คำบอกเล่าที่สืบต่อกันมา บอกว่าผู้สูงอายุจะนอนน้อย เข้าเตียงดึกตื่นแต่ตี 5 ครับอาจคล้ายชีวิตผม วันนี้เป็นปีที่ 85 ทุกคืนจะเดินเข้าห้องหลับนอน ราวๆ 7:00 PM จะอาบน้ำแปรงฟัน ลูบตัวด้วยครีม เหตุผลใช้ครีม อายุวันสูง ผิวหนังเริ่มเหี่ยว ครีมที่ใช้นวดตัว อย่างน้อยช่วยทาและนวด “เป็นการกระตุ้นเซลล์ในร่างกาย” นอกจากเซลล์ระบบการหมุนเวียนของโลหิต จะทำงานมากขึ้น แม้แต่กระตุ้นความนึกคิด
หลังจากตื่นนอน นอกจากจะบีบนวดร่างกาย บีบนวดศีรษะ ผู้ใหญ่พ่อแม่เคยบอก การนวดศีรษะกระตุ้น การตื่นตัวของความคิด ยังช่วยให้ความคิดยังรับใช้เรา อยู่กันนานเวลา
หลังจากตื่น หลังจากบีบ แขน ไหล่ โดยเฉพาะไหล่ด้านขวา ผมเคยหกล้มนานหลายสิบปี ไหล่หลุดหมอดูแล ถึงวันนี้ไหล่ปกติ ไม่เจ็บยังรับใช้งานในหน้าที่ ถึงจะไม่สมบูรณ์เสียทีเดียว ด้านไหล่ที่มีปัญหา เดินหรือใช้แขนไม่มีปัญหา แต่ถ้ายืดตรงหรือแกว่งช่วงแขนไปมา ออกกำลัง จะมีความรู้สึก เจ็บบ้างครับเป็นเรื่องปกติของร่างกาย เมื่อมีเหตุการณ์ที่เคยมีปัญหา ความสมบูรณ์ย่อมลดลง
หลังจากออกกำลังบนเตียง ลุกจากเตียง เข้าห้องน้ำ แปรงฟัน ล้างหน้า ทุกวันจะใช้ครีมนวดตัวถูทาตามหน้าและตัว เหตุผลเพื่อสุขภาพของร่างกาย
ผมกับแม่บ้านอยู่กันสองคน ยังโชคดี ยังสามารถดูแลตัวเองได้ดี ยังขับรถได้ ครับการขับรถในชีวิต จำเป็นมากคงอีกไม่นาน อายุยังมีลมหายใจการขับรถจำเป็น ยกเว้นหมดสภาพการขับรถ จากเหตุผลการขับรถ เมื่อวานแม่บ้านชวนไปที่ทำงานของผู้สูงอายุ ที่เรียกว่า “ซีเนียร์เซ็นเตอร์” อยู่ห่างจากบ้านไม่เกินไมล์ แม่บ้านลงไปคุย ถามว่าถ้าจะเรียกรถของศูนย์กลางใช้ เสียเท่าไหร่ ได้รับคำบอกว่าครั้งล่ะ 2 เหรียญ ที่ศูนย์กลางสามารถมาทานอาหารได้ แต่เสียเงิน มีสระว่ายน้ำ ที่ออกกำลังและสำคัญ “กิจกรรมมากสิ่งสำหรับคนวัยเดียวกัน”
พูดถึงการออกกำลัง จันทร์-ศุกร์ ผมจะไปออกกำลังที่ YMCA การไปคลาสออกกำลัง ต้องเสียเงิน ถ้าถามผมราคาเท่าไหร่ ถ้าผมตอบว่าไม่รู้ คนดูแลติดต่อ จ่ายเงินคือ ลูกชาย และลูกสาว จะดูแลกิจกรรมของพ่อแม่ทุกอย่าง ผมกับแม่บ้านถือว่าชีวิตมีโชค มีลูกสองคน ลูกสาว และลูกชาย ช่วยจ่ายบิลล์บ้านให้ด้วย ขอบคุณลูกรัก ลูกสาวอยู่รัฐมิชิแกน ตอนไปมิชิแกนใหม่ๆ ลูกสาวไปเรียน “หมอ” ที่มหาวิทยาลัย มิชิแกน การเรียนหมอใช้เวลานานมาก เคยบอก หลังจากจบ ไฮสกูล อยากเรียนหมอต้องสมัครเข้ามหาวิทยาลัยที่มีการสอนทางแพทย์ สมัครเข้ามหาวิทยาลัยที่มีการสอนเที่เรียกว่าเตรียมแพทย์ มหาวิทยาลัยดังๆ หลายแห่งไม่มีการสอนเรียนหมอ อย่างใกล้บ้านผม “ยูซีเบิร์กเล่ย์” ไม่มีการเรียนหมอ
ลูกสาวเลยไปสมัครเข้าเรียนยูซี “เดวิส” ห่างจากบ้านประมาณ 40 ไมล์ มหาวิทยาลัยตอบรับ เข้าเรียนเตรียมแพทย์ 4 ปี หลังจากจบ 4 ปี วิชาเอก Micro Biology สมัครเข้าเรียนหมอ ที่มหาวิทยาลัยแอนอาร์เบอร์ รัฐมิชิแกน ตอบรับไปเรียนอีก 4 ปี ช่วงลูกสาวสอบได้ โทรไปหาแม่ ถามว่ามีเงินส่งเรียนไหม ครับเรียนแพทย์ต่างรัฐ เฉพาะค่าหอ ค่าอาหาร อุปกรณ์ การเรียนก็แพง ตอนลูกสาวโทรไปหาแม่ผมกับแม่บ้าน ยังท่องเที่ยวในยุโรป “แม่ตอบกลับลูกสาว แม่จะดูแลลูกเต็มที่” สำหรับลูกการเรียน “เงินมี”
