ครบเครื่อง
ญ. อมตะ



ครบเครื่อง ญ.อมตะ 28 สิงหาคม 2564

จีนเฮ ยานจู้หรง สำรวจดาวอังคารฉลุย เดินทางกว่า 1,000 ม.แล้ว

จีนเผย ยานสำรวจดาวอังคาร 'จู้หรง' เดินทางสำรวจพื้นผิวดาวอังคารเป็นระยะทางกว่า 1,000 ม.แล้ว หลังเริ่มสำรวจมาเป็นเวลา 3 เดือน จนถือว่าประสบความสำเร็จและเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว

สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ศูนย์การสำรวจดวงจันทร์และโครงการอวกาศ สังกัดองค์การบริหารอวกาศแห่งชาติจีน (CNSA) เปิดเผยเมื่อ 23 สิงหาคม 2564 ว่า จู้หรง (Zhurong) ยานสำรวจพื้นผิวดาวอังคารของจีน เดินทางบนพื้นผิวดาวอังคารเป็นระยะทางมากกว่า 1,000 เมตรแล้ว เมื่อนับจนถึงวันจันทร์ (23 ส.ค.)

ยานโคจร ยานลงจอด และยานสำรวจพื้นผิวในภารกิจเทียนเวิ่น-1 ถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศเมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2020 โดยยานลงจอด หรือยานโรเวอร์ของภารกิจนี้ซึ่งบรรทุกยานสำรวจพื้นผิวที่มีอายุการใช้งานอย่างน้อย 90 วันดาวอังคาร (ราว 3 เดือนบนโลก) ทำการลงจอดบนพื้นผิวทางตอนใต้ของยูโทเปีย พลานิเทีย ที่ราบขนาดมหึมาทางซีกเหนือของดาวอังคาร เมื่อวันที่ 15 พ.ค.64

ยานสำรวจจู้หรงวิ่งลงจากแพลตฟอร์มลงจอด สู่พื้นผิวดาวอังคารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. และเริ่มต้นการสำรวจดาวอังคาร โดยปฏิบัติภารกิจสำรวจและเสร็จสิ้นตามแผนแล้ว เมื่อนับจนถึงวันที่ 15 ส.ค. 2021

องค์การบริหารอวกาศแห่งชาติจีน ยังระบุว่า ยานสำรวจจู้หรงจะเคลื่อนตัวสู่เขตแดนระหว่างทะเลโบราณกับพื้นดินในพื้นผิวทางตอนใต้ของยูโทเปีย พลานิเทีย เพื่อปฏิบัติภารกิจต่อไป.

ที่มา-ภาพ :Xinhuathai


พาชม‘หลุมอุกกาบาตยักษ์’ในเฮยหลงเจียง ใหญ่สุดในรอบ 1 แสนปี

24 สิงหาคม 2564 สำนักข่าวซินหัวรายงาน คณะนักวิทยาศาสตร์ค้นพบหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่ ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 1,850 เมตร มีความลึกสูงสุดเหนือพื้นหลุม 150 เมตร และมีความลึกรวมอยู่ที่ 579 เมตร ในอำเภออีหลาน มณฑลเฮยหลงเจียงทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน หลุมอุกกาบาตแห่งนี้มีรูปร่างคล้ายชาม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอยู่ในสภาพสมบูรณ์และมีขอบหลุมเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่เสื่อมสภาพตามกาลเวลา

เมื่อวันที่ 29 ก.ค. วารสารทางวิชาการ “มีทีโอริติกส์ แอนด์ แพลเนทารี ไซเอนซ์” (Meteoritics and Planetary Science) เผยแพร่บทความชื่อว่า “อีหลาน เครเตอร์, จีน: หลักฐานการตกกระทบของอุกกาบาต” ซึ่งร่วมเขียนโดยคณะนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันธรณีเคมีกว่างโจว (Guangzhou Institute of Geochemistry) สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน และคณะนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเวียนนาในออสเตรีย

งานวิจัยค้นพบว่าหลุมอุกกาบาตอีหลานเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ตกกระทบที่มีความแรงสูงเมื่อกว่า 49,000 ปีก่อน โดยมีดาวเคราะห์น้อยที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 เมตรพุ่งชนโลกและเกิดการระเบิดครั้งรุนแรง ส่งผลให้คลื่นกระแทก (shock wave) จากการระเบิดข้างต้น ทำลายชั้นหินแกรนิต 400 ล้านลูกบาศก์เมตรใต้พื้นดินแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและเป็นเกิดหลุมรูปชามขนาดใหญ่ขึ้น โดยนักวิทยาศาสตร์วิเคราะห์ว่าเหตุการณ์นี้ถือเป็นการตกกระทบของอุกกาบาตครั้งใหญ่สุดของโลกในรอบเกือบ 100,000 ปี

หลี่เฟิ่งหมิง ชาวบ้านจากหมู่บ้านใกล้เคียงซึ่งมีส่วนช่วยในการสำรวจทางธรณีวิทยาภาคสนาม กล่าวว่าเขาประหลาดใจเมื่อทราบถึงการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ครั้งใหม่นี้

“เรามีความสุขมากที่นักวิทยาศาสตร์วิเคราะห์ว่าสถานที่แห่งนี้คือหลุมอุกกาบาต เราหวังว่าจะมีนักวิทยาศาสตร์เดินทางมาทำโครงการวิจัยเพิ่มขึ้น” หลี่กล่าว

การค้นพบครั้งนี้สามารถเป็นดังห้องปฏิบัติการหลุมอุกกาบาตธรรมชาติ สำหรับการวิจัยวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์และธรณีวิทยาในอนาคต โดยไป๋อวิ๋น เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น กล่าวว่าหลุมอุกกาบาตอีหลานมีคุณค่าทางวิทยาศาสตร์และการศึกษาที่สำคัญ โดยขณะที่เรารักษาสภาพของหลุมอุกกาบาตแห่งนี้อย่างเหมาะสม เรายังวางแผนที่จะจัดตั้งฐานการศึกษาเพื่อเผยแพร่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ให้กับผู้คนมากขึ้นอีกด้วย


แนะ 7 อาหารมีสารช่วย ‘คลายเครียด’

ตอนนี้หลายคนกำลังเผชิญความเครียด นอกจากส่งผลต่อสุขภาพใจแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพกายอีกด้วย แม้แต่ละคนจะมีวิธีคลายเครียดแตกต่างกันไป

แต่หากได้ลองปฏิบัติตามคำแนะนำจาก นักกำหนดอาหาร แผนกโภชนาการ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ด้วยการเลือกกินอาหารที่เหมาะสม นอกจากจะคลายเครียดได้แล้ว ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย ผ่าน 7 อาหารแนะนำ ดังนี้

1.ข้าว แป้งหรือธัญพืชที่ไม่ขัดสี อาหารที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต จะช่วยเพิ่มระดับของฮอร์โมนเซโรโทนิน (Serotonin) โดยฮอร์โมนนี้จะช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับได้ง่ายขึ้น ซึ่งข้าว แป้งที่ไม่ได้ขัดสีใช้เวลาย่อยนาน จึงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเราค่อยๆ สูงขึ้นอย่างช้าๆ ทำให้รักษาระดับของฮอร์โมนนี้ไว้ ส่งผลให้ร่างกายผ่อนคลายความตึงเครียด

2.กล้วย ถั่วเปลือกแข็ง เนื้อสัตว์และไข่ เป็นอาหารที่มีกรดอะมิโน “ทริปโตเฟน (Tryptophan)” ที่เป็นสารตั้งต้นของการผลิตฮอร์โมนเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยทำให้รู้สึกอารมณ์ดี

3.ส้มหรือฝรั่ง เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ หากมีความเครียดร่างกายมีแนวโน้มที่จะเกิดอนุมูลอิสระมากขึ้น วิตามินซีจึงช่วยต้านอนุมูลอิสระและซ่อมแซมร่างกาย ลดความดันโลหิตและลดฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกิดจากความเครียด

4.ชาเขียว มีแอล-ธีอะนีน (L-theanine) ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้สมองผ่อนคลาย จึงช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล อีกทั้งยังมีสารอิพิแกลโลคาเทชิน แกลเลต (Epigallocatechin gallate) หรือ EGCG ที่ช่วยลดความเหนื่อยล้าของร่างกายและจิตใจทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้น

5.ผักโขม อุดมไปด้วยแร่ธาตุแมกนีเซียม (Magnesium) ช่วยลดระดับความเครียด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และช่วยควบคุมความดันโลหิต นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินซี จึงช่วยลดความดันโลหิตและคอร์ติซอล (cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียด

6.บรอกโคลี มีวิตามินบี 6 และยังมีกรดโฟลิก (Folic acid) ที่เป็นสารสำคัญในการลภาวะซึมเศร้า

7.ดาร์กช็อกโกแลต ทำมาจากเมล็ดโกโก้ซึ่งเป็นแหล่งอุดมด้วยทีโอโบรมีน (theobromine) มีลักษณะคล้ายคาเฟอีน (caffeine) และทีโอฟิลลีน (theophylline) ทำให้รู้สึกดีและผ่อนคลาย อีกทั้งยังมีฟีนิลเอทิลเอมีน (Phenyl ethyl amine) หรือ PEA ช่วยให้สารสื่อประสาททำงานได้ดีขึ้น และกรดแกมมาแอมิโนบิวทิริก (Gamma-Aminobutyric acid) หรือ GABA ซึ่งช่วยลดความวิตกกังวลได้ แต่ช็อกโกแลตบางชนิดเพิ่มส่วนผสมบางอย่าง เช่น น้ำตาลและไขมัน ดังนั้นควรอ่านฉลากให้ดีก่อนรับประทาน

อย่างไรก็ดี แม้อาหารข้างต้นจะช่วยลดความเครียด ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย แต่ก็ยังต้องรับประทานอาหารให้หลากหลายและครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อร่างกาย เลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงเครื่องดื่มจำพวกกาแฟ โคล่า เครื่องดื่มชูกำลัง และชาในปริมาณมาก เนื่องจากมีคาเฟอีนทำให้เพิ่มความวิตกกังวล อาการซึมเศร้า และการนอนหลับยากขึ้น

ควบคู่ไปกับการควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) ทำให้ร่างกายผ่อนคลายและรู้สึกมีความสุขมากขึ้น


ปลดล็อก "กระท่อม" เสรี ให้ครอบครอง-ซื้อ-ขายได้ แต่สี่คูณร้อยยังผิดกฎหมาย

ที่รัฐสภา สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงปลดล็อกให้พืชกระท่อมไม่เป็นยาเสพติดให้โทษอีกต่อไป หลังเริ่มมีผลบังคับใช้พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฉบับที่ 8 พ.ศ.2564 วันนี้ (24 ส.ค.64)เป็นวันแรก โดยให้ถือว่าประชาชนสามารถปลูกพืชกระท่อมได้อย่างเสรี หรือจะบริโภคก็สามารถทำได้ ส่วนกรณีการเทียบสัดส่วน 4x100 ยังเป็นการผิดกฎหมายอยู่

สาระสำคัญการบังคับใช้กฎหมายคือให้ผู้ที่ปลูกกระท่อมไว้ครอบครองสามารถซื้อ ขาย หรือนำมาบดเคี้ยวได้ และปลูกต้นกระท่อมเพิ่มเติมได้

นอกจากนี้ ยังขยายไปถึงการสามารถส่งขายเป็นพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม โดยไม่ต้องขออนุญาต และหลังจากนี้จะมีการออกกฎหมายรองตามมา ซึ่งจะมีบทบัญญัติเพิ่มเติม อาทิ การกำหนดห้ามขายให้แก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ซึ่งเป็นเยาวชน รวมถึงสตรีมีครรภ์ และเตรียมกำหนดสถานที่ห้ามขาย เช่น ในโรงเรียน วัด ส่วนประเภทธุรกิจการส่งออกหรือนำเข้านั้นจะต้องขออนุญาต

สำหรับผู้ที่ถูกดำเนินคดีอยู่ในเรือนจำ 1,038 คน จะได้รับการปล่อยตัว รวมถึงในชั้นตำรวจและอัยการ ประมาณ 1 หมื่นคน จะถือว่าไม่เคยกระทำความผิด


“น้องวิว” ยากจนเรียนเก่ง ขอบคุณผู้ใจบุญบริจาคช่วยทะลุ 3.7 ล้าน สัญญาจะตั้งใจเรียนให้ได้เป็น “พยาบาลทหาร” ตามฝัน

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “น้องวิว” ยากจนเรียนเก่ง เกรดเฉลี่ย 3.93 ชาวพิมาย โคราช ขอบคุณธารน้ำใจผู้ใจบุญหลั่งไหลบริจาคช่วยเหลือยอดทะลุ 3.7 ล้าน สัญญาจะใช้เงินให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเป็นคนดี ตั้งใจเรียนให้ได้เป็นพยาบาลทหารตามที่ใฝ่ฝัน

