ครบเครื่อง
ญ. อมตะ



ครบเครื่อง ญ.อมตะ 12 ธันวาคม 2563

คณะ'นางสาวไทย'พานั่งรถม้าเสพศิลป์กลิ่นอายเขลางค์นคร

สาวงามผู้เข้าประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2563 ได้ทำกิจกรรมเก็บตัวกับกองประกวดนางสาวไทยเป็นวันที่สาม ณ กัสซันขุนตาน กอล์ฟ & รีสอร์ท อ.แม่ทา จ.ลำพูน ก่อนเดินทางทำกิจกรรมต่อสู่จังหวัดลำปาง

ในช่วงเช้าเหล่าสาวงามผู้เข้าประกวดนางสาวไทยได้เเบ่งกลุ่มเรียนรู้เเละทดสอบการตีกอล์ฟจากโปรกอล์ฟมืออาชีพ กิจกรรมนี้มีรางวัลพิเศษจากผู้บริหาร กัสซัน ขุนตาน กอล์ฟ & รีสอร์ท สำหรับสาวงามที่โชว์วงสวิงการตีกอล์ฟได้ดีเยี่ยม พร้อมพาทัวร์ชมวิวสนามกอล์ฟที่เป็นหนึ่งในสนามกอล์ฟที่สวยที่สุดในประเทศไทย จากนั้นได้เดินทางมาชมวิถีชีวิต ภูมิปัญญาท้องถิ่น ของชาวไทลื้อ ไทยอง ไทยวน ณ บ้านเเพะต้นยางงาม อ.บ้านธิ จังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงตามเเนวทางพระราชดำรัสของในหลวง รัชกาลที่ 9 ชมพระอุโบสถบ้านเเพะ (ต้นมื่น) อุโบสถเก่าเเก่ของชาวไทลื้อ สาวงามได้ร่วมฟ้อนร่วมกับกลุ่มเเม่บ้านไทลื้ออย่างสนุกสนานเเละรับประทานอาหารเเบบขันโตกของวัฒนธรรมชาวไทลื้อ

ช่วงบ่าย สาวงามผู้เข้าประกวดเดินทางเก็บตัว ณ จังหวัดลำปาง มีนายสกล สุพรรณบรรจง ประธานหอการค้าจังหวัดลำปาง และประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) จังหวัดลำปาง นายกิติศักดิ์ สินวนาทรัพย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดลำปางพร้อมชาวลำปาง มารอต้อนรับ โดยสาวงามได้นั่งรถม้าชมเมือง เสพศิลป์กลิ่นอายเขลางค์นคร ชื่นชมความสวยงามวัดปงสนุก ธรรมสถานหนึ่งเดียวของไทยที่ได้รับรางวัล “Award of merit” จาก UNESCO ในปี เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของจังหวัดลำปาง ณ พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ลำปาง ต่อด้วยการเยี่ยมชมศูนย์จำหน่ายเซรามิกลำปาง อินทราเอาท์เลท เเละเดินชม ตลาดกาดกองต้า เเหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะที่สำคัญของเมืองลำปางอีกด้วย มกิจกรรมเก็บตัวเเละภาพสวยๆของเหล่าสาวงามทั้ง 30 คนได้ที่ เพจเฟซบุ๊ค นางสาวไทย-Miss Thailand


ป้องกันโรคเส้นเลือดในสมองตีบ แตก ก่อนวัยด้วยอาหาร

“โรคหลอดเลือดสมอง (stroke)” คือ ภาวะที่เนื้อเยื่อและเซลล์สมองถูกทำลายอันเนื่องมาจากหลอดเลือดสมองตีบ อุดตันหรือแตก ส่งผลให้เกิดอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือรุนแรงจนกระทั่งเสียชีวิตได้

ภาวะผิดปกติของหลอดเลือดในสมอง แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ 1.ภาวะที่สมองขาดเลือด ซึ่งอาจจะเกิดภาวะหลอดเลือดสมองอุดตันหรือหลอดเลือดตีบ และ 2.ภาวะเลือดออกในสมอง ซึ่งอาจเกิดจากหลอดเลือดฝอยฉีกขาด หรือหลอดเลือดโป่งพองแล้วแตกก็เป็นได้ ซึ่งล้วนทำให้สมองเกิดการเสียหาย ซึ่งหากเข้ารับการรักษาไม่ทันก็อาจทำให้เสียชีวิตได้

