งานแต่งสุดอลัง "เจ้าสาวชุดดำ" กับธีมงานแต่งงานแบบเทพนิยาย งบไม่มีอั้น!!
งานแต่งสุดอลังการของเซเลบริตี้สาวชื่อดังอย่าง คริสตีน ควินน์ ที่โด่งดังจากเรียลลิตี้ Selling Sunset ของ Netflix บอกเลยว่างานแต่งงานยิ่งใหญ่อลังการ และที่สำคัญชุดแต่งงานเป็นเริศมาก คริสติน ควินน์เธอ ถูกยกย่องให้เป็นราชินีจากเรียลลิตี้ของ Netflix ที่จะตามหาชายหนุ่มสุดฮอตจาก The Oppenheim Group ซึ่งเป็นบริษัทขายอสังหาริมทรัพย์มูลค่าหลายล้านปอนด์ของ LA
งานแต่งของ คริสติน ควินน์ กับมหาเศรษฐีหนุ่ม คริสเตียน ริชาร์ด จัดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคมปี 2019 ที่ผ่านมา ต่อหน้าสักขีพยานกว่า 130 คน ส่วนใหญ่ก็เป็นเหล่าเพื่อนเซเลบริตี้ของคริสตีน และเพื่อนร่วมงานในบริษัทอสังหาริมทรัพย์สุดหรูของคริสเตียน
งานแต่งของระดับมหาเศรษฐีแบบนี้มีหรือจะธรรมดา ในงานแต่งช่วงเช้าถูกจัดขึ้นในธีม "Gothic Winter Wonderland" ซึ่งได้แรงบรรดาลใจมาจากตำนานแห่งนาร์เนีย และ "Wicked wonderland" ธีมของปาร์ตี้หลังงานแต่งนั้น ที่พวกเขาต้องการที่จะสร้างงานแต่งให้ดูดุดัน
เจ้าสาวอย่างคริสติน กล่าวว่า "ไม่มีงบประมาณสำหรับความรัก และพวกเราพร้อมที่จะลงทุนกับมัน" งานแต่งในครั้งนี้จึงมีมูลค่ามากกว่าหนึ่งล้านดอลล่าร์ ซึ่งงานทั้งหมดถูกออกแบบตามสไตล์ที่คริสตินต้องการ
คริสตินเจ้าสาวเป็นผู้ออกแบบชุดแต่งงานสไตล์กูตูร์สีดำ ชุดนี้ด้วยตัวเธอเอง ผ้าคลุมสีดำ ขนนก และคริสตัล เธอตั้งใจออกแบบให้ชุดแต่งงานของเธอออกมาแบบไม่มีใครเหมือน เธอต้องการเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งเธอใช้เวลานานกว่า 2 เดือนในการตามหานักออกแบบ สุดท้ายเธอก็ได้มาเจอกับ กาเลีย ลาฮาพ ที่ช่วยตัด และออกแบบชุดงานแต่งของเธอทั้งสองชุด
คริสติน และคริสเตียน แต่งงานในมหาวิหารแห่งหนึ่ง ที่ถูกตกแต่งในแบบฤดูหนาว มีหิมะตกโปรยปราย และต้นไม้ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ก่อนที่จะใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง พร้อมกับคนงานอีก 100 คน เนรมิต ดินแดนหิมะ ให้เป็น เทพนิยายสุดดาร์ค กับธีม "Wicked wonderland" การตกแต่งของโบสถ์ถูกปกคลุมด้วยผ้าชีฟองสีดำ โคมไฟระย้าถูกเปลี่ยนเป็นเหล็กดัด และห้องสีขาวกลายเป็นสีแดงเพลิง
"จนกว่าเราจะตาย" เป็นไอเดียงานแต่งที่แหวกแนวที่สุด คริสติน ใส่ความชอบของเธอลงในงาน ผ่านสไตล์การตกแต่งแบบโกธิค มันเป็นการแสดงถึงความรักของทั้งคู่ในชีวิตจริง ว่ามันช่างเซ็กซี่ โรแมนติก และดุเดือด
ในแผนงานแต่งของเธอ คริสติน อยากได้เค้กแต่งงานที่มีสีแดงไหลออกจากตัวเค้ก ซึ่งเธอยืนยันว่าเธอต้องการเค้กแบบนี้จริงๆ แน่นอนว่าช่างทำเค้กเต็มใจที่จะสร้างสรรค์เค้กที่เปื้อนเลือดออกมา เพราะมันเป็นสิ่งที่น่าท้าทาย ผู้ทำเค้กเลือดในครั้งนี้คือ จูเลีย ไซมอน ได้สร้างเค้ก 4 ชั้น ขนาด 55 นิ้วที่สลัก อักษรย่อ C+C ส่วนสีแดงที่ไหลออกมา ทำมาจากสตรอเบอร์รี่บัลซามิค บอกเลยว่ามันอร่อยมาก
