ครบเครื่อง
ญ. อมตะ
ครบเครื่อง ญ.อมตะ 28 กรกฎาคม 2561

"เจ้าแหลม" ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น มีคิวต่อยในไฟต์อุ่นเครื่องกับ ยัง กิล แบ นักชกชาวเกาหลีใต้ เพื่อเตรียมความพร้อมในวันที่ 21 ก.ค.61 ก่อนป้องกันเข็มขัดแชมป์โลกในรายการ ONE : KINGDOM OF HEROES ต่อหน้าแฟนมวยชาวไทย ในวันที่ 6 ตุลาคมนี้ ณ อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี

เปิดฉากยกแรก ทั้งคู่ดาหน้าเข้าใส่กันชนิดที่แฟนๆ หมัดมวยคาดไม่ถึง เมื่อมาถึงกลางยก ศรีสะเกษฯ เริ่มตั้งหลักได้ ก่อนเป็นฝ่ายเดินหน้าเข้าหาและเริ่มออกหมัดรัวๆ ซ้ายสลับขวา จน ยัง กิล แบ เริ่มเซก่อนที่ลงไปนั่งในท้ายที่สุด ทำให้ “เจ้าแหลม” ชนะน็อกไปตั้งแต่ยกแรกด้วยเวลา 2 นาที 50 วินาทีเท่านั้น !!!

“เจ้าแหลม” เปิดใจหลังลงมาจากเวที ขอโทษคู่ต่อสู้ที่ต้องรีบเผด็จศึกอย่างรวดเร็ว เพราะมีธุระต้องรีบไปหมั้นแฟนสาวที่จังหวัดชุมพร ในตอนเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม นี้

ลีนา จังจรรจา หรือ "ลีน่า จัง" ไลฟ์เฟซบุ๊ก เตรียมแจ้งความดำเนินคดี "พลอย เฌอมาลย์" หลังคอมเมนต์ใต้ข่าวว่า “บ้า” พร้อมกับตั้งข้อสงสัยว่าเป็น พลอย เฌอมาลย์ เป็นคนพิมพ์เองหรือไม่นั้น

พลอย เฌอมาลย์ ได้โพสต์ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ก.ค.61 ถึงเรื่องที่พิมพ์ คำว่า "บ้า"ผ่านอินสตาแกรมว่า เป็นคนพิมพ์จริงค่ะ พลอยเป็นแค่ประชาชนคนนึงที่ออกความคิดเห็นเพราะรู้สึกเห็นใจโค้ชเอกที่ไม่สมควรโดนอะไรแบบนี้ มันไร้สาระจริงๆ ค่ะ ส่วนเรื่องจะฟ้องพลอยว่าคงยาวหน่อยนะคะหลายพันคนเลย ที่มีความเห็นไม่ตรงกับคุณลีน่าคงเหนื่อยหน่อย เอาเวลาไปทำประโยชน์ให้กับตนเองและสังคมดีกว่า ให้กำลังใจพลังบวกกับทุกคนจะดีกว่า ถ้าไม่ได้บ้าอย่างที่พลอยกล่าวก็คงไม่ต้องคิดมากมั้งคะ? ขอแนะนำให้เล่นฮูล่าฮูปนะคะ คลายเครียดได้สนุกดีค่ะ #ทีมหมูป่า #คุณมัมรักมากค่ะ จอ บอ จบ จ้าา.

