ครบเครื่อง
ญ. อมตะ



วิธีการใหม่ ตรวจจับดาวเคราะห์นอกระบบ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบจำนวนมากที่โคจรรอบดาวฤกษ์ปกติเพียงดวงเดียว แต่การวิจัยใหม่จากทีมนักดาราศาสตร์ของมหาวิทยาลัยอิสระแห่งนูเอโว เลออง มหาวิทยาลัยอิสระแห่งชาติเม็กซิโก และมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก วิทยาเขตอาบูดาบี ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ชี้ว่าอาจมีข้อยกเว้นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พร้อมนำเสนอวิธีการใหม่ใช้ตรวจจับวัตถุที่พร่ามัว อย่าง ดาวเคราะห์ที่มีการโคจรรอบดาวคู่ที่เรียกว่า Cataclysmic Variables (CV) เป็นดาวแปรแสงชนิดหนึ่ง

CV คือระบบดาวคู่ที่มีดาว 2 ดวงอยู่ใกล้กันมากจนดาวที่มวลน้อยกว่า จะถ่ายโอนมวลไปยังดาวที่มีมวลมากกว่า โดยทั่วไปแล้ว CV จะประกอบขึ้นจากดาวฤกษ์ขนาดเล็กเย็นหรือดาวแคระแดง กับดาวฤกษ์ที่ร้อนและหนาแน่นคือดาวแคระขาว ดาวแคระแดงมีมวลระหว่าง 0.07-0.30 เท่าของมวลดวงอาทิตย์และมีรัศมีประมาณ 20% ของดวงอาทิตย์ ขณะที่ดาวแคระขาวมีมวลปกติประมาณ 0.75 เท่าของมวลดวงอาทิตย์ มีรัศมีที่เล็กมากคล้ายโลก โดยในระบบ CV การถ่ายเทของสสารจากดาวฤกษ์ขนาดเล็กจะทำให้เกิดจานฝุ่นรอบดาวฤกษ์มวลมาก ซึ่งความสว่างของระบบ CV ส่วนใหญ่ก็มาจากจานฝุ่นนี้ ดังนั้น วัตถุที่ 3 อันพร่ามัว ที่โคจรรอบระบบ CV จะสามารถส่งผลต่ออัตราการถ่ายโอนมวลระหว่างดาวทั้ง 2 ดวงที่อยู่ชั้นใน

ด้วยเหตุนี้เองการอธิบายความสว่างของระบบดาวทั้งหมด ก็ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของความสว่างในจานฝุ่นก๊าซ ที่มีการรบกวนของวัตถุที่ 3 ที่โคจรรอบดาว 2 ดวง ซึ่งนักดาราศาสตร์เชื่อว่านี่อาจเป็นเทคนิคใหม่ในการค้นหาดาวเคราะห์ที่โคจรรอบระบบดาวคู่ได้.

(Credit : Pixabay/CCO Public Domain)


ความหมายของการไหว้และการกราบ แต่ละระดับมีความต่างกันอย่างไร

การไหว้และการกราบคือมารยาทของการทักทายในวัฒนธรรมไทย ซึ่งแบ่งออกเป็นหลายระดับตามความเคารพและความอาวุโสของผู้รับไหว้ ในแต่ละระดับมีความหมายต่างกันอย่างไร เรารวมข้อมูลมาให้ดังนี้

การไหว้และการกราบ มีความหมายต่างกันอย่างไร

สำหรับการไหว้นั้น ในวัฒนธรรมไทยคือการทักทายและแสดงความเคารพต่อกัน ซึ่งการไหว้ถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือไหว้พระ ไหว้ผู้อาวุโส และไหว้ผู้ที่เสมอกัน แต่ละระดับมีรูปแบบการไหว้และความหมายแตกต่างกันไป ส่วนการกราบนั้นหมายถึงการแสดงความเคารพอย่างสูง แบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือการกราบเบญจางคประดิษฐ์ และการกราบผู้ใหญ่

การไหว้ 3 ระดับ

1. ระดับที่ 1: การไหว้พระ หมายถึง การไหว้พระรัตนตรัยรวมทั้งปูชนียวัตถุและปูชนียสถานที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ในกรณีที่ไม่สามารถกราบเบญจางคประดิษฐ์ได้ โดยประนมมือขึ้นให้นิ้วหัวแม่มือจรดที่กลางระหว่างคิ้ว นิ้วชี้แตะที่เหนือหน้าผาก ก้มหัวให้หน้าขนานกับพื้น ค้อมหลังพอประมาณ

