ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 16 มีนาคม 2556

ชอบดูข่าวโดยเฉพาะตอนเช้า เมื่อมาอยู่เมืองหิมะตก ตาหูต้องกว้าง เพราะการออกไปนอกบ้าน อาจเสียท่าอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หลายคนบอกว่าอากาศเปลี่ยนไม่ซับซ้อนเหมือนนักการเมือง ปากพูดอย่าง ใจคิดอีกอย่าง ปวดใจน้ออดคิดไม่ได้นักการเมืองฉ้อโกง ล้อมรอบด้วยคนที่เลือกเขา ความรู้สึกชอบ เมื่อไม่พัฒนาแล้วจะเอะอะใคร คงไม่แคล้วทำร้ายคนรอบข้างด้วยกัน วันนี้และวันพรุ่ง ข่าวพูดเสียงเดียวทุกช่อง หิมะตกตลอดวัน แดดหลบหน้า ความหนาวผสมโรง

พูดถึงเรื่องหิมะและความหนาว ปี 1969 เพื่อนสนิทชื่อ สำราญ ตอนหลังออกจากยูยีนส์ได้รับ Phd ตัวผอมเกร็ง พอหิมะก่อนตกต้องออกจากหอเดินไปเรียน เดินตัวลีบบ่นตลอดหนาว ยิ่งตอนหิมะตกหลายวัน เริ่มหยุดหิมะจับตัว ละลาย กลายเป็นแผ่นน้ำแข็ง เคยลื่นไถลและล้มก้นกระแทก ยืนตรงเจ็บมาก ชา หนาวเย็น ผมมอง เสียงตอบ เอ็งไม่รู้หรอกว่ามันทั้งเจ็บก้น และหนาว รวมตัวเป็นสิ่งหนึ่งเดียว ไม่มีคำตอบ เพื่อนบอกว่า เจ็บกว่าถูกพ่อตีก้นหลายเท่า

จริงอย่างข่าว ตอนนี้บ่ายโมงกว่าหิมะยังตกหนา ไม่เหนื่อยที่จะหยุดพัก คงจะตกทั้งวันตามที่ประกาศ ผมลากเก้าอี้ตัวเก่า นำน้ำร้อนที่ปรุง บีบมะนาว หยอดน้ำตาลทรายขาว และเกลือนิดหน่อย คนเข้ากันเปรี้ยวๆ หวานๆ แต่คนอเมริกันแถวเมืองหนาว นิยมทานแอปเปิ้ลไซเดอร์ คัดแอปเปิ้ลรสเปรี้ยวอมหวานมาบีบและคั้นเอาแต่น้ำไม่เติมอย่างอื่น หลายคนชอบอุ่น มากคนชอบเย็น ครับเป็นเรื่องถูกต้อง ถ้าชอบเหมือนกันเสียทุกอย่าง โลกคงพิลึก มากสิ่งถึงจะเหมือนรูปร่าง แต่แตกต่างสี ส่วนตกแต่ง

คงจะเหมือนสาวยุคใหม่ มีเงินอูมกระเป๋า ไปหาหมอตัด เฉือน ต่อเติม หน้า จมูก หน้าอก ยอมรับดูแล้วสวย แต่พอนานเข้าผมอายุขยับมากขึ้น เริ่มพบสัจธรรม เห็นคนหน้าที่ไม่ตกแต่ง จมูกบาน ดั้งหัก ริฝีปากเจ่อ เออสวยดี ไม่เหมือนใคร ยิ่งพฤติกรรมที่แสดงออก เจียมตัว ความรู้สึกรับรู้เข้าใจ สุดท้ายเออดีอีกแบบ แต่นิสัยอ่อนโยน หยวน ไม่ยะโส ช่างเป็นความงามตามธรรมชาติ

แอปเปิ้ลคั้นหรือ แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวลาดื่มคนจะชอบนั่งโต๊ะโล่งๆ อากาศหนาวเย็น และอุ่นผสมกัน เพราะโรงงานทำที่ผมไปแวะ แยกจากย่านธุรกิจ ตั้งในป่า มีลำธาร เวลาดื่มหลายคน ซื้อโดนัทมาด้วย วงการของนักดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์บอกว่า ของสองสิ่งกลมกลืน ซี้ต่อกัน แต่ถ้าขาดโดนัทความสุขก็ไม่ลด สำหรับผมน้ำอุ่นๆ เอามือกางทั้งขวาและซ้าย วางแตะรอบแก้ว อุ่น ความรู้สึกดีเกิด หลังจากบีบแอปเปิ้ล กากกลายเป็นปุ๋ย โดยเฉพาะปัจจุบันไม้หายาก ตอที่เหลือขุดรากติด นำมาตกแต่งขายเงินตุง อะไรต่อมิอะไรตาย กาก แม้แต่น้ำสกปรก นำมาปรับปรุงกลายเป็นน้ำดื่ม

สำหรับมนุษย์เวลาตาย ร่างกายเกือบไร้ค่า ยกเว้นอุทิศกายให้เด็กๆ เรียนรู้เกี่ยวกับส่วนประกอบของชีวิต เราเรียกร่างกายที่ปราศจากจิตวิญญาณว่า ซาก พอถึงวาระนี้กากของผลไม้ดูแล้วมีค่ามากกว่าซากของคน ก่อนจะเผาให้เหลือแต่ขี้เถ้าย่อมเพิ่มภาระให้กับคนอยู่เบื้องหลัง มากคนจัดงานเผาซากใหญ่โต เสียเงินทอง คนไม่มีก็กู้ยืม เป็นหนี้สิน ซากหลายรายตายแล้วยังกินที่ดิน เงินเก็บสะสม แม้แต่ไร่นา อย่างไงหรือ ก็เวลาเผา จัดงานหลายวัน สวด มีการละเล่น เงินที่ใช้กู้ยืม ถึงเวลาใช้ไม่มี เงินดอกบวกต้นมากรายบวกระยะปี เพิ่มมากจนสุด เชิญครับยึดที่จำนองไว้ มากคนทำหนังสือแจกระหว่างมีชีวิต ขยันทำงานร่ำรวย เป็นเพียงหน้าที่ของคน แต่ถ้ารู้จักเสียสละช่วยเหลือสังคม การเขียนหนังสือแจกย่อมมีคุณค่าต่อการเอาเป็นแบบอย่าง

วันนี้หิมะเริ่มงานแต่เช้ามืด ก่อนตก ก่อนฟ้าสางเสียงเม็ดฝนตก แปะๆ บนหลังคา จะตกมานานกี่ชั่วโมงผมไม่รู้ แต่ทุกครั้งค่ำคืนฝนตกหลับสบาย หิมะที่ตกหนา ตกบ้างหยุดบ้าง ดีใจถ้าหยุดตกคงได้ออกจากบ้าน วันไหนถ้าไม่ก้าวพ้นประตูบ้านอธิบายความรู้สึกยาก ไม่สุข ไม่ทุกข์ แต่ถ้าได้ออกจากบ้านความรู้สึกโล่งใจ สบายใจ และสุขใจ ความแตกต่างระหว่างสบายใจ กับสุขใจ เขาอธิบายว่าความสบายใจยังก้าวไม่ถึงจุดสุขใจ

ผมนั่งบนเก้าอี้ ชะโงกหน้ามองท้องฟ้า บ่ายโมงกว่า ท้องฟ้าสีเทาอ่อน เป็นฉากกั้นท้องฟ้าเป็นสีเดียวตลอด มองไกลก็ยังเหมือนกัน สีเดียวถ้าวันธรรมดา ไม่มีสโนว์ ท้องฟ้ามองไกล สูงจนสายตาเมื่อย มองหาจุดจบไม่ได้ ท้องฟ้าต่างสี เมฆลอย บนท้องฟ้าเป็นที่อยู่ของสิ่งดีงาม แม้แต่คนทำคุณความดี เป็นคนสะอาดด้วยศีลและธรรม ตายแล้ว จิตลอยเข้าร่างคนที่อยู่เบื้องบน ครับของสูงย่อมเบา มีความดีเป็นกำแพงกั้นคนทำบาป เพียงคิดสม่ำเสมอ บาปที่เห็นก็นำทุกข์มาให้แล้ว ยิ่งลงมือทำ จะฆ่าคนโกงเงินประเทศชาติ ย่อมลงที่ต่ำเมื่อตายหลายคนคงสงสัย ระหว่างคนฆ่าคนกับคนโกงประเทศชาติ อย่างไหนบาปกรรมมากกว่า หลวงพี่สอนว่า ฆ่าคนซี แต่ผมก็อดสงสัยไม่ได้ คนโกงประเทศชาติ คนเดือดร้อนมากมาย คนเดือดร้อนควรจะได้เงินพัฒนาโรงเรียน อาชีพ เลยอดคิดไม่ได้ว่าคงจะบาปมากกว่า แล้วแต่ท่านผู้อ่านก็แล้วกัน ฟรีความคิด แต่เขาบอกว่าความคิดเข้าข้างคนผิด บาปกรรมก็เป็นส่วนด้วย

วันนี้กรมอุตุบอกว่า หิมะตกทั้งวัน และความหนาวไม่หยุด ทุกครั้งหิมะตก บ่อยครั้งลมจะผสมโรงด้วย เพิ่มความหนาว เหมือนกับหญิงชายมีความรัก อยู่ใกล้กัน ที่ปลอดสายตา จะห้ามสิ่งดีๆ ที่เป็นธรรมชาติ ไม่ให้ค่อยและเล็มคงจะยาก

ผมเคยถามตัวเองชอบอากาศหนาวไหม "นรก" สบถกับตัวเอง ชีวิตคุณอยู่เมืองอากาศดี อบอุ่น อย่างดีก็ใส่เสื้อหนาวไม่หนามาก แต่ที่นี่หิมะตก แต่งตัวเหมือนบ้าหอบฟาง ใส่เสื้อหลายชั้น เสื้อด้านนอก ต้องกันหิมะหรือฝนได้ ภายในบุด้วยผ้านวม ให้ความอบอุ่น ครับเสื้อประกอบด้วยคุณภาพมากมายพิเศษ ถ้าพูดถึงราคาย่อมพิเศษด้วย ถึงเสื้อจะคลุมหัวได้ แต่หมวกผ้าอุ่นๆ ก็ต้องใส่ อดคิดตอนวัยรุ่นเคยมีความรัก พบกันที่งานศิลปหัตถกรรมสานต่อความสัมพันธ์ พอปีใหม่ผ้าเช็ดหน้าที่ได้รับก็ถักรอบๆ อีกมุมปักคำว่า "รัก" นอนไม่หลับสนิทหลายวัน คิดถึงเจ้าของผ้า ถ้าเมืองหนาว คงถัก ผ้าพันคอ ถุงมือ อีกมากสิ่ง พอเลิกรา ไม่ทวงคืน เหมือนหญิงชาย หมั้นกัน แหวนหมั้นไปซื้อด้วยกันและข้าวของมากมาย ก็รักนี่ อยากเอาใจ พอเลิกรา จะใครเลิกก่อนไม่สำคัญ เหตุอ้างชีวิตคงไม่ใช่เนื้อคู่ ขอแหวนและสิ่งของคืน ผู้พิพากษาบอกว่าสิ่งเดียวที่ได้คือแหวน เหตุผลเพราะแหวนคือสิ่งที่หมั้นและสิ้นสุด แต่งงาน เมื่อไม่แต่งแหวนก็ต้องคืน เจ้าสาวบอกว่าไม่ยุติธรรม เพราะฝ่ายชายเลิก อิฉันซื่อสัตย์ รักเดียว มั่นคง ทั้งๆ ที่มากชายเหล่ตา อุปกรณ์อีกอย่างถุงเท้าหนาอุ่น

นั่งมองหิมะตก เหมือนนุ่น เบา ขาว สะอาด คงตกมาจากท้องฟ้าสูงพอควร แต่สายตาเห็นตกแค่ความสูงของหลังคา สองสามวัน นั่งในรถ ช่วงสโนว์ตก เป็นตึกสี่ชั้น มองชั้นสี่เห็นสโนว์ตก เลยอนุมานว่าคงรวมตัว และตกมาจากที่สูง ลมพัดสโนว์ ปลิวหนามองดูสวย พอผ่านหน้าต่างลมผวน ก่อนถึงทิวต้นไม้ สโนว์พัดวกกลับ ขึ้นบนสูงเมตรสองเมตรวกกลับลงล่าง ลมพัดปลิวปะทะทิวไม้ มากสโนว์พัดลอดต้นไม้ กระทบตกลงทับถม นานวันสูง มากส่วนหลุดลอยผ่านต้นไม้ ครับช่วงสโนว์ตก เมื่อกระทบพื้นดิน จะละลายทีเดียวคงยาก ทับถมเป็นแผ่นสูง สีขาว เขาจึงพูดว่าคนสัตย์ซื่อสะอาดกายใจ คิดในสิ่งเป็นกุศล ใจย่อมขาวเหมือนหิมะ