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ

1. ปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงได้ ได้แก่ พฤติกรรมต่างๆ ของคนเรานั่นเอง ได้แก่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป การสูบบุหรี่ คนที่มีภาวะอ้วน ก็จะเสี่ยงต่อการเกิด stroke มากกว่าคนที่มีน้ำหนักตัวปกติ กลุ่มคนที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง น้ำตาลสูง ความดันโลหิตสูง ปัจจัยเหล่านี้ล้วนทำให้หลอดเลือดเกิดการเสียหาย และอาจนำไปสู่การเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบหรือแตกได้

2. ปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ได้แก่ เพศชายมีโอกาสเป็นมากกว่าเพศหญิง อายุที่มากขึ้น ทำให้หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองเกิดการเสียหาย รวมถึงพันธุกรรม ถ้ามีญาติพี่น้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยโรคหลอดเลือดสมอง คุณก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเหล่านี้ได้มากกว่าคนทั่วไป

อาการ

มีอาการปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ตาพร่ามัว แขนขาอ่อนแรง หรือมีการพูดไม่ชัด มีอาการชาครึ่งซีกบริเวณใบหน้า ซึ่งเป็นภาวะของอัมพฤกษ์ ในบางรายอาจรุนแรงจนถึงขั้นเป็นอัมพาต หรืออาจรุนแรงจนกระทั่งเสียชีวิตก็เป็นได้

การป้องกัน

การป้องกันที่ดีที่สุด คือ ป้องกันจากปัจจัยเสี่ยงที่สามารถควบคุมได้ ดังนี้

• คนที่มีภาวะความดันโลหิตสูงหรือเบาหวาน ควรควบคุมดูแลให้มีระดับความดันโลหิตและน้ำตาลในเลือดอยู่ในระดับปกติ

• ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเลิกสูบบุหรี่ เพราะทั้งสองปัจจัยนี้จะทำให้หลอดเลือดเกิดความเสียหายได้

• รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในระดับปกติ

• กินอาหารที่มีประโยชน์ และรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม โดยเน้นกลุ่มอาหารที่มีใยอาหารเป็นองค์ประกอบ เช่น ธัญพืชต่างๆ ถั่วเมล็ดแห้ง ถั่วเปลือกแข็ง ผักผลไม้ ลดหวาน เน้นโปรตีนจากพืชและปลา เน้นอาหารจากธรรมชาติ หลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัว หลีกเลี่ยงไขมันทรานส์ หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์แปรรูปและอาหารสำเร็จรูป และลดโซเดียมในอาหาร

• ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

• จัดการความเครียดเมื่อต้องเผชิญกับปัญหาหรือความวิตกกังวล

อาหารป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง (Dietary for Stroke Prevention)

อาหารประเภทโปรตีน

• เน้นกินปลาที่มีโอเมก้า 3 สูง ได้แก่ ปลาแม็คคลอเรล ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน หรือจะเป็นปลาไทยๆ ก็ได้ เช่น ปลาจะละเม็ดขาว ปลากะพงขาว ปลาดุก ปลาสวาย ปลาทู ปลาสลิด ปลาตะเพียน เป็นต้น รวมทั้งโปรตีนจากพืช เช่น เต้าหู้ นมพร่องมันเนยหรือขาดมันเนย

• หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์แปรรูป และเนื้อสัตว์ที่ผ่านกระบวนการถนอมอาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น ไส้กรอก กุนเชียง หมูยอ ลูกชิ้น ไข่เค็ม ปลาเค็ม

อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต

• เน้นคาร์โบไฮเดรตที่มีใยอาหารเป็นองค์ประกอบ เช่น ข้าวกล้อง ธัญพืช ถั่วเมล็ดแห้ง ผักหลากหลายสี และผลไม้ไม่หวานจัด

• หลีกเลี่ยงหรือบริโภคเพียงเล็กน้อยในกลุ่มคาร์โบไฮเดรตขัดขาว อาหารที่มีน้ำตาลสูง เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง รวมถึงน้ำผลไม้ เพราะเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายดูดซึมได้ง่าย หากกินมากเกินไปจะมีผลทำให้ไตรกลีเซอร์ไรด์สูง สะสมเป็นไขมันอยู่ตามหลอดเลือด และระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงอย่างต่อเนื่องจากการกินอาหารที่มีดัชนี้น้ำตาลสูงหรือคาร์โบไฮเดรตที่ขัดขาวหรือน้ำตาล จะทำให้หลอดเลือดแข็ง ขาดความยืดหยุ่น ซึ่งจะเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองได้

ยังมีความรู้เรื่อง "อาหารป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง (Dietary for Stroke Prevention)" อีก รอติดตามสัปดาห์หน้านะคะ

______________________

แหล่งข้อมูล

อ.ดร.วนะพร ทองโฉม สาขาวิชาโภชนศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล


จุดดับบน “พระอาทิตย์”

บันทึกเมื่อ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่กาลิเลโอมองเห็นได้ตั้งแต่ 400 ปีก่อน และทำให้ชาวโลกประจักษ์ว่าดวงอาทิตย์นั้นหมุนรอบตัวเอง

NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุ “...ภาพถ่ายล่าสุดของดวงอาทิตย์ บันทึกภาพในช่วงคลื่นไฮโดรเจนอัลฟา เห็น #จุดบนดวงอาทิตย์ ชัดเจน

สำคัญมาก!!! การสังเกตการณ์ดวงอาทิตย์ต้องกระทำด้วยความระมัดระวัง ต้องใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการสังเกตการณ์ดวงอาทิตย์โดยเฉพาะ

พื้นผิวของดวงอาทิตย์มีลักษณะเป็นแก๊สทั้งดวงจึงไม่มีพื้นผิวที่แท้จริง มีชั้นบรรยากาศที่ส่องสว่างมากที่สุด คือ “โฟโตสเฟียร์ (#Photospere)” ที่มีลวดลายคล้ายกับฟองแก๊สเดือด เรียกว่า “แกรนูล (#Granule)” หนาประมาณ 500 กิโลเมตร มีอุณหภูมิ 5,500 องศาเซลเซียส แสงดวงอาทิตย์ที่เรามองเห็นจากโลกส่วนใหญ่ คือแสงที่มาจากบรรยากาศชั้นนี้ จึงเปรียบเสมือนเป็นพื้นผิวของดวงอาทิตย์ แสงที่เดินทางออกมาชั้นโฟโตสเฟียร์จะใช้เวลาประมาณ 8 นาทีเพื่อเดินทางมาถึงโลก

บริเวณชั้น #โฟโตสเฟียร์ เป็นชั้นที่พบ จุดบนดวงอาทิตย์ (#Sunspot) กล่าวคือ เป็นบริเวณที่สนามแม่เหล็กแปรปรวนและมีความเข้มสูง ทำให้บริเวณนั้นมีอุณหภูมิต่ำกว่าและสว่างน้อยกว่าบริเวณอื่นโดยรอบ เมื่อสังเกตจากโลกจะมีลักษณะเป็นจุดสีดำ รวมถึงเป็นชั้นที่มีการปลดปล่อยมวลสารออกสู่อวกาศ เช่น พวยแก๊ส (Prominence) และ การลุกจ้า (Flare) เป็นต้น

ถัดจากชั้นโฟโตสเฟียร์ขึ้นไปเป็นชั้น “โครโมสเฟียร์ (Chromoshere)” เป็นชั้นที่พบลักษณะคล้ายหนามแหลมชี้ออกจากดวงอาทิตย์ เรียกว่า “สปิคูล (Spicule)” มีความหนาแน่นต่ำ และมีอุณหภูมิตั้งแต่ 5,000 ไปจนถึง 35,000 องศาเซลเซียส อุณหภูมิของชั้นโครโมสเฟียร์จะเพิ่มขึ้นตามระดับความสูงจนกระทั่งถึงขอบด้านบน อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสู่ 1 ล้านองศาเซลเซียส และกลายเป็นบรรยากาศชั้นนอกสุด ชื่อว่า “โคโรนา (Corona)”

#จุดบนดวงอาทิตย์ ถูกค้นพบตั้งแต่ยุคสมัยของกาลิเลโอ ซึ่งเมื่อสี่ร้อยปีก่อน กาลิเลโอส่องกล้องสังเกตดวงอาทิตย์ในเวลาเดียวกันทุก ๆ วัน เขาได้เห็นสิ่งที่น่าประหลาดใจเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ ดวงอาทิตย์มีรอยดำหลาย ๆ จุด รอยดำนั้นเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน บางครั้งรอยดำเหล่านั้นก็สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า และเลือนหายไปในเวลาไม่นาน เขาจึงวาดภาพดวงอาทิตย์ในเวลาเดียวกันทุก ๆ วัน เขาพบว่าจุดดำดังกล่าวเคลื่อนที่ไปอย่างช้า ๆ พร้อมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างไปจากเดิม และจางหายไปในที่สุด ด้วยเหตุนี้กาลิเลโอจึงรู้ว่า ดวงอาทิตย์มีการหมุนรอบตัวเอง

บันทึกภาพ : 2 ธันวาคม 2563 ถ่ายภาพในช่วงคลื่นไฮโดรเจนอัลฟา

ภาพ และข้อมูล : ธนกฤต สันติคุณาภรต - เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ชำนาญการ สดร.”