ดังมาตั้งแต่วัยรุ่น "วัน อยู่บำรุง มีวีรกรรมสร้างชื่อ ที่ทำให้ “ขาใหญ่ฝั่งธน” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้เป็นพ่อ ปวดเศียรเวียนเกล้ามานักต่อนัก .. มาวันนี้ จาก “ลูกวัน”กลายมาเป็น “พ่อวัน”ก็ยังมีเรื่องตกเป็นขี้ปากชาวบ้านเขาอยู่เรื่อย .. กระทั่งบทบาท “พ่อ” ที่ดูแลลูกชายรูปหล่ออย่าง “กาโม่” อาชวิน อยู่บำรุง ก็ยังยึดสไตล์ “นักเลงโต” เหนียวแน่น ครั้งหนึ่งยังเคยประกาศล่าหัว “เด็กหัวเกรียน” อริของลูกชาย ผ่านโซเชียลมาแล้ว .. ล่าสุดมีคดีบุกไปทำร้าย “คู่กรณี”ของลูกชาย ที่เป็น “ทายาทร้านทองใหญ่”กลางร้านเหล้าดังย่านทองหล่อ จนถูกแจ้งความ มีหมาย จับติดตัว .. ก่อนที่จะเดินทางไปมอบตัวกับตำรวจกองปราบฯ แต่ติดขัดเรื่องขั้นตอนฝากขัง จนต้องถูกคุมตัวไว้อย่างน้อย 1 คืน เพื่อรอนำตัวไปฝากขังต่อศาลในวันรุ่งขึ้น ..

พลันที่ “ลูกวัน” ขึ้นโรงพัก ก็เหมือนรีไวด์ ย้อนภาพหลายสิบปีก่อน เมื่อ “สุดยอดคุณพ่อ” อย่าง “สารวัตรเหลิม” ต้องกลับมาเยือนถิ่นเก่ากองปราบปรามฯ เพื่อมาเยี่ยมลูกชาย .. แต่ก็ดีที่ไม่มีช็อตเอะอะมะเท่ง หาเรื่องตำรวจ เอาเรื่องนักข่าว เหมือนครั้งอดีต อีกทั้งยังไม่ติดใจอะไร ที่ลูกชายยังไม่ได้ประกันตัว ก่อนเดินทางกลับไปแบบเงียบๆ เสียด้วย .. มองผิวเผินอาจจะพอสรุปได้ว่า “สารวัตรเหลิม” ดูจะเจียมเนื้อเจียมตัว ในยุคที่ตัวเองไม่ได้มีอำนาจ ก็เลยปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย .. แต่แว่วว่า งานนี้ “เรื่องใหญ่กว่าที่คิด” ด้วยคู่กรณีก็มีหัว มีหางเป็น “ทายาทเศรษฐีใหญ่”อีกทั้งก็มี วีรกรรมแสบใช่ย่อย เคยมีคดีพกปืนเที่ยวผับมาก่อน .. อีกทั้ง “วันเกิดเหตุ” ก็ไม่ใช่แค่เรื่องชกต่อยกันธรรมดา เห็นว่า “ฝ่ายอยู่บำรุง”มีการชักปืน ยิงขึ้นฟ้าข่มขู่กันเสียด้วย ยิ่งสืบลึกไป “ลูกน้องตัวดี” ที่งัดอาวุธคู่กายมายิงขึ้นฟ้า ดันมีคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาติดตัวซะอีก .. ขืนโหวกเหวกโวยวายเหมือนแต่ก่อน อาจทำเรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่โดยใช่เหตุ น่าจะเป็นเหตุที่ทำให้ “ลูกวัน”จำเป็นต้องเปลี่ยนที่นอนชั่วคราว

ทีผู้ชายยังเจ้าชู้ได้ แล้วผู้หญิงละจะเจ้าชู้บ้างได้ไหม แล้วงัย?