ในงานแต่งของพวกเขาทั้งคู่มีหงส์ตัวเป็นๆ ถึง 4 ตัว สีขาว 2 ตัวสำหรับ ธีมขาว และอีก 2 ตัว สำหรับ ธีม ดำ อยู่ภายในบ่อน้ำบริเวณงาน ซึ่งพวกมันเป็นตัวแทนของทั้งคู่นั่นเอง ทั้งสี่ตัวก็ได้รับการดูแลอย่างดี งานแต่งของทั้งคู่มีรายละเอียดเยอะมากมาย ที่แสดงถึงตัวตน และเรื่องราวความรักของทั้งคู่ออกมาให้แขกภายในงานได้รู้
ยานสำรวจของนาซาแตะพื้นผิว ดาวเคราะห์น้อย'เบนนู'
ยานสำรวจ "โอซิริส-เร็กซ์" ของนาซา ประสบความสำเร็จในการลงจอดระยะสั้นบนพื้นผิวของดาวเคราะห์น้อย "เบนนู" หลังไล่ตามมานาน 4 ปี เพื่อเก็บตัวอย่างกลับมาศึกษาเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโลก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ว่าองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ ( นาซา ) ออกแถลงการณ์เมื่อวันอังคาร ว่ายานสำรวจโอซิริส-เร็กซ์ ( Osiris-Rex ) ประสบความสำเร็จกับภารกิจ "แตะสัมผัส" บนพื้นผิวดาวเคราะห์น้อยเบนนู แล้วใช้แขนกลเร่งเก็บตัวอย่างชิ้นส่วนบนพื้นผิวที่เรียกว่า "ไนติงเกล" บนขั้วเหนือของดาวเบนนู ให้ได้อย่างน้อย 60 กรัมตามเป้าหมาย ภายใต้เวลาซึ่งจำกัดเพียง 16 วินาที โดยกำหนดการเดินทางกลับถึงโลกพร้อมตัวอย่างสำหรับการศึกษา คือภายในเดือนก.ย. 2566
ทั้งนี้ ยานโอซิริส-เร็กซ์ ออกแบบและผลิตโดยนาซา ร่วมกับบริษัทล็อกฮีด มาร์ติน ออกเดินทางจากโลก เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2559 เพื่อติดตามดาวเคราะห์น้อยเบนนู ซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 500 เมตร และโคจรอยู่ห่างจากโลกเป็นระยะทางไกลมากกว่า 330 ล้านกิโลเมตร โดยนักวิทยาศาสตร์ตั้งสมมติฐานว่า ตัวอย่างสสารบนดาวเบนนูอาจช่วยเพิ่มความกระจ่างให้กับการถือกำเนิดของสรรพสิ่งมีชีวิต และมหาสมุทรบนโลก
ภารกิจดังกล่าวถือเป็นความสำเร็จครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของนาซา ในการส่งยานสำรวจไปเก็บตัวอย่างจากดาวเคราะห์น้อย ซึ่งชิ้นส่วนที่ยานโอซิริส-เร็กซ์ เตรียมนำกลับมาด้วยนั้น ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ยุคโครงการสำรวจอะพอลโล และนาซายังมีแผนส่งยานสำรวจดาวเคราะห์น้อยอีกอย่างน้อย 3 ดวงภายในระยะเวลาอีก 2 ปีข้างหน้าด้วย
นอกจากนี้ สหรัฐถือเป็นประเทศที่สองของโลก ซึ่งสามารถส่งยานติดตามดาวเคราะห์น้อยได้สำเร็จ ต่อจาก ญี่ปุ่น ซึ่งยานสำรวจ "ฮายาบุสะ 2" สามารถลงจอดบนพื้นผิวของดาว "ริวงุ" เมื่อเดือนก.ย. 2561 หลังติดตามมานานเกือบ 4 ปี และตอนนี้ยานกำลังอยู่บนเส้นทางกลับสู่โลก.
