"ฝนดาวตกไลริดส์" เริ่มเวลาประมาณ 21.38 น. วันที่ 22 เมษายน 2568 ตกสูงสุดเฉลี่ย 18 ดวงต่อชั่วโมง สามารถสังเกตการณ์ได้ทั่วประเทศ
เฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ โพสต์ข้อความโดยระบุว่า "คืนวันที่ 22 เมษายน 2568 ถึงรุ่งเช้าวันที่ 23 เมษายน 2568 จะเกิดปรากฏการณ์ฝนดาวตกไลริดส์ เริ่มเวลาประมาณ 21.38 น. เป็นต้นไป
แต่อาจจะมีแสงจันทร์รบกวนหลังเวลา 02.20 น. โดยสามารถเริ่มสังเกตจากทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณกลุ่มดาวพิณ ซึ่งคาดว่าจะมีอัตราการตกสูงสุดเฉลี่ย 18 ดวงต่อชั่วโมง สามารถสังเกตการณ์ได้ทั่วประเทศ หากฟ้าใสไร้เมฆและอยู่ในบริเวณที่มืดสนิทปราศจากแสงรบกวน".
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เชิญชวนประชาชนดู “ฝนดาวตกไลริดส์” ตั้งแต่ 5 ทุ่มครึ่งคืนนี้ ถึงรุ่งเช้า อัตราการตกสูงสุดเฉลี่ย 18 ดวงต่อชั่วโมง เผย ไร้แสงจันทร์รบกวน เห็นได้ทั่วประเทศ
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ Fan Page เชิญชวนประชาชนดู “ฝนดาวตกไลริดส์” เริ่มสังเกตได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 23.30 น. ของคืนนี้ ไปจนถึงรุ่งเช้าของวันที่ 23 เม.ย. 2563 ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณกลุ่มดาวพิณ คาดว่าจะมีอัตราการตกสูงสุดเฉลี่ย 18 ดวงต่อชั่วโมง และในค่ำคืนนี้ยังไร้แสงจันทร์รบกวน เหมาะแก่การสังเกตการณ์เป็นอย่างยิ่ง สามารถสังเกตการณ์ได้ทั่วประเทศหากฟ้าใสไร้เมฆ แต่ก็ต้องอยู่ในบริเวณที่มืดสนิทปราศจากแสงรบกวน และหากบ้านของใครที่มีมลภาวะทางแสงน้อยถือว่าโชดดีมาก
“ฝนดาวตกไลริดส์จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 14-30 เม.ย. ของทุกปี มักมีอัตราการตกมากที่สุดในคืนวันที่ 22 เม.ย. ประมาณ 18 ดวงต่อชั่วโมง แม้จะน้อยแต่ก็มีความสวยงามและสว่างสุกใสไม่แพ้ฝนดาวตกในกลุ่มดาวอื่น”
ขอบคุณเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาวิจัยใหม่ในวารสาร Nature Communications ในเดือนนี้ ผลงานวิจัยดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่กลุ่มประเทศที่ประชากรมีอายุขัยยืนยาวที่สุด และพบว่าประเทศเหล่านี้มีลักษณะร่วมกันอย่างหนึ่ง นั่นคือ ประชากรส่วนใหญ่บริโภคโปรตีนจากพืชมากกว่าที่อื่น...
กว่าจะสรุปผลออกมาได้เช่นนี้ ทีมงานจาก Charles Perkins Center ได้วิเคราะห์ข้อมูลแหล่งอาหารและข้อมูลประชากรในช่วงเวลา 60 ปี (ตั้งแต่ปีค.ศ. 1961 ถึงปีค.ศ. 2018) จาก 101 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณอาหารที่ผลิตในแต่ละประเทศ รวมถึงระดับค่าเฉลี่ยของปริมาณแคลอรี่ โปรตีน และไขมันที่ประชากรได้รับ
นอกจากนี้ นักวิจัยยังตั้งเป้าว่าประเทศที่เลือกมานั้นต้องมีความหลากหลายในระดับภูมิภาคมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อสะท้อนถึงระบบอาหารและเมนูอาหารที่หลากหลาย รวมถึงภูมิภาคที่มีการบริโภคโปรตีนจากสัตว์สูงกว่า (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย) และพื้นที่ที่พืชเป็นแหล่งโปรตีนหลัก เช่น ปากีสถาน, อินโดนีเซีย...
