ครบเครื่อง
ญ. อมตะ



ส่องวิถีชีวิต ‘ค่างหัวขาว’ สัตว์คุ้มครองแห่งพงไพรในกว่างซี

“ค่างหัวขาว” หรือเรียกกันอีกชื่อว่า “ภูตแห่งภูเขาหิน” พวกมันมีจุดเด่นตรงขนสีขาวตั้งแหน็วบนหัว และเป็นสัตว์คุ้มครองระดับสูงสุดของจีน...

สำนักข่าวซินหัว–ชวนส่องวิถีชีวิต “ค่างหัวขาว” หรือเรียกกันอีกชื่อว่า “ภูตแห่งภูเขาหิน” พวกมันมีจุดเด่นตรงขนสีขาวตั้งแหน็วบนหัว และเป็นสัตว์คุ้มครองระดับสูงสุดของจีน...

จำนวนประชากรค่างหัวขาวเหลือไม่มากนักในปัจจุบัน ส่วนใหญ่กระจายอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศแบบหุบเขาคาสต์ (Karst) ขนาดเกือบ 200 ตารางกิโลเมตร ระหว่างแม่น้ำจั่วเจียงและแม่น้ำหมิงเจียง ซึ่งรายล้อมด้วยป่าไม้เขียวขจี ในเมืองฉงจั่ว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน

นักข่าวซินหัวเดินทางมาถึงพื้นที่ใจกลางของเขตป่านลี่ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติแห่งชาติค่างหัวขาวในตำบลหลัวไป๋ เขตเจียงโจวของเมืองฉงจั่ว เพื่อเฝ้าติดตามและถ่ายภาพของค่างหัวขาวเป็นเวลาสองวัน (บันทึกภาพวันที่ 4-5 ส.ค. 2023 )


‘ปวดหลัง’ ไม่หาย ส่งผลให้พังทั้งร่างได้จริงหรือ?

อาการปวดหลังถือเป็นปัญหาใหญ่ที่พบมากในทุกเพศทุกวัย พบมากในวัยทำงาน และงานที่เสี่ยงกับอาการปวดหลัง ผู้ที่มีอาการปวดหลังส่วนใหญ่ มักมาจากกลุ่มทำงานที่ต้องยกของหนัก นั่งขับรถนาน นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องนาน และยืนเดินด้วยส้นสูงต่อเนื่องตามลำดับ

สาเหตุของอาการปวดหลังมากกว่า 90% มาจากความผิดปกติของโครงสร้างร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นจากกล้ามเนื้อที่เกร็ง อักเสบ ข้อต่อที่ยึดติด และจากแนวกระดูกที่ไม่สมดุล ทำให้มีปัญหาหมอนรองกระดูก และเส้นเอ็นรอบๆข้อต่อกระดูกสันหลังจนทำให้เกิดอาการปวดหลังขึ้นมา

เพ็ญพิชชากร แสนคำ นักกายภาพบำบัดจาก คลินิกกายภาพบำบัดอริยะ ชั้น 1 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี) ได้กล่าวถึงอาการปวดหลังว่า หากเกิดอาการปวดหลังเรื้อรังจากการรักษาไม่ตรงจุด การทำงานแบบซ้ำๆ อย่างเดิมทำให้ร่างกายซ่อมแซมตนเองได้ไม่เต็มที่จนเกิดการบาดเจ็บซ้ำๆ เป็นปัญหาต่อเนื่องระยะยาว มักส่งผลกระทบต่อร่างกายส่วนอื่นๆ ร่วมด้วย ซึ่งปัญหาต่างๆ ที่ตามมาทำให้เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน ครอบครัว คนรอบข้าง ส่งผลต่อจิตใจในระยะยาวได้ และอาการปวดหลังยังส่งผลกระทบต่อระบบอื่นๆ อีกด้วย ดังต่อไปนี้

