปรับปรุงตกแต่งให้ราคาบ้านนั้นสูงขึ้น บ้านประเภทนี้ส่วนใหญ่แบงก์จะไม่ให้กู้และไม่ให้ทำไฟแนนซ์ค่ะ เพราะอย่างที่บอกไปไงคะ ว่าสภาพของบ้านนั้นมันอยูไม่ได้เลยจริงๆ

2. ตำแหน่งที่ตั้งของบ้านนี้จะต้องอยู่ในทำเลที่โอเค โดยคุณต้องประเมินได้ในหัวน่ะค่ะ ว่าบ้านในทำเลเดียวกันนี้เค้าขายกันอยู่เท่าไหร่ หากคุณได้บ้านที่ต้องซ่อมเสียเต็มที่ ราคาดี Budget ได้อยู่ แต่ราคาบ้านแถวนั้นก็ไม่ได้มีความแตกต่างใดๆเลย อันนี้ไม่ใช่บ้านที่ใช่ค่ะ

3. คิดแล้วก็ไตร่ตรองให้ดีและต้องให้ไวที่สุดด้วยค่ะ ที่ดิฉันเกริ่นว่าคุณต้องมีความสามารถ ในการคำนวนเก่งพอตัวก็เพราะว่าธุรกิจฟลิปที่ว่านี้ ได้รับความนิยมสูงมากและมีผู้ลงทุนที่พร้อมจะจ่ายเงินสด ซื้อบ้านในสภาพแย่อยู่เป็นจำนวนมากเกินว่าที่คุณจะสามารถจินตนาการได้ค่ะ หากคุณไม่มีเงินสดเพียงพอหรือตัดสินใจช้า บ้านที่ใช่ มันก็จะไม่ใช่อีกต่อไปสำหรับคุณ โดยบทความจาก MSN Real Estate เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ยังเคยลงข้อมูลที่คัดต่อมาจากเวบไซต์ bankrate.com โดยให้ข้อมูลไว้ว่า"...นักธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญด้านฟลิปบ้านจะสามารถซื้อบ้าน ที่พร้อมฟลิปได้ในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดถึง 30%" ดังนั้นแล้ว คุณจึงต้อง...

4. เตรียมเงินสดให้พร้อมค่ะ หากคุณตั้งใจจะประสบความสำเร็จด้านการฟลิปบ้าน เริ่มด้วยเงินสดเป็นทางเลือกที่ดี ที่ไว และเหมาะที่สุดค่ะ ครั้นจะถามว่าขอเงินกู้ไม่ได้เหรอ? ได้สิคะ แต่การลงทุนของคุณอาจะไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วโดยในเมืองใหญ่ๆอย่างเช่น ลอสแองเจลิส หรือ ซานฟรานซิสโกค่ะ รวมถึงข้อจำกัดในการให้กู้เงินก็จะมีมากตามขึ้นไปด้วย

5. การเลือกสถาบันเงินกู้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญ ที่ในงานสัมมนาของโปรฟลิปบ้าน จะชอบแนะนำให้ผู้สนใจกับธุรกิจนี้ให้ได้ลองติดต่อและพูดคุยกับสถาบันหรือบริษัทที่ปล่อยเงินกู้แบบ Private Lender ซึ่งไม่ใช่แบบมาเฟียหรืออะไรนะคะ แต่เป็นสถาบันทางการเงินแบบเอกชน ที่ไม่ใช่ธนาคารและก็มักจะเปิดตัวขึ้นเพื่อสนับสนุนเฉภาะผู้ที่ต้องการจะจับธุรกิจฟลิปบ้านจริงๆเท่านั้น โดยสถาบันเหล่านี้จะให้คุณได้กู้เงินสดค่ะ แต่แน่นอนว่าอัตราดอกเบี้ยก็จะสูงลิบลิ่ว และระยะเวลาการจ่ายเงินคืนที่สั้น โดยสูงสุดมักจะไม่เกิน 1ปีค่ะ

6. การสร้างทีมงาน เพราะการฟลิปบ้านคือการซื้อบ้านที่อยู่ในสภาพย่ำแย่ นำมาอัพเกรดซ่อมแซม แล้วขายต่อในระยะเวลาอันสั้นที่สุด กระบวนการสั้นๆนี้ คุณไม่สามารถทำได้เพียงคนเดียวหรอกค่ะ คุณต้องทำงานกับกูรูเพื่อนคู่คิด ทำงานแบบทีมเวิร์ค หากคุณรู้หมดทุกอย่างมันก็ดีนะคะ แต่คุณทำทุกอย่างและลงแรงไม่ได้เพียงคนเดียวอย่างแน่นอน

7. การทำธุรกิจฟลิปบ้านให้ได้กำไรสูงสุดคือการบริหารเวลาค่ะ หากคุณขายบ้านต่อไม่ไดัใน 30 วัน คุณจำเป็นที่จะต้องรับผิดชอบถึงค่า Maintenance และ Insurance ต่างๆของบ้านที่ยังไม่สามารถขายต่อได้

คุณได้อ่าน Concept วัดดวงกันไปแล้วถึง 7 ข้อ สำหรับธุรกิจการฟลิปบ้าน ว่ามันจะเวิร์กสักแค่ไหน คุณอาจรู้สึกว่าธุรกิจนี้ไม่น่าสนใจหรืออาจจะมีความเสี่ยงมากเกินไปสำหรับคุณ แต่คุณผู้อ่านรู้มั๊ยคะว่า หากคุณศึกษาเรื่องการฟลิปบ้านนี้อย่างถูกวิธีและค่อยเป็นค่อยไป คุณจะสามารถสร้างรายในส่วนของ Income / Cash Flow ในครัวเรือนของคุณได้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนเลยทีเดียวล่ะค่ะ แถมอีกอย่างก็คือธุรกิจประเภทนี้ จะถือได้ว่าเป็นการลงทุนประเภทหนึ่งที่ได้รับการยอมรับและถูกต้อง ตามกฎหมายอีกด้วยนะคะ หากคุณมีความสนใจในเรื่องฟลิปบ้านนี้มากขึ้น ลองโทรศัพท์หา Realtor ที่คุณเชื่อใจ หรือปรึกษากับผู้ให้บริการปรึกษาด้านการเงินเพื่อจัดสรรงบประมาณ ให้คุณได้ลองลงทุนกับธุรกิจประเภทนี้ดูสิคะ

ทาง Gemsburg เรามีความเชี่ยวชาญในการให้ความรู้เรื่องการลงทุนตามงบประมาณที่คุณต้องการค่ะ และที่สำคัญคือเรามี Passion และได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากด้านการออกแบบตกแต่ง จัดสรรพื้นที่ภายในบ้านให้ได้ราคา และการอัพเกรดบ้านเป็นพิเศษ ในช่วงเริ่มต้นทำความรู้จักกับคุณ ผ่านทางบทความอย่างเช่นในฉบับเปิดตัว ฉบับแรกเช่นนี้ โทรศัพท์มาคุยกับเราได้นะคะที่

(818)844-6538 ไม่มีค่าปรึกษาและข้อผูกมัดใดๆค่ะ ฉบับหน้าอย่าลืมติดตามกันนะคะ รับรองว่ามีเกร็ดความรู้เรื่องของบ้านและธุรกิจการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ให้คุณ ได้ไปคุยอวดกับคนอื่นได้อย่างสบายๆอีกค่ะ


โดย Gemsburg
818.844.6538
thanik@gemsburgco.com