ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 8 มิถุนายน 2556

วันเสาร์หลานสามคน ชายทั้งนั้น เตือนตาวันอาทิตย์ไปพิพิธภัณฑ์ เกือบทุกอาทิตย์ถ้าหลานไม่ไป แฮงค์อราวที่คลีนิคกับแม่ ก็จะพาไปพิพิธภัณฑ์ ชื่อ Hand On เป็นของเด็กๆ ตั้งแต่เด็กเล็ก เดินได้ พูดได้ จะมีห้องโถงไว้ให้เล่น จะตักลูกบอล ต่อบล็อก เหมือนการก่อกำแพง เชิญ อุปกรณ์การเล่นที่จัดไว้ให้เด็ก จะทำเหมือนของผู้ใหญ่ ของจริง สีขนาด และลวดลาย ยกเว้นน้ำหนัก จะใช้พลาสติก ฟองน้ำ ถ้าเป็นของเด็กเล็กๆ ทางสถานที่คำนึง เรื่องของวัสดุที่ใช้ประกอบอย่างสี เพราะมากรายใช้สารตะกั่ว ซึ่งเด็กอดไม่ได้ที่จะสัมผัสกับปาก ทำบ่อยๆ สะสมในร่างกาย โรคร้ายมะเร็งถามหา สองอาทิตย์ฟังในทีวี ลิปสติกกันปากแห้งใส่สารตะกั่วด้วยระวัง ก่อนซื้ออ่านก่อน ราคาอาจแพงแต่ก็ต้องตัดใจ เพราะซื้ออันอยู่ในกระเป๋านานเดือน ยิ่งช่วงนี้อากาศร้อน เป็นส่วนของชีวิต ร้อนมาก ร้อนน้อย ริมฝีปากแห้งจะเลียด้วยลิ้นก็ไม่หายขาด ประทังได้ชั่วครู่

ผมเคยใช้ของแม่บ้าน กลิ่นหอมลื่นริมฝีปาก ครับของดี ราคาย่อมสูง เคยคิดว่าชอบ ถ้าซื้อพกติดกระเป๋า เอาออกมาทาริมฝีปาก เพื่อนๆ เห็น คำพูดไปเสียแล้ว ครับไปไหน อะไรที่ไป ผมชี้ที่ตัว เอ็งนั่นแหละเพื่อนเย้า ความคิดนะที่ไป จนวันนี้ผมก็ยังไม่สามารถไขปริศนาได้ คงจะเป็นของใช้สำหรับคุณผู้หญิง ชายใช้คงดูพิลึก หรือใจเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเด็กโตหน่อย 4 ขวบ 5-6-7 เข้าช่องทางของพิพิธภัณฑ์ ทุกสิ่งทุกอย่างใช้มือสัมผัส ให้เกิดกิจกรรม สายตามองใจคิด ความคิดของเด็กที่สัมผัส เด็กจะจำได้ดี ถ้าบอกอย่างเดียวรับรู้ก็จริง แต่เดี๋ยวก็ทำอีก แต่ถ้าได้ใช้มือแตะ ใจไป โอ๊ยจำไปตลอดกาล จะบอกว่าตลอดชีวิตไหม ไม่น่า โดยเฉพาะตอนเด็ก จะเติบโตขึ้นทุกวัน ร่างกายและความคิด จะสัมผัสกับมากสิ่ง หลายอย่างเคยชอบตอนเด็กๆ พอโตก็ไม่ชอบมาก มีใหม่ที่ชอบมากกว่า ตอนเป็นเด็กประถมเพื่อนๆ ล้อ ว่าชอบเด็กผู้หญิงคนชื่อนั้น อาย โกรธ แต่ใจก็รู้สึกชอบ แต่พอวัยรุ่น ล้อว่าชอบคนนั้น ยิ้ม สารภาพจริงว่ะ สานความสัมพันธ์ มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเริ่มเข้าใจความจริงว่า มากสิ่งเกิดมาคู่กัน พอโตความชอบพอเปลี่ยนไป กลายเป็นเพื่อนต่างเพศ

พวกเราต่างมีลูก หลาน เวลาเด็กทำผิดซ้ำซาก จะลงโทษ ที่ทำเสมอคือ Time Out ให้ไปนั่งเงียบคนเดียว ติดกำแพง หรือมุมห้อง ตัดกิจกรรม เด็กๆ ถือว่าโหด เพราะกำลังเล่น แย่งของเพื่อนบ้าน พูดจาก้าวร้าว แม้แต่ผลัก เมื่อถูกลงโทษ เท่ากับตัดขาด ความสนุก กระทันหัน ครับจิตใจย่อมไม่ชอบ แต่ก็ไม่สามารถขัด ผู้ใหญ่ ครูหรือพ่อแม่ นี่ดีนะก่อนโน้นคงถูกตุบ ผู้ใหญ่อย่าลืมบอกการลงโทษ ที่จริง Time Out มีสิ่งดีๆ ที่มากคนนึกไม่ถึง คือ เด็กสามารถหามุมสงบ ทำใจให้เกิดสติ ไม่จำเป็นต้องลึกถึงสมาธิ เพียงแต่เริ่มคิดสิ่งดีๆ