-ปวดเข่า เป็นอาการที่พบหลังปวดหลังเรื้อรัง เนื่องจากกล้ามเนื้อที่หลัง มีเยื่อหุ้มบางส่วนที่ลิ้งค์ไปถึงเข่า เมื่อเรื้อรังก็เกิดการดึงรั้ง ทำให้ไม่สมดุล เกิดแรงกดเบียดที่เข่ามากกว่าปกติ เกิดปวดเข่าขึ้นมาได้

-ปวดส้นเท้า ปวดฝ่าเท้า เมื่อปวดหลังเรื้อรังทำให้ร่างกายกลัวต่อการลงน้ำหนักฝั่งที่ปวด และทดแทนด้วยการเลี่ยงที่จะลงน้ำหนักข้างปวด ไปลงอีกฝั่งด้านที่ไม่ปวด จากความไม่สมดุลนี้ ฝ่าเท้าอีกฝั่งจะรับน้ำหนักมากกว่าปกติ เกิดการยืดเพราะรับน้ำหนักเกิน ทำให้บาดเจ็บ และมีปัญหาที่ฝ่าเท้าในที่สุด

-ปวดคอ บ่า บางครั้งอาจร้าวเข้ากระบอกตา ร้าวขึ้นศีรษะ หากอาการปวดหลังเกิดจากความตึง หรือเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ ความตึงรั้งดังกล่าวอาจส่งผลตึงไปถึงก้านคอ หรือคอ บ่า เนื่องจากกล้ามเนื้อ มัดลึกของหลังจะเกาะยาวตลอดแนวกระดูกสันหลัง เพราะฉะนั้น แรงตึงตัวอาจส่งผลไปถึง คอ บ่า ไหล่ และเนื่องจากการเกร็งตัวของคอ จะส่งผลให้ปวดร้าวเข้ากระบอกตา หรือปวดร้าวขึ้นหัวได้

-เหนื่อยง่าย หายใจไม่อิ่ม หายใจลึกๆ แล้วรู้สึกติดขัด กล้ามเนื้อหลังช่วงบั้นเอวมัดลึกๆ ส่วนหนึ่งจะเกาะจากกระดูกสันหลังไปที่ชายโครง หากมีการเกร็งตัวมากๆ จะจำกัดการขยายตัวของชายโครง เวลาชายโครงถูกดึงรั้งไว้ ปอดจะขยายตัวได้น้อย ทำให้รู้สึกหายใจลึกๆ ได้ลำบาก

-ความตึงรั้งของกล้ามเนื้อหลัง อาจส่งผลถึงการไหลเวียนของระบบประสาทอัตโนมัติ ที่ส่งผลต่อการย่อยอาหาร และการขับถ่าย เพราะระบบประสาทอัตโนมัตินี้ เป็นรากประสาทที่ออกจากข้างๆ กระดูกสันหลัง หากมีการเกร็งตัวมากของกล้ามเนื้อหลัง จะส่งผลได้ทำให้การย่อยอาหารยากขึ้น เกิดภาวะท้องอืด หรือมีการบีบตัวของลำไส้น้อยลง ทำให้ท้องผูกได้ ฯลฯ

ไม่น่าเชื่อว่าอาการปวดหลังเรื้อรัง อาจส่งผลให้พัง ทั้งร่างได้ เนื่องจากหลังเป็นส่วนที่เชื่อมต่อถึงระบบ และส่วนอื่นๆของร่างกายได้อีกมากมาย รู้อย่างนี้แล้วการดูแลรักษาอาการปวดหลังให้ตรงจุด จึงควรให้ความสำคัญจะได้ไม่มีปัญหาตามมาภายหลังได้


