ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
สิ่งรอบตัว ตอนที่ 2

จริงแท้ ชีวิตเราสามารถใช้สิ่งแวดล้อมเป็นยารักษาสุขภาพกายและใจได้ คนป่วยนอนบนเตียง คนไปเยี่ยมจะนำดอกไม้ไปให้ ความสวยงามสีของดอก รวมทั้งกลิ่นของดอกไม้วงการวิจัยบอกว่า ดอกไม้ทำให้คนไข้มีความรู้สึกดีๆ ปรับใจได้เร็ว และสำคัญ หมอ พยาบาล รวมทั้งคนเยี่ยม เป็นส่วนทำให้คนป่วยไม่ว้าเหว่ หายไว

เย็นวันนี้ ก่อนพลบค่ำ ที่จริงดวงอาทิตย์ ลับขอบฟ้าไปนานแล้ว แต่แสงสว่างยังคงจะทำให้โลกยังสว่างอีกหลายสิบนาที นักเศรษฐศาสตร์นั่งคำนวณเพียงแต่แสงดวงอาทิตย์สว่างเพียงครึ่งชั่วโมง ประหยัดทรัพยากรมากมาย คงจะเหมือนคนที่ทำแต่สิ่งดีๆ ทำตัวเป็นแบบอย่าง หยิบยื่นกายใจให้สังคม เมื่อละจากโลก คุณความดีก็ยังอยู่ให้คนกล่าวถึง

แปลก ปกติแถวบ้าน จะมีนกเยอะ ต้นเฟื่องฟ้าที่อยู่หน้าต่าง ต้นใหญ่เวลาออกดอกจะสีสดแดง แม้แต่นกกระจอก นกเขาก็ชอบ จะส่งเสียงร้องเป็นเพลง ครับคงสุขใจ เป็นโชคของสัตว์ที่เกิด ในเมืองที่คนเห็นคุณค่าว่าทุกชีวิตมีด้านดี ให้ความสุขและเกื้อกูลในการอยู่ร่วมกัน ไม่จับมาเป็นอาหารเหมือนบ้านเรา

วันนี้ราวๆ 7.30 PM นกกามากันเกือบสิบตัว ส่งเสียงลั่น ทะเลาะกันหรือเปล่า คิดว่าคงไม่ทะเลาะหรอก เพียงแต่นกกา เวลาร้องดังเหมือนคนพูดคุย น้ำเสียงไม่มีพรสวรรค์ คือเสียงไม่คล้ายดนตรี เหมือนนกประเภทอื่น เสียงดังห้าว อาจจะคล้ายผม ผมพออายุมาก เริ่มพูดเสียงดัง ลูกๆ จะพูดเตือนเสมอ ลูกบอกว่าหูอาจไม่ดี ควรพึ่งหมอ

