ข่าวกงสุล



ข่าวกงสุล 10 กุมภาพันธ์ 2561

เมื่อวันที่ ๓๑ ม.ค. ๒๕๖๑ กงสุลใหญ่ฯ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการลงทุน ณ นครลอสแอนเจลิส และเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้เข้าพบหารือกับคณะผู้บริหารสภาหอการค้าเมือง Tucson (Tucson Metro Chamber of Commerce) นำโดยนาย Michael Varney ประธานสภาหอการค้าฯ สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

๑. จุดแข็งของเมือง Tucson นอกจ่ายค่าใช้จ่ายต่ำและเงื่อนไขการลงทุนที่ยืดหยุ่นกว่ามลรัฐอื่น ๆ แล้ว ยังมีอุตสาหกรรมที่อาจมีความร่วมมือกับไทย ได้แก่ เทคโนโลยีอวกาศ บอลลูนตรวจสภาพอากาศระดับสูง เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ แผงโซลาร์ การเก็บพลังงาน (energy storage) และการเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจสู่การใช้พลังงานทางเลือก (transition to renewable energy) การบริหารจัดการน้ำ การเก็บน้ำใต้ดิน (underground water storage) การใช้น้ำหมุนเวียน (water recycling)

รวมทั้งด้าน optics ซึ่งใช้ในกิจการอวกาศและแผงโซลาร์ นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยอริโซนา (University of Arizona) ยังมีชื่อเสียงในด้านการแพทย์ ด้าน optic และเทคโนโลยีชีวภาพ

๒. สภาหอการค้าฯ กล่าวหลายครั้งถึงชื่อเสียงและระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจของไทย ซึ่งมีบริษัทอเมริกันและต่างชาติไปลงทุนจำนวนมาก อาทิ Caterpillar ที่มีสำนักงานใหญ่ในมลรัฐอริโซนา รวมทั้งเชิญกงสุลใหญ่ฯ นำเสนอโอกาสการค้าการลงทุนกับประเทศไทยต่อที่ประชุมกลุ่ม Economic Development Forum ของเมืองทูซอนในโอกาสต่อไป

๓. กงสุลใหญ่ฯได้นำเสนอภาพรวมรวมเศรษฐกิจไทยนโยบายประเทศไทย ๔.๐ การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor - EEC) และเชิญชวนสภาหอการค้า Tucson จัดคณะนักธุรกิจเดินทางเยือนไทย เพื่อศึกษาโอกาสลู่ทางการค้าการลงทุน โดยมอบกำหนดการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและการลงทุนต่าง ๆ ตลอดปี ๒๕๖๑ ของไทย

๔. ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการลงทุนฯ อธิบายนโยบายการลงทุนของรัฐบาลไทย สิทธิประโยชน์การลงทุนของไทย และเชิญชวนสภาหอการค้า Tucson และสื่อมวลชนที่เกี่ยวข้องไปร่วมงาน Thailand : From Opportunity to Reality ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศไทยในเดือน มี.ค. ศกนี้


กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส เข้าพบนาง Thelda Williams, Councilwoman เขต ๑ เมืองฟีนิกซ์

เมื่อวันที่ ๑ ก.พ. ๒๕๖๑ เวลา ๑๑.๐๐ น. กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส นางขวัญนภา ผิวนิล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส นางสุดากร เทวกุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุน ณ นครลอสแอนเจลิส และคณะ ได้เข้าพบนาง Thelda Williams, Councilwoman เขต ๑ เมืองฟีนิกซ์และได้หารือดังนี้

๑. เมืองฟีนิกซ์เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ ๕ ของสหรัฐฯ มีประชากรกว่า ๑.๖ ล้านคน เมืองฟีนิกซ์มีแผนการพัฒนาเน้นการศึกษาวิจัยด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนำมาประยุกต์กับอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ โดยใช้แรงจูงใจด้านภาษีและจูงใจให้เอกชนทำงานวิจัยร่วมกับสถาบันการศึกษา ซึ่งมีมหาวิทยาลัยสำคัญในเมืองฟีนิกซ์คือ Arizona State University ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ มีนักศึกษากว่า ๑๐๐,๐๐๐ คน และอาจารย์ทำวิจัยด้านวิทยาศาสตร์กว่า ๒,๐๐๐ คน และได้รับการจัดอันดับเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรมถึงสามปีติดต่อกัน (ค.ศ. ๒๐๑๖ -๒๐๑๘)