พัฒนาสำเร็จ! “หุ่นยนต์ช่างสัก” ตัวแรกของโลก เป็นไปได้ด้วย 5G

ปัญญาประดิษฐ์ หรือ ชุดข้อมูลที่มนุษย์ใส่เข้าไปในคอมพิวเตอร์เพื่อให้คอมพิวเตอร์คิดและทำงานได้เหมือนคนได้ วันนี้ปัญญาประดิษฐ์ได้พัฒนาไปอีกขั้นให้หุ่นยนต์สามารถ "สัก" มนุษย์ได้แล้ว

เทคโนโลยี่ที่ก้าวหน้าขึ้น เร็วขึ้น แรงขึ้น และมันสมองของเราที่ฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวันทำให้วันนี้บริการ "สัก" สามารถทำได้แล้วผ่านอินเตอร์เน็ต 5G โดยผู้ที่สักนั้นไม่ใช่ "คน" แต่เป็น "หุ่นยนต์"

การให้หุ่นยนต์มา "สัก" แทนคนอาจฟังดูไม่น่าเป็นไปได้เพราะผิวหนังแต่ละส่วนของมนุษย์แต่มีความยืดหยุ่นไม่เท่ากัน เพราะถึงแม้หุ่นยนต์จะฉลาดสักแค่ไหน แต่ถ้าเป็นเรื่องของศิลปะและความละเอียดอ่อนต้องบอกว่ามนุษย์ยังยืนเหนือหุ่นยนต์แน่ ๆ

แต่สิ่งที่ฟังดูไม่น่าจะเป็นไปได้ก็เป็นไปได้แล้ว ด้วยโปรเจกต์ที่ชื่อว่า "รอยสักที่เป็นไปไม่ได้" (The Impossible Tattoo) ความคิดริเริ่มบริษัทเครือข่ายอินเตอร์เน็ตจากเนเธอร์แลนด์ที่ต้องการจะพิสูจน์ว่าความเร็ว 5G ของเขาไม่แพ้ชาติใดในโลก สู่การจับมือระหว่างนักพัฒนาหุ่นยนต์ ช่างสัก และ นัดแสดงหญิงชาวดัชท์ผู้มาเป็นตัวแทนในการสักด้วยหุ่นยนต์ครั้งนี้ หุ่นยนต์นายนี้ชื่อว่า "โทมัส" แต่โทมัสไม่ใช่หุ่นยนต์แบบเครื่องสักอัตโนมัติ แต่จะเป็นการเชื่อมโยงต่อกับช่างสักกับหุ่นยนต์ที่อยู่กันคนละสถานที่เพื่อให้หุ่นยนต์สามารถสักลูกค้าได้ตามแบบที่ช่างสักออกแบบ

เพื่อให้หุ่นยนต์ตัวนี้ทำงานได้เหมือนคนมากที่สุด นักพัฒนาหุ่นยนต์ต้องประกอบหุ่นยนต์ช่างสักขึ้นมาเองโดยใช้แขนหุ่นยนต์ รุ่น UR3e ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่หาได้ตามท้องตลาดหุ่นยนต์ มาประกอบกับข้อต่อต่าง ๆ และเขียนระบบสั่งการเอง สิ่งที่ท้าทายที่สุดแต่สิ่งในการสร้างหุ่นยนต์ช่างสัก คือ การทำระบบให้หุ่นยนต์สามารถสักไปพร้อม ๆ กับ ช่างสักและไม่ดีเลย์ ไม่กระตุก แม้จะอยู่กันคนละสถานที่ก็ตาม และกว่า 6 สัปดาห์ที่ผ่านการลองผิดลองถูกบน ผลฟัก ที่ต้องมาเป็นหนูทดลองก่อนที่จะสักลงไปบนแขนนักแสดงหญิงจริง ๆ ก็ทำให้นักพัฒนาหุ่นยนต์ ช่างสัก ดาราหญิง และทีมงานสามารถทำให้การสักจากทางไกลเกิดขึ้นได้จริง ๆ

ที่มารูปภาพและข้อมูล :

https://sea.pcmag.com/news/42477/are-you-brave-enough-to-get-a-tattoo-from-a-robot


