ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 29 เมษายน 2566

เกือบ 8:00 AM นำกาแฟ ยี่ห้อ “เฟรนส์โรส” ครับนิยมกลายเป็นความชอบ การพัฒนาชีวิตเกิดจากจิต จิตของคนคือความคิด ความคิดจะมาจากจิตใต้สำนึกก่อน ความเห็นของผม จิตใต้สำนึก น่าจะเป็นกระบวนการแตกต่าง 2 อย่าง อย่างแรกเป็นสิ่งที่ไม่ได้สัมผัส คือ ความรับรู้มาก่อน แต่สัมผัสจากความคิดถึง กับอีกช่วงเป็นประสบการณ์ที่เราสัมผัส กระทำมาแล้ว แต่กาลเวลาผ่านมานาน ความคิดก็ไม่เคยแพร่งพรายออกมาอีก จนกระทั่งวันที่เราอยากได้มัน

ทุกเช้ากาแฟขมๆ ร้อนๆ ดื่มทุกวัน พอดื่มกาแฟท้องเตือน นายครับควรมีอาหารเบาๆรองท้องด้วย อาทิตย์ละอย่างน้อย 5 วัน ผมจะดื่มกาแฟ และครัวซอง 1 ตัว ครัวซองซื้อมาจาก “คอสโก้” ครับของมากสิ่งผมซื้อจากคอสโก้ อย่างกาแฟ น้ำตาล แม้แต่น้ำมันคุ้กอาหาร พอถึงวันนี้ไม่ได้ไปคอสโก้บ่อย เหมือนหลายปี อย่างเติมน้ำมันรถ พอใช้รถไฟฟ้า ความสะดวกในการชาร์จแบตเตอรี่ ก็ทำที่บ้าน แต่รถใช้น้ำมันก็ยังมีอยู่ ใช้รถฟอร์ตเอ็กโพลเลอร์ ทั้ง 2 คน ลูกสาวเป็นผู้จัดสรรให้ และให้เครดิตคาร์ดไว้ใช้ด้วย สำหรับเครดิดคาร์ด ผมแทบไม่ใช้ ยิ่งช่วงเดือนสองเดือน ผมเริ่มไม่ค่อยอยากใช้เงิน ครับคงจะพัฒนาจาก “วัย”

หลายคนบอกผมว่า ดื่มกาแฟ เข้าห้องน้ำบ่อย มีเพื่อนรู้จักมานานมาก ถามผมเรียกผมว่า “เฮีย” ดื่มกาแฟแล้วเข้าห้องน้ำบ่อยไหม คนถามผมเขาบอกว่า เข้าห้องน้ำบ่อย ส่วนตัวผมเข้าห้องน้ำตอนนอน 2-3 ครั้ง ไม่รู้จากกาแฟเป็นส่วนกระตุ้นด้วยหรือเปล่า แต่ที่แน่นอน ผมจะดื่มน้ำ 2-3 แก้ว เย็นก่อนนอน ครับการตื่นบ่อยถ้าเกิดจากดื่มน้ำก่อนนอน หรือดื่มกาแฟ ผมสรุปส่วนตัวช่างมัน ทั้งคู่เป็นส่วนของชีวิต อดคิดทางบวก ตื่นเข้าห้องน้ำดีกว่าไม่ดื่มน้ำและกาแฟ

เคยมีเพื่อนคนเดิม ถามผมแล้วเฮีย ชาโดเนย์ เย็นค่อนแก้วช่วงดินเนอร์ หรือเปล่าอาจจะผสมเฮโรให้เข้าห้องน้ำ ผมบอกว่าผมไม่ได้ดื่มมานานแล้ว เปล่าเลิก แต่คิดว่าจะดื่มเมื่อเริ่มเฮฮา เมื่อวานไปเปิดห้องหลังบ้าน ลูกเก็บเหล้าดีๆ และไวน์ เป็นของที่ผมเคยสะสม มองเห็นบนชั้นเยอะ ความนึกคิดอยากดื่ม ไม่สำแดงความรู้สึก เลยสรุปหยุดดื่มก็กลายเป็นความปกติของชีวิต ถ้าผมเล่าเรื่องราวต่อเจ้าอาวาสวัดพุทธานุสรณ์ ที่ผมคุ้นเคยกับท่าน คงจะอนุโมทนาบุญ พระปกติจะไม่ห้าม เพียงแต่บอกว่า “โยมเวลาดื่ม อาจขาดสติได้”

