ครบเครื่อง
ญ. อมตะ
ครบเครื่อง ญ. อมตะ 11 เมษายน 2563

‘เคย’ ของดีแดนสะตอมีติดบ้านอยู่รอดช่วงวิกฤตโควิด-19

เมษายน 2563 ที่ตำบลตันหยงโป อ.เมือง จ.สตูล ธุรกิจในหมู่บ้านของที่นี่ที่ขึ้นชื่อคือ กะปิ หรือ คนใต้เรียกว่า เคย เจ้าอร่อยและขึ้นต้องของก๊ะตม ที่คว่ำหวอดในวงการทำกะปิมาตั้งแต่อายุ 20 ปี มาจนถึงปัจจุบันอายุกว่า 50 ปีแล้ว เป็นอาชีพที่สร้างครอบครัวและจ้างงานสร้างรายได้ให้คนในชุมชนตำบลตันหยงโป มีงานทำ ด้วยการทำกะปิ ที่มีการคัดสรรตัวเคย หรือ ลูกกุ้งขนาดเล็ก เกรดA มาทำกะปิชั้นดีให้ทานกัน โดยกระบวนการขั้นตอนคือการนำตัวเคยมาตากแดด 2-3 แดดบนลานยกพื้นที่สะอาด

จากนั้นนำกะปิที่ผ่านการตากแดดเข้าไปเกลี่ยออกเพื่อเตรียมการปรุงรสชาติด้วยน้ำตาลทราย ในสัดส่วนที่พอเหมาะเสร็จแล้วก็นำกะปิเข้าเครื่องบดละเอียดเพื่อให้การปรุงรสชาติเข้าเนื้อกันดี และนำบรรจุลงบนตะกร้าอัดให้แน่นพักไว้ 2-3 สัปดาห์ หรือมากกว่านั้นก็ยิ่งดีพร้อมรับประทานได้ ด้วยกลิ่นที่หอมอบอวล สีจะไม่ผิดเพี้ยนหากเปิดกระปุกทานต้องใส่ตู้เย็นทุกครั้ง สามารถนำไปปรุงอาหารได้ทั้งน้ำพริก หรือ เครื่องแกง เนื่องจากก๊ะตม ย้ำว่า กะปิของที่นี่จะเป็นตัวเคยเกรดA คัดสรรมาอย่างดี ยิ่งเก็บไว้นานยิ่งอร่อย

ก๊ะตม บอกว่า ในยามสถานการณ์กปกติจะส่งลูกค้า จ.สงขลา จ.ภูเก็ต และเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย เมื่อหลายพื้นที่ปิดเมืองเนื่องจากไวรัสโควิด19 สินค้าของตนก็ไม่ได้บูดเน่าเสียแต่อย่างใด ก็ยิ่งอร่อยเพิ่มขึ้น แต่สินค้าอาจจะส่งไม่ได้เท่านั้น ทางตนก็มีหน้าร้านเปิดขายในหมู่บ้านเนื่องจากเป็น ตำบลตันหยงโป เป็นเมืองท่องเที่ยวด้วย มีจำหน่ายกระปุกเล็ก 35 บาท ใหญ่ 50 บาท หรือหากจะส่งจำนวนมากก็สามารถติดต่อสอบถามได้ทาง เฟสบุก กะปิกะตม ตันหยงโป จ.สตูล หรือทางเบอร์โทร 081 189 5467

เปิดข้อมูล สารคัดหลั่งใดในร่างกาย เชื้อโควิด-19 สะสมมากสุด

ทางด้านกระทรวงสาธารณะสุขได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลไว้ว่า "โควิด-19 อยู่ที่ไหนเยอะที่สุด" โดยเขียนบรรยายว่า สารคัดหลั่ง คือสารที่ร่างกายสร้างขึ้นมา เมื่อติดเชื้อโควิด-19 เชื้อจะไปสะสมในสารคัดหลั่งชนิดต่างๆในปริมาณไม่เท่ากัน

น้ำตา - มีเชื้อโควิด-19 ประมาณ 1.1%

น้ำมูก - มีเชื้อโควิด-19 มากที่สุดประมาณ 97.9% การตรวจหาเชื้อ จึงตรวจจากน้ำมูกเป็นหลัก

น้ำลาย - มีเชื้อโควิด-19 ประมาณ 88.6%

ในลำคอ - มีเชื้อโควิด-19 ประมาณ 60% คุณหมอจะเก็บตัวอย่างจากบริเวณคอเพื่อตรวจหา COVID ด้วย