หลายคน เคยถามผม การลงโทษลูกโดยการห้ามปราม เหมือนกับลูกตอนวัยรุ่นคืนหนึ่ง เด็กๆ เพื่อนหญิงชายโทรมา ประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง ชวนไปเดินเล่นที่หาด ใจอยากไป แม่บอกว่า ดึกแล้ว ไม่เห็นอะไร และอันตรายด้วย เกิดมีคนพาล เราเป็นเด็กจะเดือดร้อน มากกว่าสิ่งดีๆ รอไว้พรุ่งนี้เช้า เป็นวันหยุดโรงเรียน จะไปกันแม่ไม่ว่า ลูกหงุดหงิด หันมาถามผมผู้เป็นพ่อ คำตอบแม่เขาให้เหตุผลแล้ว พ่อเห็นด้วยกับแม่ อดคิดในใจบ่อยครั้งตัวพ่อเองยังเอาตัวไม่รอด อยากจะพูดประชดตัวใครตัวมัน ลูกชายหันไปถามพี่สาว คำตอบดึกแล้ว ไปอ่านหนังสือ หรือเล่นคอม

การห้ามปราม จะคิดว่าเหมือน Time Out ได้ไหม ไม่เหมือนทีเดียว Time Out ส่วนมากจะเป็นเรื่องของพฤติกรรม ที่เล่นหรือรบกวน ลงโทษไม่นานก็กลับมาเล่นได้อีก ครับรักลูก อยากเห็นการเดินทางไปสู่ปลายทางตามความปรารถนา ก็ต้องตั้งมั่นกายใจเราให้เวลา มีความผูกพัน ทุกครั้งความอ่อนโยนจะมีผลในทางดี

เดินเข้าพิพิธภัณฑ์ เช็คบัตร ถ้าไม่มีก็เร่ไปยืนแถวซื้อ พอผ่านประตู ห้องทางซ้าย เป็นแผนกขายของ ครับเด็กเล่นที่พิพิธภัณฑ์หมดเวลายังติดใจ อยากได้รบเร้าพ่อแม่ วัยนี้พ่อแม่ตามใจ เพราะคิดว่าอุปกรณ์การเล่น นอกจากจะให้ลูกเพลิน ไม่เอะอะ รบกวน ยังเพาะความรักที่จะใฝ่ความรู้ เหมือนพ่อแม่กลับบ้าน ทานอาหารเสร็จ อ่านหนังสือ หนังสือมากประเภทตั้งบนโต๊ะ ลูกๆ เห็นรับรู้ทุกวัน โตขึ้นไม่ต้องบังคับก็จะชอบอ่าน หลายคนฟัง ข้องใจ จริงหรือเปล่า ที่จะรักการอ่านทุกคน ผมไม่กล้าลงความเห็น 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะอะไรๆ ในโลก ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่อยหรอก ผมเพียงแต่บอกว่า บรรยากาศรอบๆ ตัวจะกระตุ้นให้เด็กรับรู้ มีเวลาอาจเร่ไปที่โต๊ะหนังสือ ตอนแรก อาจดูรูป ดูของเล่น ดูอาหารที่อยากกิน จะได้บอกแม่ถูก แม่ลูกเห็นขนมในหนังสือแม่ กล้วยทอดทั้งลูกตัดเป็นก้อนกลมๆ มากับไอศกรีม แม่ทำให้ลูกได้ไหม อยากทาน จะแลกกับการเป็นเด็กดี อ่านหนังสือ ช่วยแม่ถูบ้าน ถอดเสื้อ ถุงเท้า กระโปรง และกางเกง จะไม่โยนไว้ตามมุมห้อง จะนำไปใส่เครื่องซัก นะแม่นะ รักแม่มาก แม่ดึงลูกมากอดรัด แม่ก็รักลูกมาก ครับบอกเถอะว่ารัก

ครับเริ่มต้น เกิดจากสิ่งที่เป็นความชอบภายนอก พอเริ่มอ่าน รับรู้ความเป็นไปกว้างขึ้น สนุก การ์ตูน นวนิยาย อเมริการ้านหนังสือจะมีหนังสือนิยายเหมาะกับวัยของเด็กเยอะแยะ ผมพาหลานไปบ่อยตามร้านหนังสือ แต่ใจยังไม่รักการอ่านนวนิยาย แต่ชอบการ์ตูน และของเล่น ครับเพราะเชื้อของสิ่งดีๆ จะไม่ไปไหน เติบโตตัว กายใจจะไปทางดีงาม