ยาน ‘ฉางเอ๋อ-5’ แตะพื้นดวงจันทร์แล้ว พร้อมเก็บตัวอย่างกลับโลก

ยาน ฉางเอ๋อ-5 ซึ่งจีนส่งออกนอกอวกาศเมื่อสัปดาห์ก่อน ลงสัมผัสพื้นผิวของดวงจันทร์สำเร็จแล้ว และเตรียมเก็บตัวอย่างดินและหินกลับมายังโลกเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 40 ปี

สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า ยานลงจอด (Lander) ซึ่งแยกตัวออกจากยานฉางเอ๋อ-5 ซึ่งตอนนี้อยู่บนวงโคจรของดวงจันทร์ ร่อนลงจอดบนพื้นผิวดวงจันทร์สำเร็จแล้วเมื่อคืนวันอังคารที่ 1 ธ.ค. 2563 พร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจเก็บตัวอย่างดินและหินจากดวงจันทร์กลับสู่โลกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2519

ยานแลนเดอร์ ซึ่งมีอุปกรณ์มากมายทั้ง กล้อง, เครื่องตรวจสเปกตรัม, เรดาร์, กระบวยตัก และสวานเจาะ ลงจอดในพื้นที่ภูเขาไฟซับซ้อนที่เรียกว่า ‘มงส์ รุมเกอร์’ (Mons Rümker) ใกล้กับภูมิภาค ‘มหาสมุทรพายุ’ (Oceanus Procellarum) แอ่งกว้างใหญ่บริเวณขอบด้านตะวันตกของด้านใกล้ของดวงจันทร์

คาดว่ายานลำนี้จะใช้เวลา 2-3 วันข้างหน้าในการสำรวจพื้นที่ และจะเก็บตัวอย่างดินกับหินน้ำหนักรวม 2 กก. ก่อนส่งกลับขึ้นไปยังยานฉางเอ๋อ-5 บนวงโคจร แล้วเดินทางกลับโลก

ทั้งนี้ หากภารกิจประสบความสำเร็จ จีนจะขึ้นแท่นเป็นประเทศที่ 3 ของโลกต่อจากสหรัฐฯ และสหภาพโซเวียต ที่เก็บตัวอย่างจากดวงจันทร์กลับโลกได้สำเร็จ โดยภารกิจ ‘อพอลโล’ ของสหรัฐฯ เคยส่งนักบินอวกาศไปยังดวงจันทร์ทั้งหมด 12 คน และเก็บหินและดินบนดวงจันทร์กลับมาได้รวม 382 กิโลกรัม ส่วนภารกิจ ‘ลูน่า’ ของโซเวียต เคยนำตัวอย่างจากดวงจันทร์กลับมาราว 170.1 กรัม เมื่อปี 2519

ยานฉางเอ๋อ-5 เดินทางกลับโลก

สำนักงานด้านอวกาศของจีน เปิดเผยว่า ยานฉางเอ๋อ-5 ซึ่งเป็นยานสำรวจดวงจันทร์ของจีน ออกเดินทางจากดวงจันทร์เมื่อเวลา 22.10 น.ของคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตามเวลาในประเทศไทย หลังจากเสร็จสิ้นการปฏิบัติภารกิจนาน 19 ชั่วโมง ในการเก็บตัวอย่างดินและหินน้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม จากจุดที่เรียกว่า มหาสมุทรพายุ (Oceanus Procellarum) เป็นแอ่งใหญ่อยู่ทางขอบด้านตะวันตกของด้านใกล้ของดวงจันทร์ มีพื้นที่ราว 4 ล้านตารางกิโลเมตร เกิดจากภูเขาไฟระเบิดบนดวงจันทร์ และเป็นพื้นที่ที่ยังไม่เคยถูกสำรวจมาก่อน เพื่อนำกลับมาให้นักวิทยาศาสตร์ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการกำเนิดของดวงจันทร์ นับเป็นการเก็บตัวอย่างวัตถุจากพื้นผิวดวงจันทร์เป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี ก่อนที่ยานฉางเอ๋อ-5 จะออกเดินทางจากดวงจันทร์ ได้มีการนำธงชาติจีนไปปักไว้บนพื้นผิวของดวงจันทร์ หากยานฉางเอ๋อ-5 กลับมาลงจอดที่เขตปกครองตนเองในมองโกเลียได้สำเร็จตามแผน จะทำให้จีนเป็นประเทศที่ 3 ของโลกที่สามารถส่งยานขึ้นไปสำรวจดวงจันทร์ จากที่มีเพียงสหรัฐ และสหภาพโซเวียต ทำสำเร็จมาเมื่อหลายสิบปีก่อน