ครบเครื่อง
ญ. อมตะ



เช็กเลย! ‘กล้วย’ แม้ประโยชน์มากมาย แต่เป็นอันตรายกับบุคคล 3 กลุ่มนี้

กล้วย ผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพนับไม่ถ้วน แม้กระทั่งเปลือก โพแทสเซียม แมกนีเซียม ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ แต่ก็มีผลร้ายต่อบุคคล 3 กลุ่มนี้ ก่อนกินรีบเช็กเลย

กล้วย แม้ว่าจะเป็นผลไม้ยอดนิยมที่มีประโยชน์มากมายแม้กระทั่ง “เปลือกกล้วย” ที่คนไทย เชื่อได้ว่าต้องปอกกินเสร็จแล้วต้องที่แน่นอน ทั้งที่มีประโยชน์มหาศาลไม่แพ้กัน เพราะมี โพแทสเซียม แมกนีเซียม ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจำเป็นต่อการเสริมสร้างสุขภาพหัวใจและกล้ามเนื้อ ช่วยปรับปรุงการเผาผลาญ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ใยอาหารในเปลือกกล้วยยังช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ปรับปรุงการย่อยอาหาร และยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย

อย่าทิ้ง!! “เปลือกกล้วย” ประโยชน์มหาศาล

อย่างไรก็ตาม ได้มีนักโภชนาการ อย่าง คอลลีน สปีด รองศาสตราจารย์ด้านโภชนาการ จากศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตต สหรัฐอเมริกา ออกมาเตือนว่าการกินกล้วยมากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่เป็นโรคไตได้ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคไตวายระยะสุดท้าย ที่ต้องคุมปริมาณโพแทสเซียม อย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาหารที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม อาจรบกวนยาบางชนิดที่รักษาความดันโลหิตสูง และภาวะหัวใจล้มเหลว โดยใครที่ป่วยมีความกังวล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนกินกล้วยในแต่ละครั้ง เพราะภาวะโพแทสเซียมสูงในเลือดมากเกินไป อาจนำไปสู่โรคแทรกซ้อนที่ร้ายแรงเกี่ยวกับหลอดเลือดและหัวใจ ทำให้ไตทำงานหนัก ซึ่งจะเป็นอันตรายมากโดยเฉพาะผู้ที่ป่วยเป็นโรคไตอยู่แล้ว

ขณะเดียวกันทาง American Heart Association ก็เคยออกมาแนะนำให้รับประทานกล้วยเพิ่มควมหลากหลายในการกินอาหาร สำหรับผู้ที่ไม่มีภาวะป่วยโรคไต ในการกินกล้วย เพราะกล้วยจะเป็นอันตรายก็ต่อเมื่อรับประทานในปริมาณมากๆ

ทั้งนี้ แคทเธอรีน คอลลินส์ นักโภชนาการชาวอังกฤษ เคยให้ข้อมูลกับ BBC ว่า กล้วยช่วยรักษาอัตราการเต้นของหัวใจให้คงที่ ช่วยกระตุ้นการปล่อยอินซูลินจากตับอ่อน เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และสิ่งสำคัญกว่าคือการควบคุมความดันโลหิต และไม่ควรกังวลกับการกินกล้วยในปริมาณมากๆ เพราะ ในคนปกติสุขภาพดี ต้องกินกล้วยถึง 400 ลูกต่อวัน จึงจะผลิตโพแทสเซียมในระดับที่สูงจนสามารถที่ทำให้หัวใจหยุดเต้นได้...


คนอายุ 40 อัพต้องอ่าน!กลิ่นคนแก่ แก้ให้หายขาดด้วย5วิธีง่ายๆตามนี้

มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่า เรื่องความตายไม่มีใครกลัว กลัวแต่เจ็บปวดก่อนตาย แต่เรื่องความแก่ แน่นอนว่าเกือบทุกคนต้องกลัว กลัวความแก่พรากวัยหนุ่มวัยสาวไป จากที่เคยทำอะไรเองได้ หรือร่างกายคล่องแคล่ว กลายเป็นคนเชื่องช้า...

