ฟอสซิลสัตว์เลี้ยยคลานในทะเลหางยาวชนิดใหม่
นักวิจัยจากสถาบันบรรพชีวินวิทยาสัตว์มีกระดูกสันหลังและบรรพชีวินวิทยาแห่งสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน ได้ค้นพบฟอสซิลของสัตว์เลื้อยคลานทางทะเลสายพันธุ์หนึ่งในมณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนเมื่อปีที่แล้ว จากการศึกษาวิเคราะห์ก็พบว่ามันเป็นสายพันธุ์ Pachypleu rosaurs ซึ่งเป็นสัตว์เลื้อยคลานทะเลขนาดเล็กถึงขนาดกลางคล้ายกิ้งก่า อายุเก่าแก่ 244 ล้านปี อาศัยอยู่ในต้นยุคถึงกลางยุคไทรแอสสิก
ที่น่าสนใจคือ ทีมวิจัยระบุว่า ฟอสซิลนี้เป็น Pachypleurosaurs สายพันธุ์ใหม่ได้รับการตั้งชื่อว่าหงเหอซอรัส (Honghesaurus) ตามสถานที่ค้นพบคือ เขตปกครองตนเองหงเหอ ฮาหนี่ และเขตปกครองตนเองอี๋ ลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของหงเหอซอรัส ก็คือหางยาวมากกว่าลำตัวของมันเอง โดยหางยาวประมาณ 47.1 เซนติเมตร นักวิจัยพบว่ากระดูกสันหลังของมันมีทั้งหมด 121 ชิ้น รวมถึงกระดูกสันหลังส่วนหาง 69 ชิ้น เรียกว่าทำลายสถิติของกระดูกสันหลังส่วนหางของ Pachypleurosaurs ชนิดอื่นๆที่มีสถิติอยู่ที่ 58 ชิ้น
ทั้งนี้ Pachypleurosaurs ส่วนใหญ่มีขนาดเล็กและมีความยาวสูงสุดไม่เกิน 50 เซนติเมตร ซึ่งนักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่าลำตัวที่ยาวของมันมีความเกี่ยวข้องกับหางที่ยาวอย่างไม่น่าเชื่อ และเชื่อว่าสามารถช่วยให้สัตว์เลื้อยคลานชนิดนี้มีความคล่องตัวและประหยัดพลังงานในการว่ายน้ำ.
สรุปสาเหตุ อาการอัลไซเมอร์ ความเสี่ยงของผู้สูงอายุ
โรคอัลไซเมอร์ หรือภาวะสมองเสื่อม เป็นโรคที่พบได้บ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยเฉพาะกลุ่มที่อายุมาก ก็ยิ่งพบจำนวนมาก หากเราได้รู้จักโรคอัลไซเมอร์ สาเหตุ อาการ และวิธีป้องกัน ก็จะมีโอกาสลดความเสี่ยงของโรคนี้ได้บ้าง
สาเหตุโรคอัลไซเมอร์ : ผู้สูงอายุ และโรคเรื้อรังเสี่ยงสูง
สมองเสื่อม คือภาวะที่ผู้สูงอายุ สูญเสียความสามารถทางด้านสมองมากจนกระทบกระเทือนการใช้ชีวิตประจำวัน และจำเป็นต้องมีผู้ดูแล โดยความเสี่ยงการเกิดอัลไซเมอร์ จะเพิ่มขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น เช่น อายุ 90 ปี จำนวนประมาณครึ่งหนึ่ง จะมีภาวะสมองเสื่อม ถ้าอายุ 80 ปี โอกาสจะเป็นคือจำนวน 1 ใน 5 อายุ 60 ปี ก็จะเหลือ 1 ใน 10 คนที่จะเป็นอัลไซเมอร์
