ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 26 มิถุนายน 2564

วันนี้อยากให้เขียนเรื่องเด็ก ทุกคนต่างเคยเป็นเด็ก ช่วง 6:00 AM ผมจะเปิดทีวี ทุกช่องเป็นเรื่องของข่าว มีโฆษณานำเด็กเล็กยังไม่หัดเดิน เพียงเริ่มคิดอยากคลาน พ่อแม่ไม่จำเป็นต้องสอน เพราะธรรมชาติใส่ “ชิฟ” มาในสมองเด็กทุกคน ทุกวันจะพัฒนา เวลาหิวเรียกแม่ครับ ผมหิวนม รีบมาหาผมหน่อย เด็กยังพูดไม่ได้ เมื่อหิวก็ร้องไห้ แม่ยิ่งช้ายิ่งร้องเสียงดัง หมอจิตวิทยาบอกว่าเด็กเปลี่ยนพฤติกรรม ร้องเสียงดังไม่ได้มีอาการโกรธ เพราะเด็กเล็กใจเด็กยังไม่พัฒนาโกรธ เกลียด อิจฉา เพียงแต่เพิ่มเสียงร้องดังขึ้น ต้องการให้แม่ได้ยิน เสียงดังอาจหิวมาก แม้แต่ผู้ใหญ่เวลาหิว เห็นอาหารไม่ชอบพอ หรืออาหารตักครึ่งจานหน้าบึ้งตึง ในใจพูดกับตัวเองโมโหแล้ว ดูซีอาหารใส่มานิดเดียว แล้วจะอิ่มได้อย่างไร

ในทีวี โฆษณาสินค้าแต่นำเด็กเล็กหัดคืบตัว ผมชอบใจเด็กยกขาสองข้าง ยกหน้าศีรษะและไหล่ ท้องติดพื้น ค่อยเคลื่อนไปข้างหน้า ดูคล้ายปลาวาฬติดหาดทรายยกหาง ยกหัว ใช้การเคลื่อนไหวด้วยท้อง ไม่รู้ว่าเด็กเอาแบบอย่างมาจากปลาวาฬ หรือปลาวาฬจินตนาการตามเด็ก จริงแล้วพฤติกรรม การก้าวหน้าของชีวิต จะมีการพัฒนารูปแบบแตกต่าง สุดท้าย “คือกระบวนการเรียนรู้” เพื่อการคลานย้ายที่ ซึ่งธรรมชาตินั่งอมยิ้ม มองเห็นความสัมฤทธิ์ผล แม่เพียงนั่งยิ้มพูดคลานมาหาแม่ นะคนดีของแม่ พอโตเดินได้ ช่วยตัวเอง ความคิดริเริ่มผลิออกดอกผล เด็กจะชอบเล่นกับเด็กรุ่นเดียวกัน อายุไล่เลี่ย เพราะความเจริญงอกงามทางการสัมผัส จากหู-ตา-จมูก-ปาก ส่งต่อให้สมอง สมองบันทึกจดจำ จิตถึงไปใช้การใช้ของจิตจะเป็นการเล่น การเรียนรู้เข้าใจความรัก เข้าใจเหตุผล เป็นสิ่งง่ายต่อการรับรู้ และการมีกิจกรรมของเด็ก ความอบอุ่นของครอบครัวจะวางรากฐานที่ดีให้กับลูก

แปลกเด็กจะอยู่ในท้อง 9-10 เดือน คลอด ลืมตาแต่ยังไม่พูดเด็กสามารถเรียนรู้ สิ่งที่เรียกว่า “เบื้องต้นของชีวิต” ได้ตั้งแต่อยู่ในท้อง เสียงแม่พูด คลำท้อง รักลูกนะ

ช่วงผมเป็นเด็ก กีฬาที่ชอบคือว่ายน้ำ บ้านอยู่ติดแม่น้ำป่าสัก แม่น้ำคือจิตใจและชีวิตของคน ยิ่งยุคโน้น ผมหมายถึงย้อนถอยหลังสัก 60-70 ปี น้ำอาบ กิน ซักผ้า ใช้น้ำจากแม่น้ำทั้งนั้น น้ำกินตักจากแม่น้ำใส่โอ่ง ชาวบ้านเรียกว่าโอ่งว่าตุ่ม คงจะหมายถึงโอ่งใหญ่ปากกับก้น กว้างกลมเท่ากัน กลางตุ่มคือท้องพองอ้วน จุน้ำได้เยอะ ชาวบ้านจะเอาสารส้ม แกว่ง น้ำจะใส ตะกอนที่อยู่ในน้ำตกไปกองที่ก้นโอ่ง ถ้าจะถามว่าน้ำคลองสะอาดสำหรับดื่มไหม ที่รับรู้ สรรพสิ่งคนทิ้งลงแม่น้ำ แม่แต่สัตว์ตาย แทนที่จะฝัง พอเน่าไส้เดือนแห่กันมากิน ครับดินกลายเป็นดินร่วน น้ำย่อมไม่สะอาด

เหมือนทุกวัน ผมจะทานประเภทผลไม้โดยเฉพาะส้ม ช่วงนี้รสหวาน อุดมด้วยไวตามินซี ปอกเปลือกใส่ถัง ทุกเช้าทานกล้วยหมอ เปลือกหั่นเล็กๆใส่กระป๋อง เศษอาหารผักสลัดเก่า แม้แต่กากกาแฟ จะรวบกันทุกเช้านำไปฝัง ขุดบ่อไม่ลึกถือโอกาสพรวนดิน เทเศษของเอาเสียมแทงพวกเปลือกผลไม้และอาหารให้เป็นเศษเล็กๆ กลบดิน รดน้ำ ครับปล่อยให้สิ่งของสลาย ผสมผสารกลายเป็นปุ๋ยธรรมชาติ อาจมีพวกสัตว์มาช่วยคุ้ยบ่อย ไส้เดือน

