ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 7 ตุลาคม 2560

ยังปล่อยกายและใจ กายจะไปไหนๆ ลุก เดิน นั่ง แม้แต่นั่งแช่ ใจสั่งทั้งนั้น เมื่อใจได้รับการฝึก ธุรกิจที่ใจสั่งย่อมประกอบด้วยคุณประโยชน์

เหลือเชื่อเกินความคาดคะเน ไกลบล็อคเกิน เห็นคุณผู้หญิงเดินผ่านมาทางผมนั่ง มองดูไกลๆ มือซ้ายถือกาแฟ ถ้าจะพนันกาแฟที่ถือร้านไหน คงเดาไม่ยาก เมื่อมาจากสตาร์บัคส์ แน่นอนย่อมถูกกาแฟยี่ห้อที่กล่าวควบคุมความรู้สึก ชอบพอ มากคนความคิดถูกกาแฟสตาร์บัคส์ปักหลัก ราดคอนกรีต ทนต่อสิ่งยั่วเย้าจากกาแฟมากยี่ห้อที่เปิดขาย

เป็นความจริงของโลก คุณ ผม และคนอื่นอีกมากมาย ความชอบพอย่อมแตกต่าง จะกุ๊กกิ๊ก ไปลองยี่ห้ออื่นๆ แต่ใจเมื่อชอบพอมีเจ้าของอยู่แล้ว ถ้าถามว่ายี่ห้อที่กำลังถือกับยี่ห้อที่ชอบพอ สามารถเปลี่ยนความชอบพอได้ไหม หันมานิยมยี่ห้อใหม่ ถูกตอบกลับแบบฉุน ไม่มีทางหรอกจ๊ะ มันถูกปาก ไกลมากหลายช่วงในความชอบพอปักแน่นกับใจ

ผมมีโจ๊ก เล่าเรื่องความชอบพอและแตกต่าง ในรัฐอินเดียน่า พ่อแม่พาลูกไปทานอาหาร พ่อสั่งพิซซ่า และพายฟักทอง ย่อมต้องใส่พริก เด็กๆ หยิบพายใส่ปาก บอกกับพ่อแม่ พิซซ่าที่เพื่อนๆ ในโรงเรียนพูดกันว่าอร่อย ไม่เห็นเข้าท่าเลย อ่านแล้วไม่ต้องค้านหรอกครับ เป็นเรื่องโจ๊กอ่านสบายๆ ความจริงในโลกก็ย่อมมีความเข้าใจผิดกันบ้าง แทนที่จะกินพิซซ่า กลับหยิบพาย แต่ความรู้สึกที่กินวันนั้นปิดใจกับพิซซ่านานปี

ผู้หญิงที่เดิน มือขวาไม่ถือของ แต่วางบนฝ่ามือ คงเป็นจานของพาย ผมอดคิดห่วง เดี๋ยวตกคงอดกิน แต่พอเดินผ่านมาใกล้ ผมคิดผิด มีขวาแบมีไอเพ็ดใหญ่วางอยู่ อย่าเผลอเอามือซ้ายกดหาข้อความ แล้วเผลอปล่อยกาแฟ หมดกัน ครับโลกของคนรุ่นใหม่ ความเชื่อและความบันเทิงได้รับตลอดเวลา เพลินกับสิ่งสัมผัส ทำให้ชีวิตการคิด วิเคราะห์วิจารณ์ถึงจุดความเป็นมาหยุดชะงักลง

การวิจัยและผลทางวิทยาศาสตร์ บอกว่าคุณผู้หญิงส่วนมาจะใช้ใจคิด เพราะใจคือความรัก รู้จักหยวน การใช้ใจคิดคือการใช้สมองด้านขวา สมองด้านขวาเข้ากับชีวิตโลกได้ง่ายกว่า อย่างคุณผู้หญิงชอบแต่งตัวสวยงาม พอมีเงินมากหน่อย เสื้อผ้าจะซื้อตามร้านทั่วไป ความรู้สึกไม่ถนัด