อย่างไรก็ตาม สัญญาณที่บ่งบอกถึงความแก่ มักติดตัวกับผู้สูงวัย หรือคนที่อายุ 40 ปีขึ้นไป โดยกลิ่นตัวเกิดจากต่อมไขมันและต่อมเหงื่อ ผลิตไขมันและเหงื่อออกมาทำปฏิกิริยากับแบคทีเรีย จนเกิดกลิ่นบนร่างกาย ซึ่งการทำปฏิกิริยากับแบคทีเรีย ก็จะส่งกลิ่นแต่ละแบบต่างกันออกไป

ปัจจัยกลิ่นผิวที่แก่ก่อนวัย มีดังนี้...

แบคทีเรียบางชนิดบนผิวหนัง สามารถทำให้เกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้ แบคทีเรียเหล่านี้ เจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อม ซึ่งเกิดจากการที่ผิวผลิตน้ำมันได้ลดลง ซึ่งนำไปสู่การผลิตสารที่ทำให้เกิดกลิ่นคนแก่

อาจเกิดจากสุขอนามัยส่วนบุคคล การอาบน้ำและรักษาความสะอาดที่ไม่สม่ำเสมอ อาจก่อให้เกิดกลิ่นกายที่คล้ายกับกลิ่นคนแก่ได้...

เสื้อผ้าที่ใส่ไม่สะอาด อาจดูดซับและกักเก็บกลิ่นไม่พึงประสงค์ จนก่อให้เกิดกลิ่นที่คล้ายกลิ่นคนแก่ได้

กลิ่นตัวคนแก่ อาจเกิดจากการรับประทานอาหารและยาบางชนิด เช่น กระเทียมหรือหัวหอม อาจทำให้กลิ่นตัวเปลี่ยนไป จนกลายเป็นกลิ่นเฉพาะตัวที่คล้ายกับกลิ่นคนแก่

สภาวะสุขภาพพื้นฐาน เช่น โรคเบาหวานหรือโรคตับ สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของกลิ่นตัวได้ ในบางคนอาจมีกลิ่นคล้ายกลิ่นคนแก่

หากใครเคยอยู่กับคุณปู่ คุณย่า คงเคยได้กลิ่นกันมาบ้างแล้ว จะว่าเหม็นก็ไม่ใช่ หอมก็ไม่เชิง แต่เราเรียกว่ากลิ่นคนแก่ วันนี้ “เดลินิวส์ออนไลน์”นำวิธีป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นคนแก่มาฝากกัน

วิธีป้องกันการเกิดกลิ่นแก่

งดสูบบุหรี่ บุหรี่เป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มสารอนุมูลอิสระให้แก่ร่างกาย เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้แย่ลง ส่งผลเสียเกิดการสะสมของเสียในร่างกายเพิ่ม กลิ่นเหม็นตามต่อมผิวหนังต้องขับออกมามากกว่าเดิม

ลดเนื้อสัตว์และไขมัน ไขมันในเนื้อสัตว์จะกระตุ้นให้ต่อมผลิตไขมันขับความมันส่วนเกินออกมามากขึ้น 1 ใน 3 ตัวการหลักของสูตรเกิดกลิ่นแก่ นอกจากนี้แนะนำให้เลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงทุกประเภทเพื่อลดการเกิดกลิ่น รวมไปถึงช่วยให้สุขภาพร่างกายดีขึ้นเช่นกัน

ออกกำลังกาย อาจตรงข้ามกับที่แนะนำไปก่อน เพราะวิธีนี้คือการสนับสนุนให้ร่างกายเหงื่อออกมากกว่าเดิม แต่เป็นเฉพาะเวลา โดยการออกกำลังกายจะช่วยให้ต่อมเหงื่อขยายและขับของเสียออกไป ลดสาเหตุการสะสมของเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรก

อาบน้ำร้อน การอาบน้ำร้อนจะช่วยให้รูขุมขนขยาย พาเหงื่อและสิ่งสกปรกไหลไปพร้อมกับน้ำ รวมถึงสมัยนี้ก็มีผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นสูงอายุ ก็สามารถใช้ควบคู่ไปได้

เช็ดเหงื่อบ่อยๆ โดยทิชชูเปียกที่ระงับกลิ่นได้ เป็นการตัดวงจรกลิ่นแก่ที่ง่ายที่สุด