๒. กงสุลใหญ่ฯ เชิญให้นาง Williams และนายกเทศมนตรีนำคณะนักธุรกิจจากฟีนิกซ์เดินทางไปสำรวจลู่ทางการค้าการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งนาง Williamsได้แสดงความสนใจเป็นอย่างมากและจะประสานการเยือนกับสถานกงสุลใหญ่ฯ ต่อไป

๓. กงสุลใหญ่ฯ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าต่างประเทศ และผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุนได้อธิบายศักยภาพทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนของไทย นโยบายประเทศไทย ๔.๐ และ Eastern Economic Corridor (EEC) ที่ให้สิทธิ์ประโยชน์กับนักลงทุนต่างชาติในอุตสาหกรรมอนาคต (New S-curve) เช่น เทคโนโลยีชีวภาพ การแพทย์ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ การบินและโลจิสติกส์ รวมทั้งให้ข้อมูลและเชิญชวนภาคเอกชนของเมืองฟีนิกซ์เข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่จะจัดในประเทศไทย

๔. ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับสาขาความร่วมมือที่สามารถพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันเช่น แผงโซลาร์ พลังงานแสงอาทิตย์และหน่วยเก็บพลังงาน การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การแพทย์ การดูแลและบริการสุขภาพผู้สูงวัย เทคโนโลยีการเกษตร และเทคโนโลยีชีวภาพ และจะหารือเกี่ยวกับหน่วยงานและรายละเอียดต่อไป


กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส เข้าพบประธานสมาคมอุตสาหกรรมชีวภาพแห่งมลรัฐอริโซน่า เมืองฟีนิกซ์

เมื่อวันที่ ๑ ก.พ. ๒๕๖๑ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการลงทุน ณ นครลอสแอนเจลิส และข้าราชการทีมประเทศไทย ได้เข้าพบนาง Joan Koerber-Walker ประธานสมาคมอุตสาหกรรมชีวภาพแห่งมลรัฐอริโซน่า (Arizona Bioindustry Association — AZBio) ที่ Center for Entrepreneurial Innovation (CEI) เมืองฟีนิกซ์ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

๑. CEI เป็นศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ (business incubator) ที่ให้การสนับสนุนแบบครบวงจรแก่ธุรกิจ startup ในอริโซน่า ในสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ (bioscience) เทคโนโลยีการแพทย์ และการสร้างความยั่งยืน (sustainability) โครงการที่ CEI สนับสนุนอยู่ อาทิ บ. Neolight ซึ่งกำลังพัฒนาเตียงขนาดพกพาสำหรับรักษาเด็กแรกเกิดที่มีอาการตัวเหลือง โดยใช้พลังงานได้ทั้งแสงอาทิตย์และแบตเตอรี่ และโครงการพัฒนาชีวเคมีที่ลดการมีประจำเดือนของหนูเพศเมียเพื่อแก้ไขปัญหาศัตรูพืชและปัญหาชุมชนเมือง เป็นต้น

๒. CEI นำเสนอเรื่องการจัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนการวิจัย (endowment model) ทั้งนี้ CEI กำลังระดมทุนให้ถึง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อจัดตั้ง Healthcare Impact Foundation (HCIF) ซึ่งไทยสามารถนำรูปแบบดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ได้ หรืออาจร่วมมือกับ CEI จัดตั้งกองทุนในลักษณะนี้ เป็นต้น

๓. กงสุลใหญ่ฯ และทีมประเทศไทยร่วมกันให้ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายประเทศ ๔.๐ และสาขาที่ไทยให้ความสำคัญมีความร่วมมือ ได้แก่ เชื้อเพลิงชีวภาพและชีวเคมี หุ่นยนต์ ดิจิตอล การแพทย์ และโลจิสติกส์และการบิน นอกจากนี้ กงสุลใหญ่ฯ ได้เชิญนักวิจัยจาก AZBio และ CEI ไปเยือนไทยเพื่อสร้างเครือข่ายกับนักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพของไทย ซึ่งประธาน AZBio แสดงความสนใจ และจะประสานงานกับสถานกงสุลใหญ่ฯ ต่อไป


