วันนี้ผมส่งความคิดไปประเทศไทยเป็นวันแรก คณะรัฐบาลเปิดความรับรู้และรู้สึก เปิดกิจการหลายอย่างให้ประชาชนได้สัมผัสอย่างตลาดสด ออกกำลังกลางแจ้ง ร้านตัดผม ร้านอาหาร แต่มีข้อแม้ ต้องใส่หน้ากาก ปิดปาก ปิดจมูก จะเดิน หรือมีกิจกรรมต้องเว้นระยะห่าง จะได้ไม่ถ่ายเทโรคภัยซึ่งออกจากปาก หายใจและสัมผัส

รัฐบาลบอกว่า อยากให้ประชาชนมีชีวิตปกติมากขึ้น ความเป็นปกติ คือการทำมาหากิน เพิ่มรายได้ให้ครอบครัว ชีวิตคนหลังจากโรค Covid-19 ระบาด โรงเรียนปิด โรงงานปิด ร้านค้าปิด และชอปปิ้ง แม้แต่วัด

เรื่องการไปมาหาสู่วัด เราชาวพุทธ วัดไม่เพียงสะสมให้คนมีเมตตา พัฒนาปัญญา ศาสนาพุทธเน้นเรื่องของปัญญา เปล่าที่ต้องบอกว่าฉลาด คิดเก่ง เพียงแต่รู้จักใช้ปัญญาคิดว่าสิ่งไหนถูก สิ่งไหนผิด สิ่งที่ถูก เมื่อทำแล้วชีวิตย่อมปลอดภัยจากสิ่งไม่ดีงาม

เคยมีคนคิดว่า คนบางคนที่กระทำไม่ดีงาม คิดสิ่งชั่วร้าย เกิดจากคนอื่น ต่อว่า นินทา เขาจึงกลายเป็นคนไม่ดี คำว่าไม่ดีพูดลึกคือทำผิด เป็นหลักของพุทธศาสนา คนชั่ว ย่อมไม่เกิดจากคนอื่นยุยง พูดจา แล้วเขาทำชั่ว ครับความชั่ว หลักพุทธศาสนาบอกว่า ผู้กระทำไม่ดี ย่อมเกิดจากตัวเอง ไม่มีใครพูด ยุยง ชักชวน แม้แต่พูดใส่ร้ายให้เขากลายเป็นคนชั่วได้ การทำผิด “ทำชั่ว” เกิดจากตัวเอง

คงจะเหมือน สมองของคนจะประกอบด้วยเม็ดประสาท ทุกคนจะมีเม็ดประสาทเท่ากัน ไม่ว่าคนนั้นเป็นคนฉลาด คนปานกลาง หรือคิดช้า เม็ดประสาทจะเท่ากัน แต่หลักความฉลาดเกิดจาก

1.ได้รับพันธุกรรม ยีนส์ฉลาดมาจากพ่อและแม่

2.ด้วยการเรียนรู้

เรื่องการเรียนรู้ แรกเลยลูกเติบโตกับการสัมผัส พฤติกรรมของพ่อแม่ พ่อแม่ขยัน ดูแลเอาใจใส่ครอบครัว ไม่ติดอบายมุข อย่างดื่มเหล้า การพนัน แม้แต่ชีวิตไฝ่เกี่ยวกับชอบพอวัตถุ กู้ยืมเงินมาซื้อ หาวัตถุ ลูกเติบโตย่อมเอาเป็นแบบอย่าง

ผมเป็นเด็กอยุธยา ต่างจังหวัดรอบๆ หมู่บ้านคนเรียนเฉลี่ย ป.4 ม.6 วันหนึ่ง ผมไปเรือข้าวกับแม่ ช่วยแม่นับข้าว ที่คนแบกมาใส่เรือ ผมน้ำมูกไหล แม่มองดู แล้วเรียกมานั่งลูกไปอยู่กรุงเทพฯ นะ ไปเรียนหนังสือกรุงเทพฯ มีโรงเรียนดี มหาวิทยาลัยและแหล่งความรู้ อย่างห้องสมุด แม้แต่รถราง

แม่บอกว่า ไปอยู่วัดราชบพิธ กับสังฆราชนะลูก ไปอยู่กับสังฆราช ท่านมีเมตตา ล้อมรอบด้วยคนมีความรู้ ครับเกือบทุกคืนสังฆราชจะเรียกผมอบรมสั่งสอน

ครับวันนี้เปิดกิจกรรมปกติหลายอย่างในไทย แต่ก็ต้องยึดหลักความปลอดโรค อย่างตอนนี้ อยู่บ้าน ออกจากบ้านก็ต้องดูแลตัวเอง ปิดปาก จมูก เดินหรือยืนห่างจากคน (ป้องกันโรค) ไม่จำเป็นก็อย่าออก

ครับคำพูดของรัฐบาล รัฐจะเปิดกิจกรรมให้คน บางอย่างก็เพียงแง้มให้รับรู้ แต่เมื่อมีสังคมบ้างเหมือนกัน พอเผลอใช้ชีวิตแบบปกติเบียดเสียด จับกลุ่มเมายาและเหล้า แต่เมื่อเปิดสังคมของคนเริ่มละเลย ปล่อยตัวแบบเก่า แล้วโรคภัยเพิ่มมากขึ้น เมื่อเปิดได้ แง้มได้ คนขาดความระวัง โรคเพิ่ม ก็ต้องปิดธุรกิจที่เปิด เริ่มเข้มงวดอีก ทุกอย่างก็อยู่ที่ตัวเรา

