ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 24 พฤษภาคม 2557

บ่นร้อนฝนนอกฤดูตกหนัก ดันมาตกช่วงเย็นวันศุกร์ปลายเดือน เสียงคนบ่นอย่างนี้เศรษฐกิจก็ฉิบหมด คนกรุงเทพฯ นิสัยไม่ชอบฝน เพราะชีวิตทำมาหากินกับเงินเดือน ถึงรับรู้กำพืดของตน เคยเติบโตต่างจังหวัด พ่อแม่ทำมาหากินกับการคราดไถ เพาะปลูกปีไหนฝนเล่นตัว ทำขยัก จะตกไม่ตก วิ่งพล่านทำพิธีกรรม แห่นางแมว บนบาน ถ้าฝนตกพรุ่งนี้ลูกช้างจะตื่นแต่ไก่ขัน เอ้าถ้ายังไม่เป็นที่พอใจตื่นก่อนไก่และนกก็ได้ ออกนาคราดไถ เช้าจรดเย็น แต่ไม่ได้พูดนะขอรับว่าจะไม่หยุดพักทานอาหารกลางวัน ท่านก็รู้เพราะอยู่สูง ตาทิพย์ นึกสารพัดอะไรก็ได้ ย่อมเข้าใจ อาหารคืส่วนต่อเติม งานคราดไถ การพักชั่วประเดี๋ยวเพิ่มพลังงาน

คนกรุงเทพฯ บ่น เปิดหน้าต่างฝนกระเซ็นเข้าสู่กาย ฉุนเย็นหนาว ชิ่วไล่ฝน ตาหาอะไร รถติด เปียก และสิ่งสกปรกที่คนกรุงเทพมีนิสัยมักง่ายทิ้งลงกับถนน ฝนหนาเม็ด มากท่อตัน เศษของลอย รู้ไหมดูเมื่อไหร่รับรู้สกปรกมากเลย ต่างคนต่างเห็นแก่ตัว เป็นคนมักง่ายสอนไม่จำ อย่าทิ้งเสียงตะโกนตกผิดที่ ต่างจังหวัดต้องการฝน ทำไมใจร้ายไม่ไปตก ยิ่งตกหนักเม็ดคนกรุงเทพฯ ใจแฟ๊บกลัวน้ำท่วม เมื่อปีที่ผ่านมาน้ำท่วมถึงจะยังไม่ถึงกรุงเทพฯ จ่อบริเวณรอบนอก คนกรุงก็กลัวรนรานแล้ว

หลายคนคิดกลายเป็นความกังวล ตายละคืนนี้เงินเดือนออก มีนัดใช้เงิน ถึงกิจกรรมของชีวิต จะอยู่ภายในห้อง กินอาหารหรู ปล่อยให้ร้านขูดรีด กินเสร็จเข้าบาร์ ของมึนเมา เต้นรำ ยิ่งดึกจูงมือคู่นอน ออกมารับลมหน้าร้าน มองดูท้องฟ้าถึงไม่เคยเห็นดวงดาว ทึกทักคงหลับไหล หรือสนุกแบบเราๆ ด้วย เสร็จตัวใครตัวมัน ล่อนจ้อนในผ้าธุรกิจเริ่ม เผลอพูดเออเพิ่งจะรับรู้คุณของฝนก็ตอนนี้ ปิดแอร์ เปิดหน้าต่าง เสียงซู่ แปะบางช่วงของฝนกระทบหลังคา รางสังกะสี รับรู้ปรับคลื่นประสาทเป็นความชอบพอ เสียงพ้อน้องชอบบรรยากาศฝนมากเลย ความชอบพอไม่สุดสิ้น ถึงฝนจะหยุดน้องก็ไม่อยากหยุด พลังงานในกายติดเครื่องแล้วจะหยุดย่อมยาก

ถึงจะยังไม่มืดดำ สาบานเด็กรุ่นจิ๋วของกรุงเทพฯ ไม่รู้ว่าชอบแก้ผ้า วิ่งไล่ฝน บนสนามหญ้า เตะน้ำกระจาย สนุกจังเสียงกล่าว คงไม่มี ขืนทำพ่อแม่คงบ่น ตะโกนเสียงดัง ฟ้าจะผ่า เพื่อนบ้านเห็นพฤติกรรม ซึ่งรับรู้ความคิดใหม่ เห็นเด็กๆ แก้ผ้าเปล่าเปลือยตำหนิ โลกเดี๋ยวนี้จึงวุ่นวายเรื่องเพศ คงจะเริ่มความไม่ถูกต้องประเภทแก้ผ้าวิ่งไล่ฝน ตั้งแต่เด็กคนในโลกจึงผิดผัวเมีย ลูกนอกสมรส หย่าร้าง

