ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 3 กุมภาพันธ์ 2567

เกือบ 10:00 AM เช้าวันเสาร์ เช้านี้นำช็อกโกแลตร้อนๆ ตักช็อกโกแลต 2 ช้อนชา ใส่น้ำตาลทราย ช้อนชา ใส่นมข้น ช้อนชา พอน้ำเดือด เทใส่ลงในแก้ว ใช้ช้อนชา ตีส่วนผสมให้เข้ากัน ยกซิบ ร้อนลิ้นและปากรับรู้อร่อย

ทุกเช้าอาหารเช้าผมทานง่ายๆ เช้านี้หยิบครัวซองหนึ่งตัว ซื้อมาจากคอสโก้ กล่องหนึ่งมี 12 ตัว ราคา 5.99 ราคาตัวละ 50 เซ็นต์ เกือบทุกเช้า ชอบกาแฟร้อนยี่ห้อเฟร้นส์โรส ซื้อมาจากคอสโก้ ครับมากสิ่งเกี่ยวกับชีวิต ถ้ามีที่คอสโก้ ผมจะไปอุดหนุน เหตุของความชอบ สินค้าไม่ว่าจะเป็นของใช้ หรืออาหาร ราคาไม่แพง คุณภาพ เมื่อเป็นที่นิยม คนซื้อมากมาย สินค้า ย่อมไม่ตกค้างนาน คือคุณภาพเป็นไปตามเจตนาของคนที่อุดหนุน

ผมมานั่งโต๊ะหน้าบ้าน โต๊ะนั่งเขียนหนังสือและเก้าอี้นั่ง ทำลวดลายแกะสลัก ไม้ที่ใช้เป็นไม้สัก ครับคุณสมบัติของไม้สัก คงทนยิ่งใช้นานคุณภาพยังคงเดิม ผมอยากแชร์สินค้าที่บ้าน จะเป็นเตียงนอน กระจกบานตั้ง โต๊ะทานอาหาร ชุดรับแขกจะเป็นไม้สัก ช่วงหลายสิบปี สินค้าประเภทไม้สักแกะสลัก มีตัวแทนมาขายที่เบย์แอเรีย คำว่า Bay Area คือเมืองรอบๆ ซานฟรานซิสโก จะติดมหาสมุทรแปซิฟิก เมืองมากมายสภาพท้องถิ่น มีภูเขา ผมนั่งเขียนหนังสือ อากาศวันนี้เคลียร์ มองไกลได้ เห็นชัดแดดออก ผมอยู่เมือง El Cerrito ทางซ้ายติดกับเมืองเบิร์คเล่ย์ ครับ เมืองเบิร์คเล่ย์ มีชื่อเสียง ก่อนผมมาอเมริกาปี 1968 เพื่อนหลายคน เรียนมหาวิทยาลัยเบิร์คเล่ย์ ทุกคนเรียก ยูซีเบิร์คเล่ย์ เป็นมหาวิทยาลัย ท็อป 10 นักเรียนทุนรัฐบาล และทุนส่วนตัว เมื่อเรียนมีความสามารถ มีสตังค์ก็สอบเข้าเรียน

ผมมีนักเรียนรุ่นพี่ ด็อกเตอร์ดิเรก ศรีสุโข จบด็อกเตอร์ที่นี่ ตอนผมมาอเมริกาปี 1968 เคยมาเรียนภาษาใกล้ๆ มหาวิทยาลัย เคยฝัน อยากเรียน แต่ผมได้ I-20 จาก Eastern Oregon College เมือง La Grande ทางตะวันออก โรงเรียนผมตั้งอยู่เนินเขา ครับช่วงฤดูหนาว หิมะตก เดินไปโรงเรียนหนาวมาก เผอิญปี 1969 ยังหนุ่มอยู่ ทุกสิ่งร้อน หนาว หิมะ คลาสมีต่างชาติ มันคือประสบการณ์ของชีวิต ผมเติบโตกับพ่อแม่ส่งเสริมประสบการณ์

จำได้มีคนไทยชื่อ ด็อกเตอร์บุรุญชัย เก่งเรื่องเรียน และหางาน หางานช่วงปิดซัมเมอร์ให้ผมได้ทำที่รัฐวอชิงตันสเตท เกือบ 2 เดือน เก็บเงินได้เป็นค่าเล่าเรียน ค่าท่องเที่ยว และสิ่งที่สัมผัส “สอนให้รู้จักใช้ชีวิต”