แต่ก็เป็นจริงนกกาถึงจะพูดไม่เพราะแต่สามารถนำมาเลี้ยงแล้วสอนให้พูดได้ เหมือนนกสาริกา และนกแก้ว หลายคนเอานกเขามาเลี้ยงบอกว่านกเขาขันเพราะ คนติดนกเขาดูแลนกมากกว่าลูกเมียเยอะ ไม่ทำงานหาเงิน ครอบครัวคงปวดหัวนะรายได้เบียดบังจากเมีย โลกปัจจุบันผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ผู้ชายไทยยึดติดในใจเสมอมา เดี๋ยวนี้อย่าคิดว่าเป็นผู้ตามสามี ความคิดคงจะล้าหลัง ไม่เป็นความจริงอีกต่อไป ผู้หญิงเรียนหนังสือ ออกไปทำงานอกบ้าน นำเงินมาช่วยเหลือครอบครัว อเมริกาตอนนี้คนว่างงาน ผู้หญิงมีมาก เขาบอกว่าครอบครัวขาดรายได้เดือนละ 3,000-4,000 เหรียญ เมื่อขาดเงินครอบครัวก็มีปัญหา คงหมายถึงสรรพสิ่งในโลกเสมอภาคทัดเทียม นกกาที่ส่งเสียงเอะอะ น่าจะทักทาย เพราะตอนนี้กาทุกตัวกลับจากหาอาหาร จะมาพร้อมหน้าพ่อแม่ลูกและแม่กาอาจนำอาหารมาฝากครอบครัวด้วย ร้องเชิญ เหมือนคนเจอหน้า คำกล่าวคิดถึงนะเป็นอย่างไรบ้างงานวันนี้ กาอาจจะบอกว่า วันนี้พบแหล่งอาหารใหม่เยอะมากเลย ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมีอยู่อีกหรือเปล่า นกกากินไข่ กินสัตว์เล็ก และผลไม้ และกาเป็นนกที่อดทนสามารถอดอาหารได้ ขนนกกามัน ปากแหลม ขาแข็งแรง เล็บยาว สัตว์ประเภทนก เกือบทุกประเภทขาคือมือ ปากสำหรับคาบ และฉีก นกกาจะออกไข่ปีละ 4-6 ฟอง ไข่จะสีเขียวมีจุดน้ำตาลหรือเทา ชาวนาทุกคน เคยเกลียดนกกา เพราะขโมยเก่ง ตอนเป็นเด็กแม่ตากปลาเค็ม นากาจะมาขโมยเสมอ แม้แต่ลูกไก่ แต่ถ้าเราเข้าใจสิ่งดีๆ ของกา ทุกปีหน้าฤดูพืชผลออกดอก นกกาช่วยจับแมลงที่มาทำร้ายพืช หน้าละหลายร้อยกิโล แต่คนไทยบอกว่าเดี๋ยวนี้เราแย่งจับมาเป็นอาหารแทนนกกา ชาวนาคิดคำนวณว่านกกากินพืชผลกับกินแมลงช่วยเหลือชาวบ้าน ชาวนาคำนาณการทำร้ายมากกว่าประโยชน์ เราจึงเห็นคนสร้างหุ่น เป็นคนยืนสวมหมวก มือถืออาวุธ กาเห็นไม่กล้า

มืดค่ำคืนนี้ทีวีประกาศว่า ดวงจันทร์เต็มดวง อากาศสดใส แสงของดวงจันทร์จะสาดส่องโลก เย็น ครับผมเป็นคนชอบข่าวและยอมรับว่า ข้างขึ้นดวงจันทร์เต็มดวงชีวิตเคยมีกิจกรรม ตอนเด็กๆ จำได้เคยเดินตัดทุ่งไปกับพวกหนุ่มสาวไปงานวัดตำบลอื่น ดูหนังกลางแปลง ลิเก ซื้อถั่วต้ม ข้าวโพดปิ้ง

การเดินข้ามทุ่งแน่นอน ย่อมมีงูเดินบ้าง ผู้ใหญ่สอนเสมอ เจองูให้ยืนเฉย งูจะหนีไปเอง เพราะถ้าเราเดินงูอาจคิดว่าทำร้ายเขา ตอนเด็ก งูเห่าเยอะแต่ปัจจุบันงูเห่าตามธรรมชาติหายาก เพราะคนเชื่อว่ากินดีงูเห่าเกิดพลังทางเพศ ผมเคยเห็นที่สวนลุม มีคนซื้อดีงูเห่าใส่เหล้ากิน คนขายจับงูผูกคอ ดึงหางเอามีดกรีด ครับดูแล้วมีความรู้สึกเราทำร้ายสัตว์ สำหรับเนื้องู เอาไปลอกหนังสับผัดเผ็ดใส่เครื่องเทศ คนกินบอกว่าวิเศษ เพียงเปิดไปสองสามคำคึกแล้ว สรุปของป่าทุกประเภทคือยาโด๊ป ถึงโลกจะเจริญมากมาย ความคิดของคนก็แคบทางจิตใจลง ที่เวียดนามเขาจับสัตว์มากประเภทดองเหล้า แล้วดื่ม ความร้อนผ่านปากคอ ลงลำไส้ ร้อนวูบวาบ พูดในใจพลังเริ่มแล้ว บางร้านมีเหล้าดอง ใช้ตัวเงินตัวทองใส่ขวดโหลดองทั้งตัวเพียงแต่เห็นความรู้สึก ตรงข้ามกับสรรพคุณที่โฆษณา ถึงจะโฆษณาสรรพคุณวิเศษมากมาย คิดว่าใช้ความเป็นธรรมชาติจะดีกว่า อยู่คงทน

