"พาสปอร์ต" (หนังสือเดินทาง) เอกสารสำคัญที่ใช้ยืนยันตัวตน เมื่อต้องเดินทางไปต่างประเทศ แต่เมื่อพาสปอร์ตหมดอายุ หลายคนอาจสงสัยว่าต้องทำอย่างไรดี สามารถต่ออายุพาสปอร์ตได้ไหม หรือต้องไปทำพาสปอร์ตใหม่เลย ไทยรัฐออนไลน์ นำรายละเอียดและขั้นตอนน่ารู้มาฝากกัน
พาสปอร์ตหมดอายุกี่ปี ต้องดูตรงไหน?
เมื่อเปิดพาสปอร์ตหน้าแรก ก็จะเห็นหน้าข้อมูลส่วนบุคคล ที่ระบุข้อมูลส่วนตัวและรูปถ่ายประจำตัว ซึ่งในหน้านี้จะมีการระบุ "วันที่หมดอายุ" ไว้ด้วย สามารถสังเกตวันหมดอายุของพาสปอร์ตได้จากส่วนนี้เลย ซึ่งพาสปอร์ตของแต่ละคน ก็อาจมีระยะเวลาใช้งานที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับตอนที่ไปทำพาสปอร์ตว่ายื่นคำร้องขอทำแบบมีอายุ 5 ปี หรือ 10 ปี
พาสปอร์ตหมดอายุนานแล้ว ต่อได้ไหม ปี 2568
พาสปอร์ตไทยไม่สามารถต่ออายุได้ ต้องทำใหม่เท่านั้น ไม่ว่าพาสปอร์ตจะหมดอายุเกิน 1 ปี หรือ 10 ปีก็ตาม จะต้องนำบัตรประชาชนและพาสปอร์ตเล่มเดิม (ถ้ามี) และยื่นคำร้องขอทำพาสปอร์ตเล่มใหม่ได้ ณ กรมการกงสุล หรือสำนักงานหนังสือเดินทางศูนย์ต่างๆ ที่ให้บริการ
พาสปอร์ตหมดอายุ ต้องต่อภายในกี่วัน?
เมื่อพาสปอร์ตหมดอายุ ไม่จำเป็นต้องไปทำใหม่ทันที และไม่ได้มีระยะเวลากำหนดว่าต้องไปทำใหม่ภายในกี่วัน แต่โดยทั่วไปแล้วเมื่อเห็นว่าพาสปอร์ตหมดอายุ ก็สามารถไปยื่นคำร้องขอทำใหม่ได้เลย เผื่อไว้ในกรณีที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศแบบฉุกเฉิน
ปัจจุบันสามารถจองคิวทำพาสปอร์ตออนไลน์ได้ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์ของกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ที่ www.qpassport.in.th > จองคิว > เลือกว่าต้องการทำพาสปอร์ตในประเทศไทย หรือต่างประเทศ > กรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนตัวให้ครบถ้วน > เลือกสถานที่ วัน และเวลา ที่ต้องการไปทำพาสปอร์ต > ยืนยันข้อมูล
พาสปอร์ตหมดอายุ เล่มเก่าหาย ต้องทำอย่างไร?
อัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับการทำพาสปอร์ตปี 2568 หากพาสปอร์ตหาย ไม่ต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจแล้ว แต่สามารถไปขอทำพาสปอร์ตเล่มใหม่ได้เลย ใช้เอกสารเพียงบัตรประชาชน (บุคคลที่อายุมากกว่า 20 ปี)
พาสปอร์ตหมดอายุ ใช้เอกสารอะไรบ้าง?
