ข่าวจากกงสุล



ข่าวจากกงสุล 12 พฤศจิกายน 2559

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส จะจัดบริการกงสุลสัญจรแก่ชาวไทยในมลรัฐฮาวาย ตามกำหนดวันเวลาและสถานที่ ดังนี้ วันเสาร์และอาทิตย์ที่ ๑๐ – ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. วัดพุทธจักรมงคลวราราม 872 – A Second Street, Pearl City, HI 96782 โทรศัพท์ ๘๐๘ – ๔๕๖๔๑๗๖ โทรสาร ๘๐๘ – ๔๕๕๑๘๐๘

ในการบริการกงสุลสัญจร สถานกงสุลใหญ่ฯ จะให้บริการ (๑) หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ (๒) บัตรประจำตัวประชาชน (๓) นิติกรณ์และงานทะเบียนราษฎร์ เช่น การรับรองรายมือชื่อ การทำหนังสือ มอบอำนาจ การขอสูติบัตรไทย เป็นต้น และ (๔) ให้คำปรึกษาด้านกงสุล

ผู้ประสงค์จะทำหนังสือเดินทางจะต้องทำนัดหมาย เพื่อสถานกงสุลใหญ่ฯ ตรวจสอบเอกสารล่วงหน้า ซึ่งระบบนัดหมายจะเปิดบริการตั้งแต่วันศุกร์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ เป็นต้นไป จนครบจำนวนที่สามารถให้บริการได้ ท่านสามารถทำนัดหมายได้ตามช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

-ระบบนัดหมายออนไลน์ที่ www.thaiconsulatela.org (กดเลือกแบนเนอร์ “นัดหมายทำหนังสือเดินทางที่กงสุลสัญจร” ด้านขวามือของหน้าเว็บไซต์ และกดเลือกสถานที่และวันเวลาที่ต้องการ)

-โทรศัพท์ ๓๒๓ – ๙๖๒๙๕๗๔

-อีเมล์: passport@thaiconsulatela.org

สำหรับบริการทำบัตรประจำตัวประชาชนและนิติกรณ์และงานทะเบียนราษฎร์ไม่ต้องทำนัดหมาย

ทั้งนี้ ท่านสามารถตรวจสอบรายการเอกสารที่ต้องจัดเตรียมสำหรับการทำหนังสือเดินทาง บัตรประชาชน และนิติกรณ์และงานทะเบียนราษฎร์ได้ที่เว็บไซต์สถานกงสุลใหญ่ฯ (www.thaiconsulatela.org) รวมทั้งติดตามข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ Facebook (Royal Thai Consulate – General Los Angeles) และ Twitter (ThaiCGLA) หรือโทรศัพท์สอบถามข้อมูลที่ ๓๒๓ – ๙๖๒๙๕๗๔


สืบเนื่องจากปัญหาการค้าประเวณี/ ค้ามนุษย์ของหญิงไทยในสหรัฐฯ ได้มีจำนวนมากขึ้น มีขบวนการนายหน้าในลักษณะเครือข่ายทั้งในประเทศไทยและสหรัฐฯ โดยเฉพาะทางการสหรัฐฯ ได้จับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายการค้าประเวณีหญิงไทยในสหรัฐฯ ซึ่งเครือข่ายค้ามนุษย์ได้ชักนำหญิงไทยเข้าไปในสหรัฐฯ นั้น

ในการนี้ เพื่อเป็นการป้องปรามบุคคลที่จะเข้าร่วมขบวนการค้าประเวณี/ ค้ามนุษย์ หรือ เป็น ผู้ค้าประเวณีหรือผู้ที่อาจจะตกเป็นเหยื่อของการค้าประเวณีหรือการค้ามนุษย์ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส จึงขอแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับบทลงโทษของสหรัฐฯ ในคดีดังกล่าว (พื้นที่ ๑๓ มลรัฐฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ได้แก่ อลาสก้า แอริโซนา แคลิฟอร์เนีย โคโลราโด ฮาวาย ไอดาโฮ มอนทานา เนวาดา นิวเม็กซิโก ออริกอน ยูทาห์ วอชิงตัน และไวโอมิง) ดังนี้

๑. ผู้ค้าประเวณีจะได้รับโทษจำคุกสูงสุดถึง ๑.๕ ปี โทษปรับสูงสุดถึง ๖,๒๕๐ ดอลลาร์สหรัฐ หรือทั้งจำทั้งปรับ

