ข่าวจากกงสุล
ข่าวจากกงสุล 11 กุมภาพันธ์ 2560

เมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิสได้เข้าร่วมการบรรยายสรุปแก่คณะกงสุลประจำปี (Consular Corps Conference) ประจำนครลอสแอนเจลิส จัดโดย U.S. Citizenship and Immigration Services (USCIS) โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

๑. ประเด็นข้อซักถามในระหว่างการบรรยายสรุป

๑.๑ ตามที่เมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๐ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่ง Executive Order ห้ามบุคคลจาก ๗ สัญชาติไม่ให้เดินทางเข้าสหรัฐฯ ได้แก่ อิรัก ซีเรีย อิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน และเยเมน และต่อมาศาล Federal Court of Washington ได้มีคำสั่งระงับข้อบังคับดังกล่าว

เมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคำสั่งระงับข้อบังคับต่อศาล Ninth Circuit Court of Appeals ที่นครซานฟรานซิสโก ดังนั้น การห้ามบุคคลทั้ง ๗ สัญชาติมิให้เดินทางเข้าสหรัฐฯ จึงยังไม่มีการบังคับใช้ในปัจจุบัน

๑.๒ USCIS ยืนยันว่าหากมีการบังคับใช้ Executive Order ดังกล่าว จะมีผลครอบคลุมเฉพาะบุคคล ๗ สัญชาติข้างต้น (โดยไม่มีผลกระทบกับบุคคลสัญชาติอื่น ๆ รวมถึงบุคคลสัญชาติไทย ทั้งที่มีใบเขียว ไม่มีใบเขียว และมี วีซ่าที่ถูกต้องในการพำนักในสหรัฐฯ ดังนั้น ผู้ที่มีใบเขียวและผู้ที่มีวีซ่าถูกต้องสามารถเดินทางเข้า – ออกสหรัฐฯ ได้ตามปกติ)

๑.๓ เจ้าหน้าที่ Immigration and Customs Enforcement (ICE) ชี้แจงเกี่ยวกับการจับกุมคนเข้าเมือง (immigrants) ที่พำนักในสหรัฐฯ อย่างไม่ถูกกฎหมายว่า การตรวจและจับกุมจะดำเนินการในพื้นที่สาธารณะ ส่วนการบุกจับกุมตัว/ ตรวจค้นในบ้านพัก หรือสถานประกอบการเป็นการดำเนินการในลักษณะ Target Enforcement เป็นคดีที่มีการสืบสวน สอบสวน และมีบุคคลเป้าหมายในการจับกุมชัดเจน จะต้องมีหมายศาล และได้รับอนุญาตจากเจ้าของสถานประกอบการแล้วเท่านั้น ICE ไม่มีนโยบายการตั้งจุดตรวจตามสถานที่ต่าง ๆ

๒. การขอมีถิ่นที่พำนักถาวรในสหรัฐฯ (ใบเขียว)

๒.๑ ผู้ยื่นคำร้องขอใบเขียวจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

- เป็นบุคคลในครอบครัวของผู้ถือสัญชาติสหรัฐ และได้เดินทางเข้าสหรัฐฯ อย่างถูกกฎหมาย

- เป็นผู้เดินทางเข้าเมืองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นผู้ที่ถือวีซ่า non-immigrant ในระหว่างการยื่นคำร้องขอเปลี่ยนสถานะ (Adjustment of Status)

- หรือเป็นผู้เดินทางเข้าสหรัฐฯ อย่างถูกต้องภายใต้กฎหมาย Provision of the Legal Immigration Family Equity Act (LIFE Act) มาตรา 245 (i) ซึ่งได้ยื่นคำร้องก่อน ๓๐ เมษายน ๒๕๔๔ และได้เดินทางเข้าสหรัฐฯ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย หรือผู้ที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากโครงการด้านมนุษยธรรมอื่น ๆ อาทิ ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์

๒.๒ การยื่นขอใบเขียวสำหรับบุคคลที่พำนักในสหรัฐฯ เกินกำหนด (Unlawful Present) โดยผู้ยื่นขอแบบฟอร์ม I-601A (Provisional Unlawful Presence Waiver) จะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

- อายุไม่ต่ำกว่า ๑๗ ปี

- พักอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ณ วันที่ยื่นคำร้อง

- คำร้องได้รับการอนุมัติ

- แสดงให้เห็นว่าหากถูกปฏิเสธการพำนักในสหรัฐฯ จะทำให้บุคคลสัญชาติสหรัฐฯ ที่เป็นคู่สมรส/ พ่อ-แม่ได้รับความยากลำบาก (extreme hardship)

๓. สิทธิประโยชน์ของการได้ใบเขียวและการถือสัญชาติสหรัฐฯ

๓.๑ สิทธิประโยชน์ของใบเขียว อาทิ

- ผู้มีใบเขียวสามารถอาศัยและประกอบอาชีพในสหรัฐฯ ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมี สิทธิในการเดินทางออกนอกประเทศได้ไม่เกิน ๑ ปี ถ้าเกิน ๑ ปี ต้องมีแบบฟอร์ม I-131 ถ้าเกิน ๒ ปี ต้องขอวีซ่า SB-1 ที่สถานเอกอัครราชทูต/ สถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ

- ผู้มีใบเขียวสามารถยื่นคำร้องขอใบเขียวให้แก่คู่สมรส บุตรที่อายุไม่เกิน ๒๑ ปี และ ยังไม่ได้สมรส

