ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 8 ตุลาคม 2565

ยังนั่งบนโต๊ะ ริมถนนใต้รถไฟฟ้าครับ ถนนนี้ยาวผ่าน รถจักรยานถีบได้ ผมเงยหน้าซิบกาแฟ กาแฟยังร้อนไปทางอุ่น ครับสำหรับผม ถึงจะชอบกาแฟร้อนๆ แต่กาลเวลาผ่านไป กาแฟอุณภูมิธรรมดา ความรู้สึกไม่เคยรังเกียจ

เงยหน้ามีคนหลายคน เดิน บางคนเดินเร็ว คงจะรีบไปให้ถึง สถานีรถไฟฟ้า ยืนเข้าแถว ซื้อตั๋วแมชชีน ใกล้ๆจะมีห้องเจ้าหน้าที่นั่ง ไม่ได้ขายตัว แต่ให้คำแนะนำจะไปไหน ซื้อตั๋วเท่าไหร่ เงินทอนได้ไหม

ครับชีวิตผม ใช้บริการจากการเดินทาง สาธารณะ อย่างรถเมย์ รถไฟฟ้า และแท็กซี่ แทบจะนับครั้งได้ ถึงไม่ได้อุดหนุนโดยตรง แต่ภาษีที่ผมจ่ายตลอดเวลา รวมทั้งประชาชนด้วย ไม่สามารถหยุดได้ สำหรับรถไฟฟ้า ผ่านเมืองไหน เมืองนั้น ประชาชนต้องจ่ายค่าภาษีเพิ่ม สำหรับผมการเสียภาษี คือความยุติธรรม “ศาสนาเน้นสมอ ปัจจัยทุกอย่าง เกื้อกูลกัน อย่างทำดี จิตใจย่อมปลอดโล่ง สุข คือผลตอบดี”

ผลกัดโดนัท หวาน มันด้วยเนย รับรู้ ความชอบพอ อร่อย แต่ทุกสิ่งมีแง่บวกและลบ หวาน มัน อายุอย่างผมอันตราย อดแย้งกับตัวเอง ยอมรับ แต่ก็ชอบและทานไม่บ่อย คำอธิบายพอฟังขึ้นไหม ผมอยากถามความคิดเห็นของคนเดิน โดยเฉพาะคนสองคน หญิงชายวัยไล่เลี่ยกับผม คงจะมีประสบการณ์ของชีวิต ที่เรียกว่าด้านบวกและด้านลบ สุดท้ายความเข้าใจ โพล่งสู่ความรับรู้ที่ถูกต้อง สิ่งที่ทานแล้ว สะสมทำลายสุขภาพ ไม่น่าจะเป็นสิ่งถูกต้อง

ครับคนสูงอายุ 2 คน น่าจะมีชีวิตอยู่ร่วมกัน มานานปี ความรักความชอบพอ พัฒนาจากความชอบพออย่างหญิงชาย กลายเป็นการอยู่อย่างครอบครัว พึ่งพา เกื้อกูล ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ เป็นแบบอย่างให้ลูกให้หลาน รับช่วงต่อในทางดีงาม ทางหลักพุทธศาสนาอันเดียวกับจิตวิทยา สามีภรรยาอยู่ด้วยกันนาน ทางความคิด เขาบอกว่าคนแยกทางกันมีมากสาเหตุ แต่สิ่งหนึ่งคือการหยุดพัฒนาตัวเอง อย่างหญิงอายุเกิน 40 ฮอร์โมนในร่างกายเริ่มเปลี่ยน อาจจะไม่สนใจกิจกรรมระหว่างสามีภรรยา อันดับสองเขาบอกว่าเป็นเรื่องของอารมณ์ และสามการดูแลตัวเอง “ลดลง” อย่างกลิ่นของร่างกาย รวมทั้งปากด้วย

ครับ ได้ยินเสียงมาจากไกล เด็กนักเรียนหญิงชาย วัยรุ่น ครับเป็นวัยไฮสกูล ไม่ไกลจากที่ผมนั่ง ติดต่อกัน 2 เมืองคือ เอลเซอริโต้กับเมืองอัลบานี่ มีโรงเรียนไฮสกูล ทั้งสองเมืองอยู่ใกล้กันบนถนนเดียวกัน ครับเด็กๆเหล่านี้ ไม่เคยมีปัญหา การทำร้ายทางร่างกาย หลักความเป็นจริง อาจจะหลายสาเหตุ แต่ส่วนหนึ่งจะมาจากครอบครัว พ่อแม่รักใคร่ ปัญหาถ้ามีเก็บไว้ คุยกันเอง พ่อและแม่เป็นแบบอย่าง และสำคัญสำหรับความเข้าใจของผม คือตัวโรงเรียน เด็กๆถ้ามีปัญหา ทางโรงเรียนจะเข้าไป ช่วยแก้ปัญหา บอกเล่าให้รับรู้ถึงความถูกต้อง

สำหรับผมกับแม่บ้าน ยึดหลักการลงทุนทางการศึกษา ขยันทำงานหนัก ลงทุนจ่ายโรงเรียนเอกชนดีๆ ครับ 3 เจนเนอเรชั่นได้รับผลตอบแทนเป็นที่พอใจ อดจะสรุปให้กับตัว น่าจะเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง หลายคนค้าน โรงเรียนรัฐก็ดีอยู่แล้ว ผมไม่คัดค้าน สรุปว่าครอบครัวต้องดูแลลูกและยึดความถูกต้อง ระหว่างพ่อกับแม่

