ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
โรงเรียนของแม่ ตอนที่ 16

แม่เอ่ยถามตอนเย็นนั่งบีบแม่อยู่ชานเรือน คนอายุมาก ถึงจะทำงานน้อยลง สุขภาพร่างกายต้องการบีบนวดและเดิน เพื่อให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่น เคยอ่านคนไทยมากคนเป็นโรคไหล่ติด หมายถึงทุกวันตื่นเช้า อย่างดีก็ชงกาแฟผง หยิบของสต๊อกไว้เมื่อวานตอนเย็น ซื้อติดมือจากปากซอยเข้าปาก อาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน นี่ยังดีรถเมย์แน่นแต่เช้า มือโหน เวลารถเบรคตัวแอ่นไปมา คิดดีๆ ให้กับตัวเออก็ดีเหมือนกันแต่ละวัน ร่างกายไม่ค่อยออกกำลัง แล้วเอ็นเส้นสายจะยืดคลายได้อย่างไร หลายคนบอกว่าทำงานใช้แรงงานก็ใช้ได้ถือว่าออกกำลัง แต่ข้อแม้ทำงานจิตใจไม่โปร่งโล่ง ฮอร์โมนจากสมองผลิต อาจไม่ประเภทสุขใจเสียทีเดียวคนเลยเริ่มมีปัญหา แขน ไหล่ ทำงานไม่คล่องเหมือนยึด เลยพาลคิดมากโรคจิตกลายมาผสมโรง

เป็นหลักความจริง คนไม่มีงานทำแต่ละวันนั่งจุกอยู่กับบ้าน ต่างก็คิดเออก็ดีไม่เหนื่อย นี่ยังดีเมียยังขยัน เป็นหัวหน้าบ้าน ทำงานหาเงิน จ่ายตลาด ทำอาหาร ดูแลลูก ถึงชีวิตจะอยู่ภายใต้การดูแลของเมีย เพื่อนบ้านมองสีหน้าแสดงเย้ยเยาะ ผู้ชายอะไรเกาะเมียกิน ผู้ชายอย่างเขาถึงจะรู้แต่ก็ยิ้ม เพราะมันคือความจริงที่ไม่สามารถพลิกตัวได้ ที่อ้างเมื่อไม่ทำงานไม่เคลื่อนย้าย มากสิ่งที่เป็นส่วนประกอบของกายก็ยึดติด เรื่องเกาะเมียกิน มีทุกชาติทุกภาษา แม้ประเทศเจริญนอกจากเกาะเมียยังเกาะรัฐบาล

ตอนเย็นนั่งคุยกับแม่ ความรู้สึกสุข ยอมรับไม่บ่อยนักที่มีโอกาสนั่งคุย ถือโอกาสบีบนวดแม่ ตอนเป็นเด็ก ตอนก่อนนอนพ่อแม่จะให้เดินเหยียบท่าน พอโตหน่อยน้ำหนักมาก เวลาเหยียบขาข้างหนึ่ง เหยียบบนฟูก ขาอีกข้างเหยียบ ขา แขน หลัง พ่อและแม่บอกว่าเหยียบแล้วสบาย เคยขอบางอย่างเวลาเหยียบ อารมณ์ผ่อนคลาย พ่อแม่จะให้ตามที่ขอ ยกเว้นราคาแพง

คนอายุมาก ถึงจะทำงานน้อยลง เส้น กล้ามเนื้อยึด การเหยียบ นวดเท่ากับคลายกล้ามเนื้อ คนอายุมากบ้านเราถึงจะรับราชการ ยิ่งชาวไร่ชาวนา พออายุเกษียณ 60 ปี ความรู้สึกแก่ จะเดินออกกำลัง เอโรบิค หรือนั่งรถเมย์ไปเดินห้าง ความรู้สึกว่าไม่เหมาะ การเดินห้างเป็นเรื่องของเด็ก คนหนุ่มสาวไทย ความคิดเหมารวม เห็นพ่อแม่อยากออกจากบ้าน ห้ามปราม ออกข้างนอกเป็นลม เหนื่อย ใครจะดูแลและช่วย เลยเท่ากับห้ามไม่ให้พ่อแม่ มีกิจกรรมเสริมสร้างพลังกายใจ อดพูดประชดเมื่อเป็นอย่างนี้ความคิดคงจนมุมรอวันตาย

การออกกำลังจำเป็น จะเล็กหรือวัยชราสามารถออกกำลังได้ ขึ้นอยู่กับประเภทของกีฬา อย่างคนจีนที่ไชน่าทาวน์ เมืองโอ๊คแลนด์ เช้าวันไหนแวะซื้อของกิน ก่อนไปสนามกอล์ฟ หรือซื้อของเข้าร้าน จะเห็นคนมากมายออกกำลัง มีคนสอน เคยสองครั้งจอดรถไปผสมโรง รับรู้เข้าท่า เคยเรียนออกกำลังของคนสูงอายุเกี่ยวกับยืดเส้นยืดสาย และก็เคยเข้าคลาสเสียเงิน เล่นโยคะ ครับทุกสิ่งที่กล่าวยอมรับดีสำหรับสุขภาพ แต่พ่ายความเกียจคร้าน คงมีหลายคนเออออกับผม เอาผมเป็นและฉันเป็นพวกเดินบุกป่าของความเกียจคร้านด้วย