ฝนหยุดสนิท มาเกินสองชั่วโมง แต่ยังคงมอบความเย็นให้ ชะล้างสิ่งโสโครกบนถนนของกรุงเทพฯ คลองระบายน้ำจากบ้าน สารพัดสิ่งทิ้งลงซิ้ง ไหลลงท่อ มาทับถมที่คลองมากคลองในกรุงเทพฯ คลองหลายคลองจึงมองดูน้ำดำ ส่งกลิ่น แขกคือนักท่องเที่ยวมากรุงเทพฯ พอสัมผัสคลองสกปรก และกลิ่น โอ้มายก็อด ยูอยู่กันได้อย่างไร ซ้ำลูกหลานเต็มเมือง ดูได้ที่กรุงเทพฯ มีโรงเรียนมากมาย จะโรงเรียนเด็กเล็ก เด็กโต คงหลบกลิ่นนอนในห้อง

พูดถึงเด็กเรียนหนังสือ อดจะออกนอกเรื่อง เคยอ่านเกี่ยวกับการระดมพัฒนาการศึกษาของจีน ยอมรับประเทศจีนบริหารผูกขาดด้วยกลุ่มคน แต่ถ้าคิดถึงความกว้างไกลทางความคิดต้องยอมรับว่าพวกบริหารเขามีสายตามองไกล หลักแหลม ตรงกับหลักพุทธศาสนาที่เรียกว่าพุทธปัญญา เขาคิดว่าการศึกษาจะสามารถพัฒนาประเทศให้เจริญได้ เขาทุ่มเงิน 7-8 พันล้าน ส่งเด็กไปเรียนต่างประเทศ อย่างอังกฤษ อเมริกา และอีกมากประเทศ เด็กรุ่นแรกๆ แน่นอนต้องเป็นเด็กเก่ง และต้องมาจากครอบครัวดีจะพูดว่าครอบครัวของคนมีสตังค์ ครอบครัวของผู้บริหารน่าจะถูกต้อง เด็กๆ นักเรียนนอก เมื่อเรียนจบก็นำความรู้ และที่น่าปวดหัวของผู้บริหาร คือนำนิสัยทำตัวสูง รังเกียจคนด้อยกว่า ครับย่อมรับไม่ได้สำหรับเจ้าของทุน

เงินก้อนเดียวกัน จีนทุ่มเทการศึกษาภายในด้วย สร้างมหาวิทยาลัยให้ทุนเด็กเก่ง แน่นอนเด็กทุ่งนาถ้าอยากมีโอกาสดีๆ ใช้ปัญญาก็ต้องเรียนหนังสือ เมื่อมหาวิทยาลัยเปิด เด็กๆ แต่ละคนนำความเป็นพฤติกรรมของตัวมา มันคือความแตกต่างที่เติบโตมา แน่นอนเติบโตกับกฎเกณฑ์ข้อบังคับ เมื่อมาเรียนทำตัวอิสระ แต่สิ่งหนึ่งคาดไม่ถึงเกิดขึ้น เด็กหญิงชายอยู่ร่วมกัน ย่อมเป็นปกติในความรู้สึกทางเพศ เขาบอกว่าโรงแรมม่านรูดเปิดมากแห่งใกล้มหาวิทยาลัย และยิ่งหยุดเสาร์-อาทิตย์ ห้องชั่วคราวต้องจองล่วงหน้า ของแน่ท้องระหว่างเรียน การทำแท้งนอกระบบกลายเป็นปัญหา

เลยคิดโรงแรมม่านรูด เปรียบเทียบระหว่างไทย-จีน เหมือนกันหรือเปล่า ถ้าให้ฟันธงของไทยน่าจะแจ๋วกว่า เพราะการเข้าม่านรูดคือการทำธุระเรื่องเซ็ก มีมากรายหญิงไม่สมยอม คนบอกว่าทุกอย่างมันคือ เหตุและผลคิดเอาเอง

ผมหลบฝน เข้าร้านอาหาร มองดูเวลา ล่วงเลยบ่ายโข เย็นถึงจะยังไม่ถึงมื้อเย็นเพราะปกติจะกินทุ่มหรือสองทุ่ม เหตุรอครอบครัว ยิ่งกลับกรุงเทพฯ พบหน้ากันก็ที่โต๊ะอาหาร คุย ปรึกษา พอเช้าหลังอาหาร ต่างแยกย้ายทำมาหากิน แต่วันนี้ พูดกับตัว ตัวใครตัวมัน โทรบอกแม่บ้าน ไม่ต้องรอ ฝนตก รถติด และกำลังเพลินกับกรุงเทพฯ วันนี้จะฝากท้องอาหารริมถนน เมียฟังตกใจ อย่ากินที่ร้านบนถนน ไม่มีห้องนะ เธอคงจำได้ ตอนไปเที่ยวต่างจังหวัด เธอคนเดียวกินจับฉ่าย หลังจากนั้นเธอท้องเดินอยู่สองสามวัน ท้องเธอไม่คุ้น ผมคิดเออจริงนะคนมากคนมีชีวิตอยู่ไม่ต้องพึ่งอนามัย เกี่ยวกับความสะอาดมากนัก ก่อนกิน ต้องล้างมือ เดินผ่านคน ไอ จาม ควรมีผ้าอนามัยปิดจมูก อาหารที่กินต้องแน่ใจว่าไม่เสีย สะอาด และยังเตือนเพิ่ม ควรกินอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย ครบห้าหมู่ประชาชนชาวบ้านฟังยิ้มไม่เข้าใจค๊ะ

