ครบเครื่อง
ญ. อมตะ



ครบเครื่อง ญ.อมตะ 6 กุมภาพันธ์ 2564

10 คุณประโยชน์ของขมิ้นชัน สรรพคุณป้องกันสารพัดโรค

"ขมิ้นชัน" (Turmeric) สมุนไพรคู่ครัวที่คนไทยรู้จักกันดี อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด นิยมนำมาทำอาหารเนื่องจากมีสีสันสวยงามและให้กลิ่นหอมเครื่องเทศ ขมิ้นชันถูกจัดอยู่ในตำรับยาสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณป้องกันและรักษาโรคต่างๆ โดยองค์การเภสัชกรรมยังได้ยกให้ขมิ้นชันเป็น "มหัศจรรย์สมุนไพร" ที่ได้รับการบรรจุเข้าในบัญชียาหลักแห่งชาติ เรามาทำความรู้จักพืชสมุนไพรชนิดนี้ให้มากขึ้น แล้วจะรู้ว่าขมิ้นชันที่อยู่ใกล้ตัว...มีประโยชน์มากกว่าที่คิด!

10 คุณประโยชน์และสรรพคุณของขมิ้นชัน

ขมิ้นชัน มีสารเคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoid) พบได้ในพืชมีเหง้าและพืชวงศ์ขิง มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดอาการอักเสบ และลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ทำให้มีการนำขมิ้นชันมาประยุกต์ใช้ในอาหารและยาอย่างแพร่หลาย ซึ่งมีประโยชน์และสรรพคุณ ดังนี้

1. ล้างพิษตับ

ขมิ้นชันมีสรรพคุณช่วยขับพิษที่สะสมในตับ เนื่องจากมีฤทธิ์ป้องกันตับอักเสบ ช่วยบำรุงตับ และฟื้นฟูตับ โดยมีการใช้ขมิ้นชันทดลองรักษาโรคตับแข็งในหนู ผลปรากฏว่าอาการไม่ลุกลามเพิ่ม ทำให้นิยมใช้เป็นสมุนไพรยาที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพและล้างพิษออกจากตับ

2. รักษาโรคผิวหนังเรื้อรัง

ขมิ้นชันสามารถใช้รักษาโรคที่เกี่ยวกับผิวหนังได้ เช่น โรคผื่นคัน กลาก เกลื้อน ผิวหนังอักเสบจากอาการแพ้ คนไทยสมัยก่อนใช้เหง้าสดของขมิ้นชันมาฝนและบดให้ละเอียด ก่อนจะนำไปทาบริเวณที่มีอาการคัน แต่ปัจจุบันสามารถใช้ผงขมิ้นชันสำเร็จรูปผสมน้ำเปล่าหรือน้ำมันมะพร้าว นำไปทาบริเวณที่อักเสบหรือคันได้

3. แก้อาการท้องร่วง

ใครที่กินของผิดสำแดงเข้าไปแล้วเกิดอาการท้องร่วง สามารถหาขมิ้นชันในครัวมาใช้เป็นยาได้ โดยนำมาล้างให้สะอาด ปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปตำพร้อมผสมน้ำเปล่า หลังจากนั้นคั้นเฉพาะน้ำให้ได้สัก 1 ถ้วยตวง แบ่งกินคราวละ 2 ช้อนโต๊ะ จะช่วยสร้างสมดุลให้ระบบขับถ่ายและระบบย่อยอาหาร

4. รักษาแผลในกระเพาะอาหาร

ขมิ้นชันมีฤทธิ์ในการรักษาอาการอักเสบ จึงสามารถช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารให้หายเร็วขึ้น นอกจากนี้หากหั่นขมิ้นชันผสมกับน้ำผึ้ง จะช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และจุกเสียดแน่น เรียกว่าเป็นสมุนไพรที่มอบประโยชน์ให้คนกินอย่างครบสูตร ทั้งในรูปแบบอาหารและรูปแบบยา

5. ชะลอการแก่ก่อนวัย

เนื่องจากขมิ้นชันออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ จึงถูกนำมาสกัดเป็นยาเสริมอาหารที่ใช้บำรุงร่างกาย ป้องกันโรค ป้องกันการเสื่อมโทรมของเซลล์ และป้องกันร่างกายไม่ให้เสื่อมไปตามวัย ถือเป็นสรรพคุณด้านความงามที่น่าจะถูกใจใครหลายคน