ในเลือด - มีเชื้อโควิด-19 ประมาณ 12.3% การบริจาคเลยต้องคัดกรองอย่างดี ถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือไม่แน่ใจ อย่าเพิ่งมาบริจาคเลือด

อุจจาระ - มีเชื้อโควิด-19 ประมาณ 70.8% ฉะนั้นการเข้าห้องน้ำสาธารณะอย่าลืมปิดฝาก่อนกดชักโครก เสร็จแล้วล้างมือด้วยสบู่อย่างน้อย 20 วินาที

เปิด 8 วิธีป้องกันโรคโควิด-19

กรมควบคุมโรค แนะประชาชนไทยห่างไกลโรคโควิด-19 โดยการปฏิบัติตาม 8 วิธีเพิ่มระยะห่างทางสังคม "Social Distancing" เพื่อลดโอกาสในการสัมผัสเชื้อและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อในวงกว้าง

วันที่ 7 เมษายน 2563 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่กระจายเชื้อของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ไปยังหลายพื้นที่ของประเทศ นั้น กรมควบคุมโรคมีความห่วงใยประชาชน

จึงขอแนะให้ปฏิบัติตาม 8 วิธีเพิ่มระยะห่างทางสังคม “Social Distancing” เพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อและป้องกัน การแพร่ระบาดจากคนสู่คนไม่ให้เชื้อขยายเป็นวงกว้าง

การเพิ่มระยะห่างทางสังคม “Social Distancing” 8 วิธีปฎิบัติป้องกันโรคโควิด-19 ได้แก่

1.ห้ามไปพื้นที่แออัดต่างๆ เช่น สถานบันเทิง โรงเรียน โรงภาพยนตร์ กิจกรรมกีฬา เป็นต้น เปลี่ยนเป็นการทำงานที่บ้าน สื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต และเรียนออนไลน์

2.เปลี่ยนพฤติกรรมการแสดงความสัมพันธ์ ห้ามกอด หรือจูบ

3.หลีกเลี่ยงการเข้าไปในห้องที่แออัด ห้องประชุม/ชุมนุมขนาดใหญ่ เพื่อลดโอกาสการรับและแพร่กระจายเชื้อโรค

4.หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีคนเยอะ และใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

5.ระวังการใช้สิ่งของสาธารณะและของที่ใช้ร่วมกับผู้อื่น เช่น ราวบันได ลูกบิด รีโมทคอนโทรล ปุ่มกดลิฟท์ และล้างมือทุกครั้งหลังสัมผัสสิ่งของสาธารณะ

6.ควรหลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วนในสถานที่ที่มีคนเยอะ เช่น รถสาธารณะ ร้านสะดวกซื้อ

7.ควรอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ อย่างน้อย 1-2 เมตร เพื่อลดโอกาสการรับและแพร่กระจายเชื้อ และ

8.ควรอยู่ในบ้านให้มากที่สุด เมื่อไม่ออกไปรับเชื้อข้างนอกบ้าน โอกาสติดโรคน้อยลง ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคจึงขอเน้นย้ำให้ปฎิบัติตามวิธีการปฎิบัติดังกล่าวอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อและทำให้จำนวนผู้ป่วยลดลงได้

8 อาชีพเด่น งานไหนสามารถทำที่บ้านได้ในปี 2020

การทำงานที่บ้าน ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในปัจจุบัน เนื่องจากการมีอินเตอร์เน็ตและเทคโนโลยีในการสื่อสารต่าง ๆ เข้ามาตอบโจทย์ได้เกือบทุกขั้นตอนทำให้งานสามารถทำที่บ้านได้ง่ายขึ้น ลองมาดู 8 อาชีพที่เด่นที่คุณสามารถ Work From Home โดยไม่ต้องเข้าออฟฟิศ ซึ่งไม่ใช่แค่เป็นอาชีพเสริม แต่เป็นอาชีพประจำจริง ๆ มีอาชีพไหนบ้านดูได้ที่นี่

1. ล่ามหรือนักแปลภาษา ถือเป็นข้อดีสำหรับคนที่เชี่ยวชาญด้านภาษาต่างประเทศ เพราะสามารถนำทักษะนี้มาใช้ในการทำงานได้เป็นอย่างดี เมื่อต้องมีการแปลรายงาน บทความ หรือข่าว ก็สามารถทำงานผ่านออนไลน์จากการ Work From Home ได้สบาย ๆ แถมอาชีพนี้บอกเลยว่า รายได้ยังดีอีกด้วย