ลองไปทำตามกันดู หากได้ผลอย่างไรก็บอกกันได้ค่ะ


ลอสแองเจลิสประกาศเป็น "เขตปลอดภัย" สำหรับผู้อพยพ

สภานครลอสแองเจลิสลงมติเป็นเอกฉันท์ว่าด้วยกฎหมาย "เมืองปลอดภัย" เพื่อปกป้องผู้อพยพที่อาศัยอยู่ในเมือง ซึ่งเป็นจุดยืนที่ขัดแย้งต่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่

ลอสแองเจลิส เมืองใหญ่เป็นอันดับสองของสหรัฐฯ กำลังเตรียมรับมือกับความขัดแย้งกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเรื่องผู้อพยพ โดยสภานครลอสแองเจลิสได้ผ่านกฎหมาย "เมืองปลอดภัย" เพื่อห้ามใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นเพื่อช่วยเหลือหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลาง คาดว่ากฎหมายดังกล่าวจะได้รับการลงนามจากคาเรน บาสส์ นายกเทศมนตรีนครลอสแองเจลิส

กฏหมายดังกล่าวมีขึ้นเสริมสร้างให้เมืองและโรงเรียนต่างๆ เป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับผู้อพยพและเยาวชนกลุ่ม LGBTQ เนื่องจากเมืองนี้พร้อมที่จะต่อต้านนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐานและเพศสภาพอย่างแข็งกร้าว

ทรัมป์ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในอีก 2 เดือนข้างหน้า ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะเนรเทศคนจำนวนมากทันทีที่เขากลับเข้าทำเนียบขาว โดยนายทิม โฮแมน ที่ทรัมป์เลือกให้ทำหน้าที่เป็น "ผู้ควบคุมชายแดน" ได้เรียกร้องให้เมืองต่างๆ ที่เป็นสถานพักพิงของผู้อพยพ "หลีกทาง" จากการปราบปรามผู้อพยพของรัฐบาลกลาง

คำว่า "เมืองที่เป็นสถานหลบภัย" เป็นที่นิยมในสหรัฐฯ มานานกว่าทศวรรษแล้ว เพื่ออธิบายสถานที่ที่จำกัดความช่วยเหลือให้กับหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลาง เนื่องจากไม่ใช่คำศัพท์ทางกฎหมาย เมืองต่างๆ จึงใช้แนวทางต่างๆ มากมายเพื่อให้กลายเป็น "สถานหลบภัย" เช่น การกำหนดนโยบายในกฎหมาย หรือเพียงแค่เปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในท้องถิ่น

ตามรายงานของ NBC News Los Angeles กฎหมายสถานหลบภัยของสภาเมือง ซึ่งมีเป้าหมายที่จะทำให้คำสั่งฝ่ายบริหารในปี 2019 เป็นกฎหมายของเมือง ห้ามมิให้ใช้ทรัพยากรของเมืองในการบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง รวมถึงการให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลาง

นิตยา รามัน สมาชิกสภา กล่าวกับซีบีเอส นิวส์ ก่อนการลงคะแนนเสียงว่า กฎหมายดังกล่าวจะป้องกันไม่ให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลางสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกของเมือง หรือใช้ทรัพยากรของเมืองในการบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง

กฎหมายดังกล่าวจะห้ามไม่ให้มีการแบ่งปันข้อมูลบางอย่างระหว่างหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองกับเจ้าหน้าที่และหน่วยงานของเมือง

เจ้าหน้าที่ในเมืองอื่นๆ หลายแห่ง รวมทั้งบอสตันและนิวยอร์ก ให้คำสัญญาในทำนองเดียวกันว่าจะไม่จัดสรรทรัพยากรในท้องถิ่นเพื่อช่วยเหลือในประเด็นการบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลาง

ตั้งแต่ทรัมป์ได้รับเลือกตั้งเป็นครั้งแรก เขตการศึกษาหลายสิบแห่งได้ประกาศตนเองเป็น "สถานที่ปลอดภัย" หรือ "สถานที่ปลอดภัย" เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักเรียนว่าจะไม่ถูกเนรเทศ