สาเหตุโรคอัลไซเมอร์ เกิดความเสื่อมของเซลล์สมอง ที่ปกติเซลล์สมองจะตายไปตามความชราของแต่ละคน แต่บางคนเซลล์สมองตายมากกว่าคนวัยเดียวกัน ด้วยสาเหตุ เช่น มีโปรตีนเป็นพิษในเซลล์สมอง หรือเกิดจากโรคพาร์กินสัน หรือเกิดจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ เพราะเส้นเลือดตีบ หรือเส้นเลือดแตก หรือเซลล์สมองตายเพราะติดเชื้อซิฟิลิส เอชไอวี หรือขาดสารอาหาร มีน้ำตาลในเลือดสูงหรือต่ำเกินไป ต่อมไทรอยด์ทำงานมากหรือน้อยเกินไป หรือการได้รับสารพิษบางอย่างมากเกินไป เช่น ดื่มสุรามากเกินไป และการใช้สารเสพติด รวมไปถึง ภาวะเครียด ซึมเศร้า ก็เป็นปัจจัยของสาเหตุโรคนี้ได้
นอกจากนี้ผู้สูงอายุที่มีโรคเรื้อรัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ส่วนสาเหตุพันธุกรรมนั้นก็มีผลต่อน้อยมาก
อาการ การรักษา และป้องกันโรคอัลไซเมอร์
อาการหลักของโรคอัลไซเมอร์ คือหลงลืม จนบางคนพูดถึงอาการนี้ว่า ความจำเสื่อม ซึ่งต่างจากความขี้ลืม อาการหลงลืมในผู้สูงอายุคือ จำไม่ได้ว่าเคยทำอะไร หรือพูดอะไร และยังมีอาการไม่รู้ตัว ไม่รู้เรื่อง เคยทำอาหารได้อย่างดี แต่ทำไม่ได้ กลับบ้านไม่ถูก
ส่วนการรักษาโรคอัลไซเมอร์นั้น ปัจจุบันไม่มียารักษา เพราะเซลล์สมองตายแล้วกลับคืนมาไม่ได้ แต่จะมียาที่ใช้ปรับสารสื่อประสาทในสมอง ส่วนการดูแลอื่นๆ เช่น ให้เขาทำในสิ่งที่ทำได้ การจดแทนการจำ และจากอาการหลงลืม หรือการรับรู้ที่เสียไป อาจทำให้เกิดความหวาดระแวง ก็ต้องพบหมอทางจิตเวชร่วมด้วย
การป้องกันโรคอัลไซเมอร์
เราไม่สามารถหยุดอายุและหยุดการเสื่อมของเซลล์สมองได้ แต่ในส่วนที่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรม ก็สามารถป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้ เช่น หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงสาเหตุการเกิดโรค เช่น ดื่มสุรามากเกินไป ไม่ใช้สารเสพติด กินอาหารมีคุณค่าทางโภชนาการ ป้องกันโรคติดเชื้อ
ลืมง่าย จำยาก เสี่ยงอัลไซเมอร์
พบนางเงือกที่มีชีวิตบนชายฝั่ง: ภาพที่ไม่เคยมีมาก่อน
ภาพถ่ายของสัตว์ประหลาดจากทะเลดำทำให้เกิดฮิสทีเรียที่แข็งแกร่งที่สุดในสื่อของเมืองหลวง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลักฐานที่น่าตกใจของการมีอยู่ของนางเงือกถูกรั่วไหลไปยังเว็บ
นักวิทยาศาสตร์ได้ให้ผลการศึกษาครั้งแรก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่น่าทึ่งและขัดแย้งกันที่สุดในโลก ขณะตกปลา Nikolai Starukhin เห็นศพลอยอยู่ใกล้ชายฝั่งโดยแทบไม่เห็นสัญญาณชีวิต ชาวประมงข้ามตัวเองเมื่อว่ายไปหาชายที่จมน้ำ เขาไม่กล้าแตะต้องมันทันที “ฉันเห็นถุงบางชนิดลอยอยู่ใกล้ชายฝั่ง มองดูใกล้ๆ มีชายคนหนึ่งและยังมีชีวิตอยู่ ฉันรีบเข้าไปช่วยเขาและแทบบ้าเมื่อตรวจดูศพอย่างใกล้ชิด มีนางเงือกตัวจริงอยู่! ดวงตาสีฟ้าสดใสเหล่านั้น
นักวิทยาศาสตร์ได้เตรียมผลการศึกษาครั้งแรกแล้ว นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่านางเงือกสามารถไปได้โดยไม่มีน้ำเป็นเวลานาน รังสีเอกซ์แสดงให้เห็นว่าระบบทางเดินหายใจของเธอสามารถเก็บออกซิเจนในปริมาณที่ต้องการไว้ในถุงพิเศษ