2. นักเขียนบทความ เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สามารถทำงานอยู่กับบ้านได้แบบสบาย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นนักเขียน "คุณภาพ" ที่เข้าใจการ “การสื่อสาร” เชี่ยวชาญทั้งในเรื่องการเขียนอย่างถูกต้อง ทั้งการค้นหาข้อมูล การเรียบเรียง ไปจนถึงการสะกด ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่หลายแบรนด์และหลายองค์กรต้องนำมาใช้ในการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน โดยอาชีพนี้เป็นงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ หรือแล็ปท็อป และอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก แต่แน่นอนว่าต้องใช้สมาธิมากพอสมควร ลองดูวิธีการจัดบ้าน-จัดห้องคอนโด ให้เหมาะกับ Work From Home

3. ครูหรือติวเตอร์ แม้ว่าโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือสถาบันต่าง ๆ จะหยุด แต่การเรียนการสอนต่าง ๆ ก็ไม่ได้หยุดตาม เพราะปัจจุบันสามารถเรียนผ่านออนไลน์จากที่บ้านได้โดยใช้ VDO Conference ซึ่งนอกจากนักเรียน นักศึกษาที่ต้องการติวเตอร์สอนพิเศษแล้ว ยังมีกลุ่มที่ต้องการพัฒนาตัวเอง ศึกษาหาความรู้ในเรื่องต่าง ๆ เช่น การทำขนม ทำอาหาร หรือเรียนภาษาเพิ่มเติม

4. เทรนเนอร์ การออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องไปที่ฟิตเนสเท่านั้น ดังนั้น การเป็นเทรนเนอร์จึงไม่จำเป็นต้องขลุกตัวอยู่ที่ฟิตเนสเพียงอย่างเดียว เพราะยังสามารถสอนเทคนิคการออกกำลังกายต่าง ๆ จากที่บ้านได้ ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์สดผ่านช่องทางต่าง ๆ หรือเปิดคอร์สส่วนตัวโดยใช้ VDO Conference เป็นสื่อกลาง แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ที่เดียวกันก็ยังสร้างเสริมสุขภาพที่ดีไปพร้อมกันได้ และยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ต้านทานกับโรคภัยต่าง ๆ ได้มากขึ้นด้วย

5. บล็อกเกอร์ หรือยูทูปเบอร์ อีกหนึ่งงานสามารถทำที่บ้านได้ด้วยการสร้างคอนเทนต์ของตนเองผ่านออนไลน์และสร้างรายได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการรีวิวสินค้าหรือบริการ การทำอาหาร ไปจนถึงการให้ความรูัด้านต่าง ๆ ที่ตนเองถนัดในฐานะ Influencer ซึ่งช่วงที่คนส่วนมากต้องอยู่ภายในบ้านของตนเองนั้นคือโอกาสที่ดีสำหรับอาชีพนี้ในการสร้างฐานผู้ติดตามให้มีจำนวนมากขึ้น โดยสิ่งสำคัญคือการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีประโยชน์และตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุดนั่นเอง

6. ผู้ดูแลโซเชียลมีเดีย เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าอาชีพที่ต้องเกี่ยวข้องกับโซเชียลมีเดียเวลาทำงานคือ 24x7 ดังนั้นการ Work From Home จึงเรียกได้ว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับคนทำอาชีพนี้ เพราะต้องดูแลช่องทางนี้ตลอดเวลา และทำงานผ่านออนไลน์เป็นหลัก ที่สำคัญคือหน้าที่นี้กลายเป็นสิ่งสำคัญของแทบทุกองค์กรเพราะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่แบรนด์สามารถสื่อสารกับลูกค้าโดยตรงได้ทันที

7. กราฟิกดีไซเนอร์ อาชีพนี้เป็นงานที่ต้องอาศัยทั้งความคิดสร้างสรรค์และความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการออกแบบงานแต่ละชิ้นให้มีความสวยงาม โดดเด่น และตอบโจทย์ขององค์กรหรือลูกค้า ที่สำคัญยังมีรายได้ดีอีกด้วย โดยเป็นอีกงานสามารถทำที่บ้านได้ ซึ่งงานสายงานนี้สามารถส่งมอบงานให้ทำได้โดยไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศ ขอเพียงคุณมีฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ตอบโจทย์ลูกค้าก็สามารถทำได้แล้ว

8. ร้านอาหารออนไลน์ ถือเป็นเทรนด์ใหม่ของยุคนี้เลยก็ว่าได้ เพราะร้านอาหารส่วนใหญ่เริ่มขยายจากการมีหน้าร้านเพียงอย่างเดียว มาสู่การค้าขายผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยพึ่งพาบริการรับส่งแบบเดลิเวอรี่จากผู้ให้บริการต่าง ๆ ส่งให้ถึงมือผู้บริโภค ขอเพียงคุณมีสเน่ห์ปลายจวัก และไอเดียที่จะสร้างสรรค์เมนูเด็ด ๆ รับรองว่าขายดี มีรายได้สูงเป็นเรื่องที่ไม่ยากจนเกินไป