ส่วนตัวผมและภรรยา มีโลกส่วนตัวกับหนังสือ ภรรยาผมชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับสุขภาพมาก เวลาผมป่วยเล็กๆ น้อยๆ เมียจะเตรียมยาไว้ให้ พอหายป่วย เทศน์กัณฑ์ใหญ่ เราต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้กับชีวิต ผมงงหมายความว่าอย่างไร เธอชอบกินขนมของหลาน ไม่สนใจการออกกำลัง อาหารที่กินตามใจปาก มากสิ่งทำร้ายร่างกาย ผมสบตายอมรับ ภรรยาก็ชอบอ่านนิยายโดยเฉพาะคนแต่งชื่อ ทมยันตี ชื่นชอบนอกจากอ่านยังอยากเก็บไว้เป็นสมบัติ ผมเคยอ่านชอบมากเหมือนกัน ท่านมีความสามารถและสอดใส่ความคิดทางพุทธศาสนาไว้มาก

ผมชอบไปร้านหนังสือ ช่วง 10 ปี อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง จะไปร้านหนังสือ หรือไม่ก็ร้านโกรเซอรี่ หาประเภทเม็กกาซีนอ่าน กอล์ฟ อาหาร ผู้หญิง สวนครัว ทำบ้าน และเด็กๆ คนของร้านเดินผ่าน เห็นเอาแต่ยืนอ่าน ไม่ซื้อ ผมคิดว่า พวกเขาไม่สนใจ เพราะคนเราถ้ารักการอ่าน วันนี้ไม่ซื้อ นานวันอาจจะงุบงิบเงิน ไว้ซื้อเป็นสมบัติตัวเอง ชีวิตผมคลุกคลีกับคนมีความคิด เคยได้รับการแนะนำ ทุกอย่างมีสองด้าน ถ้าเราเข้าถึงคุณค่าจะมองเห็นด้านดี และด้านมีคุณเสมอ ถ้ายังมองไม่เห็น ก็อย่าติทันทีทันใด

พอเดินขึ้นบันได อันแรกหลานชอบคือ อยากรู้อะไรเกี่ยวกับโลก ทะเล มหาสมุทร ภูเขา เมือง แม้แต่หมู่บ้าน ผมกดไปที่ประเทศไทย แม่เจ้ากรุงเทพฯ หลายปีมา ขยายเมืองออกไกลออกไป นครปฐม ประทุม อยุธยา ปากน้ำ เคยคิดว่าทำไมคนจึงรักกรุงเทพฯ เมื่ออยู่ห่างไกล เดินทางมากรุงเทพฯ รถติดเสียเวลา ใช้จ่ายเยอะ ผมฝันคลิกไปดูอยุธยา แม่น้ำป่าสัก ตรงข้ามสะพาน บ้านผมยังอยู่ แต่รู้สึกว่าที่ของบ้านถูกรัฐบาลซื้อไปหลายปี บ้านถูกปีบแคบลง แต่ก็ยังน่าหลับนอน

เดินอยู่ใน Hand On 3 ชั่วโมง หลานสนุก ทุกอย่างใช้มือทุบ กด ผลัก ดัน กิจกรรมจะตามมา วันเสาร์ จะมีเด็กมหาวิทยาลัยแอนอาร์เบอร์ แผนกฟิสิกส์ มาตั้งโต๊ะ เอาสิ่งง่ายๆ มาให้เด็กได้สัมผัส และเรียนรู้ สอนปลูกฝัง

ผมอ่าน รายการผู้ออุปถัมภ์ข้างฝา มีเพียงครอบครัวเดียวบริจาคล้านกว่าเหรียญ แต่หลายๆ แสน หลายหมื่นมีเยอะ ครับการบริจาคคือการสร้างสิ่งดีๆ ให้กับเด็กๆ เติบโต ย่อมมีคนเป็นส่วนมากของสังคมมีปัญญา สังคมมีความสงบ พึ่งพา เกื้อกูล พระท่านบอกคนมากเชื้อชาติ แตกต่างความคิดเห็น มารวมกัน ต่างเจตนาสร้างสิ่งดีๆ ต่อกัน จากคำพูดของท่านพรมคุณากรณ์ท่านจะเน้น การทำดีโดยสมบูรณ์ต้องให้คนอื่นได้ทำด้วย แผ่ขยายความดีสู่สังคมนอกตัว ผมไม่มีคำคัดค้าน คนไทย พ.ศ.นี้เยอะที่ร่ำรวย อยากเห็นทำบุญ โดยสร้างสิ่งที่เพิ่มปัญญาให้ลูกหลานคนไทย ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ สนามเด็กเล่น จะให้ทุนการศึกษา ช่วยโรงเรียน สาธุ