ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 21 กันยายน 2562

ชอบสังเกตสิ่งรอบตัวทำให้เกิดการเรียนรู้ตลอดเวลาเราเคลื่อนไหว ส่วนประกอบของร่างกายรับรู้และเคลื่อนไหวตาม เมื่อเดิน ตา หู จมูก และจิตทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะผมความสมดุลของการเดิน ทรงตัว เรียกว่าเสียศูนย์ ถ้าจะถามว่าเดือดร้อนไหม ครับเมื่อเป็นธรรมชาติ ดูแลความปลอดภัยก็ต้องเสียศูนย์ คำว่าเสียศูนย์เดินไม่ตรง อาจถลำเซได้ หมอแนะควรใช้ไม้ยันเพื่อความปลอดภัย ถึงวันนี้นิสัยดื้อก็ยังติดตัว ผลัดกับตัวเองเมื่อถึงวันที่ไม่ไหว อันตราย ก็ต้องอาศัยอุปกรณ์แต่วันนี้เดินยังปลอดภัย

ผมนิสัย เมียลงความเห็น ชอบออกนอกบ้าน แม้แต่ไปอยู่หลังบ้านหรือหน้าบ้านดูแลต้นไม้ ยิ่งช่วงนี้ ลมมี ใบสน(เรดวู๊ด) ตกต้องกวาด ผมสังเกตลูกสาวลูกชายนิสัยคล้ายผม ลูกสาวมาอยู่ด้วยอาทิตย์ เช้ามืดออกจากบ้านไปร้านกาแฟ ถ้าอยู่มิชิแกนจะออกเช้าไปยิมส์ก่อนไปคลินิก ลูกชายก็เหมือนกันตอนมาบ้าน ไปออกกำลังแต่เช้า ไม่รู้ว่าตอนอยู่ฮาวายตื่นเช้าก่อนไปสอนที่มหาวิทยาลัยหรือเปล่า

ผมสังเกตคนส่วนมาก ถนัดมือขวาตอนเป็นเด็ก เด็กบางคนเขียนหนังสือมือซ้าย ครูอยากฝึกให้มาใช้มือขวาแทน เหตุผลคนรับรู้ตามคำบอกเล่า คนถนัดมือขวา สมองด้านซ้ายควบคุม และสังคมรุ่นโน้น รู้แต่เพียงว่าสมองด้านซ้ายมีคุณค่า เพราะเป็นพื้นฐานทางความคิด เรื่องคณิตศาสตร์ ตรรกะวิทยา ความจำ แต่สมองทางขวาส่วนมากเป็นผู้หญิง จะชอบความสวยงาม งานบ้าน จิตนาการ แม้แต่การสนทนา เสียงหัวเราะ อิจฉา สมองซีกขวาเป็นผู้กำกับ พอถึงวันนี้ เรายอมรับว่าสังคมของคน แต่ละความคิดที่มีความแตกต่างเป็นความสำคัญ ร่วมความคิด พัฒนาประเทศชาติสังคมให้เจริญ สรุปว่า ความสำคัญไม่เกี่ยวกับถนัดซ้ายหรือขวา จะเป็นสมองด้านซ้ายหรือขวา ต่างสร้างความเจริญให้สังคม “ความสำคัญ เป็นคนดี”

วันนี้อ่านหนังสือ เพียงความคิดเรื่องเนื้อหาอ่านแตกต่าง ชอบอ่านประเภทง่ายๆ สนุก เพลิน ได้รับความรู้ เนื้อหาที่อ่านทุกวัน คือ เรื่องศาสนาเพราะศาสนาถือได้ว่าเป็นความสำคัญของชีวิต แต่ปัจจุบันคนเรารับรู้เพียงตื้นๆของศาสนา คำว่าทำบุญ เราคิดเพียงถวายปัจจัย รับศีล ก็ครบองค์ของความเป็นบุญกุศลแล้ว ครับอาจจะจริงแต่ถ้าเป็นเปอร์เซ็นต์ทางคณิตศาสตร์ ไม่ถึงครึ่ง ยิ่งพอทำบุญเสร็จแล้วไม่สานต่อคุณความดีหมดกัน บุญหดหาย