แต่คืนนี้ที่แน่ๆ เข้าครัวตักแกงถ้วย ข้าวจาน ไม่ลืมที่จะเปิดตู้เย็นหยิบไวน์ริน ประคองเดินมาที่หลังบ้าน มองไปตามบ้านมืด แสงไฟบนถนนส่อง มองไกลซานฟรานซิสโกยามค่ำคืนสวย เต็มไปด้วยแสงไฟ สีแดง สีเขียว และสีเหลือง ไฟสีแดงจะมองดูเด่น คงจะเหมือนเป็นเด็กๆ ร้องอยากได้ลูกกวาดหวานๆ มากสี แม่มองตาเขียว

ความงามตามธรรมชาติ เราสามารถหาดูได้ฟรี เก็บมาไว้ในใจได้ คนส่วนมากจะประยุกต์ความงามประเภทนี้เป็นความสงบ ถือโอกาสหยิบแก้วไวน์ซิบ แปลกเวลาผักผ่อนเสร็จจากงาน ก่อนอาหารมื้อเย็น ก่อนตักอาหารทาน ดื่มไวน์ก่อนเล็กน้อย ความเหนื่อยเมื่อยล้าเริ่มหดหาย หลายคนให้คำนิยามว่า ไวน์ดีๆ สักแก้ว พอเหลือซิบสุดท้ายความคิดสับสนเบาบาง จนถึงขั้นหดหาย ถ้าจะพูดว่าไม่น่าเชื่อ ลองดู ของที่เริ่มใหม่ๆ ทุกอย่างวุ่นวายทั้งนั้น แม่นแท้ เพียงวันละแก้ว ก่อนอาหารคนมากคนให้คำกำจัดความ ดื่มช่วยเจริญอาหาร ถ้าดื่ม 2-3 แก้วชีวิตเริ่มผิดทางถูกต้อง ขับรถเผอิญโชคร้าย ถูกตำรวจจับยัดข้อหาเมาสุรา ครับซวยเสียเงินมากมาย เสียเวลา เสียประวัติ เมียคงจะบ่นไม่หยุด ถ้าเมียตัวใหญ่กว่า มีอำนาจเด็ดขาดเป็นใหญ่ในบ้าน พูดคำไหนสามีกลัว ทำอะไรมือไม้สั่น เผลอๆ ความโมโหถึงจุด อาจถูกตุบได้ ใครรู้ย่อมนินทา หัวเราะในวงเหล้า ไอ้หน้ากลัวเมีย คนกลัวเมีย ยิ้มตอบชีวิตข้าอยู่มีสุขทุกวันก็เพราะคำว่ายอมและหยวน ตักแกงราดข้าว ตักใส่ปาก อร่อย ชีวิตคนเราติดรสและความรู้สึก พวกอธิบายเกี่ยวกับสุขภาพจะเน้นว่า การกินเพื่อสุขภาพและความสมบูรณ์ของร่างกายเป็นใหญ่ ไม่ใช่ติดรสควรคำนึงถึงประโยชน์ เคยฟังคนนินทาพระบอกว่าเห็นท่านฉันอาหาร โยมใส่บาตรพอมาถึงวัดท่านตักอาหารทุกประเภทปนข้าวคลุกเคล้าแล้วฉัน ข้าทำไม่ได้ เพราะข้าคิดว่า ความเป็นคนที่สมบูรณ์ต้องรู้จักแยกรส รู้จักเปลี่ยนรส แน่แท้โลกปัจจุบันจึงวุ่นวาย

