ครบเครื่อง
ญ. อมตะ



ครบเครื่อง ญ.อมตะ 21 สิงหาคม 2564

แพลตฟอร์มฝีมือสตาร์ตอัพไทย

เพื่อสร้างความมั่นคงยกระดับเกษตรกรรมไทย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA จึงส่งเสริมสตาร์ตอัพในประเทศ สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อการเกษตรแก้ปัญหาให้เกษตรกร

3 สตาร์ตอัพ ผู้พัฒนา “ดีพเทค” ด้านเกษตรกรรมที่สามารถช่วยเกษตรกรให้รอดพ้นจากสภาพปัญหาความไม่แน่นอน

โครงการระบบวิเคราะห์การเจริญเติบโตของอ้อยด้วยโดรนแบบ TAILSITTER โดย บริษัท เอชจี โรโบติกส์ จำกัด ช่วยให้เกษตรกรสามารถตรวจสอบจุดที่อ้อยล้มและไม่เจริญเติบโตได้ เนื่องจากไร่อ้อยมีจำนวนมาก ใช้แรงงานคนตรวจสอบไม่ทั่วถึง รวมถึงตรวจสอบปัญหาที่เกษตรกรไม่สามารถทำได้ด้วยตาเปล่า ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลจากภาพถ่ายโดรนที่มีความละเอียดสูง ทำให้สามารถวิเคราะห์ปัญหาที่ส่งผลให้อ้อยเจริญเติบโตได้ไม่ดีพอ ตรวจหาบริเวณที่อ้อยล้ม หรือไม่เจริญเติบโต เพื่อปลูกทดแทน

ระบบบริหารจัดการการเพาะปลูกข้าวแบบรวมกลุ่มด้วยดิจิทัลเทคโนโลยีและภาพถ่ายจากดาวเทียม ของ บริษัท ลิสเซินฟิลด์ จำกัด เป็นแอปพลิเคชันฟาร์มเอไอ-เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ ตรวจสอบสภาพดินผ่านระบบฟาร์ม AI ในนาข้าว เพื่อหาว่าดินในที่นาแต่ละแปลงต้องปรุงดินอย่างไรให้เหมาะสม

พร้อมกับมีการเก็บบันทึกข้อมูลรวมถึงจัดทำโมเดล วิเคราะห์และพยากรณ์สภาพอากาศ ประเมินประสิทธิภาพการเจริญเติบโตแบบอัตโนมัติ วิเคราะห์ข้อมูลกรณีฝนทิ้งช่วง และปริมาณน้ำในดินจากน้ำฝน มีระบบการเตือนอัตโนมัติในพื้นที่ที่การเจริญเติบโตต่ำด้วยระบบ AI ช่วยให้เกษตรกรมีข้อมูลมากพอสำหรับนำไปวางแผนเพาะปลูกข้าวได้อย่างเหมาะสม ดีกว่าคาดคะเนจากประสบการณ์ของตัวเกษตรกรเอง ระบบมีการเก็บและรายงานข้อมูลผ่านบน Web Dashboard สำหรับให้วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ เกษตรจังหวัดได้เข้า ไปใช้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการปลูกข้าว เพื่อนำไปวางแผนในการเพิ่มผลผลิตและมูลค่าได้

แอปพลิเคชัน ใบไม้-รีคัลท์ แอปพลิเคชันที่จะช่วยเกษตรกรจัดการกระบวนการเพาะปลูกอย่างครบวงจรของ บริษัท รีคัลท์ ประเทศไทย จำกัด เป็นแอปฯฟรีที่ช่วยให้เกษตรกรวางแผนการเพาะปลูกตั้งแต่ต้นทาง เริ่มจากการเช็กปริมาณฝน สามารถคำนวณได้ล่วงหน้านานกว่า 9 เดือน วิเคราะห์ปัญหาในแต่ละช่วงฤดู ไปจนถึงกระบวนการเก็บเกี่ยวและขายผลผลิต.


