ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 6 สิงหาคม 2565

คลาสออกกำลังสิ้นสุด การจัดตารางของการออกกำลังกายทางวายเอ็มซีเอ ทุกการออกกำลังจะใช้เวลา 45 นาที การจัดเวลาจะเริ่ม 9:15 AM เลิก 10:00 AM ถ้าเป็นช่วงบ่ายอย่าง 1:15 PM เลิก 2:00 PM ครับสำหรับผมสูงอายุถ้าไม่ออกกำลังกาย ความยุ่งยากของระบบชีวิตก็ยุ่ง ต้องเดิน ต้องขับรถ ต้องมีกิจกรรม ถ้าปล่อยให้ธรรมชาติเป็นตัวกำกับชีวิต ทุกสิ่งอาจทรุด สุดท้ายคงจะช่วยตัวเองลำบาก

ทุกครั้งสิ้นสุด การออกกำลังต้องใช้อุปกรณ์ อย่างฟองน้ำใหญ่สำหรับนั่ง ยืน นอน แล้วมีพลาสติกปูทับ บางครั้งจะใช้หมอนพลาสติก น้ำหนัก และเข็มขัด แม้แต่ลูกบอล พอสิ้นสุด ทุกคนจะทำความสะอาดเสื่อและพลาสติกนอน

ผมออกจากห้องเข้าห้องน้ำ บางครั้งจะมีคนออกกำลังกายถอดกางเกง เสื้อ อาบน้ำ ครับช่วงประหยัดน้ำ อาบที่นี่นอกจากร่างกายจะสะอาดแล้วประหยัด ทุกครั้งเข้าห้องน้ำ จะเอากระดาษชุบน้ำผืนหนึ่งกระดาษแห้งอีกแผ่น ติดตัวไปด้วย ครับโดยปกติเป็นอุปนิสัยส่วนตัว หลังจากเลิกจะขับรถไปแวะซื้อของกิน อย่างคุกกี้ผมชอบยี่ห้อ Royal Dansk รสอร่อย มันด้วยเนย ทำจากประเทศสแกนดิเนเวีย ผมมีติดรถไว้อย่างน้อย 2 กล่อง เวลาจะทานก็นำกระดาษชุบน้ำเช็ดมือ กระดาษแห้งเช็ดต่อ พอชีวิตถึงปลายทางชีวิต ประสบการณ์มากมาย สามารถพิจารณาอะไรถูกอะไรผิด จากข่าวคนมากมายไม่เชื่อว่าจะรักษาโรคได้ เลยไม่กิน ไม่ฉีด สำหรับส่วนตัวความคิด น่าจะขัดกับหลักความจริง

ผมชอบขับบนถนน San Pablo เป็นถนนเก่าแก่ของหลายเมือง อย่าง โอคแลนด์ อัลบานี่ เบิร์คเล่ย์ และเมือง เอลเซอริโต้ 5-6 ปี ตึกติดถนน San Pablo เปลี่ยนหลายที่ รื้อตึกชั้นเดียว หรือสองชั้นออก สร้างตึก 4-5 ชั้น ครับ หลายเมืองเหตุผลห้ามสร้างตึกสูง อย่างเมืองเบิร์คเล่ย์ และเอลเซอริโต้ จะเป็นเมืองภูเขา สามารถมองวิวทะเลภายใน เมืองซานฟรานซิสโก และสะพานโกลเด้นเกจ ครับและเกาะมากมาย ถ้าสร้างตึกสูงบังวิวไม่น่าจะเป็นเรื่องถูกต้อง

อย่างบ้านผมโต๊ะเขียนหนังสือ จะมองเห็นเมืองซานฟรานซิสโก สะพานโกลเด้นเกจ ถึงตึกจะสร้าง 4-5 ชั้น ก็ไม่สามารถบล๊อควิวได้ เพราะบ้านผมอยู่ติดถนนและทางลง ตึก 4-5 ชั้นไม่สามารถบังทางถนนได้

ผมจะแวะร้านแมคโดนัล ซื้อกาแฟแก้วหนึ่ง ครับกาแฟจะร้อนนาน ไม่เติมน้ำตาลและครีม พอพูดถึงน้ำตาล (หลาน) ปกติผมชอบขนมหวานและคุกกี้ แต่ช่วงนี้ควบคุมตัวเองทานน้อยลง กลัวโรคเบาหวาน กาแฟแมคโดนัลกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ถ้าออกไปข้างนอกก่อนเคยดื่มแต่พีทและสตาร์บัคส์ แต่พอวันนี้ เกษียณ เงินได้ก็ต้องจ่ายบิลล์ อย่าง น้ำ ไฟ ไกรเซอร์ ค่าประกันรถ บ้าน ครับ ไฟจ่ายเดือนเกือบ 200 หลายคนบอกว่าทำไมสูง ครับผมจะชาร์จรถไฟฟ้า และช่วงนี้หลานมาอยู่ด้วย ชอบอาบน้ำ แช่ตัว บางวันจะแช่ตัว 2 ครั้ง เด็กจะเล่น ซ็อกเกอร์ ครับค่าน้ำ ค่าไฟ จึงแพง มีบางเดือนจ่ายเกิน 200 เหรียญ บริษัทไฟ ส่งจดหมายมาให้กรอก “คุณลุงและคุณป้า” ผมกับแม่บ้านอายุเยอะ การใช้ไฟฟ้าเกี่ยวข้องกับสุขภาพหรือเปล่า ความหมายของ PGTE คือความหวังดี น่าจะคำแนะนำและลดราคาไฟ

ครับกาแฟของแมคโดนัล ราคาประมาณ “เหรียญ” ดื่มได้นาน ครับดื่มไม่เคยทำร้ายกระเป๋า เหมือนกาแฟราคาเกิน 2-3 เหรียญ