เขตการศึกษาลอสแองเจลิส ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนที่ติดกับเม็กซิโกประมาณ 225 กม. ยังได้ลงคะแนนเสียงในมติฉุกเฉินชุดหนึ่งที่มุ่งเป้าไปที่การต่อสู้กับประเด็นที่นางแจ็กกี้ โกลด์เบิร์ก ประธานคณะกรรมการการศึกษา ระบุว่าเป็นการต่อต้านผู้อพยพและ LGBTQ ของประธานาธิบดีคนใหม่

นอกจากจะกำหนดนโยบายคุ้มครองนักเรียนและครอบครัวภายในเขตการศึกษาใหม่แล้ว มติดังกล่าวยังเรียกร้องให้มีการฝึกอบรมครูและเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับวิธีการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองอีกด้วย การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะทำให้ลอสแองเจลิสมีท่าทีขัดแย้งกับรัฐบาลทรัมป์ชุดใหม่ ซึ่งได้ให้คำมั่นว่าจะเริ่มดำเนินการเนรเทศผู้อพยพครั้งใหญ่ตั้งแต่เริ่มต้นการบริหารงาน

ทอม โฮแมน อดีตผู้อำนวยการรักษาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร ซึ่งทรัมป์เลือกให้เป็น "ผู้ควบคุมชายแดน" กล่าวว่าการกำหนดเมืองให้เป็น "เมืองปลอดภัย" จะไม่ขัดขวางรัฐบาลในการบรรลุเป้าหมายนโยบายตรวจคนเข้าเมือง.

ที่มา BBC


ตะลึง "กล้วยติดเทปกาว" งานศิลปะสุดแหวกแห่งปี ถูกประมูลสูงกว่า 201 ล้านบาท

ผลงานศิลปะ "Comedian" หรือที่รู้จักกันในชื่อ กล้วยติดเทปกาว งานศิลปะสุดแหวกแห่งปี ถูกประมูลไปในราคาสูงถึง 6.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 201 ล้านบาท ในการประมูลที่นครนิวยอร์กเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

สำหรับผลงานศิลปะชิ้นนี้ เป็นผลงานของ ศิลปินชาวอิตาลี เมาริซิโอ คัตเตลาน ซึ่งกลายเป็นกระแสเมื่อเปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 ที่งาน Art Basel Miami Beach โดยผู้เข้าร่วมงานพยายามจะตีความว่า กล้วยสีเหลืองชิ้นเดียวที่ติดกับผนังสีขาวด้วยเทปกาวเงินนั้นเป็นเรื่องตลก หรือเป็นการแสดงความคิดเห็นที่เสียดสีมาตรฐานของผู้สะสมงานศิลปะ โดยเคยมีศิลปินคนอื่นมาแกะเอากล้วยออกจากผนังและกินมันไปแล้ว แต่ผู้จัดก็นำกล้วยลูกใหม่มาติดแทน

นับว่าผลงานชิ้นนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก จนต้องถอดออกจากการจัดแสดง แต่ทางแกลลอรียังคงมีการขายผลงานในรูปแบบสำเนาจำนวนสามชิ้นในราคาตั้งแต่ 120,000 ถึง 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในเวลานั้น

จนกระทั่งวันนี้ หลังจากที่ผ่านมา5 ปี สำนักประมูลซอเธอบีส์ได้นำกลับมาประมูลอีกครั้ง โดยผู้ที่ซื้องานศิลปะชิ้นนี้ จะได้ใบรับรองสิทธิ์ในการติดกล้วยกับผนังและเรียกมันว่า "Comedian"ได้ โดยสามารถเปลี่ยนกล้วยลูกใหม่ได้ตามต้องการ

ทั้งนี้ มีรายงานว่าการประมูลเริ่มต้นที่ 800,000 ดอลลาร์ หรือราว 27 ล้านบาท และภายในไม่กี่นาทีมูลค่าก็พุ่งสูงหลายเท่าตัว จนเคาะราคาอยู่ที่ 5.2 ล้านดอลลาร์ ซึ่งยังไม่รวมค่าธรรมเนียมของสำนักประมูลอีก 1 ล้านดอลลาร์ ซึ่งผู้ซื้อจะต้องจ่ายรวมทั้งสิ้น 6.2 ล้านดอลลาร์หรือกว่า 201 ล้านบาท โดยมีรายงานว่าผู้ที่ชนะประมูลคือ จัสติน ซัน นักสะสมชาวจีนและผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มสกุลเงินดิจิทัล TRON.