6. รักษาริดสีดวง

สำหรับผู้ที่เป็นริดสีดวงทวารและมีแผลบริเวณทวารหนัก ให้ใช้ผงขมิ้นทาหัวริดสีดวง จะช่วยสมานแผลให้แห้งและหายเร็วขึ้น เพราะขมิ้นชันจะช่วยลดการอักเสบ ช่วยฆ่าเชื้อโรค และทำให้เนื้อเยื่อบริเวณแผลกระชับเร็วขึ้น

7. แก้พิษแมลงกัดต่อย

หากถูกแมลงกัดจนเป็นแผล มีอาการบวมแดง สามารถบรรเทาได้ด้วยการใช้ผงขมิ้นชันผสมกับน้ำมันมะพร้าว แล้วนำไปเคี่ยวบนไฟ จะได้น้ำมันนวดสำหรับทาแก้พิษแมลงกัดต่อย หรือจะนำผงขมิ้นชันไปผสมกับน้ำปูนใสเพื่อนำมาพอกแผลก็ได้เช่นกัน

8. ป้องกันโรคข้อเข่าอักเสบ

ในผู้สูงอายุนิยมใช้ขมิ้นชันรักษาอาการข้อตึง ปวดเมื่อยตามข้อเข่า ซึ่งอาจจะเป็นไปตามวัยหรือพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน แต่ขมิ้นชันสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดในโรคข้อเข่าเสื่อมได้ โดยมีการนำมาใช้ทดแทนยาแผนปัจจุบันอย่างแพร่หลาย

9. ลดระดับไขมันในเส้นเลือด

สารไฟโตสเตอรอล (Phytosterols) ที่อยู่ในพืชธรรมชาติอย่างขมิ้นชันจะช่วยยับยั้งคอเลสเตอรอล มีฤทธิ์ในการลดไขมันในเส้นเลือด ป้องกันความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตันและโรคหัวใจ

10. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

ขมิ้นชันสามารถช่วยปรับสมดุลและสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย โดยเฉพาะในปัจจุบันมีปัญหามลพิษฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย ทำให้เป็นภูมิแพ้ได้ง่าย จึงนิยมกินขมิ้นชันเพื่อเป็นตัวช่วยเสริมร่างกายให้แข็งแรงต่อมลพิษ

ขมิ้นชันแคปซูล สารสกัดจากธรรมชาติ

ขมิ้นชัน เป็นสมุนไพรที่ได้รับการขึ้นทะเบียนรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา รวมถึงได้ขึ้นบัญชียาหลักแห่งชาติ ทำให้ได้รับความนิยมในการกินทดแทนยาแผนปัจจุบัน โดยทั่วไปถือว่าเป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากใช้ประกอบอาหารอยู่แล้ว แต่ในปัจจุบันมีการนำขมิ้นชันมาสกัดให้อยู่ในรูปแบบแคปซูลเพื่อให้สะดวกในการรับประทาน บ้างก็อยู่ในรูปแบบอาหารเสริม ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์การใช้ หากจะซื้อ "ขมิ้นชันแคปซูล" ก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือ และมีฉลากรับรองชัดเจน

อย่างไรก็ตาม การกินขมิ้นชันแคปซูลติดต่อกันนานๆ ก็อาจทำให้ร่างกายมีสารตกค้างได้ ควรจำกัดในปริมาณที่เหมาะสมพอดี และหากจะกินเพื่อรักษาโรค ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เนื่องจากสรรพคุณในขมิ้นชันมีผลกระทบข้างเคียงต่อผู้ป่วยบางกลุ่ม เช่น เด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้ที่เป็นท่อน้ำดีอุดตัน และนิ่วในถุงน้ำดี

สูตรพอกหน้าใส เนรมิตความสวยด้วยผงขมิ้นชัน

สมุนไพรไทยถูกใช้เป็นเครื่องประทินผิวเพื่อบำรุงรักษาผิวมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยเฉพาะขมิ้นชันที่ได้รับความนิยมในการนำมาพอกหน้า คืนความนุ่มชุ่มชื้นให้ผิวหน้า ที่สำคัญยังมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีเจือปน สำหรับสูตรพอกหน้าด้วยขมิ้นชันที่สามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน ได้แก่