ได้กาแฟ เลี้ยวเข้าซอย มีเต้นท์ของคนไร้บ้าน แปลกทุกที่ของคนไร้บ้านมีสมบัติมากมาย เกะกะ รก พูดภาษาของคนดูแลความสะอาด บอกว่า สิ่งของที่กองเกะกะบนถนนมันคือขยะ ครับแม้แต่รถจอดนอนหลายคันก็ยังมีสมบัติกองรอบตัวรถ ครับอดขอบคุณรัฐบาลที่นำ “ส้วม” มาวางไว้ ในอนาคต อาจะมีที่อาบน้ำ ครับสำหรับคนไร้บ้าน ก่อนโน้น หาไม่พบ สาเหตุเกิดจากอะไร คนไร้บ้านส่วนมากคนกำลังอยู่ในวัยทำงาน แต่กลับมานอนตามถนน ปล่อยตัวไร้ค่า อาจจะเพราะยาเสพติด

ผมอดคิดถึงตัวเอง แม่ส่งมาอยู่กรุงเทพฯ หลังจบ ป.4 มาอยู่กับสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 18 เรียนจบมหาวิทยาลัย มาเรียนต่ออเมริกา ที่ออริกอนปี 1969 จบปริญญาโท 1970 ที่บอกเล่า ผมโชคดีดูแลตัวเอง ไม่ติดอบายมุข รักการเล่าเรียน ผมคงได้ “ยีนส์” จากพ่อแม่ เพราะน้องก็ชอบเรียน

ผมชอบดูคนไร้บ้าน เหตุผลชอบศึกษาพฤติกรรม ทำไมชีวิตถึงจุดไร้ความมั่นคงของชีวิตได้

ผมขับเข้าในซอย เป็นตึกแถวสร้างด้วยไม้ หลายตึกรอบๆ มีพาร์ค มีสนามกีฬา ครับตึกเหล่านี้ นักศึกษาที่มาเรียนมหาวิทยาลัย เบิร์คลีย์ นักศึกษาที่มาอยู่ทุกคนมีครอบครัวและลูก ครับย่อมสะดวกสำหรับนักศึกษา โดยเฉพาะนักศึกษาชาวต่างชาติ ที่นี่เกิน 45 ปี ผมจำไม่ได้ รู้จักครอบครัวนักศึกษานักเรียนไทย มีลูก เป็นคนรุ่นเดียวกับผม สามีชื่อ องอาจ เฉลยชีพ กำลังเรียน ปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัย สแตนฟอร์ต ส่วนภรรยา เรียนปริญญาโท ยูซีเบิร์คลีย์

ครับพอผ่านห้องแถว นักศึกษายูซีอดนึกถึงวันเวลาเก่าๆ ชีวิตมีเพื่อนดีๆ เยอะ ต่างมาอเมริกาเพื่อเรียน และไฝ่หาความเจริญงอกงามให้กับชีวิต ที่นี่ได้รู้จักนักศึกษาเรียนปริญญาเอกจากยูซีเบิร์คลีย์ หลายคนแม้แต่ด็อกเตอร์พิษณุ เครืองาม

ผมจอดรถที่ตลาดติดกับที่พักนักศึกษาระหว่างเดินเล่น ครับการเดินของผมนอกจากจะออกกำลังกาย ขาจะแข็งแรงขึ้น สิ่งหนึ่งตามหลักจิตวิทยาที่เล่าเรียน บอกว่าการเดินมองดูสิ่งรอบๆ ผ่านสายตา คือการผ่อนคลาย ทุกสิ่งคือสติปัญญา ส่งผ่านสายตา สมองรับรู้ ตีความคือความคิด อาจจะแตกต่าง สำหรับแต่ละคน แม้แต่สิ่งที่เห็นเป็นสิ่งเดียวกัน น่าจะอธิยายได้ว่าเกิดจากพฤติกรรม รับรู้ สัมผัส และคุณสมบัติส่วนตัว ทำให้เกิดความแตกต่าง

ผมเดินเข้าร้านไอศกรีม ครับอากาศร้อน ไอศกรีมนำความสดชื่นมาให้ มากสิ่งอาจจะมีบ้าง ขัดกับหลักเกณฑ์ของชีวิต อย่างไอศกรีมหวานมัน เต็มไปด้วยน้ำตาล แต่พูดกับตัวเอง นานๆครั้ง ความหวาน ความสดชื่นทำให้ชีวิตพักผ่อน ผ่อนคลาย ก็น่าจะเลือกสิ่งที่ “ได้คุณประโยชน์ที่มากกว่า”

ผมเดินออกจากร้านไอศกรีม มีคนทักคุณ “ไพฑูรย์” ผมหันไป ครับคนคุ้นเคย เขาบอกว่า เพื่อนพี่ชื่อ ด็อกเตอร์ “เสริม” เคยเรียนกับพี่ ตายมาหลายปีแล้ว

ครับชีวิตของคนช่วงเดือนนี้ คนหลายคนอายุเกิน 10 ปี มีเทศน์งานเสียชีวิตที่วัด ไม่มีใครหนีความ เกิด แก่ เจ็บ และตายได้ ผมก็คงอีกไม่นาน ครับ จะเวลาไหน ช่วงเรายังช่วยตัวเองได้ หัดรู้จักยิ้ม พอใจกับชีวิต และสำคัญ “ควรทำสิ่งดีงามให้กับชีวิต” สังฆราชเคยอบรมผม ท่านบอกว่าชีวิตรู้จักคิด กระทำสิ่งดีงาม และพอใจกับชีวิต เพื่อน ครอบครัว เราต้องยึดมั่น