อาทิตย์สุดท้ายของเดือนเมษายน 2020 ลูกสาว (แพทย์หญิงสุภัคร สุขกสิกร) บอกว่า วันนี้ให้พ่อและแม่ ดูข่าวสถานี Fox News ของรัฐมิชิแกน ช่วงเย็น ลูกสาว ลูกเขยออกทีวี Fox News จะสัมภาษณ์เกี่ยวกับ การดูแลรักษาคนป่วย เกี่ยวกับโรค Covid-19 และสัมภาษณ์ความคิดเห็นของหมอต่อโรคโควิด 19

ลูกสาวแพทย์หญิงสุภัคร สุขกสิกร สามีนายแพทย์มานิตย์ เคสไลเกอร์ สองคนแต่งงานมาหลายปี ทั้งคู่เกิดในอเมริกา จบมหาวิทยาลัยเมเย่อร์วิทยาศาสตร์ เมื่อตั้งใจจะเป็นหมอก็ต้องสอบ “เอ็มแคต”” เพื่อเรียนหมอ ทั้งคู่ไปเรียนหมอที่อังกฤษ เหตุผลเพื่อประสบการณ์ แพทย์หญิงสุภัคร ระหว่างเรียนหมอ มีช่วงที่ต้องฝึกงานเรียก “อินเทิร์น” สมัครไปเป็นหมอฝึกหัดที่เคนย่า ที่เคนย่าเมืองยากจน หมอสุภัครบอกว่า คนสูงอายุจะมาโรงพยาบาลก็ต่อเมื่อโรครุมมากรายเสียชีวิต

พอจบ 4 ปี ที่อังกฤษได้ MD. ก็กลับอเมริกา มาเป็นหมอฝึกหัด (Residency) ที่แอนอาร์เบอร์ เป็นคลินิกฝึกหัดหมอดีหนึ่งในห้าของอเมริกา จบทำงานหมอสุภัครไปเรียน อินทรีเกตเม็ดดิซีน อีก 2 ปีที่มหาวิทยาลัยอริโซน่า หลายปีมา หมอสุภัคร และหมอมานิตย์ เปิดคลินิก มี 2 ที่ ชื่อ EMCURA IMMEDIATE CARE แห่งแรกที่ Bloomfield Hills แหล่งที่ 2 ที่ Northville

ทั้งสองแห่ง เป็นคลินิกมีครบวงจร มีมากห้อง การออกแบบสวยงาม ได้รับรางวัล คลินิก สวยงามสะอาด ที่เมือง Northville ได้รางวัลที่ 1 ของรัฐ Michigan มีคนทำงาน หมอ พยาบาล และคนงาน 28 คน

ช่วงโควิด 19 คลินิก ทั้งสองเปิดรักษา คนไข้ เกี่ยวกับโรคโควิด จะตรวจคนไข้ โดยคนไข้อยู่ในรถตัวเอง หมอ พยาบาล ปกป้องตัวด้วยชุด PPE จะตรวจและวัดอุณภูมิ และเช็คเลือดส่งไปตรวจห้อง LAB ผลจะแจ้ง 3-5 วัน หมอมานิตย์บอกคนสัมภาษณ์ในทีวี การเช็คเลือดผลแน่นอน 99.90 เปอร์เซ็นต์ การตรวจเลือด เช็คแอนตี้ไบโอติก

การสัมภาษณ์หมอสุภัครและหมอมานิตย์ ย่อมแสดงถึงความไว้วางใจ ในความเข้าใจ วิเคราะห์โรคที่คนไข้ให้ความศรัทธา ปกติคนไข้ที่ Bloomfield Hills จะมีคนไข้มากทุกวัน

สำหรับแพทย์หญิงสุภัคร นอกจากดูแลคนไข้ ยังสามารถพูดภาษาไทยได้ดี ทั้งที่เกิดในอเมริกา จากการเล่าเรียนภาษาไทยจากวัดพุทธานุสรณ์ ลูกผมอีกคนด็อกเตอร์พหล สุขกสิกร ก็เรียนภาษาไทย ช่วงหยุดทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก ไปเรียน เขียน อ่าน ภาษาไทย ที่มหาวิทยาลัยวิสเคาน์ซิล

ครับช่วงโควิด หลานชาย 3 คนไปอยู่บ้านปู่ย่า หลับนอนที่บ้านย่า เมื่อวันหนึ่งพฤษภาคม สุภัคร ไปรับคนกลางและคนโตไปทำงานที่คลินิก คนกลาง 10 ขวบ กวาดถู คนโต 12 ขวบทำงานที่เค้าท์เตอร์ เรียนรู้ รับ กรอกเอกสารให้คนไข้

ครับถ้าเราคิดจะให้ลูกเป็นหมอ เรียนโรงเรียนดีๆ ไม่พอ ต้องสร้างพฤติกรรมใกล้ชิดกับงาน อย่างมาอยู่คลินิก คิดว่าอนาคตลูกชาย 1 ใน 3 ย่อมมีอย่างน้อย 1 คน เลือกเรียนหมอสืบอาชีพครอบครัว