ปี 2568 นี้ เข้าปีนักษัตรมะเส็ง หรือ งูเล็ก แน่นอนว่าเมื่อเข้าสู่ปีใหม่ หลายๆคนก็จะเป็นกังวลเกี่ยวกับ “ปีชง” จะเป็นปีนักษัตรใด จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง หรือมีวิธีแก้ชงอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบ...
ความหมายของปีชง 2568
“ปีชง” มาจากภาษาจีน คำว่า “ชง” ซึ่งหมายถึง “การปะทะ” ฉะนั้น คำว่า “ปีชง” หมายถึงปีที่อาจมีการปะทะเกิดขึ้น ซึ่งความเชื่อเรื่องปีชงนี้ เกี่ยวข้องกับ “องค์เทพไท้ส่วย” หรือที่รู้จักกันดีในนาม “เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา” เป็นเทพที่ทรงอิทธิฤทธิ์และยังมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนในแต่ละปี หากในปีนั้นเทพไท้ส่วยเอี๊ยเคลื่อนทับดวงดาวของปีนักษัตรใด ก็แปลว่าเป็นปีชงของนักษัตรนั้น ซึ่งส่งผลให้ปีนักษัตรนั้นได้รับผลกระทบไปด้วย หรือเรียกง่ายๆว่า “ดวงตก” นั่นเอง...
ปีนี้ ใครชงบ้าง?
หากจับนับ “ปีชง” แล้วนั้น ก็คือปีที่นับตามหลักโหราศาสตร์จีน จะนับเป็น ชงเต็ม และ มีอีก 3 ปี นักษัตร ที่นับเป็นชงร่วม ดังนี้
-ปีชงเต็ม คือ ปีที่ได้รับผลเสียมากที่สุดหรือที่เราเรียกกันว่า ชงโดยตรง หรือ ปีชง 100% ซึ่งในปี2568 ก็คือ “ปีกุน หรือ ปีหมู” โดยมีผู้ที่เกิดใน พ.ศ. 2466, 2478, 2490, 2502, 2514, 2526, 2538, 2550 , 2562 ซึ่งเป็นปีที่ ได้รับการเปลี่ยนแปลง 100% หรือ ได้รับผลกระทบหลากหลายด้าน ทั้งการเงิน การเงิน และความรัก ปี พ.ศ. ที่ได้รับการเปลี่ยนแปลง
ปีชงร่วมได้แก่ มะเส็ง, ขาล, วอก
-ปีคัก คือ ปีที่เป็นปีนักษัตรเดียวกับปีนั้น ๆ คือ ปีมะเส็ง หรือ (ปีงูเล็ก) ผู้ที่เกิดในปี พ.ศ. 2460, 2472, 2484, 2496, 2508, 2520, 2532, 2544, 2556 , 2568
-ปีเฮ้ง คือ ปีที่ได้รับผลกระทบในเรื่องเคราะห์กรรม คือ ปีขาล หรือ (ปีเสือ) ผู้ที่เกิดในปี พ.ศ. 2457, 2469, 2481, 2493, 2505, 2517, 2529, 2541, 2553 ,2565
-ปีผั่ว คือ ปีที่ได้รับผลกระทบในเรื่องสุขภาพ คือ ปีวอก หรือ (ปีลิง) ผู้ที่เกิดในปี พ.ศ. 2463, 2475, 2487, 2499, 2511, 2523, 2535, 2547, 2559...
วิธีการแก้ปีชง 2568
การแก้ปีชง เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่มีความสำคัญในวัฒนธรรมจีน โดยเฉพาะที่มีการเปลี่ยนแปลงของดวงดาว และส่งผลกระทบต่อดวงชะตาของผู้ที่เกิดในปีนักษัตรนั้น สำหรับปี 2568 วีธีการแก้ปีชงที่หลากหลาย และแตกต่างกันไปตามความเชื่อ
-ไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย ตามความเชื่อของคนจีนจะช่วยบรรเทาเคราะห์กรรมได้
-ทำบุญช่วยชีวิตสัตว์ เช่นการไถ่ชีวิตโค กระบือ ปล่อยนกปล่อยปลา การบริจาคโลหิต ฯลฯ
-ไหว้พระ 9 วัด ช่วยเสริมสิริมงคลให้ชีวิต
แก้ปีชง 2568 ควรเริ่มตอนไหนดี?