แม่เคยถามผมเกี่ยวกับลูกๆ คือหลานของแม่อยู่อเมริกาหลานเล่นกีฬา เล่นดนตรีไหม ตอบกับแม่มีเล่นครับ คนทั่วโลกจากเด็กถึงผู้ใหญ่มีกีฬาเล่นเหมือนกัน และแตกต่างกันแม่ถามเองจำได้ไหม ตอนเป็นเด็กเอ็งขอเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆ แม่อนุญาต เด็กๆ ตอนอยู่ประถมเล่นฟุตบอลก็เพียงสนุก ออกกำลัง และที่แม่ชอบคำว่าทีม ฟุตบอลแม่บอกว่าเวลาเล่นแบ่งสองทีม แต่ละทีมต่างมีความสัมพันธ์กัน ส่งต่อลูก ยิงประตู สิ่งที่แม่ชอบคือเมื่อรู้จักเล่นกีฬาย่อมต้องรู้กฎเกณฑ์ของการเล่น ไม่เพียงเล่นถึงเวลาเป็นคนดูย่อมดูเป็น รู้จักแพ้ชนะ ให้อภัย แต่การเล่นแล้วหาโอกาสใช้กำลังทำร้าย แม่คิดว่าไม่น่าให้อภัย เมื่อเป็นผู้เล่น ผู้ดูก็ต้องรู้จักกติกา การรู้จักและปฏิบัติตามกติกาคือ ความเป็นนักกีฬา หลายประเทศเขาเน้นการเล่นที่ดี ดูกีฬาเป็น คือสุภาพชน

แม่อยากให้ทุกคนเป็นสุภาพชน จะได้ไม่ต้องทะเลาะ เวลาเล่นและดูกีฬา เมื่อเราพัฒนาจิตใจ จะรวมถึงการมีชีวิตตามปกติด้วย โดยเฉพาะการเมืองบ้านเรา แบ่งเป็นสองฝ่ายจริงจังเรื่องถือหาง ไม่ว่ากันถ้าสิ่งที่เราศรัทธากระทำความดี ต่อการพัฒนาประเทศชาติ แต่สิ่งที่เราเห็น เราทะเลาะกันมาตลอดเวลา บ้านเมืองถูกลักขโมยสมบัติของชาติที่เป็นสาธารณะประโยชน์ อย่างป่าไม้ ลุกล้ำที่สงวน ทำลายแหล่งน้ำ โดยเฉพาะแหล่งธรรมชาติ ที่สวยงามควรเป็นของคน ได้เดิน ได้นั่ง ได้สนุกกับเพื่อนถูกผู้มีอิทธิพลยึดเป็นเจ้าของเอาเปรียบ

ตอนลูกขอเล่นกีฬาใหม่ ลูกบอกว่าต้องมีอุปกรณ์อย่างรองเท้า ไม่ต้องเป็นรองเท้าฟุตบอลจริงๆ หรอก ที่มีพื้นเป็นปุ่น ยึดดินได้ดี ไม่ลื่นล้มเพียงรองเท้าใส่ไปโรงเรียน ลูกก็พอแล้วหรือไม่มีเลย เพื่อนๆ ส่วนมากจะใช้เท้าเปล่าวิ่งไล่เตะฟุตบอล ครูบอกว่าเออก็ดีเหมือนกันเพราะพวกเรา จะซื้อรองเท้าก็แพง และเท้าเปล่าเวลาแย่งลูก อุบัติเหตุเกิดได้ จะได้ไม่เจ็บขา จริงไหม ครูบอกทุกคนยิ้ม สำหรับลูกบอลแพง ครูพยายามหาเงินโดยเรี่ยไรซื้อ พวกเธอจะบอกพ่อแม่ขอเงินบ้างทางโรงเรียนยินดี แต่ถ้าไม่มีครูมองหน้าแล้วยิ้ม โรงเรียนคือหลวงเป็นผู้ดูแลซื้อให้ คำว่าหลวงคือรัฐบาล ชาวบ้านชอบพูดคำว่าหลวงไม่ใช่หลวงลุงที่วัดนะ ท่านคงไม่มีความเข้าใจลึกซึ้งที่จะบริจาคเงินหรอก อาจจะพูดว่าเล่นทำไม เหนื่อย แขนขาอาจหัก บวมแล้วก็คงไม่พ้นข้า ทำน้ำมันนวด พรมน้ำมนต์ เสกเป่า