ผู้บรรลุนิติภาวะ (อายุ 20 ปีขึ้นไป)
บัตรประชาชน
พาสปอร์ตเล่มเดิม (ถ้ามี)
ผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ (อายุต่ำกว่า 20 ปี)
บัตรประชาชนบิดา/บัตรประชาชนมารดา
พาสปอร์ตบิดา/พาสปอร์ตมารดา
สูติบัตร
บัตรประชาชน
พาสปอร์ตเล่มเดิม (ถ้ามี)
ทีมผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นพัฒนา "เลือดเทียม" ซึ่งเป็นความหวังสำคัญให้กับวงการแพทย์ในอนาคต สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ว่าคณะนักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยการแพทย์นาราของญี่ปุ่น เผยแพร่ผลงานวิจัย ซึ่งเป็นความก้าวหน้าในการพัฒนาเลือดเทียม ( synthetic blood ) ชนิดใหม่ ที่สามารถใช้ได้กับผู้ป่วยไม่ว่าจะมีกรุ๊ปเลือดใดก็ตาม โดยไม่จำเป็นต้องทำการจับคู่กรุ๊ปเลือดก่อน ถือเป็นความห้าวหน้าครั้งสำคัญในนวัตกรรมทางการแพทย์ และจะเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะกับพื้นที่ห่างไกล หรือในยามเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
เลือดเทียมดังกล่าวไม่ได้มีสีแดงอ่อนหรือแดงเข้มเหมือนเลือดปกติ ซึ่งบ่งบอกถึงปริมาณออกซิเจน แต่เป็น “สีม่วง” ซึ่งเป็นผลจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของฮีโมโกลบิน จากเลือดที่หมดอายุ แล้วนำไปสกัดและบรรจุในเยื่อหุ้มไขมันสังเคราะห์ ซึ่งเป็นการเลียนแบบโครงสร้างของเม็ดเลือดแดงปกติ และให้รักษาคุณสมบัติในการลำเลียงออกซิเจน
ทั้งนี้ เลือดเทียมสามารถเก็บรักษาในอุณหภูมิห้องได้นานถึง 24 เดือน แต่หากเก็บในสถานที่เย็นจัดอาจรักษาคุณภาพได้นานถึง 5 ปี มากกว่าเลือดจริงซึ่งมีอายุเพียง 42 วัน เมื่อเก็บรักษาในสถานที่เย็นจัด
อย่างไรก็ดี เทคโนโลยีการพัฒนาเลือดเทียมยังคงต้องมีการศึกษาและทดลองอีกหลายระยะ หลังมีการทดลองทางคลินิกระยะที่ 1 แล้ว เมื่อปี 2563.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES...
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญมั่นใจว่าโลกจะปลอดภัยจากการพุ่งชนของดาวเคราะห์น้อย ‘2024 YR4’ ซึ่งมีขนาดใหญ่พอที่จะทำลายล้างเมืองทั้งเมืองได้ แต่ดวงจันทร์ซึ่งเป็นบริวารของโลกกลับไม่แน่ว่าจะหนีพ้นการโดนชน ...
โอกาสที่ดาวเคราะห์น้อยจะพุ่งชนดวงจันทร์ของเรายังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่นักดาราศาสตร์มีโอกาสศึกษาหินอวกาศขนาดมหึมานี้
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา องค์การการบินและอวกาศแห่งสหรัฐหรือ ‘นาซา’ โพสต์ข้อความผ่านบล็อกของหน่วยงาน มีใจความว่า หลังจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์จับภาพดาวเคราะห์น้อย YR4 ในครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ข้อมูลที่ได้ในครั้งนี้ทำให้หน่วยงานอวกาศของสหรัฐสรุปได้ว่า มีโอกาสราว 4.3% ที่ดาวเคราะห์น้อย YR4 จะพุ่งชนดวงจันทร์ในปี ค.ศ. 2032 ...
แม้จะเป็นตัวเลขที่ดูเหมือนไม่สูงนัก แต่ต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริงว่า หลังจากที่ดาวเคราะห์น้อย YR4 ถูกค้นพบครั้งแรกในช่วงปลายปี ค.ศ. 2024 นั้น โอกาสที่ดาวเคราะห์น้อยจะพุ่งชนโลกก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนแตะระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ 3.1% และทำให้ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ได้รับความสนใจจากนักดาราศาสตร์และมีการเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ก่อนที่ในที่สุดจะตัดสินว่า ดาวเคราะห์น้อยนี้ไม่ใช่ภัยคุกคามต่อโลกของเราในระหว่างการโคจรผ่านโลกในอีก 7 ปีข้างหน้า
เนื่องจากดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ได้หลุดจากสายตาของเราไปแล้วในวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ของมัน การสังเกตการณ์ล่าสุดของเวบบ์จึงเป็นโอกาสสุดท้ายที่มนุษยชาติที่จะได้สังเกตดาวเคราะห์น้อย YR4 จนกว่ามันจะโผล่ขึ้นมาอีกครั้งในปี ค.ศ. 2028 ...
อย่างไรก็ตาม นาซากำลังวางแผนที่จะศึกษาดาวเคราะห์น้อยดวงนี้อีกครั้งในอีก 3 ปีข้างหน้า เมื่อมันโคจรกลับเข้ามาใกล้โลกอีกครั้ง
ที่มา : usatoday.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
แม้ ‘เมล็ดเจีย’ ซึ่งมีทั้งไฟเบอร์ กรดไขมันโอเมกา 3 และสารต่อต้านอนุมูลอิสระ จะได้ชื่อว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพหรือ ‘ซูเปอร์ฟูด’ แต่ถ้ากินแบบไม่ถูกวิธีก็อาจก่อให้เกิดอันตรายได้...
