ครบเครื่อง
ญ. อมตะ



Elon Musk ไม่ประทับใจ Apple Vision Pro แต่มองว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีอนาคต

อีลอน มัสก์ แบ่งปันประสบการณ์ใช้งาน Vision Pro คล้ายกับยุคสมัยของ iPhone 1 ที่ไม่ดีนัก แต่มีโอกาสที่จะเป็นผลิตภัณฑ์แห่งอนาคตเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในช่วงที่เปิดตัว iPhone 3

อีลอน มัสก์ ชายผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเทสลา (Tesla) และสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) แบ่งปันมุมมองส่วนตัวหลังใช้งาน Apple Vision Pro ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของแอปเปิล ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกาได้นำร่องใช้งานก่อนใคร

ความเห็นของมัสก์มองว่า Vision Pro รุ่นแรกยังไม่ได้สร้างความประทับใจให้เขามากนัก ประสบการณ์ใช้งานก็ไม่ได้ล้ำหน้า แต่ก็เป็นเทคโนโลยีที่มีความหวัง มีโอกาสพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญ

มัสก์ อธิบายความเห็นของเขาต่อไปโดยเปรียบเทียบ Vision Pro กับ iPhone Classic ซึ่งมีข้อบกพร่องให้เห็นในรุ่นแรก แต่ก็พัฒนากลายมาเป็นสมาร์ทโฟนชั้นนำของตลาดได้ในปีถัดมาที่วางจำหน่าย iPhone 3 ซึ่ง Vision Pro อาจดำเนินตามรอยดังกล่าวของไอโฟนรุ่นคลาสสิกได้เช่นกัน

Apple Vision Pro เริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าในสหรัฐอเมริกาในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดยในโลกออนไลน์เริ่มมีคอนเทนต์ให้เห็นเกี่ยวกับการสวมใส่อุปกรณ์ชิ้นนี้ในที่สาธารณะ


เตือนฤดูร้อน 2567 ร้อนกว่าปีก่อน เผย 5 จังหวัดอุณหภูมิพุ่ง สูงสุด 44.5 องศาฯ

กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายฤดูร้อนปี 2567 เริ่มสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ จะร้อนกว่าปีก่อน และร้อนกว่าปกติ 1.2 องศาเซลเซียส โดยอุณหภูมิสูงสุด พุ่ง 44.5 องศาเซลเซียส พร้อมเผย 5 จังหวัดร้อนจัดที่สุด

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายฤดูร้อนปี 2567 เริ่มสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ สิ้นสุดปลายเดือนพฤษภาคม 2567 โดยคาดว่า ปีนี้จะร้อนกว่าปี 2566 และจะร้อนกว่าปกติประมาณ 1-2 องศาเซลเซียส ส่วนปริมาณฝนรวมเฉลี่ยจะต่ำกว่าค่าปกติ

ประเทศไทยตอนบน คาดว่าอุณหภูมิสูงสุด 42-44.5 องศาเซลเซียส

ช่วงปลายกุมภาพันธ์-ต้นมีนาคม

อากาศร้อนหลายพื้นที่ในตอนกลางวัน

ภาคเหนือ และอีสาน ยังคงมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า

ช่วงกลางมีนาคม-ต้นเดือนพฤษภาคม

อากาศร้อนอบอ้าวโดยทั่วไป

อากาศร้อนจัดหลายพื้นที่

เกิดพายุฤดูร้อนในหลายพื้นที่

ช่วงพฤษภาคม-ปลายเดือนพฤษภาคม

อากาศแปรปรวน

มีอากาศร้อนเกือบทั่วไป

มีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่

ภาคใต้ (ปลายกุมภาพันธ์-ปลายเมษายน)

อุณหภูมิสูงสุด 40-41 องศาเซลเซียส

ฝนเพิ่มขึ้น และฝนตกหนักบางแห่ง

อ่าวไทย และอันดามัน คลื่นสูง 1.2 เมตร

สำหรับ 5 จังหวัดร้อนจัดที่สุด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก และอุดรธานี ร้อนติดอันดับ อุณหภูมิสูงสุดตั้งแต่ 44 องศาเซลเซียส

ขณะที่ กรุงเทพมหานคร อุณหภูมิสูงสุด 40-41 องศาเซลเซียส มีฝนคะนองบางช่วง.