๓.๒ ประเภทของวีซ่าที่สามารถยื่นคำร้องให้แก่สมาชิกในครอบครัว Family Sponsored Visa (คู่สมรส บุตรที่เป็นผู้เยาว์และพ่อแม่) ได้แก่

- ประเภท F1 สำหรับบุตรที่ยังไม่ได้แต่งงานของบุคคลสัญชาติสหรัฐ

- ประเภท F2A สำหรับคู่สมรสและเด็ก และ F2B สำหรับบุตรที่ยังไม่แต่งงานของผู้มีใบเขียว

- ประเภท F3 สำหรับบุตรที่แต่งงานแล้วของบุคคลสัญชาติสหรัฐฯ

- ประเภท F4 สำหรับพี่-น้องของบุคคลสัญชาติสหรัฐ

๓.๓ สิทธิประโยชน์ของผู้ได้รับสัญชาติสหรัฐฯ (US Citizen) อาทิ

- สามารถเดินทางออกนอกสหรัฐฯ ได้ระยะเวลาไม่จำกัด

- สามารถยื่นคำร้องขอใบเขียวให้แก่ครอบครัวเช่นเดียวกับผู้ถือใบเขียว รวมถึงพ่อ-แม่ บุตรที่แต่งงานแล้ว หรือยังไม่แต่งงาน และพี่-น้อง ที่เกิดจากพ่อ-แม่เดียวกัน

๔. การขอวีซ่าสำหรับผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์

ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์จะได้รับการเยียวยา (Immigration Relief) ตาม Trafficking Victims Protection Act (2000) โดยได้รับวีซ่า ดังนี้

๔.๑ คุณสมบัติผู้ที่จะได้รับ T – Non immigrant Visa

- เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์

- พักอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ เนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบ/ ดำเนินคดี

- พิสูจน์ให้เห็นว่าผู้เสียหายจะประสบความยากลำบากหากถูกส่งตัวออกจากสหรัฐฯ

- ดำเนินการตามคำร้องที่เป็นผลจากการดำเนินคดี

๔.๒ คุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับ U – Non immigrant Visa เพื่อให้ความช่วยเหลือเหยื่อในคดีอาญา ให้เหยื่อสามารถพำนักในสหรัฐฯ ได้ต่อไป โดยเหยื่อต้องเป็นผู้ยื่นคำร้อง และจะได้รับใบอนุญาตทำงาน (work permit) ในสหรัฐฯ จะสามารถพำนักในสหรัฐฯ ได้เป็นเวลา ๔ ปี ขอขยายเวลาได้ แต่จะไม่ได้รับสวัสดิการสังคม

- ต้องเป็นคดีที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ หรือเขตอาณาของสหรัฐฯ

- ต้องเป็นเหยื่อในคดีอาญา อาทิ การใช้ความรุนแรงในครอบครัว ล่วงละเมิดทางเพศ ลักพาตัว แรงงานทาส ข่มขืน ฆาตรกรรม ฯลฯ

- หรือเป็นผู้มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินคดี

- หรือเป็นผู้มีบทบาทในการช่วยเหลือทางคดี

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส จะจัดบริการกงสุลสัญจรแก่ชาวไทยในเกาะไซปัน ตามกำหนดวันเวลาและสถานที่ ดังนี้ วันอังคารและพุธที่ ๗ – ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. Saipan Multi – Purpose Center Beach Road, Susupe, Saipan 96950, CNMI

ในการบริการกงสุลสัญจร สถานกงสุลใหญ่ฯ จะให้บริการ (๑) หนังสือเดินทาง (๒) บัตรประจำตัวประชาชน (๓) นิติกรณ์และงานทะเบียนราษฎร์ เช่น การรับรองลายมือชื่อ การทำหนังสือมอบอำนาจ การขอสูติบัตรไทย เป็นต้น และ (๔) ให้คำปรึกษาด้านกงสุล

ผู้ประสงค์จะทำหนังสือเดินทางจะต้องทำนัดหมาย เพื่อสถานกงสุลใหญ่ฯ ตรวจสอบเอกสารล่วงหน้า ซึ่งระบบนัดหมายจะเปิดบริการตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๙ เป็นต้นไป จนครบจำนวนที่สามารถให้บริการได้ ท่านสามารถทำนัดหมายได้ตามช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

- ระบบนัดหมายออนไลน์ที่ www.thaiconsulatela.org (กดเลือกแบนเนอร์ “นัดหมายทำหนังสือเดินทางที่กงสุลสัญจร” ด้านขวามือของหน้าเว็บไซต์ และกดเลือกสถานที่และวันเวลาที่ต้องการ)

- โทรศัพท์ ๓๒๓ – ๙๖๒ – ๙๕๗๔

- อีเมล์: passport@thaiconsulatela.org

สำหรับบริการทำบัตรประจำตัวประชาชนและนิติกรณ์และงานทะเบียนราษฎร์ไม่ต้องทำนัดหมาย

ท่านสามารถตรวจสอบเอกสารที่ต้องจัดเตรียมสำหรับการทำหนังสือเดินทาง บัตรประจำตัวประชาชน และนิติกรณ์และงานทะเบียนราษฎร์ได้ที่เว็บไซต์สถานกงสุลใหญ่ฯ (www.thaiconsulatela.org) หรือโทรศัพท์สอบถามข้อมูลที่ ๓๒๓ – ๙๖๒ – ๙๕๗๔ รวมทั้งติดตามข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ Facebook (Royal Thai Consulate – General Los Angeles) และ Twitter (ThaiCGLA)