สำหรับผม เด็กๆควรมีกิจกรรม นอกหลักสูตรไม่เพียงในห้องเรียน อย่างส่งเสริมให้เด็กมีกิจกรรม อย่างเล่นกีฬา พาลูกไปท่องเที่ยวบ้าง ความใกล้ชิดจำเป็นสำหรับเด็กๆ

ผมดูคนไทยยุคออกมาต่อต้าน กฎหมาย 112 ผมว่าคนเหล่านั้นไม่น่าจะรับรู้และซึมซับความถูกต้อง กฎหมายคือข้อความดูแลให้ความยุติธรรมแก่ทุกชีวิตเพียงรับรู้ เคารพ ไม่ก้าวก่าย และล้ำเส้นของระบบกฎหมาย ผมดูข่าว คืน วันที่ 13 กันยายน ที่บนถนนกรุง London มีพิธีศพ ควีน มีคนตะโกนด่าทอ ก้าวร้าว ตำรวจไม่ปล่อย ให้คนเจตนากระทำผิด ไปจับลากไปข้างนอก และเอาตัวไปลงโทษ น่าจะทำเหมือนบ้านเรา เจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ “รักษาระบบ ความถูกต้อง และยุติธรรม” คนก้าวร้าว ด่าทอ เราสามารถจับไปลงโทษได้เสมอ แต่เรากลับปล่อยละเลย สิ่งที่ละเลยคือปัญหาที่จะสะสมให้คนกระทำความผิดได้เสมอ

เหมือนกับลูกหลานเน้นเด็กมีความปรารถนาจะเรียนอาชีพอะไร คนเป็นพ่อแม่ควรสนับสนุน ผมอยากเล่าประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับลูกผม

ตอนลูกสาวยังเล็กไปเรียนภาษาไทยวัดพุทธานุสรณ์ ผมตื่นเช้า ขับรถเกือบชั่วโมง แล้วทุกวันแม่บ้านจะอยู่วัด ช่วยทำงาน รอกลับบ้านพร้อมลูกสาว

วันหนึ่งเพื่อนลูกสาวล้มแขนถลอกมีเลือดไหล ลูกสาววิ่งเข้าไปในวัด ขอยาและสำลี ลูกสาวช่วยทำความสะอาดบาดแผล ใส่ยาและปิดบาดแผล ลูกสาวพูดกับเพื่อน “โตขึ้นจะเรียนหมอ”

ครับจากเหตุการณ์วันนั้น ลูกสาวไม่เคยลืมความคิด ขยันเรียน ครับ โรงเรียนที่ผมส่งลูก เป็นโรงเรียนเอกชนที่ดีที่สุดอย่าง High School โรงเรียนชื่อ College Prep

ครับลูกสาว มุ่งมั่นกับความฝัน จบไฮสกูล จะเรียนหมอต้องเรียนวิทยาศาสตร์เป็น เมเยอร์ ลูกสาวเรียน Micro Biology จาก UC พอจบ UC สอบเข้าเรียนหมอที่อังกฤษ จบ 4 ปี กลับมาเป็น Residency ที่ แอนอาร์เบอร์ อีก 3 ปี ครับอาชีพหมอ หลังจากไฮสกูล ต้องใช้เวลา อีก 11 ปี และลูกสาวเรียนเพิ่ม การเรียนรักษาพิเศษอีกปีกว่า ใช้เวลาเกือบ 13 ปี

ที่บอกเล่าคือประสบการณ์ของเด็กเล็กคนหนึ่ง ได้ลั่นคำมั่นสัญญากับตัวเองหลังจากเพื่อนหกล้ม แขนถลอก เลือดไหล โตขึ้นจะเป็นหมอ คำมั่นสัญญากับตัวเอง ทางจิตวิทยาบอกว่า เป็นความสำเร็จ เกินครึ่ง “เพียงดำเนินตามชีวิตที่ให้สัญญาไว้”

ทำนองเดียวกันลูกชาย ตอนเรียนปริญญาตรี เขาวางแผนจะเรียนปริญญาโทที่ไหนและเรียนปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัย “มานัง” ที่ฮาวาย

ครับคำสัญญาที่ให้กับตัว เหมือนจะตอบแทนพ่อแม่ สังคม และประจำชาติเราทำตามสัญญาได้เสมอ หลักเบื้องต้นคือเป็นคนดี หมายความว่าอย่างไร คนดีคือกระทำสิ่งถูกต้องดีงาม ขยันมานะ เดินทางตามเจตนาของตัวเราที่ให้คำมั่นสัญญาไว้

ผมเงยหน้ามองดูคนมากมาย แตกต่าง ทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบต่อตัวเอง ส่งต่อครอบครัวและสังคม หลักพื้นฐานเรียบง่าย สำหรับชีวิต ทำเรื่องถูกต้อง ไม่ให้ตัวตนของเราล้ำเขต ความไม่ดีงาม เหมือนกับหลานชายผมคนกลางอายุ 13 ปี ตอนมาอยู่กับผม ตาครับโตขึ้นผมจะเป็นหมอเหมือนแม่กับพ่อ