โรคประจำตัว กับอาหารที่ไม่ควรกิน

อาหารที่เราทานกันทุกวัน นอกจากจะให้พลังงาน และสารอาหารที่จำเป็น รวมถึงช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และทำหน้าที่เสมือนยารักษาโรคแล้ว ในบางครั้งก็กลับจะให้โทษได้เหมือนกัน หากว่าเรารับประทานอาหารนั้นๆ ไม่ถูกจังหวะ

โดยเฉพาะในช่วงที่สุขภาพไม่แข็งแรง ร่างกายอ่อนแอ โรคภัยถามหา ก่อนจะทานอะไรคงต้องเลือกกันซักหน่อย ไลฟ์เซ็นเตอร์บล็อก มีคำแนะนำเวลาป่วย หรือใครที่มีโรคประจำตัว มีเมนูอะไรที่เราควรหลีกเลี่ยงกันบ้าง

“ไมเกรน” ปวดหัวจี๊ดๆ ข้างเดียวเป็นประจำ ควรงดเมนูขนมหวาน ขนมเค้ก ชานม น้ำผลไม้หวานๆ น้ำอัดลม เพราะอาหารหวานที่มีปริมาณน้ำตาลสูงจะทำให้น้ำตาลในเลือดไม่คงที่ จะเพิ่มสูงขึ้น และลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดโรคไฮโปโกลซีเมียหรืออาการที่น้ำตาลในเลือดต่ำได้ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรน

นอกจากนั้นยังควรลดปริมาณการทานเนื้อสัตว์ ทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ เพราะโปรตีนจากเนื้อสัตว์เหล่านี้มักมีสารพิษตกค้างจากฮอร์โมนต่างๆ ในกระบวนการเลี้ยง ทั้งยังมีกรดแอมิโนไทโรซิน ที่ทำให้ปวดหัวได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

อาการข้ออักเสบ ปวดข้อ ปวดเข่า จะลุกนั่งก็ลำบาก ลองงดน้ำแข็ง อาหารเย็นๆ ดู เพราะความเย็นจะทำให้กระเพาะอาหารของเราทำงานหนักขึ้น และระบบไหลเวียนของเลือดยังทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพอีกด้วย ที่สำคัญ ควรลดอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เครื่องใน ไขมัน เพราะสารพิษตกค้างที่อยู่ในเนื้อสัตว์ จะเป็นตัวเพิ่มอาการเจ็บปวด และอาการอักเสบให้รุนแรงยิ่งขึ้น

สำหรับผู้ที่มีอาการ “กระเพาะอาหารอักเสบ ปวดท้อง แสบท้องเป็นประจำ” ไม่ควรทานอาหารประเภทยำ หรืออาหารรสจัด รวมทั้ง ชา กาแฟ น้ำอัดลม (อาหารที่มีคาเฟอีนสูง) เพราะจะยิ่งทำให้เกิดการระคายเคืองของเยื่อบุกระเพาะมากขึ้น อาหารรสจัดยังจะยิ่งเร่งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารมากขึ้นอีกด้วย

ผู้ที่มีอาการของ “โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง” ต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็ม มีเกลือหรือโซเดียมสูง เพราะโซเดียมจะเร่งความดันให้ยิ่งเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงอาหารรสหวาน และผลไม้สุก เพราะน้ำตาลและไขมันจะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนขึ้นได้ง่าย ทั้งโรค หลอดเลือดเปราะ จอตาเสื่อม โรคไต ท่อปัสสาวะอักเสบ เป็นต้น