13 ก.พ. "วันรักนกเงือก" เป็นสัญลักษณ์แห่งรักแท้ และความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า

13 กุมภาพันธ์ "วันรักนกเงือก" สัญลักษณ์ของความรักและความซื่อสัตย์ ที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่า พร้อมให้สังคมเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์นกเงือกที่เสี่ยงต่อสูญพันธุ์

วันที่ 13 ก.พ. 2567 เฟซบุ๊ก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า นกเงือกคือสัญลักษณ์ของความรักและความซื่อสัตย์ ตลอดชีวิตของนกเงือกเมื่อจับคู่ผสมพันธุ์กันแล้ว จะมีคู่เพียงครั้งเดียว โดยนกเงือกตัวผู้จะทำหน้าที่คอยหาอาหารให้และคอยดูแลปกป้องลูกนกและแม่นกให้ปลอดภัย หากตัวใดตัวหนึ่งตายไปมันก็พร้อมตรอมใจตายตามไปด้วย

นอกจากนี้ นกเงือกยังเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าอีกด้วย เนื่องจากนกเงือกกินผลไม้สุกเป็นอาหารมากกว่า 300 ชนิด ทั้งผลไม้ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ อีกทั้งพฤติกรรมของนกเงือกบินหาอาหารไปทั่ว และกินผลไม้เข้าไปทั้งผลแล้วขย้อนเมล็ดออกมา จึงสามารถนำพาเมล็ดพันธุ์พืชไปทิ้งไว้ยังที่ต่างๆ และเจริญขึ้นเป็นต้นกล้าได้ทั่วป่า นับเป็นบทบาทเด่นของนกเงือกในการช่วยกระจายพันธุ์ไม้ในป่า รักษาความหลากหลายทางชีวภาพ และทำให้เกิดความสมดุลในธรรมชาติ

ในปี พ.ศ. 2547 มูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งดำเนินการศึกษาวิจัยนกเงือกมานานกว่า 20 ปี จึงได้กำหนดให้วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็น "วันรักนกเงือก" เพื่อให้สังคมและประชาชนได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์นกเงือกที่เสี่ยงต่อสูญพันธุ์.


'เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ 3000' เช็กด่วนปรับขึ้นปีแรกได้เต็มจำนวนเลยหรือไม่

คณะกรรมการสวัสดิการสังคม แถลงความคืบหน้าของอนุกรรมาธิการเรื่องของการพัฒนาระบบบำนาญพื้นฐานประชาชน หรือ การ "เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ 3000" ซึ่งเรื่องนี้มีการดำเนินงานมาหลาย ยุคหลายสมัยเพื่อ ปรับเบี้ยผู้สูงอายุ 3000 โดยมีการจ่ายทยอยเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่มีการริเริ่มสวัสดิการนี้ แต่ขณะนี้ตัวเลขเงินคงที่มานานแล้ว และเห็นว่าปัจจุบันนี้ไม่เพียงพอต่อการยังชีพแล้ว ซึ่งกรรมาธิการชุดที่แล้วได้มีการ ตั้งอนุกรรมาธิการเรื่องของแหล่งรายได้ และแนวทางการพิจารณากรอบของกฎหมายและได้พิจารณาส่งร่างให้กับสภาผู้แทนราษฎรส่งไปยังฝ่ายบริหารขนาดนั้นนั่นก็คือนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ถูกตีตกเนื่องจาก เป็นร่างเกี่ยวกับการเงิน เราจึงยังไม่หยุดการต่อสู้เพื่อเรียกร้องและผลักดันเรื่องนี้

รายงานฉบับนี้จะเป็นก้าวแรกขั้นพื้นฐานสำหรับการ "เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ 3000" และพื้นฐานของบำนาญประเทศไทยที่มีหลักร้อยมาเกินกว่า 30 ปีแล้วและไม่มีการปรับขึ้น

ทั้งนี้รายงาน "เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ 3000" ฉบับนี้มี 2 ส่วนแรกคือการแก้ไขพ.ร.บ.ผู้สูงอายุ ปี 2546 ในมาตรา 11 ว่าด้วยเรื่องของการจ่าย เงินผู้สูงอายุ เพิ่งฉบับนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกลเพราะเนื้อหาไม่เหมือนกัน โดยกมธ.ได้ใช้กฎหมายเก่ามาแก้ใหม่ว่าด้วยหลักการวิธีการของการจ่ายเงินให้กับผู้สูงอายุ ซึ่งกฎหมายเดิมเขียนไว้ว่าให้จ่ายตามความเหมาะสมเห็นสมควร แต่กฎหมายฉบับใหม่คือให้จ่ายไม่น้อยกว่า เส้นผ่าความยากจนที่สภาพัฒน์กำหนดซึ่งปัจจุบันน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2,900 กว่าเกือบ 3,000 บาท

และได้มีความเห็นพ้องต้องการในมติคณะกรรมาธิการ เซ็นลงนามในกฎหมายฉบับนี้เพื่อแก้ไขและกำลังจะยื่นสู่สภาในนามของคณะกรรมาธิการสวัสดิการสังคม และน่าจะเป็นกฎหมายฉบับแรก ของสภาชุดที่ 26 ที่มีสส.ทุกพรรคการเมืองเซ็นชื่อร่วมกันในนาม กมธ.