เรื่องของปุ๋ยที่ผมบอกคือเราโตขึ้น เรียนรู้ธรรมชาติ เรียนรู้การอนุรักษ์และพัฒนาดิน ตัวธรรมชาติของสัตว์ก็เกื้อกูลธรรมชาติอยู่แล้ว เด็กๆ ลูกหลาน เราจะสอนแต่ยังเล็ก การทิ้งของไม่ใช้ในภาชนะ พ่อแม่เป็นแบบอย่าง ลูกโตทำตาม เด็กเริ่มโตวัน โตคืน จริงนะครับ ชีวิตของเด็กเติบโตทุกส่วน ร่างกาย จิตใจ และสมอง ความคิดของเด็กเริ่มพัฒนา จดจำอยากเป็นคนดีของสังคม เด็กเปล่าพูดที่ผมบอกเสียทีเดียว แต่สิ่งที่เด็กทำคือพยายามปฏิบัติตามคำสอนของแม่และพ่อ แม่กับพ่อ ผมยอมรับภรรยาผมดูแลเอาใจใส่ลูกดีกว่าผม ผมเรียนรู้แต่ทฤษฎีรู้จากคนอื่น เขียนหนังสือให้อ่านเกิดจากการวิจัย ผมเรียนเวลาปฏิบัติน้อยบางครั้งความสามารถทางสังคมของเด็กที่เด็กเติบโต ต่างกับตัวหนังสือกฎเกณฑ์ที่เรียน เพราะฉะนั้นการบ้านหรือความคิดเห็นจึงแตกต่าง ผลของการกระทำแตกต่าง อย่างน้อยความอบอุ่นของครอบครัว การใส่ใจของพ่อแม่ การให้การบ้านแก่เด็กเล็กต้องอาศัยคำอธิบายช่วยลูก ถ้าลูกมีปัญหา

ผู้หญิงเน้นการศึกษาของลูกเสมอ อย่างเด็กของพวกเราเรียนภาษามาอยู่อเมริกา เด็กๆเติบโตเรียนภาษาอังกฤษ ต้องทำมาหากิน ปรับตัว เติบโต เข้าใจในวัฒนธรรมใหม่ หลายปีมาวัดในอเมริกามีความคิดนำครูอาสาจากมหาวิทยาลัย วิชาเอก “ครู” นำมาสอนลูกหลานไทยในอเมริกา “ขอบคุณครับ” ชีวิตคนพูดภาษาเกินหนึ่งภาษา ย่อมได้เปรียบ

ภรรยาผมตื่นเต้นเรื่องให้ลูกเรียนภาษาไทย โดยปกติแม่ทุกคนอยากเห็นลูกเรียนโรงเรียนดีๆ เหตุผลบรรยากาศของโรงเรียน โรงเรียนดี ครูเอาใจใส่ เด็กมีพฤติกรรมไม่ก้าวร้าว ระดับสติปัญญา ความมีน้ำใจระดับเดียวกัน ทุกเช้า วันที่ลูกไปเรียนภาษาไทย แม่ของเด็กจะตื่นเช้ากว่าปกติ เตรียมอาหาร ดูแลการแต่งตัวลูก ภรรยาผมบอกความรู้สึกต่อลูก ต้องใกล้ชิด สั่งสอนและเป็นเพื่อนลูก ระยะทางจากบ้านถึงวัดพุทธานุสรณ์ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงภรรยาชอบขับไปตามถนนธรรมดา ถึงรถจะติดแต่ก็ได้คุยบอกเล่า แม้แต่วิถีชีวิตของคน ต่างตื่นเช้าไปทำงานดูได้จากรถ “ทางเดียวที่เราสามารถเลือกงานได้ ใช้สติปัญญา และความสามารถทำงาน” คือ ลูกต้องขยัน เล่าเรียนส่วนแม่และพ่อ เพียงแนะนำ ช่วยคิด ปรึกษาและดูได้ที่พ่อแม่ทำงานหนักทุกวัน ส่งลูกเรียนโรงเรียนเอกชนที่ดีของท้องถิ่น ถึงจะแพงแต่แม่พ่อยอมเหนื่อย ขอบใจลูกที่ขยันมานะและสอบเข้าโรงเรียนได้

วันหนึ่งเรียนภาษาไทย พักกลางวันเด็กจะฟรี ปล่อยตัวเองไปกับความสุข เล่น คุยหัวเราะ วันนั้นเพื่อนหกล้ม แขนครูดกับพื้นซีเมนต์ แขนถลอก เลือดออก ลูกสาวช่วยนำผ้าชุบน้ำมาเช็ด ถามครูเรื่องยา ปิดพลาสเตอร์ จากวันนั้น “คำพูดออกจากปากลูกสาว จะยึดอาชีพหมอจะได้ช่วยเหลือคน” ครับจินตนาการของเด็ก ถ้าขยันมานะ ครอบครัวส่งเสริม ความสำเร็จ สามารถยื่นแขนใช้ความคิดจับต้องได้ จากวันนั้นความฝันวันนี้ ลูกสาวจบหมอ มีสองคลินิก คนงานเกือบ 30 คน คลินิกทั้งสองได้รับรางวัลคลินิกดีเยี่ยมของรัฐ มิชิแกน คลินิกชื่อ Emcura โอ่โถง