• สูตรผงขมิ้นชัน ผสมน้ำผึ้ง

ให้ใช้ผงขมิ้นประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำผึ้งอีก 2 ช้อนโต๊ะ หลังจากนั้นนำมาพอกให้ทั่วใบหน้า หรือจะเลือกแต้มเฉพาะบริเวณที่มีแผลอักเสบจากสิวก็ได้ ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วค่อยล้างออก ขมิ้นชันจะช่วยสมานแผล ในขณะที่น้ำผึ้งจะช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผิว

• สูตรผงขมิ้นชัน ผสมน้ำมะนาว

บีบน้ำมะนาวสัก 1 ช้อนโต๊ะ นำไปผสมกับผงขมิ้นชัน 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน หากต้องการให้เจือจางสามารถเติมน้ำเปล่าสะอาดลงไปได้ ก่อนจะทาลงบนใบหน้า นวดเบาๆ น้ำมะนาวจะช่วยผลัดเซลล์เก่าให้ผิวเปล่งปลั่ง ทิ้งไว้สัก 10 นาทีแล้วค่อยล้างออก

• สูตรขมิ้นชัน ผสมโยเกิร์ต

ใช้โยเกิร์ตธรรมชาติ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากับผงขมิ้นชัน 2 ช้อนโต๊ะ นำมาพอกบนใบหน้า ทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วจึงล้างออก จะช่วยบำรุงให้ผิวหน้าเนียนนุ่ม และช่วยลดความหมองคล้ำ

ไม่น่าเชื่อว่า "ขมิ้นชัน" สมุนไพรใกล้ตัวที่อยู่คู่ครัวทุกบ้านจะมีสรรพคุณมากมายขนาดนี้ อีกทั้งยังสามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลายรูปแบบ นับว่าเป็นของขวัญและยาจากธรรมชาติที่เราไม่ควรมองข้าม.

ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข


ทำความรู้จัก 6 ประเภท "วัคซีนโควิด-19" มีอะไรบ้าง ก่อนฉีดในปี 2021

วัคซีนโควิด-19 ในปัจจุบันมีราว 60 วัคซีน ที่เข้าสู่กระบวนการศึกษาในสัตว์ทดลอง ขั้นตอนในการศึกษาวัคซีนโควิด-19 แบ่งออกเป็น 3 ระยะ และมีเพียง 3-4 วัคซีนที่ได้รับการยืนยันความปลอดภัยและฉีดเข้าสู่มนุษย์แล้ว แต่รู้หรือไม่ว่าวัคซีนโควิด-19 แต่ละยี่ห้อนั้นแตกต่างกันอย่างไร วันนี้ไทยรัฐออนไลน์พามารู้จักประเภทของวัคซีนโควิด-19 เพื่อทำความเข้าใจเบื้องต้น

วัคซีนโควิด-19 มีกี่ประเภท

โดยทั่วโลกมีเทคโนโลยีที่ใช้ผลิตวัคซีนโควิด-19 ทั้งหมด 6 ประเภท ได้แก่

Viral-Vector Vaccine คือ วัคซีนที่ใช้เชื้อไวรัสที่ทำให้เชื้ออ่อนลง ไม่ก่อให้เกิดโรค มาตัดต่อใส่รหัสพันธุกรรม เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ได้แก่ Oxford ChAdOx1 ของบริษัท AstraZeneca กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้มากกว่า 200 titers

mRNA Vaccine คือ การใช้รหัสพันธุกรรมบางส่วนของเชื้อไวรัสมาฉีดกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ได้แก่ Pfizer-Biontech, Moderna กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้มากกว่า 300 titers

Protein-nanoparticle Vaccine คือ วัคซีนที่ใช้โปรตีนส่วนหนึ่งของไวรัสร่วมกับส่วนอื่นๆ ฉีดกระตุ้นเพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ได้แก่ Novavax กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้มากกว่า 3,000 titers