พลังบุญ..พระในบ้าน เพิ่มอานิสงส์ล็อกดาวน์

“ค่าของคนมิได้นับเพราะทรัพย์มาก หรือนับจากรูปลักษณ์สมศักดิ์ศรีหากเกิดแต่คุณงามและความดี ผลงานที่จรรโลงให้โลกไพบูลย์”

...“อย่าดูหมิ่น บาปกรรม ว่าทำน้อย น้ำหยดบ่อยลงกระถางเต็มอ่างได้ แม้บาปกรรมทำบ่อยบ่อยน้อยเมื่อไร ท่วมทับใจ โง่งม สั่งสมกรรม”

“เร่งช่วยตัว ดีกว่า อย่าร้องแย่ หาทางแก้ ได้คล่อง ต้องขยันสะสมทรัพย์ ทับทวี ดีทุกวัน เงินป้องกัน โรคแย่ แน่จริงๆ”

ธรรมะสะท้อนชีวิตสัตว์โลก ติดไว้ในหลากหลายมุมภายในบรรยากาศอันร่มรื่น “วัดจินดามณี” ตำบลบ้านแป้ง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี

กระนั้นแล้วแม้ว่า “สัตว์โลก” ย่อมเป็นไปตาม “กรรม” แต่ไม่น้อยหลายชีวิตก็ยังหิ้วติดอยู่กับกิเลสไม่กลัวกรรมจะตามทัน

“ความเชื่อ” ของ “มนุษย์” คือการยอมรับ ว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นจริง บางครั้งความเชื่อก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีเหตุผลประกอบ อย่างที่เราๆท่านๆหลายคนเชื่อในเรื่องฤกษ์ยาม วันเวลาตกฟาก เครื่องรางของขลัง

...“ปาฏิหาริย์” สิ่งยึดเหนี่ยวตามที่ต่างๆที่ให้ “คุณ” แก่ตนได้

เชื่อกันว่า...ทำบุญไหว้พระ ถวายพวงมาลัย ดอกไม้ ธูปเทียนบูชา หากตายไปแล้วเกิดชาติหน้าก็จักอุดมด้วยลาภยศ ชื่อเสียง

มีโอกาสได้ทำบุญ...สร้างโบสถ์ สร้างวิหารสืบต่อพระศาสนา เกิดชาติหน้าจะมีวาสนา บารมีมากมายเหลือคณา หรือทำบุญสวดมนต์ ก็มีความเชื่อกันว่าจะทำให้มีสติปัญญาแหลมคมทำบุญน้ำมันตะเกียง...จะทำให้ชีวิตโชติช่วง ชัชวาล เจริญรุ่งเรือง มีชื่อเสียงโด่งดังดั่งเปลวไฟ...คิดพิมพ์หนังสือธรรมะแจกเป็นธรรมทาน เกิดชาติหน้าว่ากันว่าจะมีบารมีวาสนา มีชีวิตความเป็นอยู่สุขสมบูรณ์พร้อมสรรพ

“บุญ” คือการกระทำดีตามหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา ความเชื่อเกี่ยวกับบุญทำให้เราๆท่านๆทำบุญมากขึ้นหรือน้อยลงอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับศรัทธาในหัวใจของผู้ใจบุญแต่ละคน

“คนเราทุกวันนี้ดิ้นรนไขว่คว้าหาสิ่งที่ไม่มีและสุดท้ายทุกคนก็จะได้สิ่งเดียวกันคือไม่ได้อะไรเลย”...“คนชอบนินทาคือคนที่ชอบกินของเน่า ถ้าเราร่วมผสมโรงไปกับเขา แสดงว่า...เราเองก็ชอบกินของเน่าไม่เบาเหมือนกัน”

...“รู้จักปลง รู้จักปลด รู้จักปล่อยวาง รู้จัก ไม่ยึดมั่นถือมั่น มันจึงจะทำให้มีความสุขอยู่ในโลกนี้ได้”...“การเมืองบริสุทธิ์คือศีลธรรม การเมืองระยำคือการต่อสู้แย่งชิง...เสียงประชาชนมิใช่เสียงสวรรค์เสมอไป เป็นเสียงนรกก็ได้เมื่อไร้ศีลธรรม”

คัดลอกมาจากเฟซบุ๊ก “คู่มือมนุษย์” พุทธทาสภิกขุ

“หลวงพ่อทองคำ” ที่ “วัดไทรใหญ่” อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ที่ผ่านมาเป็นอีกจุดสำคัญที่ผู้คนมากมายต่างมุ่งหวังตั้งใจแวะเวียนมาสักการบูชาขอพร เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก ใครมาขอพร บนบาน ศาลกล่าวในเรื่องใด ก็มักจะสมหวังทุกประการ สิ่งของที่นำมาเป็นเครื่องแก้บนก็จะมีถวายช้างม้า บวช ถวายละครรำ

ลัดเลาะไปเรื่อยๆทอดสะพานบุญเสริมดวงกันไปตามกำลังศรัทธา ร่วมบริจาค ปิดทองฝังลูกนิมิต บริจาคทุนการศึกษาให้เด็กที่เรียนดีแต่ฐานะยากจน...ตั้งจิตอธิษฐานลอดอุโบสถตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า...

“สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ”

ด้วยเดชะพระรัตนตรัยอำนวยอวยชัยให้ข้าพเจ้ารอดจากทุกข์ โศก โรคภัย เคราะห์กรรม และศัตรูหมู่มาร ขอท้ายเทวามหาราช เจ้าที่ แม่ธรณี จงเป็นสักขีพยานด้วยเถิด

หล่อเทียนพรรษา...ทำบุญตะข้องแก้เคล็ด ตัดขัด ขัดข้อง เรื่องการเงิน การงาน ความรักและเรื่องอื่น แก้ด้วยการทำบุญใส่ตะข้อง จะทำให้พ้นผ่านอุปสรรคนั้น...

ขอพร “รุกขเทวี...แม่ตะเคียนทอง” จุดธูป 7 ดอก ตั้งนะโม 3 จบ...โอมรุกขเทวี ศรีมงคลชัย แม่ศรีศิริโชค ตะเคียนทอง อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ เอหิ เอหิ ปิยัง มะมะ สวด 3 จบ

ยุคไวรัสร้าย “โควิด-19” ระบาดหนัก ล็อกดาวน์พื้นที่สีแดงห้ามเดินทางออกจากบ้านรวมพลังเพื่อหยุดเชื้อเพื่อชาติ ไม่ได้ไปทำบุญนอกบ้านก็ถือว่าเป็นโอกาสดีที่เราๆท่านๆจะได้ “ทำบุญกับพระในบ้าน”

...เป็นอีกเรื่องสำคัญ ด้วยว่าเมื่อทำบุญนอกบ้านแล้วก็อย่าลืมสั่งสมบุญกับพระในบ้านท่านด้วย ด้วยทั้ง “พ่อ”...“แม่”...ครอบครัวของเรานั้นสำคัญยิ่ง เป็นผู้มีพระคุณสุดที่จะประมาณได้ ทั้งเลี้ยงดู เอาใจใส่ เกื้อหนุน ส่งเสริมคู่ขนานไปกับเส้นทางชีวิตของเราอยู่ทุกวี่วัน

ทำบุญกับพระในบ้านก็คือ การเลี้ยงดูพ่อแม่ ครอบครัวให้อยู่เย็นเป็นสุข ทำบุญกับผู้มีพระคุณของเรา คนที่ช่วยเหลือเกื้อกูลเรา อาจจะด้วยเงินทอง ความรู้ ประสบการณ์ มุมมองชีวิตให้กับเรา

แน่นอนว่า...เมื่อมีโอกาสเราก็ควรตอบแทนผู้มีพระคุณเหล่านั้น อย่าได้รีรอ ทำบุญกันไปตามกำลังที่เรามี ทำไปหลายๆอย่าง อย่างต่อเนื่อง...คำสอนตามหลักพระพุทธศาสนาว่าไว้ ในอดีตพระพุทธเจ้า แม้ได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้วก็ยังไม่ลืมที่จะโปรดพระราชมารดาและพระราชบิดาของพระองค์เอง

พระองค์ได้กล่าวถึงการทำบุญ 3 อย่างนี้ว่าดีแล้ว...การทำบุญที่ดีนั้นควรถึงพร้อม 3 ขณะ ตั้งแต่คิด...ขณะทำ ...และหลังจากทำแล้ว ใจต้องผ่องใส อิ่มใจ ...สดชื่น

“บุญ” จึงจะมีกำลังในการส่งผลได้ดี

“ใครรักเรามากที่สุด ไม่ว่าเราจะเป็นอย่างไร ใครที่คอยเป็นห่วงเรามากที่สุด นี่คือความรัก ที่แท้จริงยั่งยืน สุดจะเปรียบได้...เมื่อบุตรผู้กตัญญูได้ดูแลเลี้ยงดูปรนนิบัติ ทำสิ่งต่างๆให้...ด้วยใจบริสุทธิ์ แล้วใยเล่าจะไม่ได้พรอันประเสริฐจากพ่อแม่ที่เราได้ปรนนิบัติ”

“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.