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าอาชีพที่ต้องเกี่ยวข้องกับโซเชียลมีเดียเวลาทำงานคือ 24x7 ดังนั้นการ Work From Home จึงเรียกได้ว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับคนทำอาชีพนี้ เพราะต้องดูแลช่องทางนี้ตลอดเวลา และทำงานผ่านออนไลน์เป็นหลัก ที่สำคัญคือหน้าที่นี้กลายเป็นสิ่งสำคัญของแทบทุกองค์กรเพราะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่แบรนด์สามารถสื่อสารกับลูกค้าโดยตรงได้ทันที

ฟรีแลนซ์ อาชีพอิสระอยากซื้อบ้าน

อย่างไรก็ตาม อาชีพที่กล่าวมาข้างต้น แม้หลายอาชีพคืองานสามารถทำที่บ้านได้ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นอาชีพอิสระ หรือที่เราเรียกกันง่าย ๆ ว่า ฟรีแลนซ์ เมื่อคนกลุ่มนี้อยากจะมีบ้านขึ้นมา แน่นอนว่าย่อมมีข้อจำกัดมากกว่าผู้ที่ทำงานประจำ หรือมีรายได้ประจำ แต่ก็ใช่ว่าจะยากเสมอไป เพราะฟรีแลนซ์ก็สามารถมีบ้านได้ด้วยขั้นตอนต่อไปนี้

1. หลักฐานการทำงานต้องชัด เช่น ใบประกอบวิชาชีพ สัญญาจ้างงาน ผลงานที่ผ่านมา หรือเอกสารการจดทะเบียนธุรกิจการค้า เป็นต้น

2. ยื่นภาษีอย่างถูกต้อง โดยมีเอกสารสำคัญสำหรับยื่นภาษีคือ หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)

3. มีการเดินบัญชีธนาคาร ธนาคารจะตรวจสอบรายการเดินบัญชีของอาชีพอิสระย้อนหลังถึง 1 ปีเลยทีเดียว

4. ออมเงินอย่างสม่ำเสมอ หากมีการออมเงินมากจนเพียงพอต่อการดาวน์บ้าน ก็จะทำให้อาชีพอิสระกู้ซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น

5. ประวัติทางการเงินต้องดี หากรู้จักใช้บัตรเครดิตอย่างถูกวิธี และไม่มีประวัติการค้างชำระ ธนาคารก็จะปล่อยสินเชื่อได้ง่ายขึ้น

6. กู้ร่วมกับคนที่มีรายได้ประจำ การกู้ซื้อบ้านร่วมกับคนที่มีรายได้ประจำนั้นนอกจากจะทำให้กู้ซื้อบ้านได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังเพิ่มโอกาสให้วงเงินกู้สูงขึ้นด้วย

“ผู้สูงอายุ” ป้องกันตัวเองจาก “โควิด-19” ได้อย่างไร?

ผู้สูงอายุวัย 60 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยมากกว่า 80 ปี เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มากที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ วิธีเหล่านี้จะช่วยดูแลสุขภาพของคนชราเหล่านี้ให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อไวรัสได้

ทำไมผู้สูงอายุถึงเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ติดเชื้อโควิด-19 ได้ง่ายที่สุด?

จากยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในประเทศจีนที่เกือบ 15% เป็นคนชราที่อายุมากกว่า 80 ปีขึ้นไป ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตที่อายุน้อยกว่า 50 ปีน้อยกว่า 1% เท่านั้น จึงทำให้เราทราบว่าผู้สูงอายุเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 และเสี่ยงมีอาการรุนแรงถึงชีวิตได้มากกว่าวัยอื่นๆ

แม้ว่ายังไม่มีหลักฐานออกมาระบุอย่างแน่ชัดว่าทำไมผู้สูงอายุถึงมีความเสี่ยงต่อโควิด-19 มากกว่าวัยอื่นๆ แต่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ระบุว่าผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปีจะมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัส และมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ แม้ว่าสุขภาพโดยรวมของคนๆ นั้นจะแข็งแรงสมบูรณ์ดีก็ตาม ยิ่งผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ปอด ตับ ไต ฯลฯ ยิ่งเสี่ยงมากยิ่งขึ้น โดยผู้เชี่ยวชาญให้ข้อสังเกตว่าอาจมาจากระบบภูมิคุ้มกันโรคที่ต่ำลงตามวัยนั่นเอง