DNA Vaccine คือ วัคซีนที่ออกแบบชิ้นส่วน DNA ด้วยวิธีสอดแทรกยีนที่สร้างแอนติเจนเข้าไป และใช้วิธีฉีดทางกล้ามเนื้อ หรือผิวหนัง เพื่อให้แสดงออกเป็นโปรตีนแอนติเจนที่ต้องการได้

Inactivated Vaccine คือ วัคซีนที่ทำให้เชื้อไม่สามารถก่อโรคได้ ด้วยสารเคมี หรือแสง UV

VLP (Virus Like Particle) คือ วัคซีนอนุภาคคล้ายไวรัส

"วัคซีนโควิด-19" ประเภทใดถูกใช้ไปแล้วมากที่สุด

จากภาพรวมการเลือกฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลก พบว่า วัคซีนประเภท mRNA ถูกนำมาฉีดให้กับประชากรมากที่สุด รองลงมาคือ Inactivated Vaccine ส่วนแบบอื่นนั้นยังอยู่ในขั้นตอนวิจัยพัฒนา และหากได้ผลการกระตุ้นภูมิที่ดี ก็มีโอกาสจะนำมาใช้ในอนาคต

ข้อมูลเดือนมกราคม 2564 ทั่วโลกจองวัคซีนแล้ว 8.2 พันล้านโดส แคนาดา และอังกฤษ เป็นประเทศที่จองวัคซีนได้มากกว่าประชากรในประเทศถึง 3 เท่า สหรัฐอเมริกา จองได้ 1.7 เท่าของประชากร

มุมมองของผู้ผลิตวัคซีนจากสถาบัน Serum Institute ในประเทศอินเดีย ผู้ผลิตวัคซีนให้กับโลกสูงสุด ปีละ 2 พันล้านโดส คาดการณ์ว่า ระยะเวลาเร็วที่สุดที่ทั่วโลกจะได้รับวัคซีนโควิด-19 อย่างเพียงพอ จะอยู่ในปี 2024

เมื่อพิจารณาภาพรวมของประเทศที่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชากรไปแล้วทั้งหมดราว 15 ล้านคน วัคซีนโควิด-19 ประเภท mRNA ได้ฉีดไปมากที่สุดในจำนวนราว 8 ล้านคน และตัวเลขยืนยันการแพ้วัคซีนมีจำนวน 8 คน ถือเป็น 1 ในล้าน และได้รับการรักษาอย่างปลอดภัย

ในส่วนประเทศไทยเอง ตั้งเป้าว่าจะฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมคนไทยเกินครึ่ง คิดเป็นตัวเลข 33 ล้านคน

สรุปรายชื่อวัคซีนโควิด-19 ที่มีการจอง หรือใช้ฉีดกันแล้ว ได้แก่ AstraZeneca, Novavax, Moderna และ Pfizer-BioNTech ก็พอจะทราบแล้วว่าวัคซีนเหล่านี้ เป็นวัคซีนประเภทใด ยังบอกไม่ได้ว่าแบบไหนดีที่สุดสำหรับคนไทย แต่วัคซีนที่ได้รับคัดเลือกให้ฉีดกับประชาชนแต่ละประเทศจะต้องผ่านการรับรองจากหน่วยงานความปลอดภัย ก่อนจะฉีดให้ประชาชน

ส่วนประเทศไทยเองก็มีทีมนักวิจัยที่พัฒนาวัคซีนโควิด-19 ด้วยหลายเทคโนโลยี และหากผ่านการรับรองสำเร็จ ก็สามารถผลิตและใช้กับคนไทยเอง เป็นทางเลือกร่วมกับช่องทางการสั่งซื้อจากเมืองนอก.

ที่มา : ประชุมวิชาการออนไลน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


Ruyi Bridge สะพานแขวนข้ามหน้าผาที่มีรูปทรงแปลกตาที่สุดในโลก!