กงสุลใหญ่ ได้พบหารือกับนาย James Ashley ผู้อำนวยการคณะกรรมการอุตสาหกรรมแห่งอริโซน่า เมืองฟีนิกซ์

เมื่อวันที่ ๒ ก.พ. ๒๕๖๑ กงสุลใหญ่ฯ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส และข้าราชการทีมประเทศไทย ได้พบหารือกับนาย James Ashley ผู้อำนวยการคณะกรรมการอุตสาหกรรมแห่งอริโซน่า (Industrial Commission of Arizona — ICA) ที่เมืองฟีนิกซ์สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

๑. ICA สังกัดสำนักงานผู้ว่าการมลรัฐอริโซน่า ทำหน้าที่กำกับดูแลกฎระเบียบและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสวัสดิภาพ ความปลอดภัยในที่ทำงาน และสิทธิของลูกจ้าง ในแต่ละปี ICA รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับอุบัติเหตุจากการทำงานกว่า ๗๕,๐๐๐ เรื่อง และเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับค่าจ้างกว่า ๓,๐๐๐ เรื่อง โดย ICA ทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างบริษัทขนาดใหญ่และขนาดเล็กในอริโซน่า เพื่อสร้างความปลอดภัยในการทำงานให้แก่ลูกจ้าง

๒. กงสุลใหญ่ฯ และทีมประเทศไทยร่วมกันให้ข้อมูลนโยบายประเทศไทย ๔.๐ และเชิญภาคเอกชนอริโซน่าเดินทางเยือนไทยในช่วงที่มีการจัดงานแสดงสินค้าและการลงทุนสำคัญ ๆ ในประเทศไทย โดยขอให้นำเรียนผู้ว่าการมลรัฐอริโซนาพิจารณา ซึ่ง ICA แสดงความสนใจ และแจ้งว่าจะประสานข้อมูลนี้ให้กับ Arizona Commerce Authority และผู้ว่าการมลรัฐอริโซนาต่อไป

๓. กงสุลใหญ่ฯ แนะนำ ดร. พอล ชุมพล ผู้แทนบริษัท Nano Bio Group ประเทศไทย ซึ่งมีแผนจะมาเปิดโรงงานในเมือง Mesa มลรัฐอริโซน่า เพื่อผลิตจุลินทรีย์สำหรับเป็นอาหารพืช

๔. ICA ให้ข้อมูลว่า หน่วยงานรัฐในอริโซน่านำระบบการบริหารจัดการแบบใหม่มาใช้ในองค์กร เรียกว่า Lean Management หรือ Arizona Management System โดยเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้วยการลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น ลดระยะเวลาให้บริการ เพิ่มความเร็วในการตัดสินใจ และแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ ให้เท่ากับภาคเอกชน ซึ่งเป็นแนวคิดที่หน่วยราชการไทยสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้


กงสุลใหญ่ฯ ได้พบหารือกับ น.ส. Ruth Soberanes ผู้อำนวยการด้านการค้าและการลงทุน Greater Phoenix Economic Council (GPEC) ที่เมืองฟีนิกซ์

เมื่อวันที่ ๒ ก.พ. ๒๕๖๑ กงสุลใหญ่ฯ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส และข้าราชการทีมประเทศไทย ได้พบหารือกับ น.ส. Ruth Soberanes ผู้อำนวยการด้านการค้าและการลงทุน Greater Phoenix Economic Council (GPEC) ที่เมืองฟีนิกซ์สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