2. ระดับที่ 2: การไหว้ผู้มีพระคุณและผู้อาวุโส ได้แก่ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ครู อาจารย์และผู้ที่เราเคารพอย่างสูง โดยประนมมือขึ้นเช่นเดียวกับการไหว้พระ แต่นิ้วหัวแม่มือจรดปลายจมูก นิ้วชี้จรดระหว่างคิ้ว

3. ระดับที่ 3: การไหว้บุคคลทั่วไปและผู้เสมอกัน ให้ประนมมือขึ้นก้มศีรษะเล็กน้อย หัวแม่มือจรดที่ปลายคาง นิ้วชี้แตะที่จมูก ค้อมหลังพอประมาณ ส่วนการไหว้ผู้เสมอกันทั้งชายและหญิงให้ยกมือขึ้นไหว้พร้อมกัน หรือในเวลาใกล้เคียงกัน

การกราบ 2 ระดับ

1. ระดับที่ 1: การกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ เป็นการใช้อวัยวะทั้ง 5 คือ หน้าผาก มือ และข้อศอกทั้ง 2 เข่าทั้ง 2 สัมผัสกับพื้น การกราบมี 3 ลักษณะ คือ

ท่าเตรียม

ชาย นั่งคุกเข่าตัวตรงปลายเท้าตั้ง ปลายเท้าและส้นเท้าชิดกัน นั่งบนส้นเท้า เข่าทั้งสองห่างพอประมาณ มือทั้งสองวางคว่ำเหนือเข่าทั้งสองข้าง นิ้วชิดกัน (ท่าเทพบุตร)

หญิง นั่งคุกเข่าตัวตรงปลายเท้าราบ เข่าถึงปลายเท้าชิดกัน นั่งบนส้นเท้า มือทั้งสองว่างคว่ำเหนือเข่าทั้งสองข้าง นิ้วชิดกัน (ท่าเทพธิดา)

ท่ากราบ

จังหวะที่ 1 (อัญชลี) ยกมือขึ้นในท่าประนมมือ

จังหวะที่ 2 (วันทา) ยกมือขึ้นไหว้ตามระดับที่ 1 การไหว้พระ

จังหวะที่ 3 (อภิวาท) ทอดมือทั้งสองลงพร้อมๆ กัน ให้มือและแขนทั้งสองข้าง ราบกับพื้น คว่ำมือห่างกันเล็กน้อย พอให้หน้าผากจรดพื้นระหว่างมือทั้งสอง

ชาย ศอกทั้งสองข้าง ต่อจากเข่าราบไปกับพื้น หลังไม่โก่ง

หญิง ศอกทั้งสองข้างคร่อมเข่าเล็กน้อย ราบไปกับพื้น หลังไม่โก่ง

2. ระดับที่ 2: การกราบผู้ใหญ่ เป็นการกราบผู้มีพระคุณและผู้ที่มีอายุมากกว่า ได้แก่ ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ ครู อาจารย์ และผู้ที่เราเคารพ ลักษณะการปฏิบัติของชายและหญิงเหมือนกัน คือ นั่งพับเพียบทอดมือทั้งสองข้างลงพร้อมกัน ให้แขนทั้งสองคร่อมเข่าที่อยู่ด้านล่างเพียงเข่าเดียว มือประนมตั้งกับพื้นไม่แบมือ ค้อมตัวลงให้หน้าผากแตะส่วนบนของมือที่ประนม ในขณะกราบ ไม่ต้องกระดกนิ้วมือขึ้นมารับหน้าผาก และกราบเพียงครั้งเดียว

นอกจากการกราบ 2 ระดับนี้ที่เราใช้กันในชีวิตประจำวันแล้ว ยังมีการกราบในรูปแบบอื่นๆ ที่มักใช้เพื่อแสดงความเคารพอย่างสูงในโอกาสพิเศษ เช่น

กราบเท้า มักใช้เพื่อแสดงความเคารพอย่างสูงแก่บุคคลที่กราบ เช่น กราบเท้าพ่อแม่ กราบเท้าบุคคลที่เคารพหรือผู้ที่นับถือ