ครับชีวิตมากคนมีชีวิตธรรมดา ไม่เคยใส่ใจเรื่องที่ผมพูด เผลออาจคิดว่าพูดมากจัง ชีวิตพวกเขาอยู่มาอายุยืนยาว โรคภัยไม่วุ่นวาย ถึงแม้ว่า ภายในร่างกายจะมีเชื้อโรคปะปนอยู่อาศัยทำรัง ขยายลูกหลาน แต่ก็คิดว่าโรคต่างพันธุ์แย่งอาหารกัน ย่อมทำร้ายซึ่งกันและกัน ใครแข็งแรงกว่าก็ยังจะอยู่ต่อไป เมื่อเอาแต่แก่งแย่ง ทำร้ายกัน เลยละเลยมุ่งร้ายต่อเจ้าของ จะจริงหรือไม่เพียงคิด อดยิ้มเล็กๆ ให้กับใจ

คุณก็รู้ โลกของคนกรุงเทพฯ ประชาชนไม่เป็นทางการ กล่าวขาน กรุงเทพฯ มีมวลชน 7 ล้าน 8 ล้าน บางปากบอกว่า 12 ล้าน เหตุผลง่ายๆ กรมสถิติไม่สามารถได้ข้อมูลย้ายเข้าย้ายออก แม้แต่คนตาย ไปตายเมืองอื่น ก็ลืมรายงาน เพราะขืนบอกเงินรับเดือนละ 600 บาทชวด กว่าจะทำเรื่องรับเงินยาก เมื่อตายก็ยังไปรับแทน หลายคนบอกว่า รัฐบาลขาดทุน มากคนพูดสมน้ำหน้าที่พวกเขาทำงานไม่คุ้มเงิน คุย หยุดกลางวันมากเวลา โกงเวลา โกงภาษี เราประชาชนได้คืนบ้างเล็กๆ น้อยๆ คงไม่ว่ากัน

เลือกโต๊ะริมหน้าต่าง มองดูคนไปมาครับสุข คนบริการมากคนเรียกคนบริการ มากคนพูดตามปากคนนอกประเทศ เว็ตเตอร์และเว็ตเตรส ครับจะเรียกอย่างไรตามสบาย เขามายืนรอตั้งแต่พาผมนั่ง ส่งรายการอาหาร ยื่นมือ ถือสมุดปากกา ผมบอกเอาเบียร์สิงห์ขวด เอาขวดที่คอไม่ตั้งนะ(พับ) ท่านคนหมายถึงเย็นจัด ช่างสารพัดรู้ ผมขอปลาแดดเดียวมาเป็นของแกล้ม ปลาข้างในชื้นเหม็นตุๆ ไม่นะ

เผลอแผล็บเบียร์เย็นพร้อมรินให้ ฟองฟู่ ซิบชื่นใจ แปลกเบียร์ขมๆ บอกว่าอร่อย ยาขม ทำหน้ายี๊ กว่าจะดื่มหมดแก้วคะยั้นคะยอ ครับระหว่างรอเห็นคนจูงหมา คนไทยเริ่มนิยมมีหมาเป็นเพื่อน มอนิ่งวอล์คหรือ เดินตอนมืดค่ำเชิญ จะเคยชินตอนไหนไม่ว่ากัน เคยสังเกตไหม ส่วนมากหมาจะเซ เห็นต้นไม้ พุ่มไม้ จะแวะดม และที่ผมกำลังเห็น ยากขาหลังด้านต้นไม้ยืนฉี่ ผมฟังคนเคยพูด จะอ้างชื่อแซ่จำไม่ได้ บอกว่าคนมีหมาส่วนมากจะเหงา มีหมาไว้เป็นเพื่อน อย่างดีเขาพูดว่าหมาก็เป็นเพียงสัตว์ กระทำตามพฤติกรรม จะแสดงอาการของความรักนอกเหนือจากพฤติกรรมแบบคนไม่ได้ เขาก็พูดต่อ คนที่ยึดหมาเป็นเพื่อนคงไม่มีเพื่อน ไม่รู้จักสร้างความคุ้นเคยกับคน เขายังพูดเลยว่าน่าจะเป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่เผื่อแผ่ ขี้เหนียว และพูดยาวจนถึงน่าจะเป็นคนมีปัญหาทางอารมย์ ผมไม่กล้าเออออด้วย