ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 15 เมษายน 2566

ทุกวันโดยเฉพาะช่วงเช้า ก่อนสว่างจะถือแก้วกาแฟ ที่บ้านมีหม้อทำกาแฟ แต่ความนิยมของผม ชอบต้มน้ำทำกาแฟโดยหม้อเล็กๆ รินน้ำใส่ในหม้อ กะได้กาแฟ 2 แก้ว ทุกเช้าจะดื่มกาแฟไม่เกิน 2 แก้ว ถ้าจะถามว่าติดไหมไม่น่าจะติดกาแฟ จะดื่มหรือไม่ดื่มความรู้สึกไม่กระวนกระวาย เหตุผลที่ดื่มกาแฟทุกคนแตกต่าง สำหรับผมนอกจากจะเป็นความเคยชิน เช้าตื่นการทำกาแฟเป็นความรู้สึกมีกิจกรรมของชีวิต

คำว่ากิจกรรม อดมองช่วงเด็กๆ เรียนประถม บ้านอยู่ติดริมแม่น้ำป่าสัก ที่บ้านมีต้นมะขามเทศ ครับมะขามเทศการปลูกง่ายไม่ต้องเอาใจ พรวนดิน รดน้ำ ครับธรรมชาติช่วยให้เติบโต ซึ่งผิดกับคน ถ้าขาดการดูแล อบรม สั่งสอน ย่อมขาดคุณภาพของชีวิต ตอนเป็นเด็ก เติบโตกับครอบครัวพ่อแม่เป็นพ่อค้าซื้อข้าวเปลือก ผมเติบโตแม่อบรมสั่งสอนมากกว่าพ่อ “คงจะเป็นชีวิตจริงของเด็กเกือบทุกคน” เติบโตกับการอุ้มท้องของแม่ แม่นอกจากรัก ห่วงใย จะสั่งสอนตลอดเวลา เพศแม่มีความห่วงใย ดูแล อบรม คำพูดที่ได้ยินเป็นเด็กดีนะลูก

ตอนเป็นเด็กแม่กวดขันเรื่องเรียนมาก ทุกวันต้องอ่านหนังสือ ทำการบ้านให้เสร็จ ถ้าไม่รู้อะไรแม่สอนอบรม ตอนเป็นเด็กชอบอ่านหนังสือ ตอนเช้ามืดมากกว่าหัวค่ำ ช่วงโน้นเกิน 75 ปี ทุกบ้านยังไม่มีไฟฟ้า ใช้ตะเกียง เวลาตะเกียงที่จุดเกิดจากน้ำมันและไส้ คำว่าไส้ตะเกียง ทำจากผ้า จะทำแบน กว้างประมาณนิ้ว หรือเอาผ้าแบบเส้นด้ายโตหน่อยม้วนกลม ทำเป็นไส้ตะเกียง จุดไฟ ให้ความสว่าง แต่สิ่งสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพ ตะเกียงมีควันเยอะ นอกจากทำให้ง่วงนอน ควันยังเป็นเขม่าเข้าสู่ร่างกายเกาะตามปอด อาจเป็นโรคมะเร็งได้ ผมจึงเลือกตื่นแต่ตี 5 ตามแม่ ท่านจะลุกแต่เช้า หุงข้าว ทำแกง เหตุผลง่ายๆ ทุกวันก่อน 7:00 AM พระจะเดินบิณฑบาต การที่พระมาบิณฑบาต ชาวบ้านเรียกว่า พระมาโปรดสัตว์ คำว่าโปรดสัตว์ พระท่านไม่ได้เพียงให้ฝ่ายเดียว คือพระเป็นผู้ถือศีล ศึกษาธรรมะ ที่เรียกคุณธรรมของชีวิต การที่พระมาบิณฑบาต สิ่งสำคัญชาวบ้านมีจิตนึกคิด เรื่อง “คุณความดี” ตื่นแต่มืด หุงข้าว ทำกับข้าว ไม่เพียงทานในครอบครัว เจตนาของจิตซึ่งเป็นส่วนประกอบด้วย คือการตักบาตร การตักบาตร ถวายพระเป็นตัวแทนให้ศาสนานอกจะยืนยาว จิตยังได้รับการพัฒนาคุณและโทษ การทำบุญตักบาตรบุญจะครบองค์ ไม่เพียงแต่เป็นผู้ให้ แต่สำคัญจิตต้อง “บริสุทธิ์”