วันนี้ออกจากบ้านก่อน 9:00 AM จะไปส่งแม่บ้านออกกำลัง แม่บ้านใช้ชีวิตกับการออกกำลังมานาน ผมไปงานสังคมงานวัดงานวัดเกิด คนหลายคนเคยทักว่าผมดูแก่ลงเยอะ แม่บ้านดูอายุน้อยหลายคนเคยบอกว่า ผมเป็นพ่อหรือ ผมตกกะใจกลับบ้านมองดูกระจก บ่นกับตัวเองบ๊ะอายุมากแล้ว คงอีกไม่นานก็ไปสู่สภาวะใหม่ การอยู่ในสภาพปกติซิน่ากลัว พออายุมากเดินหรือทำงานไม่คล่องแคล่ว อาจจะถูกตำหนิ อ้ายหมอนี่คงเป็นคนไม่ชอบทำงาน คงใช้แต่ลูกเมีย มากคนดูละครย้อนยุคมากไปหน่อย คิดเกินเลยไม่มีความถูกต้อง นึกในใจว่ายังนิยมใช้คนแบบทาสอีกหรือไง

ก่อนออกจากบ้าน ก่อนโน้นไม่ค่อยได้เช็ดรถ รถจะสกปรก แม่บ้านบ่น หลายคนบอกว่าการบ่น เหมือนการบอกเล่าให้สนใจงานในหน้าที่ แต่คุณคนส่วนมากคนบ่นจะคิดเหมือนกัน น่ารำคาญ พอถึงวันนี้ ผมเริ่มติดนิสัยการบ่นดูรถ ครับเช็คน้ำ เช็คน้ำมัน เช็คน้ำมันเครื่อง และไม่บ่อย เช็คน้ำแบตเตอรี่ เป็นความจริงทำสิ่งถูกต้อง บ่อยครั้ง ความถูกต้องจะตกตะกอน พอเห็นอะไรในบ้านไม่ถูกต้อง ความอยากดูแลเกิด

ผมมองดูรถใช้มา 20 ปี อายุการใช้งาน 20 ปี กับไมล์ที่ปรากฏ ประมาณ 2 แสน เทียบกับอายุคน 70-80 ปี รถจะเป็นเพื่อนเดินทาง พาผมไปในที่ที่ชีวิตต้องไป ไปตลาด ห้องสมุด ไปพาร์ค แม้แต่ไปวัด เพื่อนหลายคนเป็นห่วง คำพูดต่อหน้า “เธออายุเยอะ ขับรถไกล เกิดหยุดเธอจะวุ่นวาย” ผมรับฟังคำแนะนำ 2 ปีมาหมอสุภัคร ถามแม่จะเอารถไปใช้ไหม แม่ตอบว่าดีเหมือนกัน รถจะคนได้ 7-8 คน รถใหม่มือสองจากลูก เมื่อเดินทางไกล เพื่อนเห็นยิ้ม ดีใจกับนาย ความปลอดภัยเป็นส่วนของชีวิต เริ่ม

วันนี้จะแวะไปซื้อกล้วยหอมก่อนไปส่งแม่บ้าน ครับทุกเช้าแม่บ้านจะทานกล้วยหอม แนะให้ผมทานด้วย ครับกล้วยหอมราคาแตกต่างทุกที่ ส่วนมากจะขายเป็นปอนด์ แต่ร้านเทรดเดอร์โจ ขายผลละ 19 เซ็นต์ กล้าพนันที่นี่ราคาถูกที่สุด

ออกจากร้านซื้อกล้วยหอม ถือโอกาสรินกาแฟฟรี ร้านมีตลอดวันเพื่อบริการลูกค้า เอากล้วยเก็บในรถประมาณ 100 เมตรจะมีฟาร์มเมอร์มาร์เก็ต คนปลูกนำมาขายเอง สะอาด สด มีผักบุ้ง ถั่ว คะน้า และประเภทใบเครื่องเทศ โหระพา กะเพรา ข่า ตะไคร้ มีทุกวันอังคารและวันเสาร์ เริ่มเช้า สิ้นสุดบ่ายโมง จะมีตลาดผัก ไม่เพียงผักจะมี คนทำขนมและมีปลาสดคนนำมาขายจะเป็นผู้ประกอบการเอง และที่ตลาดผักจะมีนักดนตรีนำดนตรีมาเล่น วางกล่อง ร้องเพลง เชิญเถอะขอรับ บริจาคบ้างน่าจะเป็นความถูกต้อง