ช่วงปิดประจำเทอม 15 วัน ผมจะแพ๊คเสื้อผ้า กางเกงสองตัว เสื้อ 2-3 ตัว ไปขึ้นราเกรฮาว ไปท่องเที่ยว เมืองต่างๆ ช่วงเปิดเทอมแรก ไปซีแอตเติ้ล เป็นเมืองท่าเรือ มีเรือโดยสาร ไปเกาะต่างๆ ครับเรือโดยสาร ใหญ่โต 2 ชั้น ผิดกับเรือโดยสารที่วิ่งผ่านหน้าบ้าน ผมอยุธยา เด็กแถวบ้าน พอเรียนมัธยม จะไปเรียนที่เมืองหลวงของจังหวัดอยุธยา เรียกกรุงเก่า ผมเรียน หัวรอ เพื่อน 2-3 คน ตอนเริ่มเรียนมัธยม จะตื่น ก่อนตี 5:00 AM ลงอาบน้ำที่แม่น้ำป่าสัก ขึ้นบ้านแต่งตัว ทานข้าว 6:30 AM เรือจ้าง คือเรือที่มีคนแจว คนหน้าพาย เรือมีหลังคา นั่งได้เต็มที่ 8 คน

สำหรับผมโชคดี พอจบ ป.4 แม่พาไป อยู่วัดกับสมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธ ครับสังฆราช ผมเคยเล่าสนิทกับผม ท่านรักผม ช่วงผมเรียน ป.1 – ป.4 โรงเรียนวาสนานุกูล ทุกปี ท่านจะไปให้รางวัลเด็กเรียนดีผมได้ที่หนึ่ง จาก ป.1 - ป.4 ผมได้รางวัลเรียนดีจากสมเด็จพระสังฆราชทุกปี พอจบมาอยู่กับสังฆราช สอบเข้ามัธยมวัดราชบพิธได้ ครับสะดวก เช้าวิ่งไปโรงเรียน ช่วงมื้อกลางวันวิ่งมาที่กุฏิทานอาหารเกือบทุกคืน อย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 วัน สังฆราชจะเรียกผมไปนั่ง ท่านสอน ถามเรื่องเรียน พอจบ ม.6 สอบชิงทุนกรมฝึกหัดครูได้ สิ่งหนึ่งที่ผมได้จากสมเด็จพระสังฆราช สอนให้ขยัน มีมานะ รู้จักตอบแทนบุญคุณ ช่วยเหลือ

สิ่งหนึ่งในตัวผมได้รับการอบรมเรื่องพฤติกรรม การเล่าเรียนจากพ่อแม่ พออยู่วัด สังฆราชอบรม พอออกจากวัด สอบได้ทุนไปเรียนวิทยาลัยครูพระนคร เป็นหัวหน้าห้อง และปี 2 เป็นประธานสวัสดิการ อดภูมิใจเคยเป็นนายกสมาคมไทยในซานฟรานซิสโก

ประสบการณ์ตรงมากสิ่ง มาจากระบบครอบครัว สั่งสอนให้รู้จักใช้ชีวิตด้วยตัวเองในต่างที่ รับผิดชอบ การเล่าเรียน การใช้เงิน

ชีวิตผมกับแม่บ้าน มีความเชื่อ “ระบบการศึกษา” คิดเสมอลูกๆ เมื่อมีโอกาสช่วยตัวเองได้ จะส่งเรียนปัจจัยอันแรกจะลงทุนให้เรียนโรงเรียนเอกชน ที่มีชื่อเสียงเหตุผล เพื่อพัฒนาจิตสำนึกรับผิดชอบการเรียน

ผมกับแม่บ้านช่วงโน้นทำงานหนักส่งลูกทั้งสองเรียนเอกชนดี พอวันนี้ผมยอมรับว่าเป็นความถูกต้อง ถ้าทำงานแล้วเก็บเงิน อาจจะมีเงิน หรือเงินอาจใช้จ่ายทางไม่ถูกต้อง ผมตอนมาอเมริกาใหม่ๆ ญาติน้าวาสนา ฟอร์แมน พาไป รีโน่ และเมืองเร็คทาโฮ 2 เมืองเป็นเมืองการพนัน ได้เรียนรู้ และความรับรู้ชอบพอ