การแก้ปีชงควรเริ่มทำตอนแก้ปีใหม่ โดยเฉพาะในวันตรุษจีน ซึ่งในปี 2568 ตรงกับวันที่ 29 มกราคม 2568 จึงจะเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการทำพิธีแก้ชง และไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย เพื่อขอเสริมดวงชะตารับปีใหม่ และส่งเสริมชีวิตให้ดีขึ้น หรือหลังตรุษจีน เนื่องจากเป็นช่วงที่เทพไท้ส่วยเอี๊ยลงมาคลุมครองดวงชะตาของมนุษย์...
ของไหว้สำหรับแก้ปีชง มีดังนี้
-ส้มมงคล (ไต้กิก) 1 จาน ไหว้เสร็จแล้วนำกลับบ้านไปกินจะได้เป็นมงคลกับตัวเอง เฮง ๆ รวย ๆ ตลอดทั้งปี
-น้ำมันเติมตะเกียง 1 ขวด หมายถึงชีวิตจะได้รุ่งเรืองโชติช่วงตลอดทั้งปี
-กระดาษหงิ่งเตี๋ย หรือกระดาษเงินกระดาษทอง 13 แผ่น พร้อมเทียบแดง เขียนชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด ถ้าเป็นการแก้ชงตัวเองให้นำกระดาษหงิ่งเตี๋ยมาปัดที่ตัวเอง 13 ครั้ง (ปออุ่ง) ปัดลงมาตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าจนสุดแขน ฝากกระดาษไว้ไม่ต้องเผา
-ซองที่บรรจุดวงชะตา ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด ฝากไว้ที่ศาลเจ้าเพื่อให้พระจีนได้สวดมนต์ (พะเก่ง) ทำพิธีเสริมดวงชะตาให้เราแคล้วคลาดปลอดภัย เป็นสิริมงคลตลอดทั้งปี...
5 สถานที่นิยมไปแก้ปีชง 2568
-วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่
วัดแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2414 เป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย โดยจุดเด่นของวัดนี้คือ การไหว้พระแก้ชง และขอพรให้ชีวิตประสบความสำเร็จ ซึ่งผู้คนหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก ในการไหว้พระแก้ชงจะไหว้ เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา หรือ ไท้ส่วยเอี๊ย และในการขอพร ก็สามารถขอพรกับพระที่ประดิษฐานในที่นี่ได้ทุกองค์ ไม่ว่าจะเป็นพระประธานของวัด(ซำป้อหุกโจ้ว) อย่างพระโคตมพุทธเจ้า พระอมิตาภพุทธะ พระไภษัชยคุรุพุทธะ ทั้งหมด 3 องค์ และ พระอรหันต์อีก 18 องค์ (จับโป๊ยหล่อหั่ง)...
-วัดโพธิ์แมนคุณาราม หรือ วัดโพวมิ้งปออึงยี่
คนนิยมไปขอพรและแก้ชงเพื่อเสริมสิริมงคลและปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป มีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างไทย จีน และทิเบต ทำให้มีบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์และสวยงาม นอกจากนี้ยังมีสรีรสังขารของพระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร (โพธิ์แจ้งมหาเถระ) อดีตเจ้าอาวาส ในอิริยาบทนั่งสมาธิ ให้ได้สักการะด้วย
-วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
วัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่เคารพนับถือของคนไทยมาอย่างยาวนาน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี บริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ ไม่ไกลจากชุมชนกุฎีจีน สถานที่ประดิษฐาน พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต (ซำปอกง) พระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ขนาดใหญ่ เชื่อกันว่าการมากราบไหว้ขอพรจะช่วยให้ชีวิตมีความสุข สมหวัง แคล้วคลาดจากภัยอันตราย และสามารถแก้ชงด้วยการไหว้พระทำบุญคุ้มครองดวงชะตา
-วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร
เป็นอีกวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นแต่ปี พ.ศ. 2477 โดยมีพระสุโขทัยไตรมิตร เป็นพระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย เดิมที่ประดิษฐานที่วัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญมาไว้ในกรุงเทพมหานคร โดยนิยมไปขอพรความรัก พร้อมเสริมดวงชะตาให้เจอแต่สิ่งดีงาม...