ครับเช้านี้อากาศใสไร้หมอก มองเห็นตึกเมืองซานฟรานชัด สะพานเบย์บริดจ์รถยังเยอะ ทะเลภายในเขียว ยังเช้า กีฬาเรือใบยังหาไม่เห็น ครับเขาบอกกันว่า คนแล่นเรือใบ เป็นคนมีสตังค์ ครับเรือต้องเสียเงินค่าจอด แต่ละครั้งออกเรือต้องเช็คเครื่อง หรือใบเรือที่โล้แทนเครื่องยนต์ ให้ลมทะเลเป็นผู้ช่วยให้ เรือวิ่ง ครับการโล้เรือใบต้องมีความรู้ เข้าใจการควบคุม ใช้ทิศทางของลมให้เรือวิ่งไปได้ทุกทิศทาง เกิดจากความสามารถสับเปลี่ยนใบที่ใช้ลมวิ่ง

ครับพูดถึงเรือใบ คงละสังขารโดยขาดประสบการณ์ แต่ถ้าพูดถึงพายเรือ แม้แต่ควบคุมหางเสือ เรือใหญ่ๆ ในแม่น้ำป่าสัก ผมมีประสบการณ์ โดยเฉพาะพายเรือ จะเรือเล็กอย่างเรือ “บด” หรือเรือสัมปั่น มีประสบการณ์

ละสายตา หยิบอาหารเช้าในจาน วันนี้มีอาหารพิเศษ นำแยมสไลด์แบบโปเตโต้ คลุกกับเนย เหยาะซอสพริก คลุก นำสไลด์เบค่อน 4-5 ชิ้น วางในถาดเดียวกับโปเตโต้ แต่วางบน Foil ก่อนน้ำมันที่ออกจาก เบค่อนจะได้ไม่เพิ่มให้มีไขมัน บนสไลด์โปเตโต้ ครับช่วงชีวิตวันนี้ 83 ปี จับพุงเคยอุดมสมบูรณ์ด้วยไขมัน วันนี้หายหน้า ทำให้สุขภาพดีขึ้น ยังเดิน เมื่อวานไปข้างบ้าน ตัดกิ่งไม้ที่ย้อยต่ำกว่า 15 ฟุต เพราะเมือง El Cerrito เขียนจดหมายมาถึงผม ว่า กิ่งและใบ บางต้นย้อยต่ำ เป็นอันตรายต่อรถ ควรตัด

ในถาดอบเติมไข่ลงไปด้วย 2 ใบ ครับอาหารเช้าวันนี้ “พิเศษ” ปกติทานอาหารเช้าง่ายๆ บางวัน ทานคอนเฟลกใส่นม เติมน้ำผึ้งนิด ครับอร่อยอยู่ได้หลายชั่วโมง

เงยมองบ้านรอบๆ บ้านถนนตรงข้ามทางซ้ายมือ น่าจะเป็นบ้านคนสูงอายุ ดูได้ ปล่อยหญ้าสูง ปกติชาวบ้านทั่วไปจะดูและหญ้า สวนบ้านตรงข้ามทางขวามือ บ้าน 2 ชั้น ปู่ย่าเป็นชาวญี่ปุ่น น่าจะเกิดเติบโตที่นี่ ปลูกต้นไม้ ญี่ปุ่นต้นออกดอก สีชมพู เต็มต้น สวยงาม ครับธรรมชาติมอบความสวยงามให้ชีวิตเสมอ อย่างแดดวันนี้ใสให้ความอบอุ่นแต่เช้า ต้นไม้มากมายหลังบ้านอาศัยแสงแดดเติบโต สังเคราะห์ชีวิต และน้ำ

