ข่าวกงสุล



ข่าวกงสุล 22 มกราคม 2565

กงสุลใหญ่ฯ ได้พบหารือกับเอกอัครราชทูต Nina L. Hachigian รองนายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส

เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2565 กงสุลใหญ่ฯ ได้พบหารือกับเอกอัครราชทูต Nina L. Hachigian รองนายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส ด้านความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ผ่านการประชุมออนไลน์ โดยกงสุลใหญ่ฯ ได้แนะนำตัว และกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ในระดับรัฐบาลที่แน่นแฟ้นมายาวนานกว่า 200 ปี โดยไทยเป็นหนึ่งในพันธมิตรหลักนอกนาโต้ของสหรัฐฯ มาตั้งแต่ปี 2546 และมีสถานะเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2564 รวมทั้งชื่นชมบทบาทของสหรัฐฯ ในฐานะมิตรประเทศที่ให้ความช่วยเหลือด้านวัคซีนแก่ไทยจำนวน 2.5 ล้านโดส ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยต่อต้านการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทย

ด้านความสัมพันธ์ในระดับท้องถิ่น กงสุลใหญ่ฯ หวังว่า เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ดีขึ้น กรุงเทพฯ กับนครลอสแอนเจลิส จะสามารถกลับมารื้อฟื้นการหารือและการเยือนเพื่อยกระดับสถานะ “เมืองมิตรภาพ” (Friendship City) ไปสู่ “เมืองพี่เมืองน้อง” (Sister City) ได้ในอนาคตอันใกล้ และได้ขอบคุณนายกเทศมนตรี Garcetti และเอกอัครราชทูต Hachigian ที่สนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ของสถานกงสุลใหญ่ฯ และชุมชนไทยอย่างดีเสมอมา พร้อมแจ้งว่า เดิมชุมชนไทยมีแผนจะจัดงาน Thai New Year Songkran Festival ในเดือนเมษายน 2565 นี้ แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่เอื้ออำนวย จึงจำเป็นต้องเลื่อนออกไปก่อน

กงสุลใหญ่ฯ ได้กล่าวถึงสถานการณ์อาชกรรมที่เพิ่มขึ้นซึ่งชุมชนไทยได้รับผลกระทบ และแจ้งว่า ได้หารือเรื่องการดูแลความปลอดภัยให้ชุมชนไทยกับ LAPD Chief Michel Moore และ LASD Sheriff Alex Villanueva มาแล้วก่อนหน้านี้

กงสุลใหญ่ฯ เสนอว่า โดยที่นครลอสแอนเจลิสเป็นศูนย์กลางของธุรกิจสร้างสรรค์และธุรกิจดิจิทัล ไทยจึงน่าจะสามารถเรียนรู้และร่วมมือกับนครลอสแอนเจลิสได้ และพร้อมจะผลักดันให้คนไทยมีโอกาสเข้ามาหาประสบการณ์และทำงานในสาขานี้มากขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลไทยตั้งเป้าหมายการเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอาเซียนและมีนโยบายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับรัฐแคลิฟอร์เนียที่มีบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความเชี่ยวชาญ จึงประสงค์จะเชิญชวนให้บริษัทเหล่านี้ไปลงทุนที่ประเทศไทย สำหรับด้านการศึกษา สถานกงสุลใหญ่ฯ มีโครงการที่จะส่งเสริมให้เยาวชนไทยมีประสบการณ์ทำงานในหน่วยงานราชการสำคัญ ๆ ของนครลอสแอนเจลิส จึงหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากนครลอสแอนเจลิสในเรื่องดังกล่าว