๑. GPEC เป็นองค์กรร่วมภาครัฐ-เอกชน ทำหน้าที่ส่งเสริมศักยภาพของภาคเอกชนในเมืองฟีนิกซ์ โดยให้บริการข้อมูลเชิงวิเคราะห์ การจับคู่ทางธุรกิจ การลงทุน การสร้างความเชื่อมโยงกับแหล่งทรัพยากร และการสร้างความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจ โดยมีโครงการที่สำคัญได้แก่ โครงการ “Connected Place” ซึ่งเน้นส่งเสริมธุรกิจ Internet of Things (IOT) ใน ๔ สาขา ได้แก่ ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ยานพาหนะไร้คนขับ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สวมใส่ได้ (Wearables) และอุตสาหกรรม ๔.๐ และโครงการ “Global Partnership Program” ซึ่งช่วยจับคู่ทางธุรกิจระหว่างบริษัทในฟีนิกซ์กับบริษัทต่างชาติ เป็นต้น

๒. กงสุลใหญ่ฯ ประชาสัมพันธ์โครงการ Thai American Friendship Project เพื่อเชื่อมโยงเยาวชนไทยในสหรัฐฯ กับประเทศไทย ตลอดจนให้ข้อมูลเรื่อง Smart Visa และเชิญให้เข้าร่วมการสัมมนา “Thailand Taking Off” ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศไทยในเดือน มี.ค. ศกนี้

๓. กงสุลใหญ่ฯ เชิญชวนให้ GPEC นำคณะนักธุรกิจเยือนไทยร่วมกับคณะจากเทศมนตรีเมืองฟีนิกซ์ ซึ่งผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าต่างประเทศฯ เสนอว่า อาจจัดเวทีให้ GPEC บรรยายเรื่องโอกาสของนักธุรกิจไทยในการลงทุนที่เมืองฟีนิกซ์ด้วย ซึ่ง GPEC แสดงความสนใจเป็นอย่างมาก


เมื่อวันที่ ๓ ก.พ. ๒๕๖๑ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิสพร้อมด้วยภริยา และนางขวัญนภา ผิวนิล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส และเจ้าหน้าที่ทีมประเทศไทยนมัสการพระมหาระพิน รวิวณโณ รักษาการเจ้าอาวาสวัดพรหมคุณาราม เมืองวัดเดล (Waddell) มลรัฐอริโซน่า และได้ถวายจตุปัจจัยและหนังสือธรรมะภาษาอังกฤษด้วย

กงสุลใหญ่ฯ ได้ตรวจเยี่ยมประชาชนที่มารับบริการกงสุลสัญจรที่วัด มอบประกาศนียบัตรให้กับอาสาสมัครกงสุล และพบปะกับชุมชนไทยในพื้นที่ โดยได้อธิบายงานด้านการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนไทย ตอบปัญหาด้านกงสุล แจ้งช่องทางการติดตามข่าวสารของสถานกงสุลใหญ่ฯ หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในกรณีฉุกเฉิน และได้แนะนำโครงการสำหรับเยาวชนอเมริกันเชื้อสายไทยให้กับชุมชนไทยเช่น โครงการเพื่อนมิตรไทยอเมริกัน (นำเยาวชนไทยอเมริกันไปสอนภาาษาอังกฤษที่ประเทศไทย) (www.thaiconsulatela.org/TAFP.html) และโครงการผู้นำเยาวชนไทยอเมริกัน (นำเยาวชนไทยฝึกงานที่สถานกงสุลใหญ่ฯ และกับนักการเมืองหรือภาครัฐสหรัฐฯ) (www.thaiconsulatela.org/TALP.html)


การอบรมประจำปีเสริมทักษะการนวดไทยในสหรัฐฯ ปิดฉากสวยงาม

เมื่อวันที่ ๒ ก.พ. ๒๕๖๑ รองกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส เป็นประธาน ร่วมกับนายกสมาคมนวดไทยและสปาแห่งสหรัฐอเมริกา ในพิธีปิดการอบรมหลักสูตรเสริมทักษะการนวดไทยให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนวดไทยและสปาในสหรัฐฯ พนักงานนวด และผู้ที่สนใจทั่วไป รวมกว่า ๒๐๐ คน จากแคลิฟอร์เนียและหลายมลรัฐ

การอบรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมความเข้มแข็งธุรกิจสปาและนวดไทยในสหรัฐฯ โดยแบ่งการอบรมออกเป็น ๔ หลักสูตร ได้แก่ นวดไทยอโรม่า นวดไทยรักษาอาการ การเสริมทักษะนวดและ สปาไทย และการจัดการสปาไทย รวม ๑๐๐ ชั่วโมง ตามมาตรฐานขั้นต้นของหลักสูตรการแพทย์แผนไทย