ผู้ป่วยที่มีอาการ “ตับแข็ง ตับอักเสบ” หรืออาการ “เสื่อมสภาพของตับ” ต้องหลีกเลี่ยงอาหารทำร้ายตับ ซึ่งหลักๆ คืออาหารประเภทเนื้อสัตว์ เพราะบรรดาเนื้อสัตว์ทั้งหลายจะทำให้ตับต้องทำงานอย่างหนักในการขับของเสียเช่น ยูเรีย และ แอมโมเนีย ออกไป แต่เมื่อตับทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ของเสียต่างๆ จึงถูกขับออกจากร่างกายได้น้อยลง และจะถูกดูดซึมกลับเข้าไปในกระแสเลือดอีกครั้ง ทำให้สุขภาพแย่ลง เซื่องซึม และบางครั้งอาจมีอาการหนักถึงขั้นหมดสติไปเลยก็ได้

คนป่วยมักต้องการการดูแลมากกว่าคนทั่วไป เพราะอวัยวะภายในบางส่วนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ พฤติกรรมการรับประทานอาหารจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ การเลือกเมนูที่เหมาะสมจะช่วยให้ส่วนต่างๆของร่างกายได้ทำงานเบาลง และให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง

ใส่ใจกับเมนูต่างๆ แล้วอย่าลืมออกกำลังกายอย่างพอเหมาะเพื่อช่วยฟื้นฟู เสริมสร้างสุขภาพโดยรวมให้แข็งแรงกันด้วย


5 "สัญญาณเตือนร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ"

ระบบร่างกายฟ้องให้รีบหันกลับมาดูแลตัวเอง ก่อนโรคภัยจะมาเยือน ไลฟ์สไตส์การใช้ชีวิตที่เร่งรีบ นอนดึกในยุคปัจจุบัน ทำให้คนทำงานไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการพักผ่อนให้เพียงพอ

เมื่อร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายก็ไม่มีเวลาซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และฟื้นฟูพลังงานเพื่อให้มีแรงทำงานในเช้าวันใหม่ เกิดปัญหาสุขภาพสะสม เช่น ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน โรคเครียดโดยที่ไม่รู้ตัว อสมองไม่ปลอดโปร่ง ตอบสนองช้า สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เผ็นต้น อาจส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงได้อีกด้วย

"สัญญาณเตือนร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ" มีอาการอย่างไร วันนี้ "คมชัดลึก" ได้นำความรู้จากผู้ใช้ติ๊กต๊อกชื่อว่า "ชื่อ อาฟิวค่า" เภสัชกรที่มีผู้ติดตามถึง 46,000 คน ได้อธิบายถึง 5 "สัญญาณเตือนร่างกายพักผ่อนไม่เพียง"

"สัญญาณเตือนร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ"

1. คือ รู้สึกไม่สบายตัว เป็นภูมิแพ้ง่าย มีตุ่มใสๆ ขึ้นตามมือ ตามเท้า หรืออาจเป็นงูสวัดตามอาการเดิม หมายความว่า ภูมิคุ้มกันในขณะนั้นเริ่มต่ำ อาการเริ่ม

2. รู้สึกไม่มีสมาธิ ง่วงนอนอยู่ตลอดเวลา บางคนรู้สึกปวดหัวบ่อยๆ ในช่วงนั้น

3. อ่อนเพลีย อิดโรย รู้สึกไม่สบายตัว ปวดเมื่อยตามตัว

4. มีอาการหลงๆ ลืมๆ เบลอง่าย ความจำไม่ดี ซึ่งอาการนี้ไม่เกี่ยวกับอายุ มีช่วงเวลาที่เบลอบ่อยๆ นึกอะไรไม่ค่อยออก และ "สัญญาณเตือนร่างกายพักผ่นไม่เพียงพอ" ข้อสุดท้าย คือ มีอาการระบบทางเดินอาหาร เช่น รู้สึกอาหารไม่ย่อย ปวดท้องท้องอืด ท้องเฟ้อ

หากเกิด 5 สัญญาณนี้ แสดงว่า ร่างกายฟ้องว่า กำลังพักผ่อนไม่เพียงพอต้องหันกลับมาดูแลตัวเองดีๆ