ที่สำคัญ ทีมงานยังปรับแก้ข้อมูลให้ถูกต้องโดย “คำนึงถึงขนาดประชากรและความระดับมั่งคั่ง” ซึ่งทำให้พบว่า ประเทศที่มีโปรตีนจากพืชให้เลือกกินได้โดยทั่วไปมากกว่า เช่น อินเดีย ประชากรจะมีอายุขัยที่ยาวนานกว่า เมื่อเทียบกับประเทศที่มีโปรตีนจากสัตว์ให้เลือกกินได้ง่ายกว่า เช่น สหรัฐอเมริกา
ระหว่างตรวจสอบข้อมูล พวกเขายังพบข้อมูลย่อยที่น่าสนใจชุดหนึ่ง เคทลิน แอนดรูว์ส ผู้เขียนหลักของงานวิจัยระบุว่า พวกเขาค้นพบว่าข้อมูลบ่งชี้ว่าภูมิภาคที่เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบได้รับโปรตีนจากสัตว์มากกว่าจะมีอัตราการเสียชีวิตของทารกต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม เธอกล่าวเสริมว่า “สำหรับผู้ใหญ่แล้ว เป็นไปในทางกลับกัน โดยโปรตีนจากพืชจะช่วยเพิ่มอายุขัยโดยรวม”...
เมื่อเผยแพร่ผลการศึกษาออกมาแล้ว ทีมวิจัยยังตั้งข้อสังเกตว่า มีการศึกษาวิจัยอื่นๆ มากมายที่แสดงให้เห็นว่าโปรตีนจากพืช เช่น โปรตีนที่พบในถั่ว เต้าหู้ และพืชตระกูลถั่ว เกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง ซึ่งอาจเป็นคำอธิบายได้ว่าเหตุใดประเทศที่บริโภคพืชเป็นหลัก เช่น เกาะอิคาเรียในประเทศกรีซ, เมืองโลมาลินดาในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นที่อยู่ของสำนักคริสตจักรเซเวนธ์เดย์แอดเวนติสต์ที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ จึงเป็นที่อยู่ของประชากรที่มีอายุยืนยาวที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
อย่างไรก็ตาม หากยังไม่ต้องการเลิกกินโปรตีนจากสัตว์ ก็สามารถปรับเปลี่ยนเมนูอาหารเล็กๆ น้อยๆ ได้ ซึ่งอาจช่วยเพิ่มอายุได้อีกสองสามปี
เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา นักวิจัยจาก Mass General Brigham, Harvard T.H. Chan School of Public Health และ Broad Institute ได้เผยแพร่ผลการศึกษาของพวกเขาในวารสาร JAMA Internal Medicine ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนจากการใช้เนยเป็นน้ำมันจากพืช เช่น น้ำมันมะกอก อาจช่วยให้เรามีอายุยืนยาวขึ้นได้เช่นกัน โดยผลจากการศึกษาพบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการที่บริโภคเนยมากที่สุดมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตสูงกว่าผู้ที่บริโภคเนยน้อยที่สุดถึง 15%
“โปรตีนมีส่วนสำคัญในโภชนาการของมนุษย์ แต่เมื่อพฤติกรรมการกินเปลี่ยนไปและประเทศที่พัฒนาแล้วพยายามลดระกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แหล่งอาหารที่เรารับโปรตีนจึงถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดมากขึ้น” ดร. อลิสแตร์ ซีเนียร์ จากกลุ่มวิจัยของ Charles Perkins Center อธิบาย “ความรู้ที่ว่าโปรตีนจากพืชเกี่ยวข้องกับการมีอายุยืนยาวขึ้นนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเราไม่เพียงต้องคำนึงถึงผลกระทบที่อาหารของเรามีต่ออายุขัยของเราเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึง ‘สุขภาพของโลก’ ด้วย”
ที่มา : foodandwine.com...
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ว่า รายงานของศูนย์นานาชาติเพื่อการพัฒนาภูเขาแบบบูรณาการ (ไอซิมอด) ระบุว่า “เทือกเขาหิมาลัยฮินดูกูช” ซึ่งทอดยาวจากอัฟกานิสถานไปจนถึงเมียนมา มีปริมาณหิมะที่ตกบนพื้นดินลดลงต่ำกว่าปกติถึง 23.6% และต่ำที่สุดในรอบ 23 ปี...
“รายงานหิมะ” ระบุว่า แนวโน้มดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่สาม และคุกคามความมั่นคงด้านน้ำของประชากรเกือบ 2,000 ล้านคน นอกจากนั้น ยังนำไปสู่ปริมาณน้ำในแม่น้ำที่ลดลง การพึ่งพาน้ำใต้ดินที่เพิ่มขึ้น และความเสี่ยงต่อภัยแล้งที่เพิ่มมากขึ้น...