-ศาลเจ้าพ่อเสือ
ป็นศาลเจ้าจีนสายลัทธิเต๋า ที่นี่ถือเป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับท่านที่เกิดปีชง จะต้องมาทำพิธีปัดตัวสะเดาะเคราะห์ ซึ่งเป็นพิธีกรรมสำหรับปัดเป่าสิ่งไม่ดีและเคราะห์กรรมต่างๆ และสามารถมาขอพรให้เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต การงานประสบความสำเร็จ เสริมอำนาจบารมี การเงิน และเสริมโชคลาภ
วันนี้ทีมข่าววาไรตี้สัตว์เลี้ยง จะพาไปที่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น หลังพบว่ามีการเพาะพันธุ์ไก่หางยาวที่สุดในประเทศไทย ส่งจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โดยพบกับ นายเฉลิมชัย มณีบุญ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122 หมู่ 9 บ้านหนองกุงโนนทัน ต.ดอนดั่ง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น โดยพบว่า ที่สนามหญ้าด้านข้างบ้านพัก ทำการเพาะเลี้ยงไก่รุ่นเล็กสายพันธุ์ญี่ปุ่น ขนยังไม่ยาวเอาไว้อีกประมาณ 50 ตัว ส่วนไก่ที่มีหางยาว และมีขนระย้า ผู้เลี้ยงจะนำไปวางไว้บนที่บริเวณหน้าบ้าน เพื่อปล่อยให้หางยาวเป็นธรรมชาติและหางไม่พันกัน...
โดยเฉพาะเจ้าไก่เพศผู้ที่ชื่อว่า ณเดชน์ อายุ 3 ปี 8 เดือนที่มีหางยาววัดได้ 3 เมตร 40 ซม. เกาะอยู่แบบสบาย ๆ ไม่ตื่นตกใจกับคนแปลกหน้า ส่วนขนระย้าก็ยาวเมตรกว่า อีกตัวชื่อเจ้าทองคำ เพศผู้เช่นกัน มีหางยาวเกือบ 2 เมตร ทั้งคู่เกาะอยู่บนคอน ส่งเสียงขันเป็นระยะ ๆ
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า เนื่องจากมีความสนใจเลี้ยงสัตว์สวยงามที่ไม่ต้องมีความยุ่งยากมาก จนกระทั่งได้พบกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่มาทำงานที่ไทย แนะนำไก่สายพันธุ์นี้ จึงได้ขอนำเข้าเริ่มแรกได้ไข่ไก่มา 12 ฟอง โดยนำมาฟักที่บ้านได้ลูกไก่ทั้งหมด 7 ตัว เป็นตัวผู้ 2 ตัว ตัวเมีย 5 ตัว จากนั้นก็ซื้อหัวอาหารไก่ชนิดเม็ดมาเลี้ยง จนมีไก่หางยาวเพิ่มขึ้นมาหลายตัว...
“จากนั้นก็นำภาพไก่หางยาวโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งก็มีคนมาคอมเมนต์ต่าง ๆ นานา โดยเฉพาะจะถูกกล่าวหาว่า นำไก่บ้านมาต่อหาง และบางคนก็เตือนว่า อวดอ้างเกินความจริง ระวังมีความผิดทางกฎหมาย ลักษณะวิจารณ์ว่าหลอกลวง แต่ไม่เคยตอบโต้ ก็ยังตั้งหน้าตั้งตาเลี้ยงมาตลอด จนกระทั่งมีนักธุรกิจชาว สปป.ลาว มาติดต่อขอซื้อได้ พ่อ แม่ ลูก รวม 3 ตัวในราคา 50,000 กว่าบาท นำกลับไปเลี้ยงที่ประเทศลาว นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนของนักธุรกิจรายดังกล่าว ติดต่อมาขอซื้อและจองไข่และลูกไก่อีก”...