ผมจะตื่นตามแม่ ถือหนังสือไปนั่งนอกชานบ้าน มีหลังคา แต่ไม่มีฝา หลังคาจำเป็น กันแดด ลม ฝน ผมชอบนอกชาน นั่งพิงฝาบ้าน เหยียดเท้า ตามลำน้ำ ครับลำน้ำ ช่วงผมเป็นเด็ก เป็นภาพกิจกรรมของชีวิต ทุกเช้าจะมีเรือหาปลา บางคนทอดแห บางคนตกปลา เด็กๆแถวบ้าน ถ้าเรียนมัธยมต้องนั่งเรือจ้าง เรือจ้างไม่ใหญ่ จุคนได้ประมาณ 6-8 คน มีหลังคา และการเคลื่อนตัวของเรือจ้าง เกิดจากคนแจว แต่ผมและน้องๆ ไม่ได้นั่งเรือจ้าง พอเริ่มเรียนมัธยม แม่ก็ส่งไปอยู่กรุงเทพฯ น้องชายไปอาศัยบ้านญาติ ส่วนผมแม่ส่งไปเป็นศิษย์วัดราชบพิธ อยู่กับสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 18 ของกรุงรัตนโกสินทร์ ผมมีความคุ้นเคยกับท่าน โรงเรียนประถมชื่อโรงเรียน “วาสนานุกูล” คำว่า “วาสนา” เป็นคำต่อท้ายท่าน ท่านบ้านอยู่ติดกับบ้านผม ผมเรียนโรงเรียนนี้ ที่สนิทกับท่านผมเป็นเด็กเรียนได้ที่ “หนึ่ง” ทุกปี ได้รางวัลจากสมเด็จ พอจบมัธยมสอบชิงทุนจากกระทรวงศึกษาได้

การเป็นเด็กวัด อาศัยข้าว ได้รับการอบรมตลอดเวลา ท่านสอนว่าเด็กต้องขยันอ่าน เรียน ท่านเป็นตัวอย่างท่านชอบอ่านหนังสือ ทุกคืน 8:00 PM ท่านจะเดินแกว่งแขนในกุฏิเป็นการออกกำลังกาย ครับพระสงฆ์ โดยปกติเช้าจะออกเดินบิณฑบาตนอกจากชาวบ้านทำอาหาร ตักบาตร จะได้บุญ “คือความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่” ถือว่าเป็นการออกกำลังกายด้วย

คงจะเหมือนผมตอนนี้จะตื่นประมาณตี 5 ออกกำลังกายบนเตียง ประมาณครึ่งชั่วโมง จันทร์-ศุกร์ จะไป วายเอ็มซีเอ ไปออกกำลัง คนซื้อตั๋ว คือลูกชาย ด็อกเตอร์พหล สุขกสิกร ซื้อตลอดปี ลูกจะบอกกับพ่อแม่ตลอดเวลา ต้องออกกำลัง ไม่เพียงกายทำให้สุขภาพของชีวิต มือ แขน ขา แม้กระทั่งความคิด ยังจะอยู่กับเรา อย่างผมวันนี้ วัย 83 ปี ยังขับรถได้ดี ลูกสาวแพทย์หญิง สุภัคร ซื้อรถ Chevy Bolt ตัวเล็กให้ ยังชอบอ่านหนังสือ ทุกเช้าจะออกไปหลังบ้าน กวาดใบไม้ ผมกำลังทำห้องแบบทรงไทยเป็นที่อาบน้ำร้อน ช่วงนี้ปิด ผมทำเป็นอาร์ทแกลอรี่ “ภาพที่นำมาติด” ซื้อบ้าง เก็บมาบ้าง เอารูปครอบครัวมาติด ภาพที่ผมนำมาติด เป็นภาพวาดบ้าง ถ่ายบ้าง เป็นวิว บ้าน และมีรูปครอบครัว แม้แต่ในหลวง สมเด็จพระสังฆราช การทำอาร์ทแกลอรี่ ทำให้ผมพัฒนา มือ ขา และความคิด การเดิน ดูภาพช่วงจิตจะว่าง

รูปภาพต่างๆ ผมเลือกซื้อมือสอง ครับการทำงานของ “อาร์ท” ทำให้ชีวิตพัฒนาจิตวิญญาณของชีวิต