แถวบ้านมีต้นสูงระดับหญ้า บ้านผมและอีกหลายบ้าน จะออกดอกสีเหลือง ติดทางเดินสวยงาม ความสวยงามของธรรมชาติ ยังให้จิตใจสงบ เมื่อจิตไม่ฟุ้งซ่าน ถ้าจะนั่งศาลาหลังบ้าน มองเฉพาะทะเลภายใน และช่วงเย็นจะเห็นดวงอาทิตย์ตก สิ่งที่เห็นเป็นเพียงพฤติกรรมของธรรมชาติ นั่งขัดสมาธิ ตัวตรงวางมือทั้งสอง หงายฝ่ามือ หลับตา ใจไม่คิด สงบ ว่าง ถึงจะไม่บังเกิด “นิมิต” เพราะใจยังไม่ถึง แต่ความสุขสบายทางใจจะบังเกิด

ผมมองรอบๆโต๊ะ เขียนหนังสือ อ่านหนังสือ บ่อยครั้งจะนั่ง ยกเท้าพาดโต๊ะปล่อยใจไม่ฟุ้งซ่าน ทางหน้าต่างทางซ้ายมือจะมีแก้ว 2 ใบ มีปากกามากมาย ปากกาเป็นอุปกรณ์เขียนหนังสือ มากปากกา หยิบมาใช้หมึกไม่ออก ครับวันเวลาที่ยาวนาน ตากแดด ลอดหน้าต่าง ไม่ได้ใช้เปรียบกับคนไม่เดิน ใช้เท้า เข่า ขา และจิต ความยุ่งยากย่อมเกิด คงจะเหมือนปากกา มากด้านหมดสภาพ หมึกแห้ง ใช้ไม่ได้

ครับทุกสิ่งในโลกจะมีชีวิต หรือไม่มีชีวิต เวลาผ่านแต่ละวัน สังขารร่วงโรย และหมดวาระของประโยชน์ ทางขวาของโต๊ะ แม่บ้านเอากระถางกล้วยไม้ 8 กระถางมาวางติดกัน มีแจกันทรงสูงใหญ่ แม่บ้านเอาพุทธรูปสูง 1 ฟุต นั่งสมาธิวางสูงบนแจกัน ชีวิตผมเติบโตในวัด “ราชบพิธ” อยู่กับสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 18 อาทิตย์ละ 3 คืน ประมาณ 2 ชั่วโมง ท่านจะถามการเรียน ปกติผมเป็นเด็กเรียนดี คุ้นกับสมเด็จเพราะได้รางวัลที่ 1 มา 4 ปี จบสอบได้ทุน หลังจบมหาวิทยาลัย หาทางมาเรียนมหาวิยาลัยออริกอน (1969) เกิดจากสมเด็จ แม้แต่การเดินทางใช้ชีวิต ค่ำไหนนอนนั่นในยุโรป ปี 1973 เกือบ 3 เดือน เกิดจากสมเด็จปลูกฝังสิ่งดีงามของการปลูกฝัง สืบจากพันธุกรรม มาถึงลูกสาว หมอสุภัคร กับลูกชาย ด็อกเตอร์พหล

ผมมองภาพ หลานชาย 3 คน อายุ 12-14-16 วันนี้เดินทางไปยุโรปกับพ่อแม่ ครับการเดินทางเรียน รับผิดชอบสังคม เกิดจากพันธุกรรมที่เรียกว่า “ยีนส์” ผมรับจากพ่อแม่ ลูกผมรับจากผมและภรรยา หลาน 3 คนรับจากพ่อแม่เขา

การเชื่อเรื่องพันธุกรรม เป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่ที่สำคัญ คือ การอบรม สั่งสอน และสำคัญ “คือการศึกษา” หลาน 3 คน พ่อแม่ส่งเรียนโรงเรียนเอกชนดีๆ ถึงจะจ่ายเงินเหมือนแม่บ้านและผม เราเชื่อ การศึกษาโดยเฉพาะ โรงเรียน ครู เพื่อนๆจำเป็น ครอบครัวมีทัศนคติเป็นหนึ่งเดียว “ลงทุนทางการอบรมลูก” สั่งสอน ผิดสอน เตือน ส่งโรงเรียนดีๆ สานต่อพฤติกรรมของลูก อยากเรียนอะไร คนรุ่นเก่าจะมองว่า “เก็บเงินไว้ให้ย่อมดีกว่าการลงทุนจ่ายค่าเล่าเรียน” ผมเงยหน้ามองต้นไทร ติดกับแขนขวา กิ่งก้านมากมาย สูงติดเพดาน มองดูทำให้ใจ “สงบ”