การให้เงินคนขอบ้าง ความรู้สึกของผมคนมาขอน่าจะเดือดร้อนจริง ห่างจากตลาดผักมีร้านโกรเซอรี่ จะมีผู้หญิงมีลูก 2 คน ช่วงโรงเรียนปิด นั่งกับพื้นหลังพิงเสาปูน ถือป้ายสามีถูกส่งกลับบ้าน หิว ขาดเงิน ครับอดคิดตอนมาใหม่ๆ มีบ้างคนไทยตอนแรกก็มาเรียน ตกเย็นทำงาน ครับพออยู่ค้นความรู้สึก อยากทำงานอย่างเดียวจะได้เก็บเงิน อดออมส่งให้พ่อแม่และน้องๆเรียนหนังสือ เมื่อไม่เรียนปล่อยวีซ่าขาดที่คนไทยเรียกโรบินฮูด ครับซานฟรานโรบินฮูดร่ำรวยหลายคน ครับคนไทยมากมายสั่งสอนให้รู้จักตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่ และคนที่ดูแล ช่วยเหลือ การตอบแทนบุญคุณสังคมไทยก็ยังยึดมั่นจนถึงปัจจุบัน อดหวั่นใจไม่ได้ สังคมคนเคลื่อนไหว ย้ายที่ทำมาหากิน ออกจากหมู่บ้านตัวเอง เดินทางไปสู่แหล่งของความเจริญ เพื่องาน ครับมากชีวิตจากบ้าน ฝากลูกให้ปู่ย่า ตายายเลี้ยงดู ไม่ผิดหรอกครับหลานๆจะได้รับการดูแล และให้ความรัก ความห่วงใย แต่ชีวิตคนสูงอายุ ต่างจังหวัดที่ดูและหลาน ส่วนมากรายได้ไม่แน่นอน ลูกๆอย่าลืมส่งเงินแม้แต่โทรศัพท์คุย ครับความรักจะยังคงมีความมั่นคงก็ด้วยการติดต่อ

คงจะเหมือนผมกับแม่บ้าน มีลูก 2 คน พอลูกจบไฮสกูล ไปเรียนมหาวิทยาลัยก็ต้องไปอยู่หอ และเป็นความจริงลูกๆของทุกคนส่วนมาก อยากไปเล่าเรียนไกลจากบ้าน “เพื่อการพัฒนาชีวิต รู้จักช่วยตัวเอง” ถือเป็นวงจรชีวิตของคน คนในอเมริกาจึงเรียนรู้ทำงานเก็บเงิน เพื่อช่วยตัวเองยามชรา

สำหรับเมืองไทย จะแตกต่างและแคบ ทางเลือกให้ชีวิต ไทยเจริญเพียงกรุงเทพฯ ผิดน่าจะเป็นความไม่ถูกต้อง เมื่อความเจริญมีเพียงแห่งเดียว คนที่ต้องการงาน ความเจริญทางวัตถุ ก็เดินเข้ากรุงเทพ เหมือนผมจบประถมก็เข้ากรุงเทพฯ ยิ่งมาเรียนต่อต่างประเทศชีวิตก็หายไปจากความคุ้นเคย พบปะ ทานข้าว นั่งนวดให้แม่พ่อ

เดี๋ยวนี้คนไทยก็ยังนิยม เดินทางมาหางานในกรุง ฝากลูกหลานให้พ่อแม่ดูแล อยากฝากนักการเมือง กำลังถกเถียงเรื่องที่ควรจะดูแลชีวิต ปากท้อง การพัฒนาท้องถิ่นที่ตัวเคยสัญญา เสียงพระท่านเทศน์ คนรู้จักตอบแทนคุณเป็นคนเจริญ