ข้างร้านที่ผมเปิดทำมาหากินด้านข้างมี 3 ร้าน ร้านหนึ่งของแต่งบ้านดูแล้วสวยงาม มีไม่มากชิ้น ผู้หญิงดูแล้วใช่เลย อีกร้านเป็นร้านเสื้อผ้าเล็กๆ ทุกชุดมีให้เลือกเต็มที่ 2 ชุด คนมาก่อนเลือกซื้อ คนมาหลังเห็นแล้วชอบ ถามเจ้าของร้านอยากได้ชุดที่คนเพิ่งซื้อ โทษคะมีชุดเดียว หมดแล้วหมดเลย ร้านประเภทนี้ คุณผู้หญิงพอมีเงินจะชอบ

สังคมคนตั้งแต่อดีตกาล ผู้หญิงส่วนมากชีวิตจะปล่อยให้สมองด้านขวาทำหน้าที่กับชีวิต ความรู้สึกจะเข้าท่ามาก เพราะชีวิตใช้ใจบริหารย่อมคลุกคลีกับความพอใจในธรรมชาติ เคยสังเกตคนใกล้ตัวและคุณแม่บ้างไหม ใช้ชีวิตคุ้มต้นทุนในแต่ละวันมาก คำว่าคุ้ม แต่ละงานของแต่ละวันพอมืดค่ำ ถึงเวลาพักผ่อนย่อมหมดเวลางาน จบแล้วจบเลย ไม่เอามาคิดต่อ รุ่งขึ้นฟ้าสางถ้าต้องทำอีกก็ถือว่าเป็นงานในหน้าที่

ตอนเป็นเด็ก ตื่นเช้าอ่านหนังสือนึกว่า ตื่นก่อนใครๆ ที่ไหนได้ แม่ตื่นแล้วกุ๊กกิ๊กในครัว หุงข้าว ทำแกง เตรียมอาหารใส่บาตร นึกถึงบุญกุศล คำว่าบุญกุศลลึกๆ ลงไปคือการเพิ่มความเมตตา เมื่อมีเมตตา ทำบ่อยปรับปรุงจิตให้รู้สึกเมตตาจริงๆ จนความเมตตาตกตะกอน คำว่า “ตกตะกอน” คือสิ่งนั้นจะทับถมอยู่ในกาย และใจเราตลอดเวลา เมื่อถึงเวลาทำซ้ำๆ กับเหตุการณ์ที่ตกตะกอน ความระลึกจะส่งผลออกมา

ผู้หญิงเรียนรู้ งานบ้าน อย่างงานปะเสื้อผ้า ถือเป็นงานละเอียด เชื่อไหม ถ้าเราตั้งใจจะเย็บเสื้อ กางเกง ติดกระดุม แม้แต่งานไม่ใหญ่โต สภาวะจิตจะสงบ จดจ่อกับสิ่งที่เราทำ อดนึกถึงคำสั่งสอนของหลวงพ่อ “พุทธทาส” ไม่ได้ เมื่อจิตใจเย็น ไม่มีตัวกู ของกู ปล่อยใจสบาย หมดกังวล ช่วงเย็บผ้า หยิบเข็มรูเข็มจี๊ดเดียว พอถึงวัยหนึ่ง ล่วงเลยมานานวัน การสนด้ายในรูเข็มช่างยุ่งยาก เสียเวลาดูแม่ และพอถึงวันนี้ผมเริ่มต้องเพิ่มเวลากว่าจะร้อยด้ายในรูเข็ม ปลุกปล้ำ อดคิดทำไม่รูเข็มจึงเล็กลง ก่อนโน้นหยิบเข็ม หันรูเข็มเข้าตัว หยิบปลายด้ายสอดครั้งเดียวแต่ตอนนี้ปลุกปล้ำนานโข การกระทำงานทุกอย่างอย่างสบายใจ ไม่ทุกข์ ไม่กังวล ไม่เครียด จิตย่อมไร้ทุกข์ ไม่รู้สึก มีความสุขเป็นใจปกติ ถ้ามองเห็นหน้าตัวเองจะรู้ได้ว่าสบายๆ ครับใจไม่มีเรื่องทำให้วุ่นวาย ใจก็เย็น หลวงพ่อพุทธทาสท่านบอกว่ามันคือ “นิพพาน” แบบประเดี๋ยวชั่วคราว ทุกคนย่อมมีความรู้สึกประเภทนี้อยู่กับใจ แม่ตื่นก่อนใครเพื่อน และนอนหลังทุกคน แม่จะดูแลทุกสิ่งในบ้านให้มีความปกติ โดยเฉพาะลูกๆ แม่ดุลูก สั่งสอน สุดท้ายแม่กอด ซื้อไอศกรีม แม่พูดเสมอรักลูกเป็นคนดีนะลูก