ในการอบรมครั้งนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจากวิทยาลัยการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เป็นวิทยากร ได้แก่ ดร.ไฉน น้อยแสง ผู้ช่วยผู้อำนวยการวิทยาลัยการแพทย์แผนไทย นางสาวยามีละ ดอแม อาจารย์ประจำสาขาวิชาความงามสุขภาพและสปา และนายนิธิพันธ์ บุญเพิ่ม อาจารย์ประจำสาขาวิชาหัตถเวชกรรมแผนไทย โดยมีนางสุภาพร วิลเลี่ยมส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการนวดไทยที่พำนักอยู่ในนครซานฟรานซิสโก เป็นวิทยากรรับเชิญ

การจัดอบรมฯ สอดคล้องกับนโยบายการทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพ (Medical Hub) และนโยบายประเทศไทย ๔.๐ ที่เน้นการลงทุนที่เพิ่มมูลค่าในภาคการบริการ มีเป้าหมายเพื่อช่วยเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาฝีมือของผู้ประกอบวิชาชีพนวดไทยในสหรัฐฯ ให้ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยและของคนไทย และเพื่อสืบสานภูมิปัญญาไทยและมรดกของชาติ

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากทั้งผู้เข้าร่วมและผู้ที่รับชมการถ่ายทอดการอบรมทาง Facebook Live ของสถานกงสุลใหญ่ฯ ซึ่งมีจำนวนกว่า ๑๕๕,๕๐๐ ครั้ง จากสหรัฐฯ และประเทศต่างๆ อาทิ ประเทศไทย ญี่ปุ่น เยอรมัน เนเธอแลนด์ เดนมาร์ก สวิตเซอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ และนอร์เวย์ เป็นต้น


กงสุลใหญ่ฯ ร่วมงานศพสวดพระอภิธรรมให้แก่นาย Richard Taylor นายพินิจ สุทธิเทพา ดช.พีระวัฒน์ สุทธิเทพา และ ดญ.ลิเดีย สุทธิเทพา ที่ Welch-Ryce-Hader Funeral Chapels เมืองซานตาบาบารา

วันที่ ๕ ก.พ. ๒๕๖๑ ครอบครัวสุทธิเทพาได้จัดงานศพสวดพระอภิธรรมให้แก่นาย Richard Taylor นายพินิจ สุทธิเทพา ดช.พีระวัฒน์ สุทธิเทพา และ ดญ.ลิเดีย สุทธิเทพา ที่ Welch-Ryce-Hader Funeral Chapels เมืองซานตาบาบารา โดยมีกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส เจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ฯ และญาติมิตรของผู้เสียชีวิตเข้าร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม ทางการท้องถิ่นยังค้นหา ดญ.ลิเดียฯ ต่อไป

กงสุลใหญ่ฯ ได้เป็นผู้แทนมอบเงินร่วมบำเพ็ญกุศลแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โคลนถล่ม จากสมาคมพยาบาลแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้เพิ่มเติมอีก ๓๒๐ เหรียญสหรัฐและสมาคมนวดไทยและสปาแห่งสหรัฐอเมริกาจำนวน ๕๒๐ เหรียญสหรัฐด้วย

สถานกงสุลใหญ่ฯ อยู่ระหว่างการอำนวยความสะดวกแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตเกี่ยวกับการออกมรณะบัตรและเรื่องอื่น ๆ เพิ่มเติมต่อไป


สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส สมาคมพยาบาลไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ และศูนย์พัฒนาสุขภาพชุมชน ร่วมกับคณะแพทย์จาก Department of Emergency Medicine UC Irvine Health จัดอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้นในหัวข้อการห้ามเลือด โดยแพทย์หญิงวิราชิน ฮุนพงษ์สิมานนท์และแพทย์หญิงขวัญศิริ นราจีนรณ ณ ห้องสันทนาการ ชั้น ๒ สถานกงสุลใหญ่ฯ วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๐๐-๑๖.๐๐ น.