กราบสามี ธรรมเนียมไทยในอดีตมีความเชื่อว่าภรรยาต้องกราบสามีก่อนนอนเพื่อแสดงความเคารพที่สามีเลี้ยงดูอย่างดีจนสุขสบาย แต่ในปัจจุบันสภาพสังคมเปลี่ยนไป ภรรยาและสามีต่างมีหน้าที่การงานเพื่อหารายได้ของตนเอง การกราบสามีก่อนนอนจึงค่อยๆ หายไป แต่กลายเป็นธรรมเนียมเล็กๆ ในพิธีแต่งงานที่ให้เจ้าสาวกราบตักเจ้าบ่าวเพื่อเป็นการฝากเนื้อฝากตัวให้เขาดูแลแทน

อ้างอิงข้อมูล: กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม, สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง


ตะลึง คลิปไวรัล ธารลาวาแดงฉานไหลเร็วจี๋ จากภูเขาไฟคิลาเวอา

ธารลาวาแดงฉาน ไหลเร็วจากภูเขาไฟคิลาเวอา บนเกาะฮาวาย กลายเป็นคลิปไวรัล ผู้คนสุดทึ่ง คลิปถ่ายในระยะใกล้มาก

เมื่อ 26 ก.ค. 2565 คลิปวิดีโอบันทึกภาพเหตุการณ์ ธารลาวาหินเหลวร้อนแดงฉาน ไหลอย่างรวดเร็วออกมาจากภูเขาไฟคิลาเวอา หนึ่งใน 5 ภูเขาไฟบนเกาะฮาวาย ขณะเกิดการปะทุครั้งล่าสุดเมื่อกันยายน 2564 กลายเป็นคลิปไวรัสบนโลกออนไลน์ มีคนเข้าไปดูคลิปแล้ว กว่า 1.3 ล้านครั้ง ภายในเวลา 23 ชั่วโมง หลังจากถูกแชร์ลงในทวิตเตอร์โดย Wonder Of Science

คลิปธารลาวาแดงฉานนี้ ถูกถ่ายในระยะใกล้อย่างเหลือเชื่อ แสดงให้เห็นภาพธารลาวาที่กำลังไหลผ่านเนินดินภูเขาไฟสีดำไปอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ ภูเขาไฟคิลาเวอา เป็นภูเขาไฟรูปโล่และเป็นภูเขาไฟมีพลังบนเกาะฮาวาย ถือเป็นหนึ่งในภูเขาไฟ 5 ลูกที่ประกอบกันเป็นเกาะฮาวาย และตั้งอยู่บริเวณแนวชายฝั่งทางตอนใต้ของเกาะ

ที่มา : ndtv


รัสเซียเตรียมถอนตัวจากสถานีอวกาศนานาชาติปี 2567

รัสเซียเตรียมถอนตัวจากสถานีอวกาศนานาชาติ ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างพวกเขากับชาติตะวันตกหลังจากปี 2567 ท่ามกลางความตึงเครียดจากสงครามยูเครน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลเครมลินของรัสเซียเปิดเผยบทสนทนาระหว่างนาย ยูรี บอริซอฟ ผู้อำนวยการคนใหม่ของสำนักงานอวกาศแห่งชาติรัสเซีย หรือ ‘รอสคอสมอส’ (Roscosmos) กับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ออกมาในวันอังคารที่ 26 ก.ค. 2565 โดยนายบอริซอฟ บอกกับนายปูตินว่า นักบินอวกาศรัสเซียจะถอนตัวออกจากสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) หลังจากปี 2567 เป็นต้นไป

“แน่นอนวาเราจะทำตามพันธสัญญาทั้งหมดที่เราทำไว้กับหุ้นส่วนของเรา แต่การตัดสินใจที่จะออกจากสถานีนี้หลังจากปี 2567 นั้น ได้เกิดขึ้นแล้ว” นายบอริซอฟบอกนายปูติน “ผมคิดว่ากว่าจะถึงเวลานั้น เราจะสามารถประกอบสถานีอวกาศของรัสเซียได้” พร้อมกับเสริมว่า นี่เป็นโครงการอวกาศที่พวกเขาให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ก่อนที่นายปูตินจะตอบกลับไปว่า “ดี”

ทั้งนี้ สถานีอวกาศนานาชาติ หรือ ISS เป็นโครงการความร่วมมือทางอวกาศระดับนานาชาติ นำโดยสำนักงานอวกาศ 5 หน่วยงาน ได้แก่ นาซาของสหรัฐฯ, รอสคอสมอสของรัสเซีย, จาซา (JAXA) ของญี่ปุ่น, ESA ของยุโรป และ CSA ของแคนาดา โดยเริ่มทำการมาตั้งแต่ปี 2541อย่างไรก็ตาม นางโรบีน กาเทนส์ ผู้อำนวยการโครงการ ISS ของนาซากล่าวในงานแถลงข่าวว่า ทางสหรัฐฯ ยังไม่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการใดๆ เกี่ยวกับแผนการถอนตัวจาก ISS ของรัสเซีย และเมื่อถูกถามว่าความสัมพันธ์ด้านอวกาศระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียจบลงแล้วหรือไม่ นางกาเทนส์ก็ยืนยันว่า “ไม่อย่างแน่นอน”

