ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 17 กุมภาพันธ์ 2567

นั่งอ่านหนังสือ โต๊ะหน้าบ้านเกือบบ่ายโมงของวันเสาร์ ส่วนปกติของอากาศสธรรมชาติแถวบ้านที่เรียกว่าเบย์แอเรีย ครับคำว่าเบย์แอเรีย คือ เมืองรอบๆ อย่างเมืองซานฟรานซิสโกภายในตัวเมือง มีที่ราบและเนินเขา ครับสำหรับประชาชน น่าจะมีทุกธรรมชาติทุกภาษา อย่างคนไทยมีเยอะ ดูได้จากร้านอาหารไทย คนจีนมีเยอะ น่าจะมากกว่าคนไทย มีตลาดคนจีน หลายบล็อกติดต่อเชื่อมโยง ครับตอนผมมาใหม่ๆ 1968 อาศัยอยู่กับน้าวาสนา หลายเดือน ก่อนย้ายตัวเองไปเรียนหนังสือ เรียนปริญญาโท ที่โรงเรียนมหาวิทยาลัยของรัฐออริกอน ตอนไปเรียนค่าเทอม เทอมละ 164 เหรียญ เงินสะสมช่างเป็นครู หัวหน้าหมวดคณิตศาสตร์ร่อยหรอ

เป็นความเจริญทางความคิดที่ผมมีความตั้งใจจะมาเรียนมหาวิทยาลัยอเมริกา เงินได้จากอาชีพครู ตอนจบปริญญา กศ.บ. ใหม่ได้ 900 บาท โชคดีอยู่บ้านพักครู โรงเรียนอยู่กลางทุ่ง เงินที่ได้มีโอกาสประหยัด แต่ก็มีทางรั่วไหล ครับคนหนุ่มหาเงินได้ด้วยตัวเอง มีโอกาสเพื่อนชักชวนก็ตกลงใจไปกับเพื่อน “ความคิดคือหาประสบการณ์ให้กับชีวิต”

ตรงกับหลักการเรียนรู้จากการศึกษาบอกว่า “ชีวิตเราเติบโต ควรมีประสบการณ์ตรง” คำว่าประสบการณ์ตรง คือเราสัมผัสประสบการณ์ด้วยตัวเอง สายตาเห็น มือสัมผัสสไม่เพียงสิ่งที่รับรู้ด้วยจิตวิญญาณ แต่การเดินการหยุดดูร้านค้า เหนื่อยแวะทานอาหาร ครับมันคือประสบการณ์

หลักทางการศึกษาบอกเสมอ ประสบการณ์ตรง คำว่าตรงคือการได้รับรู้จากการจับต้องและสำคัญ คือพัฒนาความรับรู้การสัมผัส ยังคิดถึงการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่สัมผัสจะไม่คงที่ จะพัฒนาตามกาลเวลา

ปี 2500 สองชิงทุนได้ ไปเรียนฝึกหัดครูพระนคร ตั้งที่ถนนศรีรับสุข ที่บางเขน ครับผมเป็นรุ่น 2 ครับอยู่หอ เป็นหอสี่เหลี่ยมผืนผ้า ยาว กว้าง นักเรียนเกือบร้อย จำได้ตอนอาบน้ำ ห้องอาบน้ำเป็นห้องกว้างยาว ตรงกลางมีคอนกรีต กว้างยาวมาก คนอาบน้ำเป็นสิบ ตอนไปอาบน้ำใหม่ๆ หลายคนแก้ผ้าอาบ ความไม่คุ้น ยังอาย พออาทิตย์ผ่านไป เริ่มทำตามเพื่อนๆ

ครับโรงเรียน เด็กมาเกือบทุกจังหวัดสอบผ่านได้ทุนอยู่ฟรี กินฟรี เรียนฟรี ที่นี่ “กิจกรรม” ที่เรียกว่า “ฟีลทริป” คือโรงเรียนพาไปเที่ยวเพื่อเรียนรู้ทางการศึกษา เรียกว่า “การสัมผัสประสบการณ์ตรง”

ประสบการณ์ที่รับรู้มีหลายกระบวนการ อย่างเรียนในห้อง ครูบอกว่า เพื่อนนักเรียนออกไปบอกเล่า เรียกว่า “สัมมนา” อ่านหนังสือในห้องสมุด ครับการรับรู้เกิดจากการบอกเล่า