ที่มา : เอพี


ดาวเด่นแห่งสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ‘น้องหมูเด้ง’

ขวัญใจโซเชียลที่มาแรงในตอนนี้ สำหรับ “น้องหมูเด้ง ฮิปโป” ซูเปอร์สตาร์ของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี โดย น้องหมูเด้ง ซึ่งหลายคนบอกว่าทั้งรูปลักษณ์และพฤติกรรมของน้องนั้น “เด้ง” สมชื่อ ด้วยความซุกซนตามประสาเด็ก ทำให้วิ่งดุ๊กดิ๊กทั้งวัน

“น้องหมูเด้ง” เป็นลูกฮิปโปโปเตมัสแคระ เพศเมียจำนวน 1 ตัว เกิดเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 จากแม่ชื่อโจน่า อายุ 25 ปี พ่อชื่อโทนี่ อายุ 24 ปี โดยทางสัตวแพทย์ประจำสวนสัตว์ได้ตรวจสุขภาพพบว่าแม่และลูกฮิปโปโปเตมัสแคระนั้นมีสุขภาพแข็งแรงดีแล้ว ขยับตัวเดินไปมา เดินคลอเคลียไม่ห่างแม่ จึงได้ปล่อยให้อยู่รวมกันแต่ระยะนี้แม่ยังหวงลูกอยู่ โดยจะคอยเฝ้ามองไม่ให้เจ้าหน้าที่เลี้ยงสัตว์เข้าไปใกล้

พฤติกรรมหนึ่งของหมูเด้งที่แฟนคลับสังเกตคือ การกินมูลหรืออึของแม่ ตามมาด้วยความสงสัยว่าเพราะอะไรทำไมต้องกินด้วย? คำตอบก็คือ ลูกฮิปโปมักจะกินมูลของแม่ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่พบได้ทั่วไป ลูกฮิปโปเกิดมาพร้อมกับระบบย่อยอาหารที่ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งยังขาดแบคทีเรียที่ช่วยย่อยอาหารประเภทไฟเบอร์จากพืช การกินอึของแม่จึงเป็นการรับเอาแบคทีเรียที่จำเป็นเข้าสู่ระบบย่อยอาหาร ปรับลำไส้ ทำให้สามารถย่อยพืชที่เป็นอาหารหลักได้ดีขึ้น พฤติกรรมนี้ช่วยให้ลูกฮิปโปเปลี่ยนจากการกินนมแม่มาเป็นการกินพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพและพัฒนาระบบการย่อยอาหารตามวัย การกินอึหรือมูลของตัวเอง (และของตัวอื่น) เรียกว่า oprophagy ซึ่งพฤติกรรมนี้พบในสัตว์หลายชนิด โดยเฉพาะสัตว์ที่มีระบบย่อยอาหารซับซ้อน เช่น กระต่าย

และห้ามพลาดสินค้าของหมูเด้ง นายณรงวิทย์ ชดช้อย ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว เปิดเผยว่า จากกระแสกางเกงกะปิปลาร้า ทำให้เราได้คิดผลิตกางเกงหมูเด้งขึ้นมา สำหรับหมูเด้งนั้นเป็นดาราซูเปอร์สตาร์ของสวนสัตว์อีก 1 ชนิด ตอนนี้ทางสวนสัตว์เปิดเขาเขียวกำลังเปิดไลน์ผลิตกางเกงหมูเด้งจำนวน 500 ตัว เมื่อผลิตเสร็จแล้วจะนำออกมาจัดจำหน่ายให้กับแฟนคลับน้องหมูเด้ง ส่วนเรื่องราคานั้นยังไม่กำหนดรอผลิตเสร็จจึงจะสามารถกำหนดราคาได้ และพร้อมวางจำหน่ายให้กับแฟนคลับน้องหมูเด้ง....