โดยการอบรมนี้เป็นโครงการต่อเนื่องในการอบรมอาสาสมัคร เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ จึงอยากขอเรียนเชิญผู้ที่ผ่านการอบรมในครั้งแรกและประชาชนที่สนใจ เข้าร่วมการอบรมในครั้งนี้โดยทั่วกัน

ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมการอบรมกรุณาลงทะเบียนที่คุณณัฐพงศ์ฯ เบอร์โทรศัพท์ ๓๒๓-๙๖๒-๙๕๗๔ ต่อ ๒๑๖ หรือnattapong.c@thaiconsulatela.org


การให้บริการกงสุลสัญจร ณ เมืองแฟร์ฟิลด์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ขอเชิญชวนคนไทยในมลรัฐแคลิฟอร์เนียและพื้นที่ใกล้เคียง

เข้ารับบริการกงสุลสัญจร ณ เมืองแฟร์ฟิลด์ ตามกำหนดวันเวลาและสถานที่ ดังนี้ วันเสาร์ที่ ๑๗ และ วันอาทิตย์ที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ เวลา ๙.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. ณ วัดไชยมงคล เมืองแฟร์ฟิลด์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย 1613 Fairfield Ave., Fairfield, CA 94533 โทรศัพท์ ๗๐๗ – ๔๒๑ – ๒๒๗๘

บริการกงสุลสัญจรในครั้งนี้ ประกอบด้วย (๑) การทำหนังสือเดินทาง (passport)

(๒) การทำบัตรประจำตัวประชาชน (๓) งานนิติกรณ์และงานทะเบียนราษฎร์ เช่น การรับรองลายมือชื่อ การทำหนังสือมอบอำนาจ การขอสูติบัตรไทย เป็นต้น และ (๔) การให้คำปรึกษาด้านกงสุล

ผู้ประสงค์จะทำหนังสือเดินทางควรทำนัดหมาย เพื่อสถานกงสุลใหญ่ฯ ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นจากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ว่าท่านสามารถยื่นคำร้องขอทำหนังสือเดินทางได้หรือไม่ (เพื่อไม่ให้เสียเวลาเดินทางมา) ระบบนัดหมายจะเปิดบริการตั้งแต่วันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๑ เป็นต้นไป จนครบจำนวนที่จะให้บริการได้ ท่านสามารถทำนัดหมายได้ตามช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

- ระบบนัดหมายออนไลน์ที่ www.thaiconsulatela.org (กดเลือกแบนเนอร์ “นัดหมายทำหนังสือเดินทางที่กงสุลสัญจร” ด้านขวามือของหน้าเว็บไซต์ และกดเลือกสถานที่และวันเวลาที่ต้องการ)

- โทรศัพท์ ๓๒๓ – ๙๖๒ – ๙๕๗๔

- อีเมล์ passport@thaiconsulatela.org

ทั้งนี้ ในกรณีที่ท่านมิได้ทำนัดหมายล่วงหน้า ท่านยังสามารถเดินทางไปทำหนังสือเดินทาง (walk-in) ณ วัดไชยมงคลได้ แต่อาจใช้เวลาในการรอคิวทำหนังสือเดินทาง ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้นัดหมายหนังสือเดินทางล่วงหน้าที่มีการสำรองไว้แล้ว และความพร้อมและความสมบูรณ์ของเอกสารที่ท่านต้องเตรียมมาประกอบการยื่นคำร้องขอทำหนังสือเดินทาง

สำหรับบริการทำบัตรประจำตัวประชาชนและนิติกรณ์และงานทะเบียนราษฎร์ ไม่ต้องทำนัดหมาย

ท่านสามารถตรวจสอบเอกสารที่ต้องจัดเตรียมสำหรับการทำหนังสือเดินทาง บัตรประจำตัวประชาชน และนิติกรณ์และงานทะเบียนราษฎร์ได้ที่เว็บไซต์สถานกงสุลใหญ่ฯ (www.thaiconsulatela.org)

หรือโทรศัพท์สอบถามข้อมูลที่ ๓๒๓ – ๙๖๒ – ๙๕๗๔ รวมทั้งติดตามข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่

Facebook (Royal Thai Consulate – General, Los Angeles) และ Twitter (ThaiCGLA)