เอกอัครราชทูต Hachigian แสดงความยินดีกับกงสุลใหญ่ฯ ที่มารับตำแหน่งใหม่ และแสดงความพร้อมที่จะช่วยเหลือและยินดีสนับสนุนความร่วมมือกับไทยในด้านต่าง ๆ รวมทั้งกิจกรรมของสถานกงสุลใหญ่ฯ และชุมชนไทย และพร้อมทั้งกล่าวชื่นชมชุมชนไทยว่า เป็นชุมชนชาวเอเชียที่มีพลังและกระตือรือร้นอย่างมาก และพร้อมที่จะสนับสนุนการสถาปนา “เมืองพี่เมืองน้อง”ระหว่างกรุงเทพฯ กับนครลอสแอนเจลิส รวมทั้งการฝึกงานของนักศึกษาไทยในหน่วยงานของนครลอสแอนเจลิส นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงนโยบายของนครลอสแอนเจลิสที่ให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของชุมชนชาวเอเชีย และต่อต้านการก่ออาชญากรรมจากความเกลียดชังภายใต้แคมเปญ “LA for All” รวมทั้งให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาคนไร้บ้าน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ


การให้บริการกงสุลสัญจร ครั้งที่ 3 ณ วัดธรรมคุณาราม เมืองเลย์ตัน มลรัฐยูทาห์

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ขอเชิญคนไทยในมลรัฐยูทาห์ และพื้นที่ใกล้เคียง เข้ารับบริการกงสุลสัญจร ครั้งที่ 3/2565 ประจำปีงบประมาณ 2565 โดยมีกำหนดการ ดังนี้

วันพุธที่ 23 – วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09.00 – 17.00 น. ณ วัดธรรมคุณาราม เมืองเลย์ตัน มลรัฐยูทาห์ 644 E Gordon Ave, Layton, UT 84041 โทรศัพท์ (801) 544–7616

บริการกงสุลสัญจรครั้งนี้ ประกอบด้วย

1. การทำหนังสือเดินทาง (passport) - ต้องทำนัดหมาย เพื่อสถานกงสุลใหญ่ฯ ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรว่า ท่านสามารถยื่นคำร้องขอทำหนังสือเดินทางได้หรือไม่ (เพื่อไม่ให้เสียเวลาเดินทาง) โดยระบบนัดหมาย

จะเปิดบริการที่ www.thaiconsulatela.org ตั้งแต่วันพุธที่ 19 มกราคม 2565 จนครบจำนวนที่สามารถให้บริการได้

โดยกดแบนเนอร์ “นัดหมายทำหนังสือเดินทาง” และโปรดตรวจสอบเอกสารที่ต้องจัดเตรียมให้ครบถ้วนในเว็บไซต์ข้างต้น หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่อีเมล passport@thaiconsulatela.org หรือหมายเลขโทรศัพท์ (323) 962-9574 ต่อ 223

2. การทำบัตรประจำตัวประชาชน - ไม่ต้องทำนัดหมาย โดยสามารถตรวจสอบเอกสารที่ต้องจัดเตรียมให้ครบถ้วนตามที่ปรากฏในเว็บไซต์ข้างต้น หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่อีเมล thaiid@thaiconsulatela.org หรือหมายเลขโทรศัพท์ (323) 962-9574 ต่อ 216

3. สำหรับการให้บริการอื่น ๆ เช่น การรับรองนิติกรณ์เอกสาร งานทะเบียนราษฎรและทะเบียนครอบครัว การขอเอกสารเดินทางฉุกเฉินหรือหนังสือเดินทางฉุกเฉิน เป็นต้น ท่านสามารถยื่นคำร้อง ทางไปรษณีย์เท่านั้น หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่แผนกนิติกรณ์ได้ที่อีเมล lg@thaiconsulatela.org หรือหมายเลขโทรศัพท์ (323) 962-9574 ต่อ 220 หรือแผนกหนังสือเดินทางฉุกเฉินได้ที่อีเมล ci@thaiconsulatela.org หรือหมายเลขโทรศัพท์ (323) 962-9574 ต่อ 227

เพื่อให้สอดคล้องกับคำแนะนำของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (Centers for Disease Control and Prevention) ขอความร่วมมือผู้รับบริการ (1) สวมหน้ากากอนามัยขณะที่อยู่ในพื้นที่ให้บริการ (2) รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล (social distancing) อย่างน้อย 2 เมตร (3) ไม่เข้าพื้นที่ให้บริการก่อนถึงเวลานัดหมาย และ (4) หลีกเลี่ยง การนำผู้ติดตามที่ไม่เกี่ยวข้องกับการขอรับบริการเข้ามาในพื้นที่