คิดถึงเธอ….. “ติ๊ก” อุไรวรรณ เชยวงษ์
วงการบันเทิงเป็นยอดปรารถนาของคนในโลกนี้เกือบทุกคน เป็นวงการหรืออาชีพที่ทำให้คนทั่วไปรู้จักตัวตนของเราได้อย่างรวดเร็ว ด้วยความสง่างาม เป็นที่รักและชื่นชมของคนทั่วไป ทำรายได้ให้กับตัวเองอย่างมากมายและง่ายดาย
ยิ่งสมัยนี้แล้ว วงการบันเทิงไทย สามารถทำรายได้ให้กับตัวเองจำนวนนับร้อยล้านอย่างง่ายดายถ้าเราสามารถทำตัวเองให้เป็นที่รู้จัก เป็นบุคคลที่ใครๆ ต่างก็พากันนิยมชมชอบด้วยผลงานและความสามารถจากหลากหลายอาชีพ อาทิ ดารานักแสดง ทั้งภาพยนตร์-โทรทัศน์-นักร้อง-นางแบบและโคโยตี้โชว์ มีการประกวดประชันแข่งขันกันให้เราชมกันเพลิดเพลินทางทีวีเกือบทุกช่อง นั่นคือใบเบิกทางให้ได้ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงได้อย่างรวดเร็ว ผิดกับสมัยก่อนกว่าจะเข้ามามีอาชีพในวงการนี้ได้ เลือดตาแทบกระเด็น รายได้ก็น้อยนิดเดียว
อาชีพนางแบบเมืองไทยก็เช่นกัน น้อยนักที่จะสามารถยึดเป็นอาชีพจริงจังได้ แต่ก็ยังมีนางแบบที่ยึดมั่น หาเลี้ยงชีพด้วยการปฎิบัติตนซึ่งตรงต่อหน้าที่การงาน ขยันหมั่นเพียร จนประสบความสำเร็จสามารถประกอบการเลี้ยงชีพได้ด้วยการเป็นนางแบบนานเกือบ 10 ปี เธอคือ…..
อุไรวรรณ เชยวงษ์ หรือ “ติ๊ก” เป็นนางแบบสาวสวยมืออาชีพที่ชื่อคุ้นหู คุ้นหน้า คุ้นตา เป็นอย่างดี ของชาวไทยในแอลเอ. ในยุคก่อนเมื่อปี 1982 เธอได้สร้างความ ฮือฮาจากภาพหวามใจหลายภาพใน Young Man Magazine หรือนิตยสาร “ชายหนุ่ม” ที่ออกวางจำหน่าย เมื่อเดือนพฤศจิกายน 1982 จากฝีมือการถ่ายภาพโดย อำพล ออรุ่งโรจน์ และ สุขุม กิตติเวช และคณะผู้จัดทำโดย ธีรวัฒน์ ภัตร์นิลรัตน์และทีมงานหนังสือวางจำหน่ายได้ไม่นาน พรึบเดียวก็หมดแผง “หนุ่มแท้” บ่นเสียดายแต่ “สาวเทียม” บอกกลัวเสียภาพพจน์สาวไทย เป็นมุมมองที่แตกต่าง……มารู้จักกับชีวิตการเป็นนางแบบมืออาชีพของเธอ
“ติ๊ก” อุไรวรรณ เชยวงษ์ สาวจันทบุรี ลูกสาวผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ได้เข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ ตั้งแต่วัยรุ่น เธอเล่าให้ฟังถึงการเข้าสู่วงการนางแบบของเธอว่า เธอเห็นโฆษณาเปิดสอนนางแบบของ นิตยา บูรณศิลปิน อดีตเจ้าของโรงเรียนตัดเสื้อและเจ้าของร้านตัดเสื้อ “นิตยา” ที่โด่งดังในเรื่องแฟชั่น ซึ่ง “นิตยา” ก็มาเปิดห้องเสื้อ รับตัดเสื้อผ้าทุกชนิด อยู่บนถนนฮอลลีวูด อยู่หลายปี ช่วงที่สามีเธอศิลปิน บูรณศิลปิน เป็นบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ “เสรีชน”