๒. ผู้ซื้อประเวณีจะได้รับโทษจำคุกสูงสุดถึง ๕ ปี โทษปรับสูงสุดถึง ๑๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ หรือทั้งจำทั้งปรับ

๓. ผู้เป็นธุระจัดหา/แม่เล้า/เจ้าของสถานที่ค้าบริการ จะได้รับโทษจำคุกสูงสุดถึง ๒๐ ปี โทษปรับสูงสุดถึง ๗๕๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ หรือทั้งจำทั้งปรับ

๔. การค้ามนุษย์มีโทษแตกต่างกันแล้วแต่กรณีและมลรัฐ โดยจะมีโทษจำคุกสูงถึง ๕๐ ปี ถึงตลอดชีวิตและมีโทษปรับสูงสุดถึง ๑,๕๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ หรือทั้งจำทั้งปรับ


เมื่อวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๙ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ได้เข้าร่วมการประชุมของ Los Angeles Consular Corps ที่ Richard Nixon Library โดยมี Representative Ed Royce (R - CA) และกงสุลใหญ่จากประเทศต่าง ๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ ฯลฯ และผู้เข้าร่วมประมาณ ๕๐ คน

ในที่ประชุม Rep. Ed Royce (R - CA) ได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความสูญเสียของประเทศไทย นอกจากนี้ได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นเกี่ยวกับความท้าทายของโลก เช่น การต่อต้านการก่อการร้าย การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ปัญหาการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือและซีเรีย ปัญหาการปิดประเทศของเกาหลีเหนือทำให้ไม่สามารถตรวจสอบจำนวนขีปนาวุธได้ การกระจายเสียงนานาชาติ (International Broadcasting) กฎหมายสิทธิเสรีภาพในการกระจายเสียงและการสนับสนุนความร่วมมือในภูมิภาคเอเชีย

กงสุลใหญ่ฯ ได้สอบถามเกี่ยวกับนโยบาย Rebalancing ต่อเอเชียของสหรัฐฯ โดย Rep. Ed Royce (R - CA) แจ้งว่าสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับการนำเสถียรภาพมาสู่ภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะนำสู่การขยายความร่วมมือ ด้านการค้าการลงทุน โดย Rep. Ed Royce (R - CA) สนับสนุนเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมีมนุษยธรรมและคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน เมื่อจบการประชุมกงสุลใหญ่ฯ ได้เสนอให้ Rep. Ed Royce (R - CA) ไปเยี่ยมชุมชนไทยที่วัดไทยในโอกาสสำคัญ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีและขอให้ช่วยประสานงานด้วย

Rep. Ed Royce (R - CA) เป็นสภาผู้แทนราษฎร เขต ๓๙ ของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ดูแลพื้นที่ซึ่งมีคนไทยจำนวนมาก ได้แก่ นครลอสแอนเจลิส เมืองออเรนจ์เคาน์ตี้ตอนเหนือ และเมืองซานเบอร์นาดิโน และดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ


เมื่อวันที่ ๑ พ.ย. ๒๕๕๙ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิสไปพบหารือกับนาย Shue Wing Chan ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท Thai Union North America ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลกิจการของบริษัท Thai Union Seafood โดยได้หารือเกี่ยวกับกิจการของบริษัทในอเมริกาเหนือ ยุโรปและทวีปต่าง ๆ ทั่วโลก บริษัทฯ มีกิจการผลิตอาหารคนและสัตว์ในมลรัฐจอร์เจียและมีบริษัท Thai Union Seafood Group จำหน่ายอาหารทะเล เช่น ปลาทูน่ากระป๋อง อาหารทะเลแช่เย็นและแช่แข็ง ปูและกุ้งก้ามกราม เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังได้หารือเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนไทย ไทยทาวน์ในนครลอสแอนเจลิส การผลักดันการสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯในแคลิฟอร์เนียภาคใต้และนครลาสเวกัส การแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญด้านการประมงชายฝั่งระหว่างสหรัฐฯ กับไทย

กงสุลใหญ่ฯ มีกำหนดการเข้าพบนายกเทศมนตรีเมืองซานดิเอโกและจะขอเข้าพบบริษัท Tri-Union Seafoods ที่เมืองซานดิเอโกปลายเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๙


เมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้พบหารือกับ นาย Ross Deval, Chief Research Officer แห่งสถาบัน Milken Institute ซึ่งเป็น Think Tank ชั้นนำของสหรัฐฯ และคณะผู้บริหารของสถาบันฯ โดยมีนายพิศาล มาณวพัฒน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน นายธานี แสงรัตน์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส และผู้แทนจากภาคเอกชนของสหรัฐฯ ประกอบด้วย World Trade Center Los Angeles, NASA – Jet Propulsion Laboratory, Zodiac Aerospace, Oracle และ AT&T

