ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
โรงเรียนของแม่ตอนที่ 5

ทุกเช้าแม่ตื่น นอกจากหมากพูล ยังชอบดื่มน้ำชา ชาเป็นเครื่องดื่มของชาวบ้าน มานานปี มากสิ่งจุดเริ่มไม่สามารถพบหลักฐาน เพราะสังคมการศึกษาบ้านเราไม่บันทึก ถึงจะบันทึกก็ไม่สนใจ สอนและเล่าเรียน สังคมปัจจุบัน เราจึงขาดมากสิ่งทั้งดี และไม่ดี ไม่ใส่ในหลักสูตร เป็นประวัติศาสตร์ที่ควรศึกษา และอีกสิ่งเราขาดการวิเคราะห์

ปั้นชาของแม่ ทรงกลมสูง ลายน้ำเงินขาว หูจับทำด้วยทองเหลือง ขันแน่นด้วยลายมะเฟือง ถ้วยชาและกาชา ลายเดียวกัน ถ้วยใบใหญ่ ไม่มีหูจับ ความมุ่งหมายเวลาจับถ้วยชาดื่ม ต้องการสัมผัสกับความอุ่น ซึ่งอยู่ระหว่างฝ่ามือ

แม่ได้รับมรดกตกทอดมาจากพ่อและแม่ สมบัติมากสิ่งของคนไทยไม่ว่าจะเป็นบ้าน เครื่องใช้ ไร่และนา พ่อแม่จะมอบให้ลูกๆ พ่อแม่จึงทำงานหนัก เพื่อสะสม อดออม ส่งทอดต่อไว้ให้ลูก นอกจากสมบัติแล้ว พ่อแม่ยังอบรม สั่งสอนลูก “เป็นคนดีนะลูก” ชีวิตคนเรายากจน ต้องมีงานติดตัว สูตรง่ายๆ ของชีวิต ถ้าลูกเติบโต มีงานทำ มีครอบครัว มอบสมบัติให้ เท่ากับชีวิตการเริ่มต้นได้เปรียบ คนพูดหนาหู ถ้าชีวิตเริ่มจากศูนย์เหนื่อยมาก

เหมือนการออกเรือนของลูกสาว ลูกเขยต้องย้ายตัวมาอยู่กับพ่อตาแม่ยาย สมบัติที่มีย่อมต้องนำมาเป็นทุนของการสร้างครอบครัว ย่อมมีบ้างที่มีแต่ตัวเปล่า ย่อมต้องขยัน อดทน และมานะ พ่อตาแม่ยาย ถึงจะรังเกียจความยากจนบ้าง แต่เมื่อเป็นคนดี ไม่ดื่มเหล้า เล่นการพนัน ไม่เกียจคร้าน ความรังเกียจเคยมี เริ่มคลายตัว ยิ่งชีวิตเข้าใจ รู้ว่าตัวไม่มีสิ่งที่เป็นสมบัติภายนอก แต่พัฒนาความเป็นตัวตน ในโลกของคนย่อมไม่มีจิตรังเกียจตลอดกาลหรอก

กาน้ำชา เดิมทางมาไกล นั่งเรือสำเภามาจากเมืองจีน ใช้เวลาหลายเดือน การสร้างเครื่องลายคราม เป็นงานฝีมือ แรกเลยต้องคัดดิน มีคุณสมบัติเหนียว จะนำดินซี้ซั้วมาปั้นคงจะไม่ได้ เพราะแตกง่าย เปราะ มีดินก็ต้องรู้จักผสม นวด พอปั้นเสร็จตากแห้ง วาดลวดลายบนกา เผาด้วยความร้อนสูง และเคลือบเงาให้คงทน ดูดี

แม่เน้น เหมือนกับลูกสาว ถึงจะไม่สวย แต่กริยามารยาทดี อ่อนน้อม รู้จักไหว้ ขยันดูแลสามี พ่อแม่ ดูแลความสะอาด อาหารใครๆ ได้ยินคุณความดี ย่อมกล่าวขาน ยกย่อง

เป็นความสุข ระหว่างรอน้ำเดือด แม่จะทำสารพัดใกล้ตัว เตาแก๊สยังเดินทางไม่ถึง ที่เป็นตัวสร้างความสะดวกให้กับชีวิต เตาถ่านเตาฟืน หรือถ่านที่ชาวบ้านทำเอง เอาแกลบผสมกับดิน ปั้นกลมๆ ตากแดดให้แห้ง จุดไฟแทนถ่านจากฟืน ประหยัด คนสมัยนี้เรียกว่า “อนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติ”