ภายในเขต Shenxianju Scenic Area ประเทศจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมากนั้น ในตอนนี้ได้มีแลนด์มาร์คตแห่งใหม่เกิดขึ้นมานั่นก็คือสะพานแขวนข้ามหน้าผา Ruyi Bridge

ซึ่งสะพานแขวนแห่งนี้มีความยาวถึง 100 เมตร และมีความสูง 140 เมตร เพิ่งจะเปิดให้บริการในช่วงเดือนกันยายน ปี 2020 ที่ผ่านมา

ความพิเศษของสะพานแห่งนี้คือการออกแบบดีไซน์รูปทรงได้อย่าแงปลกตาไม่เหมือนที่ไหนๆ แน่นอน โดยตัวสะพานจะมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่มองดูแล้วคล้ายกับเกลียวคลื่นที่พริ้วไหวไปกลางอากาศ

ซึ่งที่นี่อาจจะได้ชื่อว่าเป็นสะพานที่มีความสวยงามและแปลกตาที่สุดในโลกแล้วก็เป็นได้ วันนี้ Sanook Travel ได้นำ

ภาพสวยๆ จาก Ruyi Bridge มาฝากทุกคนกันครับ


กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ สัญญาณร่างกายที่ไม่ควรมองข้าม

อาการ “กลั้นปัสสาวะไม่อยู่” เป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนว่าระบบร่างกายมีความผิดปกติ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงปัญหาเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยเท่านั้น จริงๆ แล้วยังมีอีกหลายปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ซึ่งส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันโดยตรง

หลายคนสูญเสียโอกาสจากการไม่สามารถเดินทางไปสถานที่ไกลๆ ได้ เพราะมีข้อจำกัดด้านห้องน้ำ อาจนอนหลับไม่สนิทเพราะกังวลเรื่องการปัสสาวะ และอาจส่งผลให้กลายเป็นคนไม่ชอบออกไปข้างนอก และไม่กล้าเข้าสังคมไปในที่สุด

เซอร์เทนตี้ ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างน่าสนใจ โดยเริ่มตั้งแต่การสังเกตอาการเริ่มต้นได้ง่ายๆ คือ ปัสสาวะบ่อยมากกว่า 8 ครั้งต่อวัน แถมยังมีอาการปัสสาวะเล็ด เมื่อไอ จาม หัวเราะ หรือทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหว ปวดปัสสาวะเมื่อไหร่ต้องเข้าห้องน้ำทันที และมีอาการเหมือนปัสสาวะไม่สุดอยู่เสมอจนถึงอาการหนักคือ กลั้นไม่ได้เลย ราดทันทีเมื่อปวดปัสสาวะ

ส่วนปัจจัยเสี่ยงประกอบด้วย 1. อายุที่มากขึ้น ผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป พบว่ามีภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ถึง 15-35% 2.โรคอ้วน น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดแรงบีบต่อกระเพาะปัสสาวะมากขึ้น 3.การคลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาติ/การผ่าตัด เช่น การผ่าตัดมดลูก และการผ่าตัดต่อมลูกหมาก และ 4.โรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคพาร์กินสัน และภาวะสมองเสื่อม เป็นต้น

อย่างไรก็ตามถึงแม้ภาวะดังกล่าวจะสร้างความกังวลใจและสร้างปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน แต่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันการเกิดภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้โดย การบริหารกล้ามเนื้อหูรูดให้แข็งแรง ดังนี้

1. ฝึกขมิบกล้ามเนื้อหูรูด ขมิบทำเหมือนกำลังกลั้นปัสสาวะ โดยขมิบครั้งละประมาณ 5 วินาที แล้วหยุด10 วินาที ทำซ้ำแบบนี้ 10 ครั้ง เริ่มต้นอาจจะทำวันละ 3 เวลาในตอนเช้า กลางวัน และเย็น ทุกวัน แล้วค่อยๆ เพิ่มจำนวนให้ถี่ขึ้น

2. ฝึกควบคุมการขับถ่าย พยายามกลั้นปัสสาวะให้นานขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย ก่อนที่จะไปปัสสาวะ ให้ยืดระยะเวลาระหว่างการเข้าห้องน้ำแต่ละครั้ง ให้นานขึ้น แต่ไม่ควรกลั้นนานเกินไป

3.ทานอาหารที่มีกากใย เพื่อป้องกันอาการท้องผูก ลดความดันในช่องท้อง

4. ไม่ควรเบ่งปัสสาวะอย่างรุนแรงและปัสสาวะให้หมด หลีกเลี่ยง ชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มที่กระตุ้นให้ปัสสาวะบ่อย และงดสูบบุหรี่ ไม่ดื่มน้ำมากเกินไป เพราะอาจทำให้ไตทำงานหนัก และเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการปัสสาวะเล็ด