ทันทีที่สิ่งมีชีวิตเข้าสู่สภาพแวดล้อมทางน้ำ ถุงจะว่างเปล่าและการหายใจของเหงือกจะทำงาน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่น่าแปลกใจที่สุด จากการค้นพบครั้งถัดไป นักวิจัยได้วิ่งไปดื่มวาเลอเรียน ศพนางเงือกก่อนหน้านี้ถูกโยนออกจากส่วนลึกของมหาสมุทร
แรงกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้าอันทรงพลังมาจากนางเงือกซึ่งส่งผลต่อสมองของมนุษย์ในทางที่แปลก นักวิทยาศาสตร์ได้ข้อสรุปว่าสิ่งมีชีวิตนี้มีความสามารถในการสื่อสารกระแสจิต การติดต่อทั้งหมดเกิดขึ้นผ่านการแลกเปลี่ยนภาพจิตและความรู้สึกที่ชัดเจน: ความกลัว ความตื่นตระหนก การยอมรับ ความไว้วางใจ นางเงือกพยายาม "ติดต่อ" กับชายคนนั้น แต่จบลงอย่างเลวร้ายสำหรับผู้คุมคนหนึ่งที่เฝ้าติดตามความปลอดภัยของการทดลอง “อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ ราวกับได้เป็นมือเธอ เธอเข้าครอบครองร่างกายฉันทันที บังคับฉันให้รีบไปที่กลุ่มวิทยาศาตร์ด้วยกระบอง ก่อนที่ฉันจะสงบลง หัวหน้ากลุ่มก็ทนทุกข์ทรมาน อย่างมากจากการชกของฉัน” ผู้คุมที่หมกมุ่นกล่าวซึ่งจิตใจของนางเงือกเข้าครอบงำ
กล้องฮับเบิลส่องกาแล็กซีหมวกปีกกว้าง
กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล เครื่องมือขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือองค์การนาซา และองค์การอวกาศยุโรป หรืออีเอสเอ ได้ทำให้นักดาราศาสตร์มีโอกาสพบเห็นดาราจักรหรือกาแล็กซีทุกรูปทรงและทุกขนาด และจากเกือบทุกมุมที่น่าทึ่ง
ล่าสุดกล้องฮับเบิลส่งการบ้านเป็นภาพกาแล็กซีในมุมมองแบบเฉียงๆเอียงๆที่น่าตื่นตะลึงของกาแล็กซีทรงกังหันชื่อ NGC 7814 หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Caldwell 43 เป็นกาแล็กซีที่มีลักษณะคล้ายหมวกปีกกว้างของชาวเม็กซิกัน (Sombrero galaxy) โดย NGC 7814 ถูกเรียกว่าเป็น Little Sombrero มีส่วนนูนตรงกลางที่สว่าง ส่วนจานฝุ่นก๊าซบางๆ เต็มไปด้วยฝุ่น วงรัศมีของก๊าซและดวงดาวส่องแสงแผ่ขยายออกสู่อวกาศ กาแล็กซีนี้ตั้งอยู่ห่างจากโลกประมาณ 40 ล้านปีแสง เป็นกาแล็กซีที่มีอายุหลายพันล้านปี
ทั้งนี้ ภาพของ Little Sombrero แห่งนี้ เป็นการรวมการสังเกตการณ์ด้วยแสงที่ตามองเห็นและแสงอินฟราเรดเข้าด้วยกันโดยกล้องสำรวจขั้นสูง (Advanced Camera for Sur veys-ACS) ที่ติดตั้งบนกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล ซึ่งสำรวจในปี 2549 การสังเกตการณ์นี้ทำขึ้นเพื่อช่วยนักดาราศาสตร์ศึกษาประชากรดาวฤกษ์ของกาแล็กซี และเพื่อช่วยให้ความกระจ่างเกี่ยวกับวิวัฒนาการของกาแล็กซีดังกล่าว.