ครับคำว่าอนุรักษ์ มีความหมายยิ่งใหญ่ ถ้าเป็นการเรียน อยู่ในขั้นของการวิเคราะห์ แต่บ้านเราติดแค่สังเคราะห์ รู้เพียงมวลรวม จะแยกแยะรับรู้ความสำคัญแต่ละหน่วย คำพูดข้าไม่สน

แม่ไม่ชอบดื่มชาแก่ หลายคนบอกว่าชาแก่ทำให้ท้องผูก เรื่องขับถ่ายเป็นความจำเป็น เป็นบ่อเกิดของสาเหตุมากสิ่ง เบ่งนานริดสีดวงเกิด ถ้าไม่ถ่ายเป็นเวลา อึดอัด หลายคนจิตตก อาหารประเภทผัก มีกาก มีประโยชน์ แม่รับการถ่ายทอดจากสุขศาลา (อนามัย) ทำให้ท้องไม่ผูก และโดยปกติอาหารคนต่างจังหวัด จะมีผักทุกมื้ออยู่แล้ว หาง่าย เกิดเองตามธรรมชาติ มากสิ่งสามารถปลูกได้ เพียงแต่ขยัน น้ำคืออาหารของผัก ใช้อย่างไรไม่หมด รุ่นแม่น้ำในแม่น้ำยังสะอาด ปราศจากสารเคมี แต่พอรัฐบาลยุคหนึ่ง ให้สร้างอุตสหกรรมใกล้แม่น้ำ ความเห็นแก่ตัวของนายทุน เทของเสียลงน้ำปัจจุบัน แม่น้ำเกือบทุกสายมีสารพิษ จะรวยหรือจน แม้แต่เจ้าของอุตสาหกรรมที่เทสารพิษก็กินปลาจากน้ำมีสาร คนไทยปัจจุบัน จึงมีโรคภัยมากยี่ห้อคุกคามชีวิต

ชารสแก่ ฝาด แม่ชอบชารสปานกลาง หลายคนถามรถปานกลางเป็นอย่างไร แม่ตอบแบบกำปั้นทุบดิน ไม่แก่และไม่อ่อน แม่สรุปว่าทุกสิ่งในความชอบพอ แต่ละคนแตกต่าง ความพอใจย่อมไม่เหมือน การปรับปรุงให้เป็นรสที่ลิ้นชอบ จึงเป็นความตายตัว ของแต่ละคน ชงชาครั้งแรก แม่จะลองผิดลองถูก ใช้ช้อนสังกะสีตักแกง ตักชาพูน สองช้อน ใส่ในกาเติมน้ำ ปล่อยให้น้ำร้อนทำงาน กัดเซาะรสชาออกจากใบชา ลองชิม ถ้ายังไม่ถูกปาก อาจเพิ่มปริมาณชา ถ้าไม่เพิ่มลดชา ก็ลดน้ำร้อน พอถึงวันนี้เวลาล่วงนาน แม่ร้องจากใจ รสพอดี

คงเหมือนการปรุงอาหาร พ่อ แม่ลูก รสชอบไม่เหมือนกัน แม่ใช้กระบวนการทำแบบทุกคนสามารถปรับรสได้ ชอบเค็มเติมน้ำปลา ชอบเปรี้ยวบีบมะนาว ชอบหวานเหยาะน้ำตาล แต่แม่จะเตือนเสมอ เครื่องปรุงเค็มไป เป็นความดัน โรคตับ หวานไปโรคเบาหวาน แล้วชอบรสเปรี้ยวละ เอ็งคงตั้งท้อง

ปกติคนส่วนมาก สร้างบ้าน จะหันหน้าไปทางตะวันออก แม่ไม่รู้ว่าตะวันออกกับตะวันตกในความเชื่อของแต่ละคนอาจแตกต่าง แต่สำหรับต่างจังหวัด นาฬิกาและไฟฟ้า ยังไม่มี ตะวันออกแสงแดดจะนำความอุ่นและแสงให้สามารถทำกิจกรรมของชีวิตได้

โรงเรียนใต้ถุนบ้านหันหน้าออกแม่น้ำ ลมพัดผ่านแม่น้ำ หอบความเย็นความสดชื่นของละอองน้ำ ผ่านเข้าบ้าน เช้าและเย็น แม่น้ำเป็นสิ่งน่าดูที่สุด มากสิ่งเคลื่อนตัวในแม่น้ำแตกต่าง สำหรับแม่ แม่น้ำคือความศักดิ์สิทธิ์ มีพระเจ้าแม่คงคาดูแลรักษา ชีวิตมากสิ่งในโลก เราศรัทธาต่อการมี แล้วเราดูแลมีกำลังใจ สร้างสิ่งมงคลให้เกิดกับชีวิต การยอมรับทั้งๆ ที่ไม่แน่ใจว่ามีหรือไม่มี แต่ทำให้ชีวิตเห็นคุณค่า ความเชื่อน่าจะเป็นสิ่งถูก