มิ้งค์ ศวภัทร ได้ฉายา #มิ้งโป๊ะแตก สนั่นโซเชียล หลังประกาศแท้งลูกผ่านไอจีส่วนตัว เมื่อคืนวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา แล้วก็หายไปเลย ไร้การเคลื่อนไหว แถมบล็อกและลบคอมเมนต์คนเข้ามาถล่มด่ากันจนเละเป็นโจ๊ก บอกขอไปใช้ชีวิตปกติของตัวเองดีกว่า

ล่าสุดสาว มิ้งค์ ศวภัทร หรือ #มิ้งโป๊ะแตก ที่ชาวเน็ตทั้งขุดทั้งแฉ กระหน่ำในโลกโซเชียลอยู่ในขณะนี้ ถึงขนาด มดดำ คชาภา ตั้งรางวัลให้คนนำภาพหรือคลิป สาวมิ้งค์ ไปโผล่สถานบันเทิงดัง เต้นยับ หลังเพิ่งแถลงข่าวท้องกันเลยทีเดียว

ที่ไหนได้ สาวมิ้งค์ กลับออกมาโผล่กดไลก์และคอมเมนต์ บอส วศิน หนุ่มฮอต ละคร เมีย2018 ที่กำลังขึ้นแท่น สามีแห่งชาติ อย่าง ฟิล์ม ธนภัทร หลังแจ้งเกิดเพียงชั่วข้ามคืน ด้วยข้อความว่า “เปิดเฟสมาเจอแต่คนแชร์หน้าบอสค่ะพี่ 55555” เรียกว่า บอสทั้งฮอตทั้งหล่อ จน มิ้งค์ ถึงกับยอมโผล่ออกมาในโลกโซเชียลแบบนี้เลย เอ้า.......คอยดูกันไป

“ภานุวัฒน์ ปุณณรัตนกุล” ทายาทรุ่น 2 ห้างทอง “แม่ทองสุก” ที่แจ้งความเอาผิด “วัน อยู่บำรุง” ทำร้ายร่างกายที่ผับย่านทองหล่อ พบอยู่กลุ่มเดียวกับ “ไผ่ วันพอยท์” เคยคบกับ “กัสจัง” แต่ได้เลิกกันไปแล้ว พบเคยอยู่ในกลุ่มพกปืนอวดเบ่ง อ้างพ่อเป็นนายพล ที่แท้ก็พ่อเพื่อน โดนข้อหาพกพาอาวุธในที่สาธารณะ

จากกรณีที่ วัน อยู่บำรุง อายุ 44 ปี เจ้าของฉายา “ใจถึง...พึ่งได้” บุตรชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกรัฐมนตรี เข้ามอบตัวต่อตำรวจกองปราบปราม เมื่อวันที่ 23 ก.ค. หลังถูกออกหมายจับจากศาลอาญากรุงเทพใต้ ข้อหาร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นโดยมีอาวุธ และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น หลังก่อเหตุร่วมกับพวกทำร้ายร่างกาย ภานุวัฒน์ หรือ อั๋น อายุ 34 ปี ที่ลานจอดรถร้านเดโม่ผับ ซอยทองหล่อ 10 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. เมื่อคืนวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา สาเหตุเพราะเคยมีปัญหากับ อาชวิน อยู่บำรุง “กาโม่” ลูกชาย ”ป๋าวัน” ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งหลังเกิดเหตุ ภานุวัฒน์ ไปแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ พร้อมกับเข้าร้องเรียนที่กองบังคับการปราบปราม เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพล กระทั่งนำไปสู่การออกหมายจับ”ป๋าวัน” และ ยศพัฒน์ สัมพันธ์ชัย ลงวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ภานุวัฒน์ ปุณณรัตนกุล เคยมีปัญหากับตำรวจมาแล้ว โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2559 พ.ต.ท.อชิรเวชชน์ สุพรรณเภสัช สารวัตรจราจร สน.ภาษีเจริญ ซึ่งขณะนั้นมียศ ร.ต.อ. ตำแหน่งรองสารวัตรปราบปราม สน.ทองหล่อ ได้รับแจ้งจากทางร้านอาหารชาการิกิ ระหว่างซอยทองหล่อ 14-16 สุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ว่า มีลูกค้านำอาวุธปืนออกมาโชว์พร้อมทั้งสูบบุหรี่ ทำให้แขกที่มาใช้บริการเกิดความหวาดกลัว จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบกลุ่มผู้ก่อเหตุนั่งกันอยู่ 5 ราย แบ่งเป็นชาย 3 ราย และหญิง 2 ราย เมื่อเข้าตรวจค้นพบว่า นายภานุวัฒน์ และ นายสุปรีชา บุญยง พกอาวุธปืนยี่ห้อเอสทีไอ ขนาด.45 และยี่ห้อซีแซด ขนาด 7.65 เครื่องกระสุนปืนพร้อมใช้งานคนละกระบอก จึงคุมตัวมาสอบสวน