ส่วนที่ 2 ในเรื่องของการใช้เงินได้มีการศึกษาเพิ่มในเรื่องการใช้เงิน เพราะ การทำเงินบำนาญประชาชนต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อย เช่นปัจจุบันมีผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพอยู่ที่ 11.8 ล้านคนใช้งบประมาณประมาณ 9 หมื่นล้านกว่าบาทแต่เมื่อเปรียบเทียบกับงบ กับบำนาญในส่วนอื่นไม่ว่าจะเป็นข้าราชการที่กินงบประมาณไปกว่า 3 แสนล้าน เปรียบเทียบกับบำนาญประชาชนยังมีความเหลื่อมล้ำอยู่

ดังนั้นบำนาญ ปรับเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ 3000 ไม่ได้มุ่งเน้นหรือบอกว่าจะลดบำนาญข้าราชการ แต่ชี้ให้เห็นว่าบำนาญของภาคประชาชนใช้งบประมาณน้อยมากกับคนเกือบ 12 ล้านคน จึงไม่จำเป็นต้องขึ้นทีเดียวแบบก้าวกระโดด ด้วยการ "เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ 3000" ทีเดียว แต่อาจจะขึ้นเป็นขั้นจากปีแรกจาก 600 เป็น 1,200 บาทถ้วนหน้าได้หรือไม่ แล้วปีต่อไปอาจจะเพิ่มเป็น 2,000 หรือ 3,000 บาท โดยที่เราเรียกทุกหน่วยงานทั้งภาคประชาชน อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ นักกฎหมาย นักวิชาการ เพื่อช่วยกันพิจารณา เป็นรายงานฉบับนี้ขึ้นมา ว่าหากจะปรับเงินบำนาญ ของประชาชนเพิ่มขึ้นจะทำได้อย่างไร

แน่นอนว่า ในปีแรกจะปรับขึ้นจาก 600 เป็น 1,200 บาท ต้องใช้งบประมาณเพิ่มประมาณ 50,000-60,000 ล้านบาท จึงคิดว่า ถ้าเราแก้ระเบียบการใช้งบกลางที่ฉุกเฉินหรือซ้ำซ้อนกับกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆเราสามารถมีเงินเข้ารัฐถึง 40,000 ล้านบาท นั่นหมายความว่าปีแรกเราจะปรับเพิ่มจาก 600 เป็น 1,200 ได้แน่นอน

โดยนายณัฐชา บุญไชยอินทร์สวัสดิ์ ประธานคณะกรรมการสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ระบบสวัสดิการพื้นฐานที่ให้กับผู้สูงอายุ หรือ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ หยุดชะงักอยู่ตั้งแต่ปี 2554 ที่ประวัติศาสตร์จารึกไว้ในสมัยนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรคณะกรรมาธิการจึงขอวิงวอนไปยังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ท่านจะได้จารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่ารัฐบาลของท่านนายกเศรษฐาเป็นผู้จะปรับฐานบำนาญพื้นฐานประชาชนจากหลักร้อยให้เป็นหลักพันได้ในยุคสมัยของท่าน โดยการร่วมงานกับกรรมาธิการ เพราะกรอบเงินงบประมาณที่เราคิดไว้ในรายงานฉบับนี้ไม่ได้กระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลเลยเงินงบประมาณปี 2567 ใช้เงินบำนาญ 92,000 ล้านบาท แต่ในรายงานฉบับนี้บอกว่าจะมีการหาและจัดสรรปันส่วนในส่วนของสวัสดิการให้ได้มาเพิ่มอีก 40,000 กว่าล้านนั่นหมายความว่า 13 หมื่นล้านท่านปรับจากหลักร้อยเป็นหลักพันได้ทันที


OpenAI บรรลุเป้าหมายสร้างรายรับทะลุ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

โอเพนเอไอ (OpenAI) สร้างรายได้แตะหลัก 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีได้สำเร็จเมื่อเดือนธันวาคม 2023 ภายหลังผลิตภัณฑ์อย่าง ChatGPT ได้รับการตอบรับและประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม

โอเพนเอไอ บริษัทผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านปัญญาประดิษฐ์ที่กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอย่าง ChatGPT บรรลุเป้าหมายการสร้างรายได้ที่ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐได้สำเร็จในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าเมื่อตุลาคมปี 2022 ที่มีรายได้ราว 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