แม่น้ำไหลขึ้น ไหลลงที่แม่เห็นตลอดวัน แม่รู้ว่ามีพระคุณ ชีวิตทำมาหากิน เก็บเงินส่งลูกเรียน เกิดจากสายแม่น้ำป่าสัก เริ่มต้นแม่ค้าขายด้วยแพ เพราะชีวิตคน ไปมาหาสู่อาศัยเรือพายในแม่น้ำ สินค้าที่ขายในแพ อาทิตย์ละวัน แม่จะนั่งเรือเมย์จากอยุธยา ไปปากคลองตลาด กรุงเทพฯ นั่งทั้งคืน เช้าที่ปากคลองตลาดเดินซื้อของ สั่งคนขนลงเรือ หลักจากนั้นขยับตัวซื้อขายข้าว แม่จะเอาข้าวเปลือกไปสีที่โรงสีมณีพันธ์ สีเสร็จ ข้าวสารเป็นร้อยกระสอบ บรรทุกเรือไปจอดขายที่คลองเทเวศน์ การเอาเรือบรรทุกข้าวสารไปเทเวศน์ ใช้เวลานาน ต้องพ่วงเรือไป พ่วงเรือคือเรือสินค้าใหญ่ๆ ผูกติดกัน ชักลากโดยเรือเมย์ ผ่านแม่น้ำป่าสัก ถึงลานเท ลานเทเป็นจุดที่แม่น้ำหลายสายมาบรรจบกัน เปลี่ยนเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา น้ำที่พบกัน น้ำจะแรง เชี่ยว และวน ลานเท อันตราย พอเรือบรรทุกของหนักถึงลานเท เจ้าของเรือต้องนั่งดูแลเรือ เคยมีเรือถูกน้ำวน เรือเอียงล่ม เรือล่มหนักจะดึงเรืออื่นจมไปด้วย ถ้าไม่ระวังรีบตัดเชือกที่ผูกติดกับเรืออื่น เรือพ่วงหลายลำจะถูกดึงจมน้ำไปด้วย

พูดเรื่องน้ำ คนคิดว่าตัวฉลาด สามารถควบคุมน้ำได้ คนจึงมักง่ายลักตัดต้นไม้ โดยธรรมชาติต้นไม้ อายุเกิด 50 ปี จะดูดซึมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดี และจะดูแลต้นไม้ พืช แมลงได้ดี และสร้างวัตถุมากสิ่งกั้นทางไหลของน้ำ จริงแล้วคนไม่สามารถเอาชนะธรรมชาติการไหลของน้ำได้ ดูจากน้ำท่วมบ้านเรือน อุตสาหกรรมจมน้ำ คนสูญเสียมากมาย รวมทั้งจิตใจ

วันนี้สายหน่อยของวันเสาร์ เด็กหลายคนมาเล่นโรงเรียนใต้ถุนบ้าน โรงเรียนก่อนโน้นจะหยุดวันพระ เพื่อพ่อแม่ลูกจะได้ไปทำบุญพร้อมหน้าปัจจุบัน ความสะดวกเปลี่ยนการหยุดเป็นวันเสาร์และอาทิตย์แทนวันพระ

เด็กเอายางหนังสติ๊กมาเล่นกัน อย่างเล่นทอยกอง เด็กทุกคนเล่น เอายางมารวมกัน วางเป็นกอง ใครยิงก่อนจะใช้ยางอีกเส้น ยิงยางที่กอง ยางอันไหนหลุดออกจากเส้น จะได้ยางอันนั้น อีกอย่างหยอดหลุม ใช้ไม้ปัก โยนยางที่ไม้ปัก บางครั้งเอายางมาร้อยเป็นพวงยาว มีคนสองคนถือหัวท้าย แล้วแกว่ง คนกระโดด ถ้าถูกยางจะตาย สิ่งที่แม่สัมผัส คือกีฬาของเด็ก เล่นสืบต่อกันมาหลายรุ่นของชีวิต เล่นง่าย ราคาถูก

การเล่นทุกประเภท จะมีประโยชน์ หลายสิ่งก็มีโทษด้วย แต่ผลรวม การเล่นของเด็กสนุก เพลิดเพลิน รู้จักแบ่งปัน ทำงานร่วมกัน รู้จักแพ้รู้จักชนะ และสรุปในความคิด การเล่นทุกอย่าง ย่อมมีแพ้ และมีชนะ คือการบ่มนิสัยเด็ก ให้เป็นคนรู้จักคำว่ากีฬา