และ 5. ควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม อย่าปล่อยให้น้ำหนักมากจนเกินไป เพื่อลดแรงบีบต่อกระเพาะปัสสาวะของหน้าท้อง


รายชื่อ ‘สถานที่ท่องเที่ยว’ ปิดชั่วคราว ทั่วประเทศ ป้องกันการแพร่ระบาดโควิด 19

รายชื่อ ‘สถานที่ท่องเที่ยว’ ปิด ไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้า ชั่วคราว ทั่วประเทศ

ในช่วงที่ผ่านมา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโลกโควิด 19 ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งในประเทศไทย ออกมาประกาศปิดสถานที่ ไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้า ตามมาตรการของรัฐ

สำหรับรายชื่อของสถานที่ท่องเที่ยว ที่ปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้า มีดังนี้

ดอยพุ่ยโค จ.แม่ฮ่องสอน

ทุ่งโนนสน จ.พิษณุโลก

ไร่ทานตะวัน เป๋าตุงฟาร์ม จ.นครสวรรค์

ถนนคนเดิน กาดกองต้า และถนนคนเดินสายวัฒนธรรม จ.ลำปาง

วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ (วัดเล่งเน่ยยี่ 2) จ.นนทบุรี (ปิดถึง8 ม.ค.64)

หมู่บ้านโป่งลึก-บางกลอย จ.เพชรบุรี

พระรามราชนิเวศน์ (วังบ้านปืน) จ.เพชรบุรี

โครงการพระราชดำริแหลมผักเบี้ย จ.เพชรบุรี

ถ้ำเขาหลวง จ.เพชรบุรี

ตลาดน้ำกวางโจว จ.เพชรบุรี

ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี จ.ประจวบคีรีขันธ์

คำชะโนด จ.อุดรธานี

วัดป่าภูก้อน จ.อุดรธานี

ถนนคนเดิน จ.อุดรธานี

พิพิธภัณฑ์ของดีเมืองกาฬสินธุ์ (หอศิลป์) (ปิดตั้งแต่ 31 ธ.ค.63-3 ม.ค.64)

หาดทรายแก้ว ตำบลบางเสร่ จ.ชลบุรี

หาดเตยงาน อ่าวนาวิกโยธิน จ.ชลบุรี

หาดนางรำ-หาดนางรอง ท่าเรือจุกเสม็ด จ.ชลบุรี

หาดสอ กรมสรรพาวุธทหารเรือ จ.ชลบุรี

สกายวอล์ควัดเขาตะแบก จ.ชลบุรี

พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย และเกาะแสมสาร จ.ชลบุรี (ปิดตั้งแต่ 29 ธ.ค.-3 ม.ค.64)

ศูนย์อนุรักษ์เต่าทะเล กองทัพเรือ จ.ชลบุรี

เกาะล้าน จ.ชลบุรี

เรือหลวงจักรีนฤเบศร (งดเยี่ยมชม)

ศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์ จ.ระยอง

อุทยานเรียนรู้สมเด็จพระเจ้าตากสิน จ.ระยอง

พิพิธภัณฑ์เมืองระยอง ถนนยมจินดา จ.ระยอง

ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำและหอชมวิวเฉลิมพระเกียรติ จ.ระยอง

สวนพฤษศาตร์ระยอง จ.ระยอง

วิสาหกิจชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว จ.ตราด

ศูนย์ราชการุณย์ สภากาชาดไทย เขาล้าน จ.ตราด

เขาล้อมหมวก จ.ประจวบคีรีขันธ์(ปิดตั้งแต่ 31 ธ.ค.63-3 ม.ค.64)

ชุมชนท่องเที่ยวบ้านเดื่อ จ.หนองคาย

โฮมสเตย์วังน้ำมอก จ.หนองคาย

สะพานมิตรภาพไทย-ลาว จ.หนองคาย

หมู่บ้านท่องเที่ยวคีรีวงกต จ.อุดรธานี

ตลาดน้ำเกาะลอย จ.ตาก

อโรคยาโป่งคำราม จ.ตาก

กาดนั่งยองคล้องยาม จ.ตาก

อุทยานแห่งชาติแม่โถ อำเภอฮอด จ.เชียงใหม่

สวนน้ำ Water Park Tube Trek จ.เชียงใหม่ (ปิดชั่วคราว 19 ธ.ค. 63 – 31 ม.ค. 64)

