ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
สตมวาร 100 วัน ตอนที่ 6

คนมารวมกลุ่มหน้าเวที ถึงเวลาตักบาตร วันนี้ตักบาตรด้วยของแห้ง สมาคม สาธุชน และวัดร่วมมือ มีความเห็นพ้องทางสมาคมจัดอาหารไว้ต้อนรับพระด้วยความร่วมมือของร้านอาหารและประชาชน โดยปกติเมืองไทยพวกเราจะเคยมีประสบการณ์ไปยืนเคียงพ่อแม่ ถือของ จะปิ่นโตแกง ถุงใส่ของแห้ง บ่อยครั้งพ่อแม่ให้ถือขัน ข้าวตักบาตร ส่วนตัวผมจะตักด้วยอะไร ถ้าใจเรามีความศรัทธา บุญกุศลและความดีย่อมเท่ากัน ยิ่งจิตใจปรับปรุง สัมพันธ์กับความคิด ไกลพ้นถึงอนาคต คือความคิดเป็นคุณบุญกุศล คือความดี ย่อมสิ่งสู่กับเราตลอด

หลายวงการบอกเล่าถวายด้วยปัจจัยเงินยิ่งมากย่ิงบุญเยอะ ถวายดอกไม้แห้งบุญกุศลได้แตกต่างกับดอกไม้สด ส่วนตัวลองคิดถึงความถูกต้องไม่จริงหรอก หลอกกันชัดๆ เลย จะทำด้วยเงินมาก เงินน้อย อาหารแตกต่าง ดอกไม้สดหรือแห้ง ทุกปัจจัยอยู่ที่ใจ เมื่อใจพร้อมคิดถึงสิ่งที่เรากำลังทำคือความดีงาม ทุกส่ิงที่รับรู้ด้วยใจย่อมเสมอ คือความเท่าเทียม ไม่สูงต่ำแตกต่าง

ถ้าจะแตกต่าง คงจะอยู่ที่ใจของความคิด แต่ละคน อย่าคิดมากเลยน่า การตักบาตรคือการเก็บสะสมความคิดดีงามให้กับตัว และแบบอย่างกับสังคม คิดดี ทำดี เกื้อกูลสังคม แม้แต่ไม่ทิ้งกระดาษเลอะเทอะก็บุญโขแล้ว

มองรอบ คนเคยรู้จักมา 30-40 ปี ยอมรับกายที่เห็นยังคล่องแคล่ว เดินหน้ายังละมัย หัวเราะกว้างไม่ต่อเติมจริต เคยเดินเข้าไปถามคนคุ้นเคย อายุน้อยกว่าผมอาจครึ่งรอบ คำว่ารอบ ครอบรอบคือ 12 ปี ครึ่งก็โดยประมาณ 6 ปี ยังแข็งแรง หลายคนยังยืนหยัดทำมาหากิน ส่วนมากเปิดร้าน หลายคนมีเกิน 1 ร้าน

กระแซะเข้าใกล้ คนเคยมีร้านบอกว่า ตอนมีร้านเงินสดเข้าออกทุกวัน จะจิ๊กเข้ากระเป๋าใช้จ่ายกับสิ่งชอบพอ บ๊ะคล่อง พอขายร้านถึงวันนี้ต้องดูแลตัวด้วยเงินสะสม ผู้สะสมคือรัฐบาลกลาง บ่อยครั้งวันออกเงินตรงศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ เงินฝากเข้าบัญชี ถือโอกาสช้า อดบ่น ต้องกิน ต้องใช้ ต้องส่งบิลล์ พอทีอิฉันไปจ่ายบิลล์โดยเฉพาะค่าภาษี ที่ดิน บ้าน ต่อทะเบียนรถ จ่ายตั๋วจอดเกินเวลา เพียงวันเดียวดอกเบี้ยเพิ่มทันที แต่ถึงเวลาเงินของพวกกระผมละส่งช้า ไม่เห็นขอโทษหรือเพิ่มดอกเบี้ยให้เลย อดคิดสังคมทุกสังคม ยิ่งสังคมของชาติต่ำต้อยความคิด คนชั้นล่างย่อมถูกเอาเปรียบซ้ำซาก