“ติ๊ก” เล่าต่อว่าเธอก็รีบไปสมัครเรียนทันที ด้วยความภาคภูมิใจที่เธอเป็นนักเรียนนางแบบคนแรกของ “นิตยา” เรียนได้เพียง 10 ชั่วโมงเท่านั้น ก็ได้รับการคัดเลือกให้ไปเดินแบบที่โรงแรม “อินทรา” เพราะมีแฟชั่น โชว์ที่ทาง โรงเรียนนิตยา จัดขึ้น “ติ๊ก” ทำหน้าที่ในการเดินแบบได้ดี มีแววรุ่งโรจน์ มีพรสวรรค์ ทางด้านนี้ นิตยา บูรณศิลปิน จึงนำเธอไปฝากฝังเข้าทำงานกับนิตรสาร “ไทยแฟชั่น”
งานของเธอที่ “ไทยแฟชั่น” คือ เป็นผู้ติดต่อ ห้องเสื้อและโรงเรียนสอนตัดเสื้อต่างๆ เพื่อนำเสื้อของ แสง สุทธินันท์ อันเป็นจุดเริ่มต้นที่แท้จริง ของอาชีพนางแบบของเธอ ทำให้ได้รู้จักกับบรรดาเจ้าของห้องเสื้อและเจ้าของโรงเรียนสอนตัดเสื้อชั้นนำทั้งหมด ทุกครั้งที่จัดงานแฟชั่นโชว์ เธอก็จะได้เข้าร่วมงานเดินแบบเสมอ ชื่อเสียงของเธอจึงเป็นที่รู้จักดีในวงการแฟชั่น และได้รับค่าตอบแทนในการเดินแบบสมัยนั้นครั้งละ 500 บาท นอกจากงานเดินแบบ ถ่ายแบบเสื้อ ลงนิตยสารต่างๆแล้ว เธอยังเป็นนางแบบโฆษณาให้กับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับข้องกับความงามมากมายรวมทั้งชุดชั้นในของ “วาโก้” ซึ่งเคยเป็นที่หวือหวา ฮือฮากันมากในขณะนั้น
หลังจากใช้ชีวิตนางแบบเป็นอาชีพ 7 ปีเต็ม ในกรุงเทพฯ “อุไรวรรณ” วันก็ได้ออกหาประสบการณ์ในต่างประเทศ ที่ญี่ปุ่นและอังกฤษ ได้เรียนภาษาเพิ่มเติม แล้วยังได้ทำงานเป็นนางแบบให้โรงเรียนสอนถ่ายรูป และสะเก็ตภาพ ซึ่งได้ค่าตอบแทนประมาณ 30 เหรียญต่อชั่วโมง เธอได้ใช้ชีวิตใน การทำงานและเรียนภาษาอยู่ที่อังกฤษเกือบ 3 ปี จึงตัดสินใจเดินทางมาลอสแอนเจลิส. เมื่อปี 1981 จากการชักชวนของเพื่อนดาราสาวสวย ศศิธร เพชรรุ่ง
อุไรวรรณ เชยวงษ์ มาอยู่แอลเอ. ได้ไม่นาน ก็ได้แสดงละครเวที รับบทนางเอกคู่กับพระเอกภาพยนตร์คนดังในอดีต ปฐมพงศ์ สิงหะ ในเรื่อง “เดียวดาย” ที่โรงภาพยนต์ ลอสฟีลิส ถนน เวอร์ม้อนท์ ซึ่งเป็นศูนย์บันเทิงของคนไทยในสมัยนั้น มีภาพยนตร์ไทยมาฉาย มีละคร, ลิเก,แฟชั่นโชว์,วงดนตรี มีนักร้อง-ดาราจากเมืองไทยมาแสดง เป็นโชว์พิเศษ ก่อนที่ภาพยนตร์ไทยจะเริ่มฉาย ดารานักร้องนักแสดงสมัยนั้น ที่สลับสับเปลี่ยนกันมาโชว์ ส่วนมากจะเป็นผู้แสดงนำในภาพยนตร์ที่เข้าฉาย อย่าง “มาดามยี่หุบ” ก็มีดารานางเอกสาว ปิยะมาศ โมนยะกุล, สรพงษ์ ชาตรี , กำธร ทัพคัลไลย และยังมีดาราอื่นๆอีกหลายคนอย่าง ศิรินทรา นิยากร ,ชินกร ไกรลาศ ,ดวงชีวัน โกมลเสน ,มานพ อัศวเทพ ฯลฯ คนไทยหลายกลุ่ม แฟนหนังไทย และรายการพิเศษ ผู้ที่นิยมชมชอบหนังไทยมาอุดหนุน ให้กำลังใจกันจนแน่นโรงหนัง โป่งไป โป่งมา อุไรวรรณ เชยวงษ์ เธอก็เป็นนางแบบนักแสดงท้องถิ่นร่วมสมัย ในยุคนั้นด้วย
35 ปี ที่ผ่านมา กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ อุไรวรรณ เชยวงษ์ ยังคงสุดสวยด้วยมารยาทดี พูดจาไพเราะน่าฟัง มีความจริงใจในอาชีพ สมศักดิ์ศรี ยอดนางแบบสาวไทย ในแอลเอ.