ประเทศต่าง ๆ หลายแห่งในภูมิภาคได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับภัยแล้ง ซึ่งจะกระทบกับการเก็บเกี่ยวผลผลิต และการเข้าถึงน้ำในอนาคต รวมถึงความเสี่ยงต่อคลื่นความร้อนที่ยาวนาน ร้อนระอุ และถี่ขึ้นกว่าเดิม...
องค์กรไอซิมอดซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิกจากรัฐบาลอัฟกานิสถาน บังกลาเทศ ภูฏาน จีน อินเดีย เมียนมา เนปาล และปากีสถาน เรียกร้องให้สมาชิกที่พึ่งพาลุ่มน้ำหลัก 12 แห่งในภูมิภาค ร่วมกันพัฒนาการจัดการน้ำ เตรียมพร้อมรับมือกับภัยแล้ง สร้างระบบเตือนภัยล่วงหน้า และเสริมสร้างความร่วมมือในระดับภูมิภาค
รายงานยังเตือนด้วยว่า “ลุ่มน้ำโขง และแม่น้ำสาละวิน” ซึ่งเป็นหนึ่งในแม่น้ำสายหลัก ที่มีต้นกำเนิดมาจากหิมะบนเทือกเขาหิมาลัย สูญน้ำแข็งไปประมาณครึ่งหนึ่งแล้ว.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES...
ราคาทองคำนับตั้งแต่ต้นปีมานี้ เรียกว่า พุ่งขึ้นเป็นรายวันแบบที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ว่าจะไปได้ถึงระดับ 50,000 บาท ตามที่บรรดานักวิเคราห์ หรือ กูรูทองทั้งหลายคาดการณ์ไว้ ทำเอาคนที่ขายทิ้งไปก่อนหน้านี้ออกปากเสียดายกันถ้วนหน้า ...
หากจะกลับเข้าซื้อในราคาครึ่งแสนแบบนี้ ที่เทียบกับในอดีตระดับ 20,000-30,000 บาทแล้ว ก็ทำใจซื้อไม่ลง เพราะราคาแพงเกินเหตุไปเยอะมาก เพราะตั้งแต่ต้นปี หรือแค่ 3 เดือนครึ่ง ก็ปรับขึ้นมาแล้วเกือบแตะ 10,000 บาท
สาเหตุที่ราคาทองคำปรับขึ้นมาสูงชะลูดแบบนี้ ก็ต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงโควิด จากนั้นเกิดสงครามในตะวันออกกลาง จนกระทั่งวันนี้เกิด “สงครามการค้า” ที่สถานการณ์ทั่วโลกขณะนี้ปั่นป่วนหนักมากจากอารมณ์ “ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ไม่แน่ไม่นอนเหมือนกับ “โรคไบโพลาร์“ ทำให้นักลงทุนทั้งหลาย เกิดอาการหวั่นวิตก จนโยกเงินมาพักตัวไว้ในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่าง “ทองคำ”...
การที่ราคาทองคำปรับขึ้นแบบบ้าคลั่งไม่มีที่สิ้นสุดนี้ เป็นสัญญาณเตือนภัยอะไรบ้าง
เกิดการเสื่อมค่าของค่าเงินดอลลาร์
เศรษฐกิจสหรัฐกำลังแย่จากการทำสงครามการค้า
นักลงทุนประเมินว่าการทำสงครามการค้าครั้งนี้ สหรัฐทำร้ายตัวเอง
จีนเริ่มหาพันธมิตรใหม่ฝั่งสหภาพยุโรป และญี่ปุ่น แล้วหันหน้าเข้ามาเล่นงานสหรัฐ จนทำให้ภาคการค้าโลกเกิดความเปลี่ยนแปลง
ผู้ที่เสียประโยชน์หลักๆ คือ สหรัฐ จึงประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐที่เคยแข็งแกร่งเป็นอันดับ 1 ย่ำแย่ลง
เห็นการเปลี่ยนขั้ว เศรษฐกิจจีนอาจขยายตัว และจีนอาจไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้ามากนัก เพราะได้รับผลกระทบมาระยะหนึ่งแล้ว...