เลยอดคิด สังคมของคนย่อมกระทำแตกต่างเหมือนสังคมของคนไทย คนทำความดี ยังถูกคนบางกลุ่ม ด่าทอ ต่อว่า พระท่านสอนอย่าใส่ใจเลยคุณโยม คนด่าเราเมื่อเราไม่สนใจ คือไม่ทุกข์ ไม่นำมาคิดต่อ ความไม่ถูกต้องก็ย่อมอยู่กับคนพูด คนคิด คนคุยยังเม้าส์ต่อ พอหมดร้านความคล่องตัวของเงินขาดตอน จะใช้อะไรต้องคิดคนึงก่อน ก่อนเธอเล่าต่อ ก็ดีเหมือนกัน ทำให้ระมัดระวังการใช้เงิน สิ่งไม่จำเป็นฉันไม่จับจ่าย พอกระทำจนกลายเป็นนิสัย เออสิ่งดีกลับเป็นฝ่ายชนะ รู้สึก ไม่อยากได้อะไรเพิ่มขึ้น

ครับฟังความคิด คือจิต คนมากคนก็สงบราบคาบขึ้น หลายคนพอถึงวันนี้ วัยมากขึ้นก็ยังวุ่นวายกับการหาเงิน เพราะตั้งความหวัง แก่ตัวจะนั่งเรือเที่ยว อยากขึ้นเหนือไปอลาสก้า เรือแวะที่ซีแอตเติ้ล ลงไปซื้อกาแฟร้านแรกของสตาบัคส์ ไปดูตลาดปลาโยนปลาแซลม่อน ครับเรือขึ้นเหนือ อ่างทางเหนือ ลมสงบ น้ำสีครามนิ่ง เกาะมากมาย พอถึงอลาสก้า เมืองรัฐที่รัสเซียขายให้อเมริกา ราคาถูก เพราะหนาว มีแต่ป่า ครับปัจจุบันคงเสียดาย คงเหมือนเมืองไทย เราพอทุกข์ยาก อดบ่นเสียดายเวลาเคยสุขอุดมสมบูรณ์ เดี๋ยวนี้อลาสก้าทรัพยากรณ์เยอะแยะ ครับจะสัมผัสกับก้อนน้ำแข็งก้อนโต หิมะลอยในทะเล เรียกไอส์เบิร์ค น้ำแข็งลอยที่เห็นก้อนหนาโต ส่วนจมน้ำใหญ่โตหลายเท่ากว่าส่วนที่โผล่จากน้ำ คงเหมือนจิตใจของคุณและผม จิตที่เรียกว่าจิตใต้สำนึกจะใช้งานมากกว่าจิตสำนึก ผมเดินทักคุย ความรับรู้ อดสรุป ปลายชีวิตคนส่วนมาก คุยและพูดเหมือนกัน “มีความสุข” สร้างครอบครัวอบอุ่นขึ้น มีลูกมีหลาน เห็นธรรมชาติมากขึ้น รู้จักเสียดาย หวงแหนความเป็นธรรมชาติ มากคนรู้จักปล่อยวาง บุญย่อมนำพา สาธุความจริงพูด จริงแท้ กำลังตอนนี้ ผมนั่งเขียนหนังสือ เปิดหน้าต่าง ต้นไม้สีเขียวมากมายเกือบทุกบ้าน ดูงามตา หมายถึงดูต้นไม้แล้วสงบ พุทธศาสนาสอนมองดูเพียงสัมผัสความเป็นธรรมชาติ ไม่เสริมต่อ ความเป็นธรรมชาติจะส่งต่อให้จิตสงบ มองดูตึกซานฟรานซิสโก ดวงอาทิตย์ ทุกแหล่งบนนภา วิว ภาพ และแสงแตกต่าง สวยงาม อิจฉาคนมองเห็นความงามของธรรมชาติ

คงเหมือนใจของคนไทย ในซีแอตเติ้ลเวลานี้ คงจะสงบ ใกล้เวลาตักบาตร ต่างคิดการตักบาตร คือการสร้างความเมตตา ชีวิตคุณและผมถ้ารู้จักเมตตา เป็นพื้นฐานของชีวิตย่อมสุข ครับมีเมตตาต่อกันเถอะ เจอทักทายยิ้มให้ คุยถามครอบครัว ชีวิต ความสงบเริ่มเสริม

คนต่างชาติ เริ่มรู้พุทธศาสนา เข้าใจว่าพุทธศาสนาสอนเรื่องทุกข์ จริงแล้วความดีงามไม่ดีงาม ทุกข์และสุข ศาสนาสอน เพราะทุกอย่างจะผกผันสับเปลี่ยนตลอด พระผู้ใหญ่เคยสอน คนรวยมากมาย ยังบ่นชีวิตยังอยากรวยเพิ่ม เพียงหุ้นตกนิดเดียวกินอาหารไม่อร่อยแล้ว