คำพูดของพ่อแม่ ช่วงยังเด็กบอกเสมอ “การพนันไม่มีใครร่ำรวย” อย่างพ่อและแม่ เคยเป็นเจ้ามือ “กินรวบ” เจ้ามือหวยเถื่อน ทุกอาทิตย์ คนจะมาส่ง “โพย” คือตารางคนซื้อ และมาจ่ายเงิน ครับคนเต็มบ้านทุกวันหวยออก มีการทำอาหารเลี้ยง เปิดบ่อนเล็กๆ สุดท้ายพ่อแม่หมดตัว แม่พ่อ สังฆราชอบรม “การพนันเป็นอบายมุข ไม่สร้างความเจริญในชีวิต”

ผมหยุดพัก ซิบกาแฟ เริ่มเย็น แต่รสขมของกาแฟ รับรู้ได้ ดีกว่าช่วงกาแฟร้อนๆ กาแฟเป็นสิ่งเดียวที่ผมยังดื่มทุกวัน ผิดกับพวกของมึนเมา อย่างเบียร์ ไวน์ หยุดมาเกิน 10 ปี เมียบอกว่าผมดื่มประเภทของมึนเมา อุปนิสัยเปลี่ยนเคยเป็นคนสุขุม ตรงข้ามใจร้อน เคยชอบอ่านหนังสือ ไม่รู้นิสัยเคยรักการอ่านหายไปไหน พอดื่มไวน์หลายแก้ว อุปนิสัยเปลี่ยน เมียเคยบอกช่วงไม่ดื่ม “พ่อเป็นคนดี แต่พอดื่มไวน์ อุปนิสัยเปลี่ยน”

เกิน 10 ปี ผมหยุดดื่ม แต่ยังเข้าสังคม เคยคิดว่า และเป็นความจริง การไม่ดื่ม เข้าสังคม จะมีความรับรู้ ผิดถูกได้ดีกว่า เมื่อมีของมึนเมาเป็นส่วนของชีวิต ครับการที่ผมบอกเล่า เป็นพฤติกรรมส่วนตัว

สิ่งหนึ่งถือว่าเป็นสิ่งดีงามของชีวิต ช่วงไม่ดื่ม รู้จักการให้การศึกษาดีๆ กับลูก ผมเชื่อ ลงทุนโรงเรียนเอกชนดีๆ นอกจากเด็กในชั้นจะน้อย ครูและโรงเรียนกระตือรือร้นสอน รอบๆ ตัวมีกิจกรรมกระตุ้น อย่างห้องสมุด เพื่อนร่วมห้อง เมื่อไม่ดื่มจนมึนเมา จะเป็นแบบอย่างของครอบครัว

เช้านี้ลูกสาวโทรมาคุย ลูกสาวไปหาน้องชายที่แอล.เอ. ลูกสาวมีลูก 3 คน อายุ 17-15-13 ต่างเรียนเอกชน ลูกสาวเป็นหมอ มี 4 คลินิก ที่มิชิแกน เช้านี้ไปหาน้องชาย อายุต่างกันเกือบ 9 ปี น้องชายทำงานบริษัทพาราเม้าส์ จบปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัย ฮาวาย บุคลิกดี ยิ้ม ร่าเริง คุยสนุก

ผมกับแม่บ้าน มีมากสิ่งเหมือนกัน ลงทุนการเรียนให้ลูก แม้แต่ทำงาน หยุดทำงานตอนอายุ 65 เหมือนทุกคน แต่ผมสองคนมีร้านอาหาร ถ้ายังอยากทำมีคนคุ๊ก คนทำงาน เปิดปิดร้าน แต่คิดว่า เราให้ชีวิตมีเวลากับการท่องเที่ยว เมื่อเดือนที่แล้วไปเมืองไทยและสิงคโปร์ ปลายเดือนกุมภาพันธ์จะไปครูซ ญี่ปุ่นและสิงคโปร์ ครับผมกับภรรยาไปครูซเป็นปีที่ 3 พักผ่อน