ในปัจจุบัน การสำรวจอวกาศเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่ด้านที่ความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร ยังไม่ได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดที่เกิดขึ้นจากสงครามยูเครนและปัญหาอื่นๆ

แต่นายบอริซอฟกล่าวว่า ตอนนี้อุตสาหกรรมอวกาศกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ซึ่งเขากำลังหาทางยกระดับมาตรฐาน โดยอย่างแรกคือ การมอบบริการด้านอวกาศที่จำเป็นแก่เศรษฐกิจรัสเซีย ตั้งแต่การนำทาง, การสื่อสาร, การส่งข้อมูล และอื่นๆ

ที่มา : CNA


7 วิธี แก้ปัญหานอนไม่หลับ โดยไม่ต้องพึ่งยา

ปัญหานอนไม่หลับ เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พบได้บ่อย ไม่ว่าจะเป็น หลับไม่ลง หลับไม่ลึก ตื่นกลางดึกบ่อยๆ เมื่อตื่นมาแล้วรู้สึกไม่สดชื่น

ทั้งหมดนี้บ่งบอกถึงปัญหาคุณภาพการนอนที่ไม่ดี เมื่อเกิดขึ้นบ่อยๆจะทำให้อ่อนเพลีย ร่างกายหลั่งสารโกรทฮอร์โมนได้ไม่เต็มที่ กระบวนการทำงานและซ่อมแซมร่างกายจะแย่ลง ส่งผลต่ออารมณ์ และอาจเกิดปัญหาสุขภาพตามได้

พญ.อนงนุช ชวลิตธำรง แพทย์ American Board of Anti-Aging Medicine จาก Addlife Anti-Aging Center กล่าวว่า “โดยปกติแล้วในเวลากลางคืน เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ต่อมไพเนียลใต้สมอง จะหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งช่วยให้เรานอนหลับได้ดี หลับได้ลึก ส่วนในเวลาเช้า เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น แสงสว่างจะทำให้ฮอร์โมนเมลาโทนินจะหายไป ทำให้เราตื่นนอนอย่างสดชื่น”

7 วิธี แก้ปัญหานอนไม่หลับ โดยไม่ต้องพึ่งยา

เมื่อทราบถึงวงจรดังกล่าวแล้ว จึงสามารถนำไปปรับใช้กับการแก้ไขปัญหาการนอนไม่หลับได้ดังนี้

1. ให้ออกแดดนาน 30 นาที หลังตื่นนอนตอนเช้า โดยการเปิดม่านให้มีแสงสว่างเข้ามาในห้องนอน หรือออกกำลังกายเบาๆกลางแจ้ง จะทำให้ได้รับวิตามินดี และวงจรจะสามารถการสร้างเมลาโทนินดีขึ้น

2. ปิดไฟในห้องให้มืดสนิทเวลาจะนอน และงดใช้อุปกรณ์ที่ปล่อยแสงสีฟ้า เช่น มือถือ โทรทัศน์ โน้ตบุ๊ค อย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนนอน เพราะจะทำให้เมลาโทนินหลั่งไม่ดี

3. มีวินัยในการเข้านอนให้ตรงเวลา เพื่อให้ฮอร์โมนเมลาโทนินหลั่งตรงเวลา และเพื่อให้ร่างกายปรับสมดุลการนอนหลับได้ดีขึ้น

4. ไม่ออกกำลังกายค่ำจนเกินไป เช่น หลัง 18.00 เป็นต้น

5. ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีสารกระตุ้นให้ตื่นตัว เช่น คาเฟอีน มากเกินไปหลัง 15.00 น.

6. งดดื่มแอลกอฮอล์

งดการดื่มน้ำใกล้เวลานอน เพราะอาจทำให้ปวดปัสสาวะจนตื่นมากลางดึก

ทั้งหมดนี้ คือวิธีปฏิบัติตัวเพื่อช่วยให้การนอนหลับมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น หากทำตามแล้วยังไม่ดีขึ้น อาจต้องไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยถึงสาเหตุ และทำการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด