ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 22 กุมภาพันธ์ 2563

กลับถึงสนามบินซานฟรานซิสโก หายหน้าไปเกือบ 2 เดือน อดสารภาพกับตัวที่ไหนที่ไปมา ถึงจะสวยงาม ชอบพอ รับความรู้ใหม่ ลงท้ายถ้าอยู่นาน “คิดถึงบ้าน”

เดือนพฤศจิกายนและธันวาคม ไปอยู่กรุงเทพฯ ถึงจะยังชอบพอกรุงเทพฯ พบญาติพบเพื่อนเคยเรียน และอยู่หอด้วยกัน แต่พอนานวันก็คิดถึงเบย์แอเรีย ยิ่งช่วงนี้ต้นไม้หลายประเภทยืนต้นออกดอกออกใบ และใบไม้หลังฝนสะอาด มอดลอดหน้าต่าง เห็นคนจูงหมามองเห็นเบย์แอเรีย มองน้ำทะเลภายใน ไกลสายตาหน่อยน้ำสีเขียว สงบเงียบ ตอนเช้ามืดยังไม่สว่างทีเดียว ตึกสูงต่ำซานฟรานซิสโกในสายตาดวงไฟจากหน้าต่างดูสวยงาม คิดลึกชีวิตคนแต่ละห้องตื่น กระตือรือร้น ทำอาหาร ชงกาแฟ แต่งตัวไปทำงาน เด็กๆมากมายยังนั่งตรวจงานบ้านจากโรงเรียน แต่งตัวไปเรียนหาความรู้ ปกติเช้าจะทำกาแฟ อากาศเบย์ช่วงนี้เย็น ใส่เสื้อสองตัว ถุงเท้า เปิดสไลด์ประตูหลัง ยืนมองออกจากเด็ค เกาะทะเลภายใน นำความสงบมาให้ใจ ครับอดคิดตามหลักพุทธศาสนา ชีวิตถ้าหาเวลาสงบกายใจ ทุกวัน วันละไม่มาก ชีวิตจะมีจุดยืนของชีวิต ทำผิดพลาดน้อยลง เหตุการณ์จะมีสติก่อนสุขภาพ กายและใจ ชีวิตจะก้าวล่วงกาลเวลา อายุมากขึ้น แต่เมื่อกายและใจยังสามารถช่วยตัวเองได้ พูดภาษาเราๆคืออายุมากยังขับรถ เดิน มีความตื่นตัว เมื่อชีวิตยังพึ่งพาตัวเองได้ น่าจะเรียกว่า ชีวิตมีคุณวิเศษ

ทุกครั้งการนั่งเครื่องบิน ผมเจาะจงนั่งหลังๆ ที่นั่งติดทางเดิน เพราะต้องไปห้องน้ำ และเวลาออกจากเครื่องบินผมกับภรรยาจะรอท้ายๆ เมื่อลงหลังสะดวก ความคิดเร่งรีบ กับทำแบบสบายๆน่าจะแตกต่างทางจิตใจ ที่จอดของสายการบิน เดลต้าพอออกจากประตู เดินไม่ไกลก็ถึงทางออก เดินลงทางเลื่อนไปรับกระเป๋า อาจจะต่างจากสนามบินดีทรอยด์ สนามบินที่กรุงเทพฯ ออกจากเครื่องลากกระเป๋าไกล

เหลือเชื่อ ผมและพวกคุณๆ เราต่างเดินทางกันบ่อย การเดินทางส่วนใหญ่เราคิดว่าต้องเดินทางไกล ข้ามเมือง ข้ามรัฐ ข้ามประเทศ แท้จริงการเดินทาง แม้เพียงขับรถ ออกจากบ้านไปมากสถานที่ เราจะผ่าน ถนน ผู้คน รถ บ้านเมือง ผมชอบถนนมากมาย ต่างมีต้นไม้ หมู่บ้าน ผมและบ้านเรือนใกล้เคียง ปลูกต้นไม้บ้านทาสี ตัดต้นไม้ ตัดหญ้า ครับการดูแลรักษา ทุกสิ่งที่เราลงมือทำคือออกกำลังกาย และพัฒนาสุขภาพจิต สำหรับผมอายุมากยังเข้าก๊วนออกกำลัง YMCA ไปมิชิแกนร่วมกับศูนย์ผู้สูงอายุ บอกกับภรรยา อีกเดือนหรือ 2 เดือนหลังจากกลับถึงบ้าน เราจะขับรถออกนอกเมือง ครับบางเมืองไร่ต้นไม้ ออกดอก ออกผลสวยงาม เคยตามคำบอกเล่าไปเก็บเชอรี่กับเพื่อน งกเก็บมาเยอะจ่ายร้อยกว่าเหรียญกินแจกยังเหลือ “เข็ด”

ชีวิตผมเติบโต ต่างจังหวัดอยุธยา วัยผมตอนนี้ 80 ปี ถอยหลังอยุธยาเต็มไปด้วยธรรมชาติ ที่บ้านมีบ้านและมีแพค้าขาย ตอนเป็นเด็กนอนแพ หลายคนบอกว่าเหมือนนอนแปลญวนเวลาคลื่นพัด แพจะขึ้นลง หลับสบาย ธรรมชาติงามแต้

หน้าข้าวออกรวง สีเหลือง มองไกลสุดสายตามีระดับเดียวราบ สีเหลือง พอถึงวันนี้ คนทั่วโลกเคยกินขนมปังหันมาทานข้าว ข้าวจึงเป็นปัจจัยหลักของคน แต่คนปลูกน่าจะมีสตังค์ แต่กับจน ถูกเอาเปรียบ ครับเกษตรกรไทย ยากจน มากมายป่วยไม่สามารถไปรักษา อย่างตาต้อ จะพึ่งตัวแทนคือ ส.ส. เหมือนรอราคายุติธรรมระหว่างรอกระเป๋า ตกลงกับภรรยา วันนี้ เรานั่งรถไฟฟ้ากลับบ้านกันนะ วันอาทิตย์คนนั่งไม่มากมายเหมือนวันธรรมดา วันธรรมดาคนต้องไปทำงาน ครับชีวิตรอบตัว รถเมล์ รถไฟฟ้า รถรับส่งคนสูงอายุ ควรเรียนรู้ไว้ ผมไปกรุงเทพฯ นั่งรถแถว รถเมล์ รถไฟฟ้า เกือบทุกวัน บ้านผมในเซ็นทรัล มีรถมารอรับส่งไปรถไฟฟ้าที่อุดมสุข เดี๋ยวนี้กลับบ้านจากสนามบิน ใช้เวลา 30-45 นาทีก็ถึง ทั้งๆที่ไม่ไกล แต่รถก็ติด การเดินทางเดี๋ยวนี้ เรียกคนคุ้นเคยให้รับส่งและจ่ายเงิน ยิ่งยุคนี้จะเรียกรถแท็กซี่ส่วนตัว ที่เรียวกว่า อูเบอร์ หรือจะเรียกรถตู้รับส่งนั่งรวม 5-6 คน แวะส่งตามรายทาง คิดหัวละ 20 เหรียญ อูเบอร์ก็ราวๆ 60-70 เหรียญ สำหรับเพื่อนคนไทย ผมก็ให้ 60 เหรียญ แต่ะสะดวกสบาย ครับที่ผมกล่าวเคยใช้บริการสะดวกสบาย สำหรับรถ Bart ใช้เป็นครั้งที่ 2 น่าจะมีที่ 3-4 สำหรับรถไฟฟ้า หรือเราเรียกว่ารถ Bart (Bay Area Transit) สะดวกสบาย สะอาด การเดินทางจากแอร์พอร์ตของผมไม่ยุ่งยาก มีกระเป๋า 3 ใบ ลากขึ้นรถไฟฟ้าในแอร์พอร์ต ไปต่อรถ Bart ในแอร์พอร์ตเหมือนกัน แต่จอดด้านติดกับสายการบินต่างประเทศ ครับใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง ความรู้สึกสะดวก รถไม่ติด ล่าช้าบ้างเพราะจอด มีช่วงหนึ่งรถวิ่งใต้ดิน จะมีเด็ก 3-4 คนขึ้นมา แล้วโชว์ท่าเต้น โชว์เสร็จเปิดหมวกขอเรี่ยไร พอดีกับรถลอดอุโมงค์เสร็จก็ลง

ผมช่วง 3-4 เดือนตอนนั่งรถไฟจากอยุธยามากรุงเทพฯ ผู้หญิงผู้ชายเห็นหน้าตาการเดิน และยืนคือผู้เฒ่า ต่างลุกจากที่นั่ง เชิญนั่งคะคุณตา ผมลงจากรถไฟหัวลำโพง เซนิดเด็กหนุ่มรีบวิ่งมาจับแขน โอเคไหมครับคุณลุง ผมยิ้มขอบคุณอดคิดสังคมไทยเจริญขึ้นมาก พอถึง El Cerrito ลงลิฟท์ รถแท็กซี่จอดรอ ราคาค่ารถจากสถานีไปบ้านไม่เกินไมล์ทั้งค่าบริการและทิป ผมจ่าย 8 เหรียญ ค่ารถฟฟ้า คนละ 10 เหรียญ รวม 28 เหรียญ

แผลบเดียวก็ถึงบ้าน คนขับช่วยยกกระเป๋า ช่วงผมกับภรรยาไปต่างเมือง งวดนี้ไปมิชิแกน เดือนเกินนิดหน่อย ที่มิชิแกนหิมะตก ฝนมีบ้าง หนาว แต่ความรู้สึกไม่กลัวหนาว อยู่บ้านลูกเปิดฮีตเตอร์ตลอดวัน ควบคุมอุณหภูมิ ฝรั่งทุกคนก็ทำวิธีนี้ ถ้าอยู่บ้านจะหลับนอน ตื่นเช้า จะเปิดฮีตเตอร์ควบคุมอากาศ เขาบอกว่า ดีกว่าปิดๆเปิดๆ เพราะหลังจากปิดแล้วเปิดใหม่ กรว่าจะร้อนทั่วบ้านก็เสียค่าแก๊สเยอะ แต่ถ้าเปิดไว้ พออุณหภูมิถึงตามที่เรากำหนด เครื่องจะหยุด พอสักพักอากาศเริ่มเย็นลง เครื่องจะทำงานใหม่ เครื่องเดิน หยุด ตลอดวัน เขาเล่าว่าปล่อยไว้ทั้งวัน ให้หยุดๆเดินๆ ค่าไฟก็สูสีกับ ปิดเปิด แต่อุณหภูมิภายในบ้าน ถ้าปล่อยไว้ตลอดไม่ดับ ปล่อยให้ดับและเดินเอง ความพอใจในธรรมชาติที่เป็นความอบอุ่นของอากาศจะสม่ำเสมอ

ชีวิตผมน่าจะไม่สมดุลกับความหนาวและหิมะ แต่ชีวิตก็สัมผัสตลอดเวลา ครับถ้าเลือกสิ่งที่พอใจไม่ได้ พุทธองค์บอกว่า “ปรับความคิดซิ” เปิดประตู เอากระเป๋าเข้าบ้าน ออกมานอกบ้านใบไม้เยอะ กวาด เก็บ ขยะระหว่างไปปกติจะบอกซิตี้ หยุดมาเก็บ ประหยัดเงินจริง แต่ถ้าไปเดือนหนึ่งบอกซิตี้ไม่ต้องมาเก็บขยะ แต่พอมาถึงบ้านไปบอกซิตี้จะคิดค่าบริการใหม่อีก 25 เหรียญ อดคิด บางครั้งบอกให้หยุดเก็นลดเงินกับขาดทุน ปล่อยตามปกติให้ธรรมชาติที่เรียกว่าศีลธรรม (ทุกข์-สุข) หรือจริยธรรม สุญญตาและอัตตา

หน้าบ้านมีต้นไม้หลายยี่ห้อ มีกอ Lavender แม่บ้านชอบอีกไม่นานดอกสีม่วงเต็ม ผึ้งจะมาเก็บน้ำหวาน ดอก Lavender สีม่วงมีกลิ่นหอมสวย ถัดไปเป็นต้นมะกรูด ปลูกไว้หลายปี ปล่อยตามธรรมชาติ รดน้ำ ใส่ปุ๋ย เคยขายใบได้ปีละ 3-4 ครั้ง ๆ ละ 100 เหรียญ ปลายปี 2019 คนมาซื้อหายหน้า บอกว่าคนต้องการใบมะกรูดและลูกมะกรูด คนซื้อเจ้าของร้านอาหาร ปลูกกันเอง หมดความต้องการ

ทางซ้ายมือมีต้นข่า และต้นไม้มากยี่ห้อ มีต้นไม้ ต้นคิดหลังคา สูงประมาณไม่เกิน 8 เมตร มีกิ่งก้าน ตอนนี้ลูกสีแดงเต็มลูกเล็กกว่าองุ่นเต็มต้น ผมชอบสวย กระรอกอ้วน ทุกวัน จะวิ่งบนรั้ว มาจากหลังบ้านผม มากินลูก กระรอกและนกจะกิน ครับธรรมชาติของมิชิแกนเดือนนี้ต่างกัน ต้นยังโกร๋น ผมถอดเสื้อผ้าอาบน้ำ ตัวเหนียว โกร๋น ไม่น่าดูเหมือนต้นไม้