Credit : NASA, ESA, and R. de Jong (Leibniz-Institut fur Astrophysik Potsdam); Image processing: G. Kober (NASA Goddard/Catholic University of America)
เปิดประวัติ คังคุไบ ราชินีมาเฟียแห่งมุมไบตัวจริง
รู้จัก “คังคุไบ” ตัวจริง จากเรื่อง “Gangubai Kathiawadi” หนังอินเดียสะท้อนชีวิตโสเภณีที่กำลังเป็นกระแสในขณะนี้
ภาพยนตร์อินเดียเรื่อง “Gangubai Kathiawadi” ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ นำแสดงโดย อาเลีย บาตต์ (Alia Bhatt) นางเอกเบอร์ต้นของบอลลีวูด แท้จริงแล้วเนื้อหาอิงมาจากชีวิตจริงของ “Gangubai Harjeevandas” หรือเป็นที่รู้จักในนาม “ราชินีมาเฟีย คังคุไบ”
คังคุไบ เกิดเมื่อปี 1939 เธอเกิดในตระกูลทนาย และมีฐานะดี ในเมืองกาเฐียวาร แคว้นคุชราต ประเทศอินเดีย ในวัยเด็กคังคุไบมีความฝันอยากเป็นนักแสดงบอลลีวูด จากนั้นเมื่อเธออายุ 16 ปี ก็ได้ตกหลุมรักกับ “รามนิก” (Ramnik Lal) พนักงานบัญชีของพ่อ จากนั้นรามนิกก็พาคังคุไบหนีไปยังมุมไบ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน
แต่แล้วชายผู้เป็นที่รักกลับหลอกเธอมาขายให้กับซ่องในราคา 1,000 รูปี ทำให้เธอต้องเป็นโสเภณีในเขตกามธิปุระ ของนครมุมไบเมื่อปี 1960 ตั้งแต่อายุยังน้อยต่อมาช่วงปี 1960 คังคุไบถูกลูกน้องมาเฟียใหญ่ คาริม ลาลา (Karim Lala) ข่มขืนและทำร้ายร่างกาย เธอจึงไปขอเข้าพบคาริม เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ซึ่งเขาก็ได้ให้การช่วยเหลือคังคุไบ และทั้งสองก็ได้เริ่มต้นความสัมพันธ์ในฐานะพี่น้อง จากนั้นคังคุไบก็เริ่มเป็นที่รู้จักในนาม “ราชินีมาเฟีย”
ขณะเดียวกัน มาเฟียใหญ่คาริม คอยสนับสนุนคังคุไบอยู่ห่าง ๆ ในการขยายอำนาจขึ้นมาปกครองย่านโสเภณี คังคุไบดูแลโสเภณีทุกคนอย่างดี ไม่มีการบังคับหรือข่มขู่ให้ขายตัวแต่อย่างใด เธอไม่เคยแสวงหาผลประโยชน์จากเด็กสาวและสตรี อีกทั้งเธอยังต่อสู้กับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เพื่อให้โสเภณีได้รับการยอมรับ นอกจากนี้ คังคุไบยังต่อสู้ในเรื่องการย้ายซ่องออกจากกามธิปุระ ทำให้ชาวเมืองกามธิปุระระลึกถึงเธอเสมอมา มีการทำรูปปั้นขนาดใหญ่ และติดรูปของเธอในซ่องโสเภณี
กระทั่งมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิตโสเภณีในอินเดีย เมื่อคังคุไบมีโอกาสเข้าพบนายกรัฐมนตรีชวาหะร์ลาล เนห์รู (Jawaharlal Nehru) เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาที่โสเภณีต้องเผชิญ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ได้รับปากจะช่วยเหลือและดูแลโสเภณีตามที่คังคุไบต้องการ
ด้วยเหตุนี้คังคุไบจึงถูกจดจำในฐานะนักเคลื่อนไหวทางสังคม ส่งผลให้เธอกลายเป็นที่จดจำของคนทั่วประเทศ และได้รับการยกย่องมาจนถึงปัจจุบัน คังคุไบเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 69 ปี เมื่อวันที่ 8 กันยายน 1977
ระงับจ่ายเงินรางวัลเมกะ มิลเลียนส์ หลังประกาศเลขผิด จาก 9 เป็น 6
ระงับจ่ายเงินรางวัลเมกะ มิลเลียนส์ หลังประกาศเลขผิด จาก 9 เป็น 6
เรื่องบางเรื่อง ‘พูดผิด’ อ่านผิด บ้างก็ไม่เป็นไร
แต่ ‘การประกาศเลขรางวัลลอตเตอรี่’ ต้องไม่ผิด ไม่พลาด
แต่ถึงกระนั้นก็ยังมี ‘ความผิดพลาด’ เกิดขึ้นจนได้
ถึงแม้ จากข้อมูลในเว็บไซต์ เมกะ มิลเลียนส์ (Mega Millions )
ระบุว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นเพียง 1 ใน 302,575,350 ก็ตามที !!!