เมื่อผู้สูงอายุในครอบครัวของเราตกเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสแบบนี้ เราจะมีวิธีดูแลผู้สูงอายุไม่ให้ติดเชื้อในช่วงนี้ได้อย่างไร ลองปฏิบัติตามคำแนะนำจาก หน่วยงานป้องกันโรคติดต่อในสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention หรือ CDC) และองค์การอนามัยโลก (World Health Organization หรือ WHO) เพื่อปกป้องสุขภาพของผู้สูงวัยในบ้านของคุณกัน

วิธีดูแลสุขภาพ “ผู้สูงอายุ” ให้ห่างไกลจากโควิด-19

1. ให้ผู้สูงอายุล้างมือ หรือล้างมือให้ผู้สูงอายุด้วยสบู่นาน 20 วินาที (ชวนร้องเพลง Happy Birthday 2 รอบก่อนล้างน้ำสะอาด) หากไม่สะดวกล้างมือด้วยสบู่ สามารถใช้เจลล้างมือ หรือแอลกอฮอล์ได้

2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสมือกับผู้สูงอายุ และไม่ให้ผู้สูงอายุไปสัมผัสมือ และร่างกายของคนอื่น

3. ไม่พา หรือปล่อยให้ผู้สูงอายุไปรวมกลุ่ม ร่วมกิจกรรม หรือไปที่สาธารณะที่มีคนอยู่รวมกันเยอะๆ

4. ทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ที่ผู้สูงอายุสัมผัสบ่อยๆ ทุกวัน (อาจจะวันละมากกว่า 1 ครั้ง)

5. หลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้สูงอายุใช้บริการขนส่งสาธารณะ เช่น รถเมล์ รถไฟฟ้า เป็นต้น

6. งดกิจกรรมการเดินทางร่วมกับคนกลุ่มใหญ่ เช่น ทัวร์เที่ยวต่างประเทศ ขึ้นเรือสำราญ เป็นต้น

7. หลีกเลี่ยงการพบปะกับคนอื่นๆ หรือญาติต่างๆ ที่กำลังป่วย

8. หากจำเป็นต้องออกไปข้างนอก เช่น ไปซื้อของ เลือกไปที่ที่มีคนน้อยกว่า เช่น เลือกไปซูเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆ มากกว่าไปห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เพื่อหลีกเลี่ยงการพบปะกับคนจำนวนมากให้ได้มากที่สุด

9. หากมีโรคประจำตัวที่ต้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเป็นประจำ ลองสอบถามแพทย์ประจำตัวดูว่ามีความจำเป็นต้องไปหรือไม่ สามารถพูดคุยปรึกษาผ่านวิดีโอคอลได้หรือไม่ หรือแม้กระทั่งการสั่งจ่ายยาออนไลน์โดยส่งยามาให้ที่บ้าน หรือให้ผู้ป่วยรับยาได้เองที่ร้านขายยาใกล้บ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางไปโรงพยาบาล รวมถึงสอบถามแพทย์ด้วยว่าสามารถซื้อยามาเก็บตุนไว้โดยไม่ต้องออกไปซื้อยาบ่อยๆ เหมือนเดิมได้หรือไม่

10. ระมัดระวังในการปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่คนเดียวด้วย แม้ว่าจะปลอดภัย แต่อาจส่งผลต่อสุขภาพจิตได้ คนในครอบครัวยังต้องดูแลเอาใจใส่ พูดคุย หรือใครที่อยู่ห่างไกลจากผู้สูงอายุที่เป็นญาติผู้ใหญ่ ยังควรโทรหา หรือวิดีโอคอลถามสารทุกข์สุกดิบบ้าง

11. เตือนให้ผู้สูงอายุอย่าลืมทำกิจกรรมเดิมๆ ที่เคยทำแม้ว่าจะอยู่คนเดียว หรือไม่ได้เจอเพื่อน เช่น หากเคยทำอาหาร รดน้ำต้นไม้หน้าบ้าน หรือทำกายบริหารเบาๆ ก็ควรยังทำอยู่ต่อไป อย่าขาด

12. หากมีอาการผิดปกติในร่างกาย เช่น มีไข้ น้ำมูกไหล ไอ จาม เจ็บคอ หายใจเหนื่อยหอบ ควรรีบติดต่อลูกหลานทันที โดยลูกหลานอาจตั้งเบอร์โทรด่วน (เช่น กด 1 ค้าง) แล้วโทรเข้าเบอร์ลูกหลานทันทีเอาไว้ในกรณีฉุกเฉินด้วย