สำหรับผม มองสิ่งที่ผมกระทำจะกวาดพื้นหลังบ้าน ทำอาหาร ดูแลกิจกรรมของชีวิต “มันคือการพัฒนาชีวิต” ครับพอผ่านเข้าวัยชรา ทุกสิ่งหย่อนยาน สึกหรอ ถ้าปล่อยให้ธรรมชาติพัฒนาตัวเอง การดำรงอยู่ของชีวิตที่สามารถช่วยตัวเองได้ จะขาด สึกหรอ ยิ่งปล่อยวันเวลาให้ล่วงเลย โดยไม่พัฒนาตัวเอง หลักกายภาพของชีวิตคน ปลายทางชีวิต ร่างกายจะเสื่อมเร็วกว่าวัยเด็ก หนุ่มสาว และกลางคน เราต้องดูและออกกำลังกายและพัฒนาความคิด

วันเวลานี้ วันที่ 31 มีนาคม 23 ฝนหายหน้า มานั่งเขียนหนังสือที่โต๊ะ โชคดีบ้านอยู่ทางลงภูเขา สูงสามารถมองลอดหน้าต่างเห็นบ้าน ร้าน 7-11 รถวิ่งไปมามองไกล เห็นอ่าวซานฟรานซิสโก เช้าก่อน 9:00 AM อากาศใส ไร้หมอกควันและเมฆ เห็นเรือใบ ออกแต่เช้าสะพานเบย์บริดจ์ และตึกสูงๆของเมืองซานฟรานซิสโก

ถ้าถามผมชอบซานฟรานซิสโกไหม ชอบมาก ตัวซานฟรานซิสโก เป็นแหลม ล้อมรอบด้วยทะเลภายในเป็นอ่าว วันหยุดจะมีคนแล่นเรือใบ พูดถึงเรือใบ ผมมีหลานชาย อายุ 14 ปี ชอบแล่นเรือใบ ฝึกหัดบ่อย เคยเป็นแชมป์คาราเต้ เรียนหนังสือเก่ง เคยพูดกับผมเมื่อปีที่แล้วว่าจะเป็นหมอเหมือนพ่อแม่ และอยากไปเรียน ฮาวาท (Harvard) ครับส่วนตัวผมเชื่อความคิด เมื่อตั้งใจ ย่อมพบกับโอกาสแน่นอน เหมือนผมตอนเรียนปริญญาตรี คิดมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยในอเมริกา ถ้ามีความฝัน ขยัน อดทนมานะ ผมก็ได้มาเรียนที่ ออริกอน (1969) ระหว่างหยุดภาคเรียนจะหิ้วกระเป๋ากางเกง 2 ตัว เสื้อ 3 ตัว ท่องเที่ยวไปที่ต่างๆ

ผมอยากเล่าเรื่องการศึกษา ถ้าพ่อแม่กล้าลงทุนกับลูก ส่งโรงเรียนดีๆ เด็กโอกาสพัฒนามีมาก อย่างแม่ผมส่งผมและน้องๆมาเรียนกรุงเทพฯ ภรรยาผมคุยกับผมส่งลูก 2 คนเรียน “โรงเรียนเอกชนดีๆตั้งแต่เด็ก” แม่บ้านบอกว่า เราทำงานหนัก ถ้าจะลงทุนกับการศึกษาของลูก เราก็ต้องลงทุน เหมือนลูกสาวผม เดินตามทางแม่เขาเกี่ยวกับลูกๆ การส่งเรียน หลานผม 3 คน เรียนโรงเรียนเอกชน ชื่อ Country Day เล่นกีฬาเด็กๆจะเรียนโดยการท่องเที่ยวด้วย ปกติหลาน 3 คน ชอบมาอยู่กับผม แต่ปีนี้หลานชาย คนโต ต้องอยู่บ้าน เตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย

เหมือนกับวัดไทยในอเมริกา มีโรงเรียนสอนภาษาไทย ครับโอกาสดี สำหรับลูกหลานพาไปเรียนเถอะครับ การศึกษานอกจากจะพัฒนาศักยภาพของเด็ก คือ สร้างความคิดเห็นในการพัฒนาชีวิตรู้จักมองความเสมอภาค ทัดเทียม