นายเฉลิมชัย กล่าวต่ออีกว่า ในประเทศไทยยังมีการเลี้ยงไก่หางยาวโบราณญี่ปุ่น น้อยมาก เพราะส่วนใหญ่เลี้ยงไก่บ้าน ไก่ชน อาจจะเป็นเพราะทุกคนคิดว่ายุ่งยาก ซึ่งในความเป็นจริงไก่หางยาวโบราณญี่ปุ่นเลี้ยงง่ายเหมือนเลี้ยงไก่บ้านทั่วไป และเมื่อขายก็มีราคาสูง ซึ่งนอกจากการให้อาหารเม็ดแล้ว ก็อาจจะต้องหาแตงโม แตงกวา รวมทั้งข้าวคลุกกับน้ำแกงที่มีปลาร้ามาให้ไก่กินบ้าง เพราะไก่จะชอบกินข้าวคลุกน้ำแกงที่มีปลาร้ามาก นอกจากนี้ยังต้องคอยดูแลขนที่ยาวออกมาประมาณปีละ 1 เมตร ถ้าไม่คอยดูแลขนจะหลุดและไม่สวยงาม โดยส่วนตัวแล้ว ตนจะอาบน้ำให้ไก่ทุกตัว 3 เดือนต่อ 1 ครั้ง โดยเฉพาะเจ้าณเดชน์ที่มีขนยาวที่สุด อาบน้ำแล้วต้องเช็ดขนให้แห้ง ไม่เช่นนั้นขนจะพันกัน ส่วนการเลี้ยงก็จะให้อาหารเช้าเย็นในปริมาณที่พอดี น้ำไก่ควรเปลี่ยนทุก 1-2 วัน ส่วนสุ่มที่ครอบไก่ก็เป็นลวดตาข่าย เพื่อป้องกันนก หนู และงูที่อาจจะมากินไก่ได้...
“ผู้ที่สนใจเลี้ยงไก่พันธ์ุดังกล่าวนั้น สามารถติดต่อซื้อได้ที่คุณเฉลิมชัย ซึ่งจะขายลูกไก่ อายุ 1 เดือนราคา 1,000-2,000 บาท ไก่อายุ 5 เดือนจะขายอยู่ที่ประมาณตัวละ 5,000-7,000 บาท แต่ถ้าเป็นไก่ตัวโต อายุ 1 ปี จะเห็นหางที่สวยงามก็จะมีราคาสูงขึ้นถึงหลักแสนบาท ส่วนไข่ฟองละ 1,000 บาท อย่างไรก็ตามขณะนี้ไก่ที่เลี้ยงอยู่นั้นเป็นลูกของณเดชน์ และญาญ่า รวม 17 ตัว เป็นไก่หนุ่มเพศผู้ 5 ตัว มีหางยาวแล้ว 2 ตัว ตัวเมียพร้อมไข่ 10 ตัวและมีไข่ที่กำลังฟักอีก 10 กว่าฟอง ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อซื้อไก่หางยาวโบราณญี่ปุ่นได้ที่ 06-1041-9412 โดยยืนยันว่าได้สอบถามทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วว่า เลี้ยงได้ไม่ผิดกฎหมาย”
ข้อมูลเบื้องต้น สำหรับลักษณะของไก่หางยาวในประเทศไทยนั้น มีสีมาตรฐาน เพียงไม่กี่สี ได้แก่ สีซิลเวอร์ (สีเงิน) สีขาว สีไก่ป่า สีเหลือง (สีโกลเด้น) สีดำ ซึ่งในปัจจุบันผู้เพาะเลี้ยงได้ทำการผสมจนเกิดเป็นสีต่าง ๆ มากมาย รวมทั้งสีแฟนซีส่วนลักษณะของไก่หางยาวเพศผู้ที่มีลักษณะสวยงาม จะต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญคือ หัวไก่มีหงอนสีแดงสดใส หงอนตั้งตรง จักรแหลมคม ท้ายหงอนกอดกระหม่อม เหนียงคลี่บาน ไม่เหี่ยวยาน มีตุ้มหูขาวเต็มวง และมีสร้อยคอดกและยาวปกคลุมไหล่....
จักรพันธ์ นาทันริ...