เคยสังเกตไหม ทำไมลูกๆ จึงรักแม่ ทั้งๆ ที่พ่อก็รักลูก แต่เพราะแม่จะใช้สมองด้านขวาจัดสรรชีวิต มองดูลูกๆ คือความเป็นธรรมชาติ เด็กๆ เกิดมากับการเรียนรู้ การเล่นซน เอะอะ เจ็บตัว ดื้อ คือการเรียนรู้ เพียงเรารู้จักวัยและระบบ แม่ทุกคนใช้สมองด้านขวา เรียบง่ายความเป็นปกติ มองดูพฤติกรรมของลูกๆ คือ สิ่งที่ต้องพัฒนา ก้าวไปถึงจุดการเติบโตเป็นแบบอย่างในสังคม เพียงเป็นผู้สังเกต ตะล่อม ค่อยๆ ปรับ ถ้าห้าม บ่น ตัดขาดเสียทุกครั้ง เด็กจะหยุดพฤติกรรมที่เป็นธรรมชาติ ความเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของคนตั้งแต่เกิดจนตาย กระทำโดยไม่ต้องวางแผนคิดล่วงหน้า แต่สามารถแก้คราวคับขันได้ เรียก “สัญชาติญาณ” และไหวพริบ

แต่พอถึงวันนี้ สิ่งดีๆ ที่เป็นธรรมชาติของคน คือไหวพริบ ขาดหายลดลง เหมือนคนเลี้ยงแมว รักแมว กลางคืนปิดประตู ไม่ให้ออกนอกบ้านห่วง แมวใกล้ชิดกับนายท่านตลอดเวลา เวลานอนก็นอนบนเตียงข้างกายนาย พอตั้งเป็นกฎ นายดูแล อาหาร หลับนอน พฤติกรรมของชีวิตถูกแก้ไข นานวันแมวชอบหากินหนู ตอนค่ำคืน พอเห็นหนู จะนั่งเงียบ หลบตัว พร้อมที่จะตะครุบหนู หมดกันชีวิตธรรมชาติที่ให้มาไม่ถูกนำมาใช้

ครับผม ชีวิตคนปัจจุบัน กลายพันธุ์ สัญชาติญาณ พฤติกรรมที่สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เริ่มหดหาย ทำไมหรือธรรมชาติเปลี่ยนแปลงระบบ ไม่เลยธรรมชาติก็ยังเป็นธรรมชาติ รุ่งเช้าดวงอาทิตย์ขึ้นทางตะวันออก ลับขอบฟ้าทางตะวันตก แล้วไปโผล่อีกด้านหนึ่งของโลก หน้าฝนตก ตกมากตกน้อยตามธรรมชาติ

แต่ที่น้ำท่วม ล้นบ่า ส่วนมากเราขาดความสนใจในการปฏิรูป กิจหน้าที่ วางแผนล่วงหน้า ถึงจะเสียหาย แต่เมื่อมีแผนก็น่าจะลดลง สังคมของคนเมื่อขาดไหวพริบหมดเลย

เหตุที่สัญชาติญาณ ไหวพริบ เราขาดหาย เพราะระบบการเรียน สอนให้เรารู้จักคิดตามตำรา ถูกนำมาพลิกความคิด

ผมเห็นผู้หญิงตรงหน้าร้านยืน สายตามองภาพติดกระจก ผ่านทะลุเข้าภายในร้าน สิ่งสวยงานติดโชว์ ถ้าจะคล้อยตามเธอ เราก็น่าจะมีความพอใจได้ เพียงคล้อยตามระบบดีๆ ไม่คิดมาก ปล่อยให้ธรรมชาติชักจูงบ้าง เราสามารถยิ้มเห็นฟันทุกวัน