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้เสนอนโยบาย “ประเทศไทย ๔.๐” ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมเบาไปสู่สังคมเทคโนโลยีชั้นสูง โดยจะเน้นดึงดูดการลงทุนของชาวต่างชาติ และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของสหรัฐฯ กับเทคโนโลยีในด้านต่าง ๆ ของประเทศไทย ประกอบด้วยภาคเศรษฐกิจ ๕ ด้าน คือ (๑) เทคโนโลยีชีวภาพ – อุตสาหกรรมอาหารและการเกษตร (Bio – Tech) (๒) เทคโนโลยีทางการแพทย์ – การบริการสุขภาพ การอยู่ดีกินดีและการแพทย์ชีวภาพ (Bio – Med) (๓) เครื่องกลที่ใช้ระบบเทคโนโลยีควบคุม (Mechatronics) – เครื่องมืออัจฉริยะ (Smart Devices) และหุ่นยนต์ (๔) เทคโนโลยีสมองกลฝังตัว (Embedded Technology) - กลุ่มดิจิตอล เทคโนโลยีที่เชื่อมต่อและบังคับอุปกรณ์ต่างๆ (Artificial Intelligence) และ (๕) เทคโนโลยีการบริการออกแบบ (Service Design) หรือ การบริการด้วยเทคโนโลยี (Technology Services) – บริการที่มีมูลค่าสูง (High Value Services)

สถาบัน Milken Institute และผู้เข้าร่วมหารือภาคเอกชนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือโดยมีประเด็นสำคัญ คือ (๑) ประเทศไทยสามารถใช้จุดเด่นและจุดแข็งของประเทศดึงให้นักลงทุนชาวต่างชาติ เข้ามาลงทุนเพื่อก่อให้เกิดธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture Capital) (๒) การเรียนรู้รูปแบบของ Silicon Valley เพื่อพัฒนาธุรกิจ start up ของไทยตามนโยบายประเทศไทย ๔.๐ (๓) การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการวิจัยโดยเชิญชวนบุคลากรผู้เชี่ยวชาญจากสถาบัน Milken Institute ที่มีชื่อเสียงมาจัดการสัมมนาวิชาการระดับนานาชาติเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและโอกาสในการพัฒนาให้กับ young entrepreneur ของไทย (๔) การดึงบุคลากรที่จบการศึกษาจากสถาบันของสหรัฐฯ และทำงานในหน่วยงานระดับประเทศของสหรัฐฯ ให้กลับมาทำงานที่ประเทศไทย เช่นเดียว กับนโยบายของรัฐบาลญี่ปุ่น และ (๕) เอกอัครราชทูตฯ ได้เสนอให้สถานกงสุลใหญ่ และสถาบัน Milken Institute หารือเกี่ยวกับการเตรียมการนำเสนอแนวทางการดำเนินนโยบายประเทศไทย ๔.๐ เพื่อนำไปเสนอต่อรัฐบาลในโอกาสแรก


เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ นายพิศาล มาณวพัฒน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน พร้อมด้วยภริยาเดินทางมาร่วมลงนามสมุดถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส โดยเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน และภริยา พร้อมด้วย นายธานี แสงรัตน์ กงสุลใหญ่ นายสรศักดิ์ สมรไกรสรกิจ รองกงสุลใหญ่ ร.ท.หญิง กรรภิรมย์ วิชาธร กงสุล นายสุริยะ สิทธิชัย ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สาขาลอสแอนเจลิส ได้ยืนถวายความอาลัยร่วมกัน เอกอัครราชทูตฯ และภริยาลงนามในสมุดถวายความอาลัย และเยี่ยมชมภาพพระราชกรณียกิจเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงเสด็จเยือน นครลอสแอนเจลิสในปี ค.ศ. ๑๙๖๐

เอกอัครราชทูตฯ พร้อมภริยาได้เยี่ยมชมบริเวณที่ทำการของสถานกงสุลใหญ่ฯ บริเวณชั้น ๒ และชั้น ๔ โดยบริเวณชั้น ๔ ของอาคารที่ทำการสถานกงสุลใหญ่ฯ อยู่ในระหว่างการปรับปรุงใหม่เพื่อใช้เป็นห้องประชุมและใช้เป็นห้องรับรองแก่บุคคลคนสำคัญที่มาเยือนในโอกาสต่อไป