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับชายคนหนึ่งที่ได้ข้อมูลว่า การกินเมล็ดเจียเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เขาจึงตัดสินใจกลืนเมล็ดเจียลงไป 1 ช้อนโต๊ะก่อนจะดื่มน้ำตามไป 1 แก้ว
หลังจากนั้นไม่นาน คนไข้นิรนามรายนี้ก็ไม่สามารถกลืนอะไรได้เลย รวมถึงน้ำลายของตัวเองด้วย และจำต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน...
หลังจากตรวจอาการคนไข้ แพทย์พบว่ามีก้อนคล้ายเจลขนาดใหญ่ติดอยู่ที่หลอดอาหาร...
ก้อนเหนียวที่เกิดจากเมล็ดเจียโดนน้ำแล้วพองตัวในหลอดอาหารของคนไข้...
ก้อนอุดตันเกิดจากเมล็ดเจียซึ่งดูดซับน้ำจนพองขยาย เนื่องจากเมล็ดเจียสามารถดูดซับน้ำหรือของเหลวได้ในปริมาณมากกว่าน้ำหนักของมันเองถึง 12 เท่า เมื่อคนไข้ดื่มน้ำตามทันทีหลังจากกินเมล็ดเจียเข้าไป จึงทำให้มันกลายเป็นก้อนเหนียวข้นขนาดใหญ่ที่อุดตันหลอดอาหาร
“มันมีลักษณะเหนียวคล้ายดินน้ำมันสำหรับปั้นรูป มีความแข็งมากสำหรับสถานะของเหลว แต่ก็ค่อนข้างนิ่ม” ดร. รีเบกกา รอล แพทย์ที่ช่วยรักษาคนไข้รายนี้บอกกับผู้สื่อข่าว
ดร. รอลและทีมงานของเธอต้องใช้การผ่าตัดแบบส่องกล้องเพื่อนำก้อนเมล็ดเจียที่อุดตันออกมา
กรณีการรักษาคนไข้รายนี้ได้รับการเผยแพร่ในวารสาร American Journal of Gastroenterology เมื่อปีค.ศ. 2014
เนื่องจากเมล็ดเจียจะขยายตัวอย่างรวดเร็วหลังจากสัมผัสกับของเหลวหรือน้ำ วิธีที่ดีที่สุดในการบริโภคคือปล่อยให้มันพองตัวเสียก่อน ค่อยกินลงไป
วิธีที่นิยมรับประทานเมล็ดเจีย ได้แก่ การใส่เมล็ดเจียในอาหาร เช่น โยเกิร์ต โจ๊ก และสมูทตี้ ซึ่งจะทำให้เมล็ดเจียขยายตัวในของเหลวเหล่านี้ ซึ่งใช้เวลาไม่นานนัก ราว 10-20 นาที แล้วค่อยกินเข้าไป จะดีที่สุด...
ที่มา : ladbible.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, American College of Gastroenterology...
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.68 นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ร่วมกับสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ประเทศไทย ดำเนินการสำรวจต้นแม่น้ำเพชรบุรี ห่างจากพะเนินทุ่ง ไป 10 กิโลเมตร ในรอบครึ่งปีหลัง 2568 ใช้วิธีการโดยการล่องเรือยาง เป็นเวลา 4 วัน 3 คืน ตั้งแต่วันที่ 8-11 มิ.ย.68...
นายมงคล เปิดเผยต่อว่า ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันเก็บข้อมูลภาพสัตว์ป่าจากกล้องดักถ่ายภาพที่ติดตั้งไว้ พบว่า ผืนป่าแก่งกระจานยังคงอุดมสมบูรณ์ ยืนยันได้จากการพบสัตว์ป่าหลากหลายชนิด ทั้ง ช้างป่า เสือดาว สมเสร็จ และ นากเล็บสั้น โดยข้อมูลที่ได้พบในครั้งนี้ทำให้เราได้เห็นภาพหลักฐานของสิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่ที่อาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้ นอกจากจะเป็นข้อมูลทางวิชาการแล้ว ยังช่วยป้องกันพรานล่าสัตว์ได้อีกด้วย...
นายมงคล ยังย้ำอีกว่า กลุ่มป่าแก่งกระจาน ไม่ใช่แค่ป่าต้นน้ำสำคัญของแม่น้ำเพชรบุรีและแม่น้ำปราณบุรีเท่านั้น แต่ยังเป็น “บ้าน” ของสัตว์ป่ามากมายหลายชนิด นี่แหละคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้แก่งกระจานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ทั้งหมดนี้คือความสำเร็จของการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ความหลากหลายทางชีวภาพ ชนิดพันธุ์พืชและสัตว์ป่าที่มีคุณค่าระดับโลก. ...