ใครจากไหนสามารถสร้างวินัยนักท่องเที่ยวให้แยกชนิดขยะ ร้านขายสินค้าที่ไหนที่ไม่ใช้ถุงพลาสติกและงานอะไรที่กล้าเคลมว่าฉันนี่แหละเป็นงานที่ CARBON NEUTRAL EVENT หรือ งานปลอดคาร์บอน ก็เทศกาล “งานสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 11”
เทศกาลสีสันแห่งดอยตุงจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 จัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 11 แล้ว มีวัตถุประสงค์หลัก คือ 1.ส่งเสริมและอนุรักษ์ความหลากหลายเชิงวัฒนธรรมของชนเผ่าร่วมเผยแพร่วัฒนธรรมอัตลักษณ์ของกลุ่มชนเผ่า 2.เพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการในชุมชนให้มีความสามารถในการแข่งขันและพึ่งพาตัวเองอย่างยั่งยืน 3.สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนเมืองและชุมชนดอยตุง นอกจากนี้การจัดงานแต่ละครั้งยังให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อม ถือเป็นงานอันดับหนึ่งของจังหวัดเชียงราย และอันดับต้น ๆ ของประเทศเรื่องปลอดคาร์บอน
แล้วปลอดคาร์บอนยังไง ตามไปดูกันว่างานสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 11 นี้เขาใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง
• คัดแยกขยะ โดยเตรียมจุดทิ้งขยะ ไว้ทั่วงาน เดินไปทางไหนก็เจอ เจ้าถังขยะ 3 ถัง ที่แบ่งแยกประเภทของขยะ คือ เศษอาหารที่เหลือทิ้ง ขยะประเภทแก้วน้ำ ขวดน้ำ ย่อยสลายยาก และ ขยะประเภทกระดาษ วัสดุรีไซเคิล นำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งนักท่องเที่ยวในงานทุกคนต่างก็ให้ความร่วมมือ ทิ้งขยะแยกประเภทกันทุกคน เป็นอะไรที่เห็นแล้วชื่นใจมาก ๆ
• งานปลอดคาร์บอน ภายในงานเน้นการใช้บรรจุภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายได้ง่าย และทำจากวัสดุธรรมชาติ ซึ่งชดเชยการปล่อย ก๊าซเรือนกระจกด้วยคาร์บอนเครดิตด้วย เช่น กระทงใบตองห่ออาหาร แทนการใช้ถุงพลาสติกหรือโฟม แก้วน้ำกระดาษ หลอดดูดน้ำทำจากกระดาษ และหูหิ้วจักรสานจากไม้ไผ่เก๋ ๆ ใครหิ้วก็ภูมิใจได้ช่วยโลกและสวยงามอีกด้วย
• ภายในงานยังมีนิทรรศการชวนเรียนรู้ ผลกระทบของภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นในพื้นที่ดอยตุง และแนวทางในการช่วย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมทั้งมีกิจกรรมสอดแทรกความรู้ การคำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านเกม กิจกรรมสัญญากับน้องโต ชวนมาเขียนจดหมายถึงอนาคต ว่าเราจะช่วยโลกได้อย่างไรบ้าง แล้วส่งจดหมายกลับมาให้ตัวเองเพื่อเตือนให้เราตระหนักถึงภาวะโลกร้อนที่หนักขึ้นในทุก ๆ ปี และ LET’S DO UPCYCLING นิทรรศการจากขยะ และผลิตภัณฑ์มากด้วยคุณค่าจากขยะ
เป็นงานที่พูดได้อย่างภาคภูมิใจเลยว่าเป็นงานปลอดคาร์บอนได้ 100 เปอร์เซ็นต์ นับเป็นตัวอย่างที่ดีและเป็นต้นแบบของการจัดงานที่ให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันได้ ทุกคนสามารถช่วยโลกได้ เพียงแค่มาเที่ยวงานสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 11 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 ธันวาคม 2567 ถึง 26 มกราคม 2568 เปิดให้บริการทุก วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 08.00 - 18.00 น. ณ โครงการพัฒนาดอยตุง จังหวัดเชียงราย
นับตั้งแต่การเปิดตัว ChatGPT โดยโอเพนเอไอ (OpenAI) เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โลกเทคโนโลยีได้ให้ความสำคัญกับ AI มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีต่างๆ เริ่มเพิ่มฟีเจอร์ AI เข้ามาอย่างแพร่หลาย โดยในปี 2024 เราได้เห็นการนำ AI มาใช้งานอย่างชัดเจน และในปี 2025 AI จะกลายเป็นเทรนด์หลักของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีผู้บริโภค ทั้งในระดับสินค้าและบริการ