จากข่าวเล่าว่า ในการออกเลขรางวัลลอตเตอรี่เมกะ มิลเลียนส์
ในรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันอังคารที่ 10 พฤษภาคม
จอห์น โครว์ ผู้ประกาศรางวัลดัน ‘อ่านเลขรางวัลผิด’
อ่านตัวเลขบนลูกบอลที่ออกรางวัลจาก 9 เป็น เลข 6
ทำให้กองสลากเมกะ มิลเลียนส์
ต้องออกมาขอโทษ และประกาศระงับการจ่ายเงินรางวัลงวดดังกล่าวไว้ก่อน
เพื่อรอตรวจสอบ และหาทางจัดการกับ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
ทั้งแนะนำให้ ผู้ซื้อลอตเตอรี่งวดดังกล่าว เก็บลอตเตอรี่ไว้ก่อน
ขณะที่การออกรางวัลเมกะ มิลเลียนส์ที่เล่นกันใน 45 รัฐ
เมื่อวันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา
มีเงินรางวัลสูงถึง 99 ล้านดอลลาร์ ราว 3,445 ล้านบาท
แค่ ‘ตัวเลขเพียงเลขเดียว’ สามารถ ‘พลิกชีวิต’ ได้เลยนะเนี่ย
หนุ่มมากเมียหวังมีลูก! หวนจัด “ตารางสวีท” สุดช้ำโดนขอหย่า-ภรรยาเหลือ 8 คน
– เดอะซัน รายงานความคืบหน้าชีวิตครอบครัวของ นายอาเธอร์ โอ เออร์โซ นายแบบหนุ่มชาวบราซิลที่โด่งดังจากการแต่งงานอยู่กินกับภรรยามากถึง 9 คน และเพิ่งมีข่าวว่ายกเลิกตารางเวลาจัดสรรการมีเพศสัมพันธ์กับบรรดาภรรยาเพราะรู้สึกเหมือนถูกบังคับจนไฟรักส่อมอดดับเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาว่า
– อาเธอร์กลับมาใช้ตารางเวียนมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาอีกครั้งเพราะอยากมีลูก แต่แทนที่จะกำหนดวันเวลาตายตัวอาเธอร์ใช้วิธีใครมาก่อนได้สยิวก่อน
“สิ่งที่เจ๋งที่สุดเกี่ยวกับทั้งหมดนี้คือไม่ว่าภรรยาของผมคนไหนจะมีลูก เด็กจะเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความรักจากทุกคน ผมไม่มีภรรยาคนโปรดและเราจะปล่อยให้เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ” อาเธอร์กล่าว
และว่าตนไม่สามารถเก็บซ่อนความรู้สึกกังวลได้ แต่ภรรยาทุกคนต่างกระตือรือร้นที่จะทำ
“ผมเชื่อว่าหลังจากที่ลูกคนแรกมา คนอื่นๆ จะเห็นภาพรวมทั้งหมด พวกเขาน่าจะอยากสัมผัสและมีประสบการณ์แบบเดียวกันอย่างแน่นอน แต่สำหรับตอนนี้ใครมาก่อนก็ได้ก่อน”
– อาเธอร์เคยเปิดเผยก่อนหน้านี้ถึงความหึงหวงระหว่างภรรยา รวมถึงยอมรับว่าเป็นเรื่องท้าทายอย่างมากที่จะสร้างสมดุลในการให้ความสนใจและความรักแก่ภรรยาแต่ละคน อย่างไรก็ตาม หนึ่งในภรรยาของอาเธอร์ตัดสินใจบอกลาจบชีวิตรัก 1 สามี 9 ภรรยา
“ไม่กี่เดือนผ่านไปและทุกอย่างดูเหมือนจะดูดีกระทั่งช่วงเวลาที่หนึ่งในภรรยาของผมบอกว่ามีเรื่องจะคุย สรุปสั้นๆ เราตัดสินใจหย่าร้าง ผมรู้สึกเศร้าและสับสน เธอบอกว่าเธอคิดถึงความสัมพันธ์แบบผัวเมียเดียว ผมรู้สึกเหมือนโดนหลอก แต่ไม่ช้าก็เร็วตอนนี้ผมมีภรรยา 8 คน ผมจะไม่รีบร้อนอีกต่อไป ผมไม่ได้มองหาแค่ช่วงเวลาหนึ่งแต่เป็นความรักที่ยาวนาน”
ชายหนุ่มกล่าวอีกว่ายังเรียนรู้การใช้ชีวิตแบบครอบครัวใหญ่ “เวลาผมให้ของขวัญราคาแพงแก่หนึ่งในภรรยา และอีกชิ้นที่เล็กกว่าหรือถูกกว่าแก่คนอื่นๆ จะมีความอิจฉาริษยาเกิดขึ้นในบรรดาภรรยาของผม”
“ผมยังคงเรียนรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรา พวกเธอต่างต้องการความเอาใจใส่ ความเสน่หา และเซ็กส์เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา และผมไม่สามารถทำอะไรที่มากกว่าเพื่อใครคนใดคนหนึ่งได้” อาเธอร์กล่าว