เครดิตภาพ : REUTERS
8 ผักสมุนไพรสยบเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด หากินง่ายใกล้ตัว
พืชผักสมุนไพรไทยหลากหลายชนิด มีส่วนช่วยในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้เป็นอย่างดี บางชนิดก็สามารถหาซื้อหรือปลูกกินเองได้อย่างง่ายดาย วันนี้เราจึงขอนำเอา 8 พืชผักสมุนไพรไทยที่ช่วยต้านโรคเบาหวานมาแนะนำให้ทุกคนได้ทราบกันค่ะ เพื่อที่จะช่วยให้หลายคนที่เป็นกังวลกับการเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ได้ศึกษาและหามาทานเพื่อป้องกันได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
1.มะระจีน ในมะระจีนอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการดูดซึมน้ำตาลกลูโตสได้เป็นอย่างดี และยังช่วยลดปัญหาของการเกิดต้อกระจก ซึ่งต้อกระจกคือหนึ่งในอาการข้างเคียงของผู้ป่วยเบาหวานนั่นเอง
2.ฟักทอง การทานฟักทอง แนะนำให้ทานพร้อมเปลือก เนื่องจากในเปลือกฟักทองนั้น อุดมไปด้วยสารอาหารชนิดต่างๆ ที่ช่วยในการกระตุ้นการหลั่งสารอินซูลิน ซึ่งจะส่งผลต่อการควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นจึงช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้
3.ใบมะยม การนำใบมะยมมาทานเป็นผัก หรือนำมาประกอบอาหารทานเป็นประจำ จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินเอและวิตามินซีสูง อีกทั้งใบมะยมยังมีส่วนช่วยในการลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
4.ขมิ้น ขมิ้นจัดเป็นสมุนไพรที่มีสารช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี ซึ่งสรรพคุณของขมิ้นจะมีความเหมือนกับอบเชย ดังนั้นใครที่ไม่ชอบทานขมิ้น สามารถทานอบเชยแทนได้เช่นกัน
5.กระเทียม กระเทียมและหัวหอม นอกจากจะเป็นพืชผักสมุนไพรไทยที่ขาดไม่ได้ในการทำอาหารแต่ละเมนูแล้ว ผักทั้งสองชนิดนี้ยังมีสรรพคุณที่เหมือนกันอีกด้วย คือช่วยในการละลายลิ่มเลือด ลดปัญหาหลอดเลือดตีบ และช่วยลดระดับไขมันในกระแสเลือดได้เป็นอย่างดี
6.สะตอ หนึ่งในผักที่มีกลิ่นแรง แต่ก็ให้รสชาติอร่อยไม่เบาอย่างสะตอ ก็มีส่วนช่วยในการต้านโรคเบาหวานได้เช่นกัน เพราะสะตอมีสรรพคุณช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือด พร้อมทั้งช่วยลดภาวะความดันโลหิตสูง
7.ตำลึง ผักที่สามารถหามาทานได้ง่ายๆ ตามรั้ว หรือมีขายตามท้องตลาดอย่างมากมายอย่างเช่น ตำลึง ก็มีส่วนช่วยในการลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เช่นกัน ซึ่งในทุกส่วนของตำลึงไม่ว่าจะเป็นลำต้น ราก ผล และใบ ล้วนมีสรรพคุณช่วยต้านโรคเบาหวาน อีกทั้งยังมีสารเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยต้านมะเร็งและชะลอความแก่ได้เป็นอย่างดี
8.ผักบุ้ง จะนำมาต้ม ผัด หรือกินสดๆ ก็อร่อยได้ทั้งนั้น ที่สำคัญผักบุ้งยังมีสารคล้ายอินซูลิน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด จึงช่วยต้านโรคเบาหวาน และยังเป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา ช่วยลดอาการร้อนใน และแก้อาการท้องผูกได้ด้วย
จะเห็นได้ว่าพืชผักสมุนไพรหลากหลายชนิดที่เราคุ้นเคย และบางครั้งก็ทานแทบทุกวัน ล้วนมีส่วนช่วยในการต้านโรคเบาหวานได้ดี อีกทั้งยังมีสารอาหารหลากหลายชนิดที่ล้วนช่วยต้านโรคหลากหลายชนิดได้ ดังนั้นจึงอยากให้ทุกๆ คน หันมาใส่ใจในการทานพืชผักสมุนไพรกันให้มากๆ พยายามบาลานซ์การกินให้ดี เพื่อการมีสุขภาพที่ดีในระยะยาวนั่นเองค่ะ