ต้นทุน AI ที่ลดลง
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ AI แพร่หลายมากขึ้น คือการประมวลผล AI บนอุปกรณ์โดยตรง (On-device AI) ซึ่งช่วยลดภาระต้นทุนการประมวลผลของ AI ได้อย่างมาก เมื่อเทียบกับการประมวลผลบนคลาวด์ ตัวอย่างเช่น การประมวลผลผ่านระบบคลาวด์ของ OpenAI มีต้นทุนประมาณ 4.38 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 ล้านโทเคน แต่การประมวลผลบนอุปกรณ์สามารถทำได้ฟรี
การมาของ On-Device AI ยังช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น สมาร์ทโฟนสามารถกลายเป็นผู้ช่วยดิจิทัลที่ทรงพลังอย่างแท้จริง โดยใช้ศักยภาพของหน่วยประมวลผลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ธุรกิจเองก็กำลังหันมาใช้โซลูชัน AI แบบไฮบริดระหว่างคลาวด์และอุปกรณ์เพื่อลดต้นทุน และเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการผสาน AI เข้ากับชีวิตประจำวันและการทำงานขององค์กร
AI: เส้นแบ่งระดับสมาร์ทโฟน
ในปีที่ผ่านมา ฟีเจอร์ AI กลายเป็นจุดตัดที่แบ่งระดับระหว่างสมาร์ทโฟนพรีเมียมและสมาร์ทโฟนระดับกลาง ตัวอย่างเช่น Apple Intelligence ที่จำกัดการใช้งานบน iPhone 16 และ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max เท่านั้น ขณะที่ Samsung ได้เริ่มเปิดตัว Galaxy AI และทยอยอัปเดตให้สมาร์ทโฟนระดับกลางใช้งานได้บางส่วน อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ AI ขั้นสูงยังคงถูกจำกัดอยู่ในสมาร์ทโฟนพรีเมียมอยู่ดี ซึ่งตรงนี้จะเป็นจุดตัดว่า ถ้าอยากใช้งานให้ครบทุกฟีเจอร์ก็ต้องเลือกสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมเท่านั้น
การเติบโตของ AI PC
ปี 2024 เป็นจุดเริ่มต้นของ PC ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น Microsoft Copilot+ PC และในปี 2025 ผู้ผลิต OEM และ ODM จะช่วยขยายฐาน AI PC ไปยังกลุ่มผู้บริโภคในวงกว้าง ส่งผลให้ราคาลดลงและเพิ่มโอกาสการเข้าถึงได้มากขึ้น เป็นโอกาสสำคัญให้อุตสาหกรรม PC กลับมามีลุ้นขยายตัวอีกครั้ง
จับตา Smart Glasses
ในปี 2024 ที่ผ่านมา Meta ได้ลดความสนใจในเมตาเวิร์ส (Metaverse) และหันมาเน้น AI มากขึ้น โดยเฉพาะการเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban Meta รุ่นใหม่ ซึ่งมาพร้อมกับ GenAI ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสัมผัสประสบการณ์ Immersive โดยไม่ต้องใช้มือ เช่น การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ หรือการสั่งซื้อสินค้า
หากการใช้งาน Smart Glasses พัฒนาไปจนมีความคุ้มค่า ถึงจุดคุ้มทุน เราอาจได้เห็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่มแว่นตาอัจฉริยะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
AI ในทุกเนื้องาน
AI ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในอุปกรณ์และเครื่องมือหลายประเภท ตั้งแต่ AI PC, AI Phone ไปจนถึงเครื่องมืออื่นๆ การเข้าถึง AI กลายเป็นเรื่องง่ายและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน กระบวนการทำงานต่างๆ จะเริ่มผสาน AI เข้ากับ Workflow อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเกิดการใช้งานจริงในระดับองค์กร
ดังนั้นปี 2025 จึงเป็นปีที่ AI จะเปลี่ยนผ่านมาสู่เครื่องมือที่อยู่ในทุกส่วนของชีวิตและการทำงานอย่างแท้จริง