หมอเจด หรือ นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ให้ความรู้ด้านสุขภาพผ่านเฟซบุ๊ก หมอเจด ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "4 สัญญาณเตือน ร่างกายเริ่มแก่
'กลิ่นแก่' มีอยู่จริง 'หมอเจด' เผยวิธีแก้ 5 ข้อแบบง่ายๆ
1. ระบบทางเดินอาหารพัง หรือแย่กว่าเดิม กระเพาะอาหาร ลำไส้ ทั้งกระบวนการย่อย แจกจ่าย และขับถ่าย ทำงานไม่ดีเหมือนเดิม ย่อยยากขึ้น ท้องอืดบ่อยขึ้น ท้องผูกง่าย ท้องเสียไ กรดไหลย้อน ของบางอย่างที่เคยกินได้ลื่นไหล กลับไม่ย่อย อาหารโปรดหลายชนิด ต้องเลิกกิน หรือหลีกเลี่ยง เมื่อก่อนไม่เป็น เป็นตอนแก่ นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนอาหารประจำชีวิตใหม่ และถ้าปรับแล้วยังไม่ดีพอ ก็ต้องหาตัวช่วย อย่างโพรไบโอติกส์ ที่จำเป็นต่อระบบทางเดินอาหาร เพราะในความจริงแล้ว…เราไม่ชอบกินสิ่งที่ควรกินหรอกครับ เราตามใจปาก ติดรสชาติ มากกว่าเอาใจลำไส้ และสุดท้าย “รักเอง ก็เจ็บเอง”.
2. ระบบเคลื่อนไหวร่างกาย ทั้งกระดูกและกล้ามเนื้อ เจ็บปวดบ่อย เมื่อยบ่อย เส้นยึด ตึง คอ บ่า ไหล หัวเข่า ขยับตัว เคลื่อนไหว ยืน นั่ง เดิน วิ่ง โดยเฉพาะจังหวะปรับเปลี่ยนท่าทาง อาจได้ยินเสียงกระดูกกรุบกรอบ นอกจากเสียง ยังแถมมาด้วยความรู้สึกฝืด หนืด หนักมากก็มีอาการเจ็บปวด การเดินขึ้นลงพื้นต่างระดับ การนั่งพับเพียบ นั่งยอง ไหว้ย่อ โดยเฉพาะข้อต่อตามร่างกาย ตรงไหนที่มีกระดูก รวมถึงฟัน เปราะบาง ผุพังง่าย เริ่มมีอาการไม่ปกติ นั่นจึงเป็นสาเหตุให้แคลเซียม คืออาหารประจำวัยของผู้สูงวัย เพราะจำเป็นต่อกระบวนการซ่อม และไม่ควรปล่อยให้ขาด เสริมด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ยิ่งแก่ ยิ่งเคลื่อนไหวได้ช้าลง และสุดท้าย…การเคลื่อนไหว จะกลายเป็นเรื่องยากของชีวิต “เรื่องใหญ่กว่า คือวันที่ร่างกาย กลายเป็นภาระ”
3. ภาวะหดหู่ทางใจ เหมือนแบตเตอรี่ค่อย ๆ เสื่อม พลังงานชีวิตหายไปกว่าครึ่ง ความกระฉับกระเฉง ว่องไว คึกคะนอง ชีวิตชีวา เริ่มเข้าสู่ภาวะเกียจคร้าน เฉื่อยเฉา อ่อนแรง ขาดพลังงานทั้งกายใจ หงุดหงิดง่าย หัวร้อนบ่อย เอาแต่ใจตัวเอง หัวรั้น บางทีก็ดูตึงเกินไป บางวันก็เซื่องซึม ไม่อยากทำอะไร อยากหายใจทิ้ง ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ตามสภาวะเซลล์และฮอร์โมน ที่เสื่อมถอย อีกส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยสิ่งแวดล้อม สถานการณ์ชีวิต ปัญหาที่เผชิญอยู่ ซึ่งล้วนส่งผลต่อสภาพจิตใจ และลุกลามโยงใยไปถึงความเจ็บป่วยทางร่างกาย โรคอื่น ๆ จะทยอยเดินทางมาหาตามลำดับ หากไม่เร่งแก้ไข พยายามปรับความคิด ชีวิต และเรียนรู้ความเข้าใจการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งเพิ่มเติมกิจกรรม อาหาร วิตามิน ที่จำเป็นต่อสมองและเติมความสุขให้ชีวิต อย่ารอให้ต้องรักษาด้วยยาเลยครับ
4. นอนไม่หลับ อาการของคนเริ่มแก่แล้วจริง ๆ ความคิดชักวน เอาออกไปจากสมองยาก บางทีก็เหมือนไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ทำไมนอนไม่หลับ หลากหลายวิธีแก้ปัญหาการนอน ทั้งในเรื่องวิตามินเสริม อาหาร และการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งเราก็ต้องไปศึกษาและทดลองในวิธีการที่เหมาะสมกับตัวเอง บางที…เราอาจจะนอนไม่หลับ เพราะเรากำลังกังวลว่า “เราจะนอนไม่หลับ” นอนไม่หลับ เพราะคิดว่านอนไม่หลับ ใครเป็นยกมือขึ้น ครับ! คุณกำลังแก่แล้วจริง ๆ"