ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 9 มกราคม 2564

ครับผมถือโอกาสเรียกตัวเองด้วยคำสุภาพ หลายคนถามผมเรียกคนอื่นน่าจะใช้คำสุภาพเหมือนกัน ผมยิ้มครับ ปีใหม่ศาสนาวิ่งเข้าสู่ใจ โยมรู้ไหมการดำเนินชีวิตทุกวัน รู้จักมีสติงานที่สัมผัส จะคงทนต่อความถูกต้อง

วันปีใหม่ผมตื่นนอน แม่บ้านเดินออกจากห้อง ผมเอ่ย มีความสุขในปีใหม่นะแม่บ้านยิ้ม พอถึงวันนี้ผมสร้างครอบครัวมาเกือบ 50 ปี ชีวิตมีความสุขตามอัตภาพ คนเราถ้ารู้จักขยัน อดทน เก็บออม ชีวิตก็มีความสุขตามอัตภาพ คือใช้ชีวิตแบบพอเพียง

เหลือเชื่อมาอยู่อเมริกาจากปี 1967 เพื่อนฝูงมากครอบครัว แต่งงานมีลูก และหย่าร้าง การเลิกราในสังคมปัจจุบันเป็นเรื่องปกติ ศาสนาบอกว่า เพราะคนเอาแต่ใจ และติดวัตถุ ผมเป็นเพียงรับทราบ แต่ความเป็นจริงของโลก คนแต่งงานเพราะรักใคร่ผูกพัน อยู่ด้วยกันมากสิ่งชอบสนใจ พฤติกรรมของชีวิตแยกคนละอย่าง จึงเลิกกัน เริ่มต้นชีวิตใหม่ คำว่าเริ่มต้นคือสิ่งดีงามของชีวิต ผมเห็นเพื่อนมากมายเลิกรา แยกกัน แต่ที่เห็นและสัมผัส ฝ่ายหญิงแต่งงานใหม่เกือบทุกราย ที่ผมเห็นสุดท้ายมีความสุข สร้างครอบครัวใหม่ อบอุ่น รักใคร่ รุ่นผมต่างหยุดทำมาหากิน ใช้ทรัพยากร ช่วงร่างกายยังแข็งแรง ขยัน อดออม และสำคัญ พัฒนาจิตใจ การเข้าใจชีวิต คือการเรียนรู้ให้ตัวเอง ครับปลายชีวิตต่างพอใจกับชีวิต ผมอนุโลมสิ่งที่เห็นคือความสมบูรณ์ของชีวิต ครับปีใหม่ ถึงจะเดินทางมาถึงเกือบทุกคนหวังว่าปีใหม่ๆ สิ่งดีๆ ของวันเวลาย่อมเป็นส่วนของชีวิต ผมอดนึกคำสั่งสอนของ “พุทธศาสนาทีสอนว่า” มีความทุกข์ กายใจ ลองใช้ ตัวแก้จากศาสนาคือ ศีล-สมาธิ-และปัญญา ดูความเป็นมงคลจะเข้ามาสู่ชีวิต

ครับที่ผมหยิบยก เรื่องครอบครัวเป็นความจริงรักใคร่ได้ ถึงวันหนึ่งอาจหมดความรู้สึกนั้น แต่ความสำคัญ ความรับผิดชอบต่อกันและลูกก็ยังดำเนินไป

ผมเอาคำพูดของท่านอาจารย์ พระพรหมคุณาภรณ์ ท่านบอกว่า มองดูคน เห็นเขาทุกข์ ความรู้สึก โกรธ แต่ตัวเรามองดูด้วยความมีเมตตา หาทางเกื้อกูล สำหรับปีใหม่ ผมรับพรจากสมเด็จ พระสังฆราชวัดราชบพิธ ผมโตจากวัด ราชบพิธจบมัธยมที่นี่ อยู่กับสังฆราชองค์ที่ 18 โบสถ์วัดราชบพิธสวย ด้านนอกประดับด้วยหินสีเล็กๆ ท่านสอนและเป็นแบบอย่าง ผมรับพรจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.10 จากทีวี พรปีใหม่ของผมชอบดูพระราชกรณียกิจที่พระองค์มอบให้ปวงชน

พรที่ผมชมชอบและถือเป็นสิ่งเป็นมงคล แก่ประชาชนทั่วไป และสามารถ ผนวกเป็นแบบอย่าง คือกล้าต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง เรื่องของคุณยายท่านมีอาชีพค้าขายที่เมืองระยองวันนั้นท่านายกมาเมืองระยองให้กำลังใจ คนติดโรคโควิด มีนายไมค์และพรรคพวก มาก่อความไม่สงบ คุณยายที่กล่าว กล้าเผชิญหน้าพูดกับนายไมค์ ว่ามีแต่ทำความเดือดร้อนให้กับประเทศชาติ ไม่เคยทำคุณความดีให้แผ่นดิน วันนี้นายกมาเยี่ยมช่วยเหลือดูและโรค และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานรถตรวจโควิด

แต่เอ็ง (ไมค์) กลับมาปั่นงาน คำพูด “เอาเชื้อโรคมาให้ชาวบ้าน” ต้องเกาเพราะคัน ที่ชอบมีหัวเพียงกั้นหู (หูคือส่วนของร่างกาย รับรู้ และกลั่นกรองเอาสิ่งดีงามมาใช้กับชีวิต) สมองน่าจะกลวง ครับโดยปกติ สมองคือแหล่งปัญญา เก็บรวบรวมความรู้ ซึ่งเกิดจาก ตา หู จมูก ปาก และส่วนที่นำมาใช้คือใจ แต่คุณยายบอกว่าพวกเอ็งไม่มีสิ่งมงคลในตัว ครับเหตุที่บอกว่า “ยาย” กล้าบอก ยอมรับ ช่วงนี้ประเทศชาติ เดือดร้อนของพวกนายไมค์ก่อม็อบ รถติดวุ่นวาย พวกม็อบกล่าวคำพูด หยาบ ให้ร้าย ทำลายเศรษฐกิจ คำพูดของยายเท่ากับเป็นตัวแทนต่อสู้เพื่อประชาชน ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่ หลายคนอยากเอาเป็นตัวอย่าง

อีกคำพูดของพวกม็อบ คนพูดคือ “รุ้ง” ให้ของรับประธานสภา คนนั่งในสภา คนอายุมาก เพราะได้ยินคำพูดเผลอเช็คสมบัติตัวเอง ยิ้มแหย ยังอยู่ เพียงด้วยคุณภาพตามกาลเวลาครับ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก ไม่มีอะไรคงทนอยู่ในภาพเดิม เสื่อม สูญหาย ปีใหม่ของขวัญที่ผมได้ จากนักพูด คุณอรพิมพ์ รักษาผล พูดเรื่องพ่อ (พระบาทสมเด็๗พระเจ้าอยู่หัว ร.9) ท่านออกเยี่ยมประชาชนเกิน 70 ปี สิ่งสำคัญที่เธอพูดคือ 1.เรื่องพระบริสุทธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านยึดมั่นในศาสนา วันหนึ่งท่านไปนมัสการ หลวงพ่อคูณ วันต่อมา ประชาชนถามว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก้มลงกล่าวอะไรกับท่าน หลวงพ่อคุณบอกว่า ท่านจับพระหัต มือด้านเพราะทรงงาน และกระซิบกับท่าน พูดภาษาธรรมดากับผมก็ได้ ผมเป็นคนไทย

2.พระปัญญาธิคุณ 70 ปี พระบาทสมเด็จพระเข้าอยู่หัว ร.9 ทรงคิดค้นงานมากกว่า 4,000 โครงการ เพื่อช่วยเหลือประชาชน เพื่อความผาสุกอย่างฝนเทียม

3.พระมหากรุณาธิคุณช่วงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 เสด็จเยี่ยมประชาชน และทรงงาน ระหว่างพระองค์ท่านเยี่ยมประชาชน ข้าราชการที่ไปกับท่านบอกว่า อีกทางหนึ่งมีผู้เฒ่าชื่อ ยายตุ้ม ถือดอกบัว รอพระองค์อยู่ท่านเดินย้อนไปหายายตุ้ม ดอกบัวที่ยายตุ้มถือถวายพระองค์ท่านเหี่ยว พระองค์ท่านก้มและทรงรับดอกบัว ตลอดเวลาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 อาทิตย์ละอย่างน้อย 5 วัน จะเสด็จไปเยี่ยมสมเด็จย่า ทานข้าว คุย กราบไหว้ แม้แต่เข็นรถให้สมเด็จย่า พระองค์รักและห่วงใยสมเด็จย่า

ครับสิ่งดีที่ผมรับรู้นำเข้าสู่ใจ ฝังรากเป็นส่วนหนึ่งของของขวัญปีใหม่ ชีวิตที่เป็นแบบอย่างของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 ทรงงานเพื่อประเทศชาติห่วงใย ทรงแสดงความรัก เคารพ ซึ้งต่อพระคุณของแม่ มีต่อลูกคือพระองค์ท่านเป็นแบบอย่างและยึดถือ

ครับพรที่ผมเล่า คือแบบอย่างที่ดีของชีวิต แบบอย่างถ้าเราคิดว่าพรเราลงมือปฏิบัติ คนอยู่ใกล้ เมีย ลูก หลาน เพื่อนฝูง สังคม อย่างวัด แม้แต่คนด้อยโอกาส เราสร้างพฤติกรรมดีๆให้กับใจ ผมกล้ารับประกัน ความสุขที่บริสุทธิ์ จริงใจ แท้จริง จะอยู่กับเรา เหลือเชื่อ หน้าไม่เคยมีรอยยิ้ม จะรู้จักยิ้ม ไม่เคยมีเมตตาหยิบยื่นสิ่งของเพื่อคนอื่น ลงมือปฏิบัติ ความรู้สึกดีๆ จะเปลี่ยนชีวิตดีๆให้กับตัวเรา ครับความมหัศจรรย์บังเกิดคือความสุข รู้จักพอใจ เราจะสัมผัสกับคำว่า “นิพพาน” คือความสุขที่ได้รับตลอดเวลา ช่วงยังมีชีวิตนิพพานคือความเย็นของชีวิตที่ได้รับ