แต่ความรู้อีกอย่างเรียกว่าประสบการณ์ตรง คือตาเห็น มือสัมผัส ผู้รู้จับต้อง อธิบาย ครับความรู้ที่เรียกประสบการณ์ตรง จะทรงอยู่ในใจและความคิดตลอดกาล

เหมือนกับตอนเข้าไปอยู่หอพัก วันหนึ่งมีการเลือกหัวหน้าห้อง มีบางคนไปอยู่หอต้นๆ เพื่อนๆคุ้นเคยกับความสามารถ วันนั้นเลือกหัวหน้าห้อง คนที่ได้รับการเสนอคือบุคคลที่เพื่อนคุ้นเคยกับความสามารถ เมื่อคนเสนอผมยกมืออาสาไปเขียนชื่อ และถ้ามีหลายคนมีการโหวต ผมจะนับและจดคนที่ได้รับคะแนนมากสุด คือหัวหน้าห้อง หัวหน้าห้องคือคนทำงานร่วมกับอาจารย์นำข้อคิดเห็นมาเสนอ ระหว่างผมยืนหน้าห้อง อาสาจดรายชื่อคนที่เพื่อนเสนอเป็นหัวหน้าห้อง มี 2-3 คน ถูกเสนอ ผมจดรายชื่อตามเสนอ

ระหว่างที่ก่อนโหวตเลือก มีคนยกมือถามว่าผมชื่ออะไร เขียนลงบนกระดานด้วย ผมเขียนชื่อตัวเองเป็นคนแรก

เหตุผลตอนเรียนมัธยม อยู่กับสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 18 อาทิตย์ละ 2-3 คืน ท่านจะเรียกผม ถามเรื่องเรียน ผมเคยเรียนบอกว่าผมคุ้นเคยกับสังฆราชมาก บ้านท่านอยู่ติดกับบ้านผมที่อยุธยา

หลายคนที่เป็นลูกชาวบ้านต่างจังหวัด เรียนได้สูงเป็นนักเรียนนายร้อย หลายคนเรียนกฎหมายเหมือนผม เคยคิดเรียนกฎหมาย ผมสามารถเข้า “มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” โดยไม่ต้องสอบ รุ่นผมเป็นรุ่นสุดท้าย ก็อาศัยวัดอยู่ อย่างอยู่กับสมเด็จพระสังฆราช อยู่ฟรีกินฟรี ทุกวันท่านจะให้ลูกศิษย์ คือลูกหลาน 3-4 ให้ 10 บาทไปซื้อกับข้าวมาทำกินกัน อดขอบคุณวัดราชบพิธไม่ได้ ให้ชีวิตเจริญก้าวหน้า มีชีวิตที่ดีรวมทั้งต่อไปถึงภรรยา และลูก 2 คน คนโตเป็นหญิงจบหมอที่อังกฤษ ลูกชายน้องจบปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัย “มานัว” รัฐฮาวาย ทั้งคู่เจริญก้าวหน้า ดูแลผมและแม่บ้าน

ครับสังฆราชท่านเน้น การอบรมลูกศิษย์ คือพฤติกรรมของความคิด เพียงรู้จักตอบแทน “บุญคุณ” จิตรับรู้จะพัฒนาคิดอยากตอบแทน

วันนั้นที่เลือกตั้งหัวหน้าห้องในห้องเรียน (ทุกคนเป็นนักเรียนทุน) หลายคนเสนอสุดท้ายมีคนยกมือ “แล้วเอ็งชื่ออะไร” จดชื่อลงบนกระดานดำด้วย ผมเลือกเขียนชื่อผม เป็นชื่อแรก

ครับเคยได้รับการสั่งสอน ถ้าต้องการให้คนสนใจ เหมือนเลือกหัวหน้าห้อง ควรเขียนชื่อแรก นอกจากชื่อน่าสนใจ แต่ความเป็นจริง คือการแสดงพฤติกรรมมีความเป็นผู้นำ

ครับหลังจากผมเป็นหัวหน้าพอขึ้นปี 2 เพื่อนๆ นักเรียนทุนเลือกผมเป็นประธานสวัสดิการ

ครับผมเคยเล่าเรื่องบางเรื่องของประสบการณ์อย่างเดินทางในยุโรป 3 เดือน เมื่อ 2 อาทิตย์ไปเที่ยวสิงคโปร์ เดือนมีนาจะไปครูซที่ญี่ปุ่น เที่ยวทางเรือ เรียกว่าครูซเป็นครั้งที่ 3 กับแม่บ้าน