อลังการ..ช้างป่า-กระทิง รวมตัวออกหากินในอุทยานแห่งชาติกุยบุรี หลังปิดเพราะโควิด

'ความอลังการจากการรวมตัว...ช้างป่าและกระทิงรวมตัวกันออกหากินในทุ่งหญ้าเป็นจำนวนมาก'

เพจประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผย ความอลังการจากการรวมตัว...ช้างป่าและกระทิงรวมตัวกันออกหากินในทุ่งหญ้าเป็นจำนวนมาก

อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับการขนานนามว่า KUIBURI SAFARI เมืองไทย และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่นิยมชมสัตว์ป่า ประเภทช้าง และกระทิง ทุกวันนี้ผืนป่ากุยบุรีที่มีความอุดมสมบูรณ์ แปลงหญ้าแต่ยอดอ่อนเขียวขจี ต้นไม้แตกใบใหม่ ให้สัตว์ป่าได้กินเป็นอาหาร ทำให้ทุกวันพบปริมาณสัตว์ป่าทั้งช้างและกระทิงกลับมาหาหินตามแปลงหญ้าและจุดชมสัตว์ป่าต่างๆเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีจะมีการจัดเก็บข้อมูลในทุกวันเพื่อนำไปสู่การวางแผนการบริหารจัดการด้านการอนุรักษ์รวมถึงการท่องเที่ยวในพื้นที่อีกด้วย....

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2564 เป็นต้นมา เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อุทยานแห่งชาติกุยบุรีจึงได้มีการประกาศปิดการท่องเที่ยวและพักแรมทุกแห่งในพื้นที่จนกว่าสถานการณ์จะเป็นปกติ นักท่องเที่ยวสามารถติดตามข้อมูลได้ที่เพจ : อุทยานแห่งชาติกุยบุรี - Kui Buri National Park.


ทีมวิจัยวิเคราะห์ความทนทานของกลุ่มหินสโตนเฮนจ์

ในปี พ.ศ.2501 โรเบิร์ต ฟิลลิปส์ ตัวแทนของบริษัทขุดเจาะที่ช่วยบูรณะสโตนเฮนจ์ (Stonehenge) ได้นำแกนทรงกระบอกหลังจากที่เจาะจากเสาหินที่เรียกว่า Stone 58 ของสโตนเฮนจ์ ต่อมาเมื่อเขาย้ายไปอยู่สหรัฐอเมริกาก็นำแกนหินดังกล่าวไปด้วย แต่เนื่องจากสโตนเฮนจ์ได้รับการคุ้มครองสถานะ ชิ้นส่วนนั้นจึงได้ถูกส่งคืนกลับมาหลังผ่านไป 60 ปี ทำให้นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยไบรท์ตัน ในอังกฤษ เลยได้มีโอกาสวิเคราะห์ทางธรณีเคมีของเสาสโตนเฮนจ์

ทีมวิจัยพบว่าหินสูงตระหง่านของสโตนเฮนจ์ หรือหิน “ซาร์เซน” (Sarsen) ทำจากหินที่มีตะกอนซึ่งก่อตัวขึ้นเมื่อช่วงไดโนเสาร์เดินท่องโลก หลังจากตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือซีทีสแกนที่หิน ใช้กล้องจุลทรรศน์ต่างๆ ส่องวิเคราะห์ตะกอนและเคมีของหิน นักวิจัยเผยว่าเม็ดทรายบางเม็ดที่ฝังอยู่ในหินดังกล่าวมีอายุเก่าแก่ตั้งแต่สมัยมหายุคมีโซโพรเทอโรโซอิก (Mesoproterozoic) ช่วงราวๆ 1,000 ล้านถึง 1,600 ล้านปีก่อน เมื่อมองผ่านกล้องจุลทรรศน์ที่ชิ้นบางๆของหินซาร์เซนจาก Stone 58 ก็ชวนประหลาดใจที่พบว่าหินนั้นเป็นควอตซ์ถึง 99.7%

นักวิจัยอธิบายเกี่ยวกับการยึดเกาะกันของควอตซ์ ว่าการจับตัวของเม็ดควอตซ์ขนาดละเอียดถึงปานกลางได้ก่อตัวเป็นผลึกหินประสานกัน ทำให้หินมีความทนทานมากขึ้น และนี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้สร้างสโตนเฮนจ์จึงเลือกหินประเภทนี้สำหรับสร้างเป็นอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่เมื่อหลายพันปีก่อน.