พระพุทธองค์ท่านเข้าใจความทุกข์ได้ดี ชีวิตของพุทธองค์จึงสงบ เย็น เต็มไปด้วสติ ความทุกข์จะเข้าออกมาสมสู่กับเราตลอด เคยคุยกับคนขายอาหาร วันวานฝนตก เศรษฐกิจเริ่มซบ ขายตกเกือบครึ่ง ความทุกข์เข้ามาครอบคลุม สารพัดคิด ครับความคิดกังวล ย่อมออกมาทางหน้า คำพูด แม้แต่พฤติกรรมฉุนเฉียว ถ้าถ่ายทอดสู่ครอบครัว “ความเป็นปกติสุขย่อมขาดตอน” หลายคนชอบทุบตี พอครอบครัวละ รู้ความทุกข์

คำสอน เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา จำเป็น พระพุทธองค์สอนเสมอ คนทุกข์ คนเดือดร้อน ถ้าเรามีความกรุณา เข้าใกล้ พูดคุย รับฟัง ความทุกข์จะคลายได้ดีที่สุด ครับลองใช้ดู ถ้าเห็นเพื่อนต่อเติมเพชรพลอย กระซิบสวยเช้ง ย่อมได้รับยิ้มตอบ

ชีวิตพวกเราที่ผมเห็น ต่างก็ดูแล้วพอใจกับชีวิต แต่พระสงฆ์กำลังจะเทศน์ การดูแลตัวและครอบครัว ยังไม่ครบองค์ คุณความดีของชีวิต ลองกลับไปบ้านเออเราอายุ 62 ปี แล้ว อีกไม่กี่ปีเกษียณ คนอายุ 62 ปีถือว่าวัยเริ่มถึงทางลง หลวงพ่อชาท่านอาพาธตอน 62 ปี ท่านมิตาซูโอล สึกตอนอายุ 62 ปี ครับชีวิตย่อมไม่แน่นอน แน่นอนที่สุดคือธรรมะ ลองกลับไปบ้าน สมบัติมากมายเราสะสมเก็บแล้วไม่ใช้เกะกะ ถ้าจะขนไปให้ซาเวชั่นอาร์มี่ หรือศูนย์กลางให้คนนำไปใช้ น่าจะมีค่ากว่า การดูแลตัวเอง มีค่ามากที่สุดช่วงปลายชีวิต ทุกอย่างอ่อนล้า ตัวผมตอนนี้ถึงไม่มีอะไรเจ็บ แต่ชีวิตเดินไม่ตรง เริ่มเป๋ ครับพยายามเข้าสู่ “ธรรม” น่าจะเป็นทางถูก

ครับเวลานี้ สิ่งที่ทุกคนมายืนถือถาดถวายพระ ถือว่าเป็นความดีสูงสุด ช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต ลองมองดูใจตัวเอง รู้สึกอยากทำบุญถวายสิ่งของต่อพระ พระคือผู้สืบสานศาสนา ทุกองค์สละสมบัติ แม้แต่ชีวิตแบบคุณและผม ยังมีโลภ ทำงานสะสมเงินเอาไว้ใช้ตอนแก่ เป็นความจริงคนมากเปอร์เซ็นต์หมดโอกาสใช้ จะตาย ความจำเสื่อม ความคิดยังอยากเก็บออม สังฆราชองค์ปัจจุบัน ท่านบอกว่าอย่าถวายเงินท่าน ครับพระนั่งตรงหน้าเรา ทุกองค์ตัดชีวิตอย่างพวกเรา เท่ากับทุกองค์ว่ายทวนกระแสความปกติของชีวิต ครับน่านับถือไหมล่ะครับ

พอตักบาตร หลายคนโล่งโปร่ง เออจริงแท้ตามแบบฉบับ นายกวัลลภ คชินทร อยู่บ้านดูแลปัดกวาด รักลูก รักเมีย เข้าร้าน มือ ความคิด ขา ไม่เคยหยุดนิ่ง พอมีตำแหน่งหน้าที่ทำงานเพื่อสังคม คือตำแหน่งนายกสมาคม ความรู้สึกชอบ รู้จักคนมากมาย เข้าใจวิถีชีวิต แต่ละครั้งได้ร่วมกิจกรรมของสังคม คิดว่ามันคือภารกิจของคน