หลังเกิดเหตุ เฟซบุ๊กส่วนตัว “Ajiravedh Subarnbhesaj” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ตนได้เข้าไปตักเตือน แต่กลับอ้างตัวว่าเป็นตำรวจ และพบว่ามีการพกพาอาวุธปืนเข้ามาในร้าน และจากการตรวจสอบ ก็พบว่าผู้ชาย 2 คนที่เป็นเจ้านายกับคนขับรถนั้นมีอาวุธปืนอยู่จริง เหน็บอยู่ที่ตัวคนละกระบอกพร้อมเครื่องกระสุนอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ในตอนแรกที่เข้าตรวจค้นนั้น มีปากเสียงกันพอสมควร ฝ่ายผู้ต้องหาก็กวนประสาทอ้างรู้จักคนโน้นคนนี้เต็มไปหมดซึ่งตนไม่สนใจ จึงได้ทำการควบคุมตัว และเชิญไปโรงพัก หนึ่งในผู้ต้องหาที่มีใบหน้าตี๋ รูปร่างผอม ผมสีทอง ถามตนว่า เป็นรอง สวป. อยู่ สน.ทองหล่อ ใช่ไหม แล้วกล่าวว่า “ได้เลยพี่เดี๋ยวพี่จะรู้เลยว่าผมเป็นใคร พ่อผม เป็นทหารยศพลเอก เตรียมทหารรุ่นที่ 12 แล้วผมจะคอยดู ว่าพี่จะว่ายังไงกับผม”

จากนั้น พ.ต.ท.อชิรเวชชน์ ได้ให้ชายคนดังกล่าวต่อสายไปยังนายทหารยศพลเอกคนดังกล่าว ผลที่ออกมาก็คือ ทหารยศพลเอก ที่ว่าไม่ใช่พ่อจริงๆ เป็นพ่อของเพื่อนชายคนนั้น และชายคนนั้นมักอ้างว่าเป็นพ่อบุญธรรม ที่สำคัญ นายทหารคนนี้ รู้จักกับพ่อตนดี (พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อดีตรอง ผบ.ตร.) พูดมาอย่างชัดเจนว่า “ไอ้นี่ก่อเรื่องและอ้างอย่างนี้มาหลายครั้งแล้ว เป็นที่น่าเบื่อหน่าย เพราะผิดไม่รู้จักผิด ให้ดำเนินคดีอย่างเต็มที่” สุดท้ายจึงจับกุมตัวมาดำเนินคดีในข้อหาพกพาอาวุธและเครื่องกระสุนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งก่อนส่งตัว ชายคนนี้ก็พยายามขอร้องให้ปล่อย ขอให้ช่วยจนเป็นที่น่ารำคาญ สุดท้ายด้วยความเหลืออดเลยกล่าวว่า

“มึงอายุตั้ง 30 กว่า ทำอะไรไว้ทำไมไม่รู้จักรับผิดชอบเอง พ่อกูก็พลเอก แต่ตั้งแต่เกิดมากูก็ไม่เคยเอาพ่อกูไปอ้างไปเบ่งใส่ใคร ไม่เคยให้พ่อกูตามเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวแก้ปัญหาให้ กูทำอะไรผิดกูก็รับเองไม่เคยให้พ่อกูมาเดือดร้อน นี่มึงลูกเขาแท้ๆ ก็ไม่ใช่ ยังหาเรื่องให้เขามาปวดหัวอีก”