แม่บอกว่า ตอนแม่เป็นเด็กชอบกีฬา วิ่งเปี้ยว มอญซ่อนผ้า ไม้หึ่ง และที่ชอบเป็นพิเศษ แข่งเรือ จำได้ไหมตอนเจ้าเป็นเด็ก แข่งเรือยางระหว่างอำเภอ จะใช้ชื่อวัดของเรือเป็นชื่อ เรือยาวเดี๋ยวนี้แทบจะหมดสมัยแล้ว เรือยาวที่ใช้แข่ง ใช้ไม้ทั้งต้นขุด ยาว เพรียว ท้องเรือต้องไม่กินน้ำลึก และทวนน้ำ คนพายจะมีสองฝั่งเรือ ข้างละเกินสิบคน ส่วนมากคนพายเรือจะใช้คนหนุ่ม ถอดเสื้อถ้าหน้าตาดี มีกล้ามท้อง แขน หน้าอก ปัจจุบันเขาเรียกว่า Six-packs สาวๆ ต้องร้องกรี๊ด เรือแข่งจะมีนายท้ายเรือ เหมือนกัปตันของทีมฟุตบอล เวลาแข่งจะยืน คัดเรือให้วิ่งตามทิศทางที่ต้องการด้วยพาย และอีกคนจะนั่งอยู่หัวเรือ เป็นคนให้จังหวะ ให้กำลังใจ สายตาจะมองคนพายเรือ กีฬาแข่งเรือถือเป็นประเพณี สนุก ฝึกฝน เพิ่มประสบการณ์และเทคนิค

ครับกีฬาแข่งเรือกำลังจะสูญหาย คงจะเหมือนกีฬามากมายในสังคม หน้าที่ของคนที่รับผิดชอบ อาจจะคิดว่ากีฬาที่เด็กชนบท อย่างทอยกอง ลูกข่าง วิ่งเปรี้ยว มอญซ่อนผ้า หายสาปสูญ เพราะไม่ทันสมัย ที่จริงคำว่ากีฬาเล่นแล้วสนุก เป็นกลุ่ม และคำนึงถึงอุปกรณ์หาง่าย ถูกในราคา แล้วแต่พระคุณท่านก็แล้วกัน ถ้าคิดว่าจะปรับความคิดของคนไทยให้ก้าวทันโลก แต่ไม่ปรับรายได้ ความเป็นอยู่ และสวัสดิการ จะทำอย่างไร เวลาผ่านไปอีกกี่สิบปี ก็ได้เพียงผู้ตาม คงเหมือนประชาธิปไตย

1973 ผมไปยืนริมฝั่งแม่น้ำเทมส์ดูแข่งเรือของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และมหาวิทยาลัยออกฟอร์ด ดูหนังเกี่ยวกับแข่งเรือของมหาวิทยาลัยในแคนาดา อีสโคสของอเมริกา มหาวิทยาลัยยังมีประเพณีแข่งเรือยาว ที่ซีแอตเติ้ลทางเหนือ แข่งเรือแคนนู แต่แปลกเมืองไทยอุดมสมบูรณ์ด้วยน้ำ เรือเคยเป็นพาหนะสำคัญ ปัจจุบันคนพายเรือไม่เป็น เรือหมดความหมาย

แม่ถามผม ครับแม่อเมริกาก็เหมือนทุกประเทศ พ่อแม่ทุ่มเทกายใจเพื่อการเติบโตของลูกในทางกายและใจและสติปัญญา การเรียนรู้ไม่ว่าจะดนตรี สังคม การฟ้อนรำ และการกีฬา กลายเป็นความจำเป็นของชีวิต

บอกกับแม่ ตอนหลานยังเล็กช่วงฤดูร้อน สายขับรถชั่วโมง พาไปเรียนภาษาไทย ดนตรีไทย รำไทย พอไปโรงเรียนอเมริกัน เล่นฟุตบอล ออกกำลัง เล่นกอล์ฟ เหลนของแม่ตอนนี้อายุ 3 ขวบ 5 ขวบ และ 7 ขวบ ผู้ชายทั้งนั้น ไปโรงเรียนเดียวกัน ที่โรงเรียนสอนกอล์ฟ สอนฟุตบอล หลานสองคน 5 กับ 7 จะสมัครกับ วายเอ็มซีเอ เล่นฟุตบอลอาทิตย์ละ 2 วัน

เด็กๆ เดี๋ยวนี้ทุกวันเต็มตาราง มีเรียน และกิจกรรม

แม่คุยว่า เด็กยังเล็ก อย่าหวังผลความสำเร็จแบบรวบลัด การเล่นกีฬา แม้แต่ดนตรี และการเล่าเรียน ต้องค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป อาจชอบและไม่ชอบ เวลาผ่าน เริ่มคล่องตัว มีเพื่อน ย่อมสนใจมากขึ้น ชอบอะไร ย่อมทุ่มเท พ่อแม่คอยสนับสนุน

พ่อแม่ทุกคน อยากเห็นลูก มีชีวิตที่ดี ถ้าเรารู้จักส่งเสริมลูกๆ ตอนยังเยาว์ สิ่งที่เราเห็นว่ายากจะง่ายขึ้น เด็กๆ จะสนใจ และใส่ใจที่สุด แม่มองหน้าผม เออแม่ลงทุนกับเอ็ง ตอนนี้แม่นั่งกินดอกเบี้ยแล้ว