วัดเจติยาคีรีวิหาร หรือวัดภูทอก จ.บึงกาฬ (ปิดตั้งแต่ 31 ธ.ค.63- 3 ม.ค.64)

เขื่อนวชิราลงกรณ์ จ.กาญจนบุรี

พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน จ.เพชรบุรี

Seenscape Huahin จ.ประจวบคีรีขันธ์

ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี จ.ประจวบคีรีขันธ์

อุทยานวิทยาศาสตร์พระเจ้าเกล้า อ.หว้ากอ จ.ประจวบคีรีขันธ์

จุดชมวิวทะเลหมอก ผาเหนือเมฆ จ.ตรัง

ถนนคนเดินภูเก็ตหลาดใหญ่ *งดจัดวันที่ 27 ธ.ค.63 และ 3 ม.ค.64*

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง จ.สงขลา

ท่องเที่ยวชุมชนหมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา13 จ.นราธิวาส

สวนสนุกดรีมเวิล์ด จ.ปทุมธานี (ปิดตั้งแต่ 2-15ม.ค.64)

สยามอะเมซิ่งพาร์ค (สวนสยาม) กทม.

วัดมณีวงศ์ (ถ้ำพญานาค) จ.นครนายก (ปิดไม่มีกำหนด)

ชุมชนท่องเที่ยวบ้านจ่าโบ่ จ.แม่ฮ่องสอน

อุทยานแห่งชาติทับลาน พื้นที่เขต จ.ปราจีนบุรี และ จ.นครราชสีมา

พระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม กทม. (ปิดชั่วคราวตั้งแต่ 5-31 ม.ค.64)

พระราชวังบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา (ปิดชั่วคราวตั้งแต่ 5-31 ม.ค.64)

พระตำนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ (ปิดชั่วคราวตั้งแต่ 5-31 ม.ค.64)

โครงการช่างหัวมัน ตามพระราชดำริ จ.เพชรบุรี (ปิดชั่วคราวตั้งแต่ 5-31 ม.ค.64)

พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ฯ กทม. (ปิดชั่วคราวตั้งแต่ 5-31 ม.ค.64)

พิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน กทม. (ปิดชั่วคราวตั้งแต่ 5-31 ม.ค.64)

โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง กทม. (ปิดชั่วคราวตั้งแต่ 5-31 ม.ค.64)

อุทยานแห่งชาติขุนน่าน จ.น่าน

อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี *ปิดบริการบ้านพัก ลานกางเต็นท์ และงดลงเล่นน้ำ

วัดภูมินทร์ จ.น่าน

วัดหนองบัว อ.ท่าวังผา จ.น่าน

อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อ.ทองผาภูมิ ปิดกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติระยะไกลเขาช้างเผิอก จ.กาญจนบุรี

อุทยานแห่งชาติเขาแหลม อ.สังขละบุรี ปิดกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติระยะไกลเขาเขียว-เขาใหญ่ (เขาสันหนอกวัว) จ.กาญจนบุรี

อุทยานแห่งชาติเอราวัณ อ.ศรีสวัสดิ์ ปิดให้บริการบ้านพักนักท่องเที่ยว ลานกางเต็นท์ งดกิจกรรมเที่ยวชมถ้ำพระธาตุ และงดเล่นน้ำตก (เดินเที่ยวชมน้ำตกเอราวัณได้) จ.กาญจนบุรี

อุทยานแห่งชาติลำคลองงู อ.ทองผาภูมิ ปิดบริการลานกางเต็นท์ และงดเล่นน้ำตก (เดินเที่ยวชมน้ำตกนางครวญชั้นที่ 1-3 ได้) จ.กาญจนบุรี

น้ำพุร้อนลิ่นถิ่น จ.กาญจนบุรี

กลุ่มผู้ประกอบการโฮมสเตย์หมู่บ้านอีต่อง ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ งดรับนักท่องเที่ยวเข้าสู่ชุมชน จ.กาญจนบุรี ( 7-21 มกราคม )

ข้อมูล ณ วันที่ 5 มกราคม 2564 ที่มาบางส่วน ททท.