วันนี้ (24 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีมีการเผยแพร่เรื่องราวสะเทือนใจในสื่อโซเชียล เมื่อนางณัฐนันท์ ชูชีวา ครูโรงเรียนศรีสุขวิทยา อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ได้ไปเยี่ยมบ้านของ น.ส.รุ่งทิวา เดินกลาง หรือน้องวิว อายุ 16 ปี เด็กนักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนศรีสุขวิทยา ที่บ้านหวายโนนโพธิ์ ต.ธารละหลอด อ.พิมาย จ.นครราชสีมา หลังจากพบว่าน้องวิวไม่ได้เข้าเรียนหนังสือออนไลน์มาแล้วหลายวัน ทั้งๆ ที่เป็นเด็กตั้งใจเรียน และมีผลการเรียนดี เกรดเฉลี่ยสูงถึง 3.93 จึงพบว่าบ้านของน้องวิวมีฐานะยากจน ทั้งบ้านมีโทรศัพท์มือถือเพียงแค่ 1 เครื่อง แต่น้องวิวมีพี่น้องรวมทั้งหมด 2 คน และที่บ้านยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ตัวบ้านมุงด้วยหลังคาสังกะสีเก่าๆ ห้องน้ำไม่มีประตูปิด แถมมีรูรั่วของสังกะสี ห้องนอนก็มีสภาพผุพัง

โดยครอบครัวของน้องวิวต้องกินข้าวกับน้ำพริกผักเกือบทุกวัน ต้องใช้ไฟฟ้าจากแผงพลังงานแสงอาทิตย์แผงเล็กๆ ชาร์จโทรศัพท์มือถือเรียนเท่านั้น จึงวิงวอนขอให้ผู้ใจบุญได้ให้ความช่วยเหลือครอบครัวน้องวิว

ต่อมา นายมนตรี บัวตา ที่ปรึกษานายอำเภอพิมาย ออกไปเยี่ยมเยียนเพื่อสืบทราบข้อเท็จจริงตลอดจนหาแนวทางให้ความช่วยเหลือ และได้ไปพบครอบครัวของ นางสาวรุ่งทิวา เดินกลาง พบว่ามีความยากลำบากจริง จึงเตรียมเสนอเรื่องให้นายอำเภอพิมายพิจารณาให้ความช่วยเหลือ

จากนั้น นายบุญเลิศ เผยโพธิ์ กำนันตำบลธารละหลอด นายสุเชาว์ ขยันงาน ผู้ใหญ่บ้าน นายสำราญ คล่องใจ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับการไฟฟ้าอำเภอพิมาย ลงพื้นที่สำรวจการเดินพาดสายไฟฟ้าเพื่อประมาณการจัดงบประมาณเตรียมติดตั้งไฟฟ้าให้บ้านของน้องวิวที่ประสบปัญหาการเรียนออนไลน์ ซึ่งต้องใช้ไฟฟ้าจากแผงพลังงานแสงอาทิตย์แผงเล็กๆ เพื่อใช้สำหรับชาร์จโทรศัพท์มือถือเรียนเท่านั้น ให้มีไฟฟ้าใช้

ล่าสุดผู้ใจบุญทั่วประเทศได้บริจาคเงินช่วยครอบครัวน้องวิว เป็นยอดเงินบริจาคจำนวน 3,727,385 บาท และมีผู้ใจบุญเตรียมสร้างบ้านหลังใหม่ให้น้อง และบริจาคโทรศัพท์มือถือให้ด้วย โดยผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (ผอ.สพม.) เขต 31 นคราชสีมา ได้ลงพื้นที่มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวน้องวิว ท่ามกลางธารน้ำใจจากหน่วยงานต่างๆ ที่ทยอยมาให้ความช่วยเหลือกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้องวิวตื้นตันใจและยกมือไหว้ขอบคุณน้ำใจจากผู้ใจบุญทั่วประเทศที่บริจาคเงินช่วยเหลือตนเองและครอบครัว โดยขอปิดบัญชีรับบริจาค และสัญญาว่าจะตั้งใจเรียน เป็นคนดี จะเรียนต่อเป็นพยาบาลทหารตามความใฝ่ฝันให้ได้ โดยจะใช้เงินที่คนไทยบริจาคให้เกิดประโยชน์สูงสุด