พระท่านสอนไม่เป็นเพียงคำพูด สิ่งที่เราเห็นและเลื่อมใส โดยการปฏิบัติตัวเดินตามรอยการปฏิบัติของพระพุทธองค์ พอใจกับชีวิตเรียบง่าย ปราศจากสิ่งของจำเป็น สงบเสงี่ยม ทานอาหารสองมื้อ ชีวิตคนเพียงเคร่งกับการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง เราสามารถพบกับความเป็นจริงที่สงบ พุทธศาสนาเป็นศาสตร์ที่เป็นจริง เป็นไปตามธรรมชาติจะกล่าวว่าปฏิบัติแล้วสุขกาย สบายใจ โดยไม่ฝืนก็น่าจะถูกต้อง ไอ้สิ่งผิด เรามาเริ่มจากความเป็นจริงที่ถูกต้อง แล้วยอมรับ คนเราก่อนหลับหรือหลังตื่น ถ้ามีทุกข์เราก็ย่อมคิดให้ตัวเองทุกข์ เหลือเชื่อเป็นจริงพุทธศาสนาพูดง่ายๆ และก็ปฏิบัติได้เพียง "ปล่อยวาง" ความสุขก็วิ่งมาแทนที่อะไรๆ ดูวุ่นวายก็สงบ

แต่คำว่าคน คงจะแปลได้ความว่า ปะปน วุ่นวาย ปฏิบัติดี ปฏิบัติผิดทิศทางปะปนความพอใจ และไม่พอใจ คนมากมายกิเลสยังคุกคามยั่วยวน แม้แต่มองสิ่งรอบตัว ถ้าใจทุกข์เราก็ทุกข์ด้วย สำหรับผมยอมรับว่ายากที่จะปฏิบัติให้ลดความวุ่นวายได้ ถึงจะต่อเวลาให้ยาวนาน แปลกชีวิตมีกิเลสมากั้นขวางตัดตอน

แต่จะอย่างไรก็ช่าง ช่วงเวลานี้ถือเป็นช่วงดีของชีวิต ตรงหน้ามีจานอาหาร ไวน์ มองไกล ผ่านความสดใส แสงสว่างนวลไย ตลอดทุกที่ เงียบสงบ มองดูดวงจันทร์ มีรอยเกิดอยู่ ผู้ใหญ่เคยบอกว่ากระต่ายอยู่บนดวงจันทร์ แต่แท้จริงทุกสิ่งทุกอย่างในโลก มีจุดของการดับมอดและถึงเวลานั้น วัตถุต่างๆ ก็สลาย คงไม่มีข้อยกเว้น

คงจะเหมือนเวลา เริ่มดึกดื่น หยิบสิ่งของติดมือ เดินเข้าบ้าน ใส่ไว้ที่อ่างล้างจานแม่บ้านเคยเตือน เมื่อใช้แล้วอย่าปล่อยให้สกปรก ไม่มีใครอดทนดูสิ่งที่ไม่ดีงามตลอดไปได้หรอก ยกเว้นพยายามทำใจ

เดินเข้าห้องนอน ไม่ลืมแปรงฟัน นึกถึงคำพูดหมอ อย่าลืม "ฟอสฟัน" โรคฟันผุ ฟันมีกลิ่น เพราะเศษอาหาร ฝันผุ ปากเหม็น จะไม่กล้าพูดยิ้ม ทุกคืนก่อนนอนเคยอ่านหนังสือทำขนม แม้แต่อาหารประเภทต่างๆ เลยอดคิดไม่ได้ เขาบอกว่าหนังสือที่อ่านก่อนหลับจะจำและติดตัวไป ยิ่งพวกอาหารตื่นอาจอยากกิน เลยอดคิดไม่ได้ว่าแล้วจะอ้วนไหมนี่ นี่เป็นเพียงอ่าน ถ้าหยิบใส่ปากมิอ้วนหรือ