ครับหลังจากจบ 4 ปี จากเรียนหมอเมื่อจบต้องฝึกหัดอาชีพ ที่เรียกว่า Residency อีก 3 ปี รวมเวลาเรียนหมอจนจบและทำงานหลังจากจบไฮสกูล ไม่รวมไฮสกูลใช้เวลา 11 ปี ครับมากคนที่เรียนหมอ เรียนเพิ่มเวลาเป็นคลาสที่เรียกว่า “พิเศษ” การรักษาไข้ อย่างผ่าตัด
การเรียนยิ่งเรียนสูง ต้องมีความสามารถทางสติปัญญา ความอดทน และขยันมานะ เหมือนลูกชายผมจบปริญญาเอกที่ ยูซีแอลเอ เดี๋ยวนี้มีชีวิตเจริญก้าวหน้า การเล่าเรียนสิ่งถูกต้อง “เลือกเรียนตามความถนัดของตัว”
การเล่าเรียน การดูแลของพ่อแม่เป็นผลต่อเนื่องที่ เรียกว่า “คุณงามความดี” ของลูกมีต่อพ่อแม่ อย่างน้อยกว่าจะเรียนจบ ต้องอดทน มานะ ตัดความสุขสนุกสนานของตัวเอง
ครับการเล่าเรียนของพ่อ แม่และลูกทางจิตวิทยา “เรียกว่า พันธุกรรมก็น่าจะได้”
เหมือนตัวผม เกิดอยุธยา ห่างจากตัวเมืองอยุธยา พ่อแม่ค้าขายข้าว ช่วงเด็ก แม่จะเอาข้าวสารเป็นร้อยกระสอบหลังจากสี ขนลงเรือใหญ่มาจอดที่ คลองเทเวศน์ แม่จอดขายข้าวสาร ขายปลีก และขายส่ง
ช่วงปิดเทอม ผมจะตามพ่อแม่มา การเดินทางมากับพ่อแม่ สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทางจิตวิทยา บอกว่าการสัมผัสสิ่งใหม่ๆ โดยเฉพาะวัยเด็กเรียนหนังสือ คือการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ชีวิต และพัฒนาต่อยอดอย่างการศึกษา ความจริงที่งดงามของการศึกษาคือ “การศึกษาไม่มีทางสิ้นสุด”
อย่างผมจบ ป.4 แม่ส่งไปอยู่กับสมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธ สอบเข้ามัธยมวัดราชบพิธ เคยเล่าอย่างน้อยทุกวันอาทิตย์เด็กวัดจะเข้าโบสถ์ สวดมนต์ และได้รับการอบรม การอบรมอย่างน้อย ความดีงาม การปฏิบัติตัว และสำคัญ “คือการขยันเรียน”
ผมอดคุยไม่ได้ เป็นคนเรียนปานกลาง พอจบมัธยม สอบชิงทุนกรมฝึกหัดครูได้ เรียนอาชีพครูจนจบ กศ.บ. (บางเสน) คำว่า กศ.บ. คือการศึกษาบัณฑิต
หลังจากจบเคยเล่า สมัครมาเรียนรัฐออริกอน จบ MA (1970)
ที่เล่า คือชีวิตผม มีพฤติกรรมการเล่าเรียนและท่องเที่ยว ชีวิตผมเคยเดินทางคนเดียว มากที่แม้แต่ในประเทศยุโรปอยู่ 4 เดือน
ผมมีลูก 2 คน ลูกสาวชอบท่องเที่ยว ไม่เรียนหมอที่เคมบริดจ์ ประเทศยุโรปและท่องเที่ยวในยุโรป
ลูกชายจบด็อกเตอร์จากยูซีแอลเอ จบทาง Ph.D ตอนนี้เป็นหัวหน้างานชีวิตชอบหาความรู้
ครอบครัวชอบการเล่าเรียน แม้แต่แม่บ้าน เคยได้ทุนมาเรียนและดูงานในอเมริกา
การเขียนฉบับนี้ ผมเอาข้อความโทรศัพท์จากหลานชายคนโต อายุ 17 ปี เป็นปีเข้ามหาวิทยาลัย โทรมาบอกเพิ่งได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยแห่งเดียว อีกไม่นานคงได้รับจากหลายที่ คือมหาวิทยาลัย Indiana ให้ทุน 4 ปีเต็ม
หลานขายคนที่ 2 อายุ 15-16 เป็นเด็กเรียนเก่ง เคยแข่งเรือใบใน Lake Michigan เมื่อปลายปีที่แล้ว ได้ที่ 2
หลานคนที่ 3 อายุ 14-15 เล่นฟุตบอลเก่งได้รางวัล
ครับฉบับนี้ผมเล่าเรื่องการเรียน แม้แต่ภรรยาผมก็ได้ทุนมาเรียนที่อเมริกา การเขียน สำหรับผมเคยมีอาชีพเป็นครูหัวหน้าหมวดคณิตศาสตร์หลายปี คิดว่าการบอกเล่าเป็นภูมิเสริมชีวิตคนอ่าน กระตุ้นชีวิต “ทุกชีวิตการเรียนสำคัญ” การก้าวสู่การเรียนที่เราถนัด ชอบ และเป็นการเรียนเพื่ออาชีพ “ทุกคนย่อมสำเร็จความไฝ่ฝัน หวัง ทั้งนั้น”
สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ อาจารย์ผม สอนตลอดเวลา ความหวัง ความขยัน มานะ อดทน ความสำเร็จย่อมอยู่กับเราเสมอ “สาธุ”