นักวิเคราะห์ด้านเทคโนโลยี เชื่อว่า รายได้ของโอเพนเอไอมีโอกาสที่จะเติบโตสูงกว่านี้กว่า 2 เท่าภายในปี 2025 โดยอ้างอิงมาจากกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป และลูกค้าในกลุ่มธุรกิจกำลังต้องการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ไปใช้ในการทำงาน

จากข้อมูลของแซม อัลต์แมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้งโอเพนเอไอ ระบุว่า บริษัทที่อยู่ในฟอร์จูน 500 (Fortune 500) กว่า 92 เปอร์เซ็นต์ ต่างใช้งานโอเพนเอไอ อีกทั้งในภาพรวม ChatGPT ยังมีผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านคนต่อสัปดาห์

แม้ว่าโอเพนเอไอจะมีรายรับมหาศาล แต่อัลต์แมน เคยกล่าวว่า ต้นทุนการพัฒนาของ ChatGPT ใช้เงินมหาศาล และบริษัทยังคงขาดทุนอยู่ ทว่าการพัฒนาโมเดลของแชตบอตที่มีความสลับซับซ้อนก็ยิ่งใช้เงินเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นแล้ว โอเพนเอไอจึงต้องการเงินทุนสำหรับการระดมทุนอีกหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

การเติบโตของโอเพนเอไอ ถือได้ว่าพวกเขาเป็นบริษัทที่มีถิ่นฐานในซิลิคอน วัลเลย์ ที่เติบโตมีรายได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในเวลา 10 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทได้สำเร็จ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ทำได้ก็มีกูเกิล (Google) และเมตา (Meta) เป็นต้น

ในเวลานี้ แซม อัลต์แมน กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับนักลงทุนจากตะวันออกกลาง และนักลงทุนรายอื่นๆ เพื่อพัฒนาโครงการเทคโนโลยีที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านชิปเซต โดยหวังขับเคลื่อนปัญญาประดิษฐ์ให้ไปได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่

โอเพนเอไอ เปิดตัวในฐานะบริษัทวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ที่ไม่แสวงหาผลกำไรในปี 2015 แต่ปัจจุบันโอเพนเอไอ แปรเปลี่ยนแนวทางไปเป็นบริษัทเชิงพาณิชย์อย่างเต็มตัวในปี 2020 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี โอเพนเอไอ และไมโครซอฟท์ซึ่งเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ ปฏิเสธที่จะให้ความคิดเห็นในประเด็นนี้


Canalys เผย iPhone 14 Pro Max มียอดจัดส่งสมาร์ทโฟนมากที่สุดในโลกในปี 2023

Canalys บริษัทวิจัยตลาดรายงานตัวเลขยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกในปี 2023 พบว่า iPhone 14 Pro Max มียอดการจัดส่งมากที่สุดในโลกที่ 34 ล้านเครื่อง ตามมาด้วย iPhone 15 Pro Max ด้วยยอดที่ห่างกันเพียง 1 ล้านเครื่อง แต่ในภาพรวมมือถือไอโฟนจากแอปเปิลยึดครองพื้นที่ท็อป 5

เป็นเวลาหลายปีแล้วที่สมาร์ทโฟน 10 อันดับแรกของแต่ละปีมักตกเป็นของไอโฟน สมาร์ทโฟนจากแอปเปิล (Apple) โดยในปี 2023 ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น ด้วยการติดอันดับท็อป 5 ถึง 5 รุ่น ประกอบไปด้วย iPhone 14 Pro Max ด้วยยอดจัดส่ง 34 ล้านเครื่อง

อันดับที่สองเป็นของ iPhone 15 Pro Max ตัวเลขยอดจัดส่ง 33 ล้านเครื่อง อันดับที่สามเป็น iPhone 14 ที่ 29 ล้านเครื่อง อันดับที่สี่ iPhone 14 Pro ด้วยตัวเลข 29 ล้านเครื่อง และ iPhone 13 ซึ่งมียอดจัดส่ง 23 ล้านเครื่อง

ทางด้านสมาร์ทโฟนจากระบบปฏิบัติการ Android มีหลุดเข้ามาใน 10 อันดับแรกด้วยกัน 3 รุ่น ได้แก่ Galaxy A14 4G โดยมียอดจัดส่ง 21 ล้านเครื่อง ตามด้วย Galaxy A54 5G ที่ตัวเลข 20 ล้านเครื่อง และ Galaxy A14 5G ด้วยยอดจัดส่ง 19 ล้านเครื่อง

ควรต้องกล่าวด้วยว่า Galaxy A14 4G, Galaxy A54 5G และ Galaxy A14 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่มีระดับราคาไม่แพงมากนัก เน้นจับกลุ่มตลาดลูกค้าสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือในปี 2023 ไม่มีสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ของซัมซุงติด 10 อันดับแรก