การให้บริการกงสุลสัญจร ณ เมืองออเบิร์น มลรัฐวอชิงตัน
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ขอเชิญคนไทยในมลรัฐวอชิงตันและพื้นที่ใกล้เคียงเข้ารับบริการ
กงสุลสัญจร ณ เมืองออเบิร์นกำหนดการ ดังนี้
วันเสาร์ที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๑ และ วันอาทิตย์ที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๑ เวลา ๙.๐๐ – ๑๗.๐๐ น.
ณ วัดวอชิงตันพุทธวนาราม เมืองออเบิร์น มลรัฐวอชิงตัน 4401 South 360Th St., Auburn, WA 98001-9320 โทรศัพท์ ๒๕๓ ๙๒๗ ๕๔๐๘
บริการกงสุลสัญจรในครั้งนี้ ประกอบด้วย (๑) การทำหนังสือเดินทาง (passport) (๒) การทำบัตรประจำตัวประชาชน (๓) งานนิติกรณ์และงานทะเบียนราษฎร เช่น การรับรองลายมือชื่อ การทำหนังสือมอบอำนาจ การขอสูติบัตรไทย เป็นต้น และ (๔) การให้คำปรึกษาด้านกงสุล
ผู้ประสงค์จะทำหนังสือเดินทางควรทำนัดหมาย เพื่อสถานกงสุลใหญ่ฯ ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นจากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรว่าท่านสามารถยื่นคำร้องขอทำหนังสือเดินทางได้หรือไม่ (เพื่อไม่ให้เสียเวลาเดินทางไป)
ระบบนัดหมายจะเปิดบริการตั้งแต่วันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เป็นต้นไป จนครบจำนวนที่จะให้บริการได้ ท่านสามารถทำนัดหมายได้ตามช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ระบบนัดหมายออนไลน์ที่ www.thaiconsulatela.org (กดเลือกแบนเนอร์ “นัดหมายทำหนังสือเดินทางที่กงสุลสัญจร” ด้านขวามือของหน้าเว็บไซต์ และกดเลือกสถานที่และวันเวลาที่ต้องการ)
- โทรศัพท์ ๓๒๓ – ๙๖๒ – ๙๕๗๔ อีเมล์ passport@thaiconsulatela.org
ในกรณีที่ท่านมิได้ทำนัดหมายล่วงหน้า ท่านยังสามารถเดินทางไปทำหนังสือเดินทาง (walk-in) ณ วัดพุทธวรารามได้ แต่อาจใช้เวลาในการรอคิวทำหนังสือเดินทาง ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้นัดหมายทำหนังสือเดินทางล่วงหน้าที่มีการสำรองไว้แล้ว
และความสมบูรณ์ของเอกสารที่ท่านต้องเตรียมมาประกอบการยื่นคำร้องขอทำหนังสือเดินทาง
สำหรับการทำบัตรประจำตัวประชาชน นิติกรณ์และงานทะเบียนราษฎร ไม่ต้องทำนัดหมาย
ท่านสามารถตรวจสอบเอกสารที่ต้องจัดเตรียมสำหรับการทำหนังสือเดินทาง บัตรประจำตัวประชาชน นิติกรณ์และงานทะเบียนราษฎรได้ที่เว็บไซต์ www.thaiconsulatela.org หรือโทรศัพท์สอบถามข้อมูลที่ ๓๒๓ – ๙๖๒ – ๙๕๗๔ รวมทั้งติดตามข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ Facebook (Royal Thai Consulate – General, Los Angeles) Twitter (ThaiCGLA) และ Line (@thaiconsulatela)
กิจกรรม ASEAN Sustainable Energy Week
สถานกงสุลใหญ่ฯ ร่วมกับ Business Oregon และ Prosper Portland นำคณะนักธุรกิจสาขาพลังงานและสิ่งแวดล้อมจากมลรัฐออริกอนเข้าร่วม ASEAN Sustainable Energy Week จัดโดยกระทรวงพลังงานระหว่างวันที่ ๖-๙ มิ.ย. ๒๕๖๑ โดยได้จัดให้พบหน่วยงานไทยที่เกี่ยวข้องด้วย
ในโอกาสการหารือระหว่างอาหารกลางวันเมื่อวันที่ ๔ มิ.ย. ๒๕๖๑ กับนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ น.ส. ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งประเทศไทย (BOI) โดยมีนายศรัณย์ อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศและกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิสเข้าร่วมด้วย สรุปสาระสำคัญดังนี้
รมต.กอบศักดิ์ฯ ยินดีที่บริษัทจากมลรัฐออริกอน ซึ่งเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสีเขียวและพลังงานสะอาด ให้ความสนใจมาลงทุนค้าขายในประเทศไทย และเล่าถึงโครงการสำคัญของไทยในช่วง ๘ เดือนก่อนการเลือกตั้ง ได้แก่ การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งประกอบด้วยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เช่น ท่าเรือแหลมฉบังและสนามบินอู่ตะเภา การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม ๓ สนามบิน ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา ให้เหลือเพียง ๔๕ นาที - ๑ ชั่วโมง และการก่อสร้างทางรถไฟรางคู่ เป็นต้น โดยโครงการทั้งหมดมีมูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า ๒๐ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
รมต.กอบศักดิ์ฯ เข้าใจดีว่าขณะนี้ สหรัฐฯ มีนโยบายส่งเสริมการค้าการลงทุนและการสร้างงานในประเทศ (America First) แต่ก็ไม่ควรมองข้ามเอเชีย เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก โดยจีนมีประชากร ๑.๔ พันล้านคน อินเดียมีประชากร ๑.๒ พันล้านคน และอาเซียนมีประชากร ๘๐๐ ล้านคน แต่หากพิจารณาให้ดีจะเห็นว่า การลงทุนในประเทศไทยนั้นเหมาะสมที่สุด เนื่องจากไทยเป็นประเทศรายได้ระดับกลางที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีตลาดเปิด ไม่มีปัญหาการลอกเลียนเทคโนโลยีและดูแลนักลงทุนต่างชาติเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ไทยยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีเส้นทางคมนาคมทางบกเชื่อมต่อไปถึงจีนและอินเดีย การลงทุนตั้งโรงงานในไทย จึงสามารถเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาค และเป็นฐาน (base) และประตู (gateway) ไปสู่ตลาดในประเทศเพื่อนบ้านของไทย จีนและอินเดียได้อีกด้วย
เลขาธิการ BOI แจ้งว่า เทคโนโลยีที่ไทยกำลังให้ความสนใจ ได้แก่ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า สถานีชาร์จไฟฟ้า และการกำจัด/รีไซเคิลขยะ โดยนักลงทุนต่างชาติจะได้รับผลประโยชน์และสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ อัตราภาษีคงที่ ซึ่งต่ำกว่าที่สหรัฐฯ ถึงร้อยละ ๑๗
นักธุรกิจจากมลรัฐออริกอนขอบคุณฝ่ายไทยที่จัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าการลงทุนให้เป็นอย่างดี และแนะนำเทคโนโลยีของแต่ละบริษัท ตั้งแต่การกักเก็บพลังงาน ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า การจัดการ/รีไซเคิลไม้และโลหะ ไปจนถึงเทคโนโลยีด้านน้ำ โดยหวังว่าในการเข้าร่วมออกบูธในงาน ASEAN Sustainable Energy Week 2018 ในปีนี้ จะได้บริษัทไทยมาเป็นคู่ค